ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1495 หึงหวงไปทั่ว
ภิกษุต้าจู๋ยิ้มพลางกล่าวว่า “องค์ชายจิ่ว พูดมาเถอะ!”
หวงจิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชาว่า “หากว่าเขายังไม่ตาย ก็อย่าได้ให้เขามาปรากฏตัวต่อหน้าผู้หญิงของข้าอีก”
จิ่วเยี่ยหึงหวงขึ้นแล้ว!
เมื่อนึกถึงตอนที่ซีจะฆ่ากำจัดเจ้าพิฆาตวิญญาณที่ทำชายผู้นั้นตาย เขาจะไม่รู้สึกโกรธเกรี้ยวได้อย่างไรกันล่ะ
พิฆาตวิญญาณเป็นเพียงแค่จุดต้น แต่การกำจัดพิฆาตวิญญาณ นั่นหมายความว่าสิ่งที่ซีพยายามทำมาทั้งหมดจะสูญเปล่า
เขามองดูนางเติบโตขึ้นมา รู้ดีว่านางชื่บชอบการปรุงยามากเพียงใด แต่เพราะชายผู้นั้น เกือบทำให้ซีต้องทิ้งทุกอย่างเสียแล้ว
ด้วยเหตุนี้เอง เขาจะไม่หึงหวงได้อย่างไรกันล่ะ ชายผู้นั้น ตายไปเสียได้ก็ดี
แต่หากยังไม่ตาย จะต้องให้อยู่ห่างจากซีให้มากที่สุด
ภิกษุต้าจู๋กล่าว “อืม! ข้าเข้าใจแล้ว”
“องค์ชายจิ่วเยี่ย รักษาตัวด้วย!”
และทันทีที่ภิกษุต้าจู๋โบกมือ ร่างของอินรั่วเฉินก็อันตรธานหายไปทันที
เขาหันไปมองหวงจิ่วเยี่ยและมู่เฉียนซีแวบหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความทอดถอนใจ ความลับสวรรค์เช่นนี้ เขาจะมองออกได้อย่างไรกันเล่า
จากนั้นร่างของภิกษุต้าจู๋ก็พลันเปลี่ยนเป็นแสงสีทองแสงหนึ่งก่อนจะอันตรธานหายไป เขาไปแล้ว และนำร่างของอินรั่วเฉินไปด้วย
หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เด็กน้อยที่เขาเห็นตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ขึ้นมาผู้นั้นจะต้องไม่ตาย เขาจะต้องไม่ตายอย่างแน่นอน!
มู่เฉียนซีแหงนหน้ามองบนฟ้าพลางกล่าว “มิติที่เยี่ยเฉียปิดผนึกไว้ได้คลายออกแล้ว”
มิเช่นนั้น ภิกษุผู้นั้นก็คงจะย่างกรายเข้ามาไม่ได้
จิ่วเยี่ยกล่าว “ข้าจะไปเอากลีบดอกนั้นกลับมา”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าขอบอกเจ้าด้วยความจริงจัง ในฐานะที่เจ้าเป็นคนป่วยที่เพิ่งจะหาย เจ้าต้องคิดให้รอบคอบ คิดให้ดีเสียก่อน ถึงจะลงมือทำสิ่งใด”
จิ่วเยี่ยกล่าว “แต่ข้าอยากรีบกำจัดเจ้านั่น และเอาของของซีกลับคืนมา”
“แต่ตอนนี้ข้ายังเจ็บอยู่เลยนะ! เจ้าไม่อยากอยู่ดูแลข้าก็ไปเถอะ จิ่วเยี่ย เจ้ามันคนใจร้าย!” มู่เฉียนซียกมือกำหมัดทุบไปที่หน้าอกของเขา
ด้วยการทุบตีนี้ จิ่วเยี่ยไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใดเลย!
มังกรวารีกล่าว “ดูแลนายท่าน ให้เป็นหน้าที่ของมังกรวารีก็ได้แล้ว องค์ชายจิ่วเยี่ยคงจะไม่ชำนาญเรื่องเหล่านี้สักเท่าไร”
จิ่วเยี่ยดึงมู่เฉียนซีมากอดเอาไว้แน่น เขาจะยอมส่งนางให้คนอื่นได้อย่างไรเล่า ต่อให้เป็นพันธสัญญาของนาง ก็ไม่ได้
จิ่วเยี่ยกล่าว “ข้าเป็นคนทำให้ซีเจ็บ ข้าดูแลซีเอง”
มู่เฉียนซีหันไปยิ้มให้มังกรวารี มังกรวารีช่างรู้ใจนางเกินไปแล้ว อีกทั้งยังจัดการเรื่องราวได้ดีเยี่ยมอีกด้วย ในที่สุดก็ทำให้จิ่วเยี่ยยอมประนีประนอมได้แล้ว
“มังกรวารี เจ้าเองก็รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ! ครั้งนี้ที่จัดการพิฆาตวิญญาณได้ ต้องขอบใจเจ้ามาก”
มังกรวารีกล่าว “เป็นสิ่งที่มังกรวารีต้องทำอยู่แล้วขอรับ”
จากนั้นมังกรวารีก็พลันเปลี่ยนเป็นลำแสงสีฟ้าอ่อน และกลับเข้าไปในแหวนมังกรเทพวารี
มู่เฉียนซีกล่าว “จิ่วเยี่ย เรากลับเมืองหมอกันเถอะ!”
“อืม!”
ระหว่างทาง มังกรวารียังไม่ได้หลับใหลสนิท เขากล่าว “นายท่าน มีเรื่องบางอย่างที่ข้ายังไม่ได้บอกนายท่าน”
“มีเรื่องอันใด?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“พิฆาตวิญญาณแปดเปื้อนไปด้วยกลิ่นอายจิตสังหารมากมายเพียงนั้น มันต้องไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนาแน่นอน ต้องเกิดปัญหาขึ้นกับเขาเป็นแน่ เขาถึงได้เป็นเช่นนี้ ฉะนั้น…”
ในฐานะที่อินรั่วเฉินเป็นผู้ยับยั้งจิตสังหารของพิฆาตวิญญาณ ความตายของเขานั้นเกี่ยวข้องกับพิฆาตวิญญาณโดยตรง แต่สิ่งที่ทำให้อินรั่วเฉินตายจริง ๆ นั้น แท้จริงแล้วคือจิตสังหารที่หลั่งไหลเข้าสู่จิตของพิฆาตวิญญาณ
พวกเขาบังเกิดบนโลกนี้พร้อม ๆ กัน รู้จักกันมานานหลายปี อย่างไรเสียก็รู้จักกันดี
พิฆาตวิญญาณต้านสวรรค์ กระหายเลือด แต่ก็ใช่ว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่มีขอบเขต
มู่เฉียนซีได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจขึ้นเล็กน้อย “เหตุใดถึงไม่รีบบอก?”
มังกรวารีกล่าว “ข้าไม่อยากให้มีสิ่งใดมาส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของนายท่าน และไม่อยากให้มีสิ่งใดมาส่งผลกระทบให้นายท่านไม่ทำพันธสัญญากับพิฆาตวิญญาณ”
มู่เฉียนซีกล่าว “แม้ว่าเรื่องนี้จะมีเหตุผล แต่เขาตามไล่ฆ่าข้าหลายครั้งหลายครา เกือบจะทำให้ข้ากลายเป็นทาสกระบี่ตั้งหลายรอบ แถมยัง…”
เรื่องราวที่พิฆาตวิญญาณทำไปนั้นมีมากมายและฉาวโฉ่มาก
“สัญญาทาส มันเหมาะสมกับเขาแล้ว”
มังกรวารีกล่าว “อืม! การตัดสินใจของนายท่าน ล้วนแต่ถูกต้องเสมอ”
ศึกการทำลายล้างในครั้งนี้ ทำให้ดินแดนสี่ทิศต้องบูรณะขึ้นใหม่
มู่เฉียนซีในฐานะที่เป็นหัวหน้าหอหมอปีศาจ ตัวแทนหัวหน้าตำหนักเป่ยหาน มีเรื่องราวมากมายให้นางต้องทำ
หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินเอาแต่สนใจแดนตะวันตกของเขา เอาแต่พูดถึงความเมตตา พูดถึงเรื่องธรรมะ แต่ไม่สนใจแดนใต้ แดนตะวันออก และแดนเหนือเลย
จิ่วเยี่ยไม่ยอมให้มู่เฉียนซีที่พลังอ่อนแอเช่นนี้ต้องเหน็ดเหนื่อยแน่นอน เขาต้องการอยู่กับมู่เฉียนซี และจะไม่ยอมให้เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้เข้ามาแทรกได้
“จื่อโยว!”
ครั้นแล้ว ท่านจื่อโยวผู้สูงศักดิ์จึงถูกลากตัวมาเป็นกุลีผู้ถูกใช้แรงงาน ใบหน้าที่ชั่วร้ายนั้น ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ขมขื่นแล้ว
ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บต่างก็รักษาอาการบาดเจ็บและพักฟื้น ส่วนผู้อื่นต่างซ่อมแซมบูรณะดินแดนสี่ทิศขึ้นมาใหม่
หลังจากที่หายจากอาการบาดเจ็บ เชียนอ้าวเซี่ยผู้ที่ชอบก่อกวนผู้นี้ก็เดินเชิดหน้าชูคอไปเยี่ยมเยือนมู่เฉียนซีอย่างกระตือรือร้น
อ๊า! และเชียนอ้าวเซี่ยก็ถูกโยนออกมา
เชียนอ้าวเซี่ยโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก “ป่าเถื่อน ช่างป่าเถื่อนเกินไปแล้ว!”
น่าหลานอวี้ที่เตรียมของล้ำค่ามามากมายเพื่อที่จะมาเยี่ยมเยือนมู่เฉียนซีก็ถูกจับโยนออกมาไม่ต่างกัน
“ของทุกอย่างของข้าล้วนแต่เป็นของซีทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้องเอาของเหล่านี้ของพวกเจ้า”
เยวี่ยเจ๋อ เซียวเหยา โม่จิ่น ซวนหยวนชิงอวิ๋น จวินโม่ซี และคนอื่น ๆ …
ทุกคนที่มาเยี่ยมเยือนมู่เฉียนซี ไม่มีผู้ใดสมปรารถนาเลยแม้แต่คนเดียว
เชียนอ้าวเซี่ยกัดฟันกรอดพลางกล่าว “ชายผู้นั้นทำเกินไปแล้ว”
เยวี่ยเจ๋อกล่าว “ทำเกินไป แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ต่อให้พวกเรามีพวกอีกสักพันคน พวกเราก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอยู่ดี”
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “จะเจ๋งสักแค่ไหนกันเชียว เห็นทีข้าจะต้องรีบฝึกบำเพ็ญแล้วล่ะ”
แม้ว่าเชียนอ้าวเซี่ยดูจะเป็นคนที่ไม่ได้เรื่อง แต่คำพูดนี้ของเขานั้นถูกต้องที่สุด!
ฝึกบำเพ็ญ! เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งคนชายผู้นั้นแล้ว ช่างห่างชั้นกันมากนัก ทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างยิ่ง!
บาดแผลภายนอกของมู่เฉียนซีนั้นหายดีแล้ว แต่พลังจิตกลับสูญเสียไปจนหมดสิ้น แม้ว่าจะมียาลูกกลอนเพียงพอในการฟื้นฟู แต่หลายวันที่ผ่านมานี้ มู่เฉียนซีก็ยังคงนอนกอดอยู่ในอ้อมแขนของจิ่วเยี่ยด้วยอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
มู่เฉียนซีลืมตาขึ้นมาด้วยความสะลืมสะลือ นางยิ้มพลางกล่าว “ในที่สุดพลังวิญญาณก็ฟื้นฟูกลับมาได้สักที ข้าออกไปข้างนอกได้แล้ว!”
จิ่วเยี่ยดึงมู่เฉียนซีมากอดไว้ในอ้อมอก “พลังจิตฟื้นฟูกลับมาสมบูรณ์แล้วค่อยว่ากัน”
“แต่ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้พูดเช่นนี้นี่”
“ข้าเปลี่ยนความคิดแล้ว!”
“องค์ชายจิ่วเยี่ย นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเป็นคนไร้สัจจะเช่นนี้”
“ขอเพียงแค่ซีหายดี ต่อให้ข้าต้องไร้สัจจะ ไร้ยางอาย หรือลามก ข้าก็ยอม”
จิ่วเยี่ยดูแลมู่เฉียนซีในฐานะที่นางเป็นผู้ป่วย ส่วนมู่เฉียนซีก็ตรวจดูร่างกายของเขาเช่นกัน
คงที่ อาการโดยรวมคงที่มาก!
เสี่ยวเหมี่ยวสละชีพเพื่อแลกทุกอย่างกลับมา ผลลัพธ์นี้มันน่าทึ่งมาก
บางทีอาจจะคงที่ไปได้อีกนาน นานจนกว่านางจะหาคัมภีร์หมื่นคำสาปอีกสองส่วนที่เหลือเจอได้
รอให้นิรันดร์ตื่นขึ้นมา นางจะต้องคิดหาทางรักษาเสี่ยวเหมี่ยวผู้ที่ช่วยชีวิตนางผู้นี้เอาไว้ให้ได้
หลังจากที่พักผ่อนต่ออีกเจ็ดวัน ในที่สุดพลังจิตของมู่เฉียนซีก็ฟื้นฟูกลับมาสมบูรณ์แล้ว
เหล่าบรรดาสหายที่ต้องการพบมู่เฉียนซีเหล่านั้น ในที่สุดก็ได้เจอหน้านางแล้ว
“เสี่ยวซีเอ๋อร์ ข้าคิดถึงเจ้าจนใจจะขาดอยู่แล้ว”
“สาวน้อย ข้าหิวมาก! ได้โปรดช่วยทำของอร่อยให้ข้ากินหน่อย ข้ากินอะไรก็ไม่อร่อยเลย”
“พี่ใหญ่! พี่ใหญ่ยังรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายตรงไหนอีกบ้าง”
“นายท่าน ฮือ ๆ ๆ! นายท่าน…”
“เห็นเฉียนซีไม่เป็นอะไรแล้ว ข้าก็วางใจ…”
ทันทีที่มู่เฉียนซีปรากฏตัวออกมา ความโกลาหลก็บังเกิดขึ้น
ทุกคนล้วนแต่ตื่นเต้นดีอกดีใจกันเป็นอย่างมาก จากนั้นร่างในชุดดำก็ปรากฏตัวขึ้น และเหลือบมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะคว้าร่างของมู่เฉียนซีไปโอบกอดแน่น
ซี เป็นของเขา!
ทุกคนเกลียดชังชายผู้นี้มาก! อยากจะต่อยหน้าเจ้าหมอนี่จริง ๆ แต่น่าเสียดายที่สู้เขาไม่ได้
จิ่วเยี่ยเหลือบมองไปที่ร่างในชุดเขียวร่างหนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า “จื่อโยว ข้ากับซีจะไปจัดการเรื่องบางอย่าง! หลังจากที่ข้ากลับมา ทุกอย่างในดินแดนสี่ทิศจะต้องกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม มิเช่นนั้นแล้วเจ้าจะต้องรับผิดชอบ!”
.
.