ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1583 ปล่อยให้นางแก่ตาย
หากมู่เฉียนซีใช้อาวุธวิญญาณมิติธรรมดา นางก็คงจะไม่สามารถหลบหลีกการโจมตีนี้ได้!
แต่มู่เฉียนซีเป็นเจ้านายของผู้พิทักษ์นิรันดร์ และนี่คือจ้าวแห่งมิติ
ฝีมืออันอ่อนหัดของการกักขังมิติเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงเท่านี้ ไม่สามารถกักขังมู่เฉียนซีได้
ดังนั้น มู่เฉียนซีจึงหลบหลีกไปอย่างงดงาม!
“เจ้า…”
ชายชราเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง!
นี่ต้องเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพเป็นแน่ มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพแห่งมิติ!
ในขณะที่เขากำลังตกตะลึงพรึงเพริดอยู่นั้น เสียงตัดผ่านอากาศเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเขาแล้ว
หมัดหนึ่งพุ่งไปที่ศีรษะของเขา เขารีบหลบหลีก จากนั้นก็ได้เห็นชายแววตาเรียบนิ่งผู้หนึ่ง
ชายชรากล่าว “เจ้าเป็นใคร?”
การปรากฏตัวของคนผู้นี้ นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะรับรู้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ชิงอิ่งไม่ได้สนใจชายชราผู้นี้แม้แต่น้อย และเลือกที่จะโจมตีต่อ เขาจะฆ่าคนที่ทำร้ายเฉียนผู้นี้!
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ชิงอิ่งกับภูตศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ต่อสู้ประมือกัน ฝีมือของทั้งสองสูสีกันมาก!
สีหน้าของจีซานเหนียงไม่ค่อยจะดีนัก “บัดซบ! มู่เฉียนซี ข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไปแล้ว”
นางตะโกนขึ้นว่า “ศิษย์น้องสวี่ฝู เรารุมนางเถอะ! ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกเราสองคนร่วมมือกันแล้วจะเอาชนะนางไม่ได้!”
สวี่ฝูกล่าว “ตกลง!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
พวกนางทั้งสองเอาของล้ำค่าที่สุดออกมา และต่อสู้กับมู่เฉียนซีอย่างสุดชีวิต!
ส่วนมู่เฉียนซีเองก็ตอบโต้กลับอย่างไม่เกรงใจ “ทักษะโยวจั๋ว!”
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
ปัง ปัง ปัง!
ร่างของจีซานเหนียงกับสวี่ฝูล้มลงไปกระแทกกับพื้น สวี่ฝูพยายามลุกขึ้นมาต่อสู้อีกครั้ง แต่จีซานเหนียงตอนนี้กลับหันหลังวิ่งหนีแล้ว!
แม้แต่สวี่ฝูที่กำลังพยายามต่อสู้กับมู่เฉียนซีอย่างสุดชีวิตในตอนนี้เองก็ตกตะลึงขึ้นเช่นกัน “จีซานเหนียง ท่าน...”
นางถูกทิ้งแล้ว ต่อมา การโจมตีของมู่เฉียนซีก็โจมตีกระแทกร่างสวี่ฝู
พรวด!
จากนั้นมู่เฉียนซีก็ไล่ตามจีซานเหนียงไป “เจ้าหาเรื่องข้าหลายต่อหลายครั้ง ในเมื่อครั้งนี้มาหาเรื่องข้าแล้ว เจ้าก็อย่าหวังว่าจะหนีไปได้อีกเลย!”
มู่เฉียนซีขวางหน้าจีซานเหนียงเอาไว้ เข็มยาในมือของนางก็พุ่งออกไป!
“หากเจ้ากล้าฆ่าข้า ท่านพี่กับท่านพ่อข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเย็นชาว่า “แล้วอย่างไร?”
ปัง ปัง ปัง!
ทั่วทั้งร่างของจีซานเหนียงเต็มไปด้วยบาดแผล กำลังในการต่อสู้นั้นไม่อาจสู้ได้ อย่างไรเสียพลังที่เพิ่มขึ้นของนางนั้นก็ได้มาจากการใช้ยาลูกกลอน
ทันใดนั้นเอง ผิวหนังของจีซานเหนียงก็เริ่มแห้งเหี่ยวลง
ปัง! มู่เฉียนซีถีบจีซานเหนียงไปครั้งหนึ่ง
นางกล่าว “ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนี้ ข้าไม่ฆ่าเจ้าก็ได้ ข้าจะให้เจ้าแก่ตาย! คาดว่าอีกไม่กี่ชั่วยามเจ้าก็คงจะแก่ตายแล้ว”
“อ๊า ผี!” สวี่ฝูส่งเสียงกรีดร้องขึ้น
“เจ้า…อย่าเข้ามานะ! เจ้า…นี่เจ้าเป็นคนหรือผีกันแน่”
เมื่อเห็นสภาพของจีซานเหนียงกลายเป็นหญิงชราเช่นนี้แล้ว สวี่ฝูก็ตื่นตระหนกตกใจกลัวเป็นอย่างยิ่ง
“คุณหนูใหญ่!”
ปราชญ์แห่งภูตที่กำลังต่อสู้อยู่กับเสี่ยวหงพรวดออกมา และรีบดึงสวี่ฝูเอาไว้!
ผู้อาวุโสขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นกล่าวว่า “รีบล่าถอยเร็วเข้า! ล่าถอย!”
ชายหนุ่มผู้นั้นไม่ใช่มนุษย์ แม้ว่าจะฆ่าเขาไม่ได้ แต่ก็ไม่อาจเอาชนะเขาได้
ช่างรับมือได้ยากยิ่งนัก! ขืนสู้ต่อไปคุณหนูใหญ่ต้องเป็นอันตรายแน่ มิสู้รีบล่าถอยก่อนดีกว่า
พวกเขาประเมินสถานการณ์และรีบล่าถอยทันที ชิงอิ่งเตรียมตามไล่ล่า
มู่เฉียนซีกล่าว “พลังของเจ้าเฒ่าผู้นั้นสูสีกันกับเจ้า ขืนตามไล่ล่าไปก็เสียแรงเปล่า!”
เสี่ยวหงโกรธเกรี้ยวมาก มันกล่าวว่า “หากข้าเลื่อนขั้นเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ด ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าเฒ่าผู้นั้นหนีไปได้แน่นอน! ข้าจะเลื่อนขั้นพลัง ข้าจะเลื่อนขั้น ข้าจะไม่เอาแต่นอนอีกแล้ว ข้าจะฆ่าสัตว์วิญญาณ ข้าจะต้องเลื่อนขั้นพลังให้ได้!”
มู่เฉียนซีกล่าว “การที่นางผู้นั้นหนีไปได้แล้วมันทำให้เจ้าคิดจะเลื่อนขั้นพลังวิญญาณเช่นนี้ ข้าคิดว่าการที่นางหนีไปได้มันก็เป็นเรื่องที่คุ้มค่า”
จีซานเหนียงตะโกนขึ้นเสียงดังว่า “ช่วยข้าด้วย! ช่วยข้าด้วย สวะไร้ประโยชน์ แค่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวเดียวก็เอาชนะไม่ได้”
นางรวบรวมกำลังเรี่ยวแรงทั้งหมดตะโกนขอความช่วยเหลือ ทว่า เสียงของนางนั้นกลับเบาบางอย่างน่าสงสาร
อีกอย่าง องครักษ์ผู้มีพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าผู้นั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอู๋ตี้เลย!
ร่างของมู่เฉียนซีพุ่งออกไป นางรู้สึกได้ว่ามีกลิ่นอายหลายกลิ่นกำลังเข้ามาใกล้ นางจึงไม่อยากเสียเวลาอยู่ตรงนี้นาน
มู่เฉียนซีใช้พลังแห่งมิติอีกครั้ง เข็มยาเข็มหนึ่งพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เร็วเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้
ฉึก!
คนผู้นั้นที่กำลังต่อสู้ประมืออยู่กับอู๋ตี้ ถูกเข็มยาเข็มหนึ่งแทงเข้าผิวหนัง!
ช่างโหดร้ายยิ่งนัก!
ปัง!
มู่เฉียนซีกล่าว “เราไปกันเถอะ!”
มีคนไม่น้อยกำลังมาที่นี่ และหนึ่งในนั้นก็คือจีหว่านเหนียงนั่นเอง
“น้องพี่ น้องพี่!”
นางตามหามาครึ่งค่อนวัน ก็หาจีซานเหนียงไม่เจอ!
สุดท้ายมาเจอกับหญิงชราผู้หนึ่งที่ฆ่าตัวตายนอนกองอยู่บนพื้น จีซานเหนียงรับสภาพตัวเองไม่ได้ที่ต้องเป็นเช่นนี้ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายไป!
“ซานเหนียง!”
เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่หญิงชรานางนี้สวมใส่ จีหว่านเหนียงจึงจะจำได้!
ทันใดนั้นนางก็รู้สึกโกรธเกรี้ยวขึ้นมา “ตรวจหาความจริงให้ข้าเดี๋ยวนี้! หาความจริงให้กระจ่างว่าใครมันกล้าทำน้องสาวข้าให้เป็นเช่นนี้”
และในตอนนี้มู่เฉียนซีกับสัตว์พันธสัญญาของนางก็ออกไปฝึกฝนหาประสบการณ์ต่อแล้ว!
เนื่องจากเสี่ยวหงอยากผ่านประสบการณ์ในการต่อสู้สนามจริง ดังนั้นนางจึงเลือกอาณาเขตหนานหลิง สถานที่ที่มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดมากที่สุด เป็นป่าที่มีสัตว์วิญญาณมากที่สุด นั่นก็คือป่าหมื่นสัตว์ร้าย
พวกเขามาถึงเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่อยู่นอกเขตป่าหมื่นสัตว์ร้าย อยู่พักผ่อนหนึ่งวันเพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง!
สุดท้ายพวกเขายังไม่ทันได้เข้าไปในป่าหมื่นสัตว์ร้าย เช้าวันต่อมาก็เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมขึ้น
“บัดซบ! ฝูงสัตว์วิญญาณกำลังจะมา!”
“รีบหนีเร็วเข้า! กำแพงเมืองคงจะต้านไม่อยู่!”
“ผู้ฝึกบำเพ็ญที่มีพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตขึ้นไปรีบไปฆ่าสัตว์วิญญาณเร็วเข้า ส่วนคนอื่นรีบล่าถอยหนีไป เร็วเข้า…”
“……”
ครั้งนี้การจลาจรของสัตว์วิญญาณดุเดือดมาก สัตว์วิญญาณที่พลังขั้นต่ำที่สุดก็คือระดับห้า ผู้มีพลังวิญญาณที่ต่ำกว่าขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูต หากรับมือกับสัตว์วิญญาณเหล่านี้แล้วก็ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย
เนื่องจากอยู่ใกล้กับป่าหมื่นสัตว์ร้าย การจลาจลของสัตว์วิญญาณนั้นเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยมาก คนในเมืองที่มีพลังวิญญาณอ่อนแอต่างรีบล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว!
เพียงแต่ว่าครั้งนี้ไม่มีสัญญาณเตือนของการจลาจลเลย ดังนั้นเหตุการณ์ครั้งนี้จึงโกลาหลเป็นอย่างยิ่ง
มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวหง ดูท่าเจ้าไม่ต้องเข้าไปในป่าหมื่นสัตว์ร้ายก็มีสามารถฆ่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วล่ะ”
เสี่ยวหงกล่าว “คอยดูนะขอรับ ข้าจะฆ่าพวกมันไม่ให้เหลือ!”
แต่อู๋ตี้กลับคิดอีกอย่าง มันกล่าว “แม้ระดับจะไม่สูง แต่ก็ทำให้อิ่มท้องได้ สะสมเล็ก ๆ น้อย ๆ เดี๋ยวก็มากขึ้นเอง! ข้าต้องกลายเป็นสัตว์เทพก่อนเจ้าหมูขี้เกียจนี่ได้แน่นอน!”
เสี่ยวหงกล่าว “เจ้าฝันไปเถอะ!”
ในขณะที่สัตว์พันธสัญญาทั้งสองของนางกำลังต่อปากต่อคำกันอยู่ ตอนนี้มู่เฉียนซีก็ฆ่าสัตว์วิญญาณเหล่านั้นไปถึงประตูเมืองแล้ว
“ฆ่ามัน!”
เสียงของการเข่นฆ่าสังหารดังขึ้นที่ประตูเมือง คนส่วนมากล้วนแต่มีพลังขึ้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตทั้งสิ้น และมีปราชญ์แห่งภูตบ้างบางส่วน อย่างไรเสียนี่ก็เป็นเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง ไม่ได้มียอดฝีมือขั้นปราชญ์แห่งภูตมากมายนัก
เมื่อเห็นมู่เฉียนซีโจมตีสัตว์วิญญาณเหล่านั้น พวกเขาก็กล่าวขึ้นว่า “แม่นางน้อย ที่นี่ไม่จำเป็นต้อง…”
“ระวัง!”
ในตอนนี้เอง สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ท่องนภาตัวหนึ่งก็พุ่งลงมาหมายจะจับคนผู้นี้ สหายของพวกเขาตะโกนขึ้นเสียงดัง
แต่มันก็สายไปเสียแล้ว!
และในตอนนี้เอง ร่างในชุดสีม่วงร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ
ร่างในชุดม่วงเริงระบำอยู่กลางอากาศ เส้นผมสีดำขลับพัดสยายไปตามสายลม ใบหน้าอันงดงามอย่างไม่เป็นสองรองใครนั้นทำให้ผู้คนต่างตะลึงงัน ทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่าเทพธิดาผู้สูงศักดิ์ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าพวกเขาก็มิปาน
ทันทีที่ข้อมือของมู่เฉียนซีเคลื่อนไหว ทันใดนั้นพลังอันทำลายล้างก็ได้ระเบิดออกมา “ทักษะโยวจั๋ว!”
.
.