ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1675 ผิดหวังมาก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกมันพิจารณาเหยื่อตามกลิ่นอายที่ปล่อยออกมา ข้าเลยสกัดเอาพลังแห่งความตายของพวกมันมาใช้ประโยชน์ในการหลอมยาออกมา และเอายาที่หลอมมานั้นพ่นใส่ร่างกายของพวกเรา ทำให้กลิ่นอายของเราแสร้งเป็นเหมือนกับของพวกมัน แน่นอนว่าพวกมันก็จะไม่โจมตีพวกเราอีกแล้ว”
ฉื้อเหยียนเซียวกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง แต่ทว่าภายในเวลาอันสั้นเพียงเท่านี้ ก็สามารถเตรียมยาอย่างยาน้ำเช่นนี้ได้ นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?”
“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เพราะข้าคือนักปรุงยา!” มู่เฉียนซีกล่าว
“ไปกันเถอะ!”
ก่อนหน้านี้เนื่องจากติดพันกับวิญญาณปีศาจมากมาย ทำให้แน่นอนว่าตอนนี้มันส่งผลกระทบต่อความเร็วของพวกเขาเป็นอย่างมาก
แต่อย่างไรตอนนี้พวกเขาก็ไม่ได้กลัวหากมีวิญญาณปีศาจโผล่พรวดออกมาอย่างกะทันหันอีกแล้ว เมื่อไม่มีอันตราย แน่นอนว่าความเร็วก็ต้องเร็วมากขึ้นอยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าจะมีวิธีการที่ไว้ตอบโต้กับวิญญาณปีศาจ แต่มู่เฉียนซีก็ยังคงไม่ได้คลายความระมัดระวังลง
นางแผ่ขยายพลังแห่งจิตวิญญาณออกไป มู่เฉียนซีเฝ้าสังเกตถึงอันตรายที่อยู่รอบตัวอย่างระมัดระวัง
พวกเขาเดินหน้ามาเป็นเวลานั้น ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยอยู่หลายร่างอยู่เบื้องหน้า
มู่เฉียนซีหยุดลงทันที พลางกล่าวว่า “ซ่อนกลิ่นอาย แล้วเดินไปข้างหน้าตามจังหวะเดียวกับข้า!”
พวกของฉื้อเหยียนเซียวชะงักไปครู่หนึ่ง หรือว่าจะมีศัตรูเช่นนั้นหรือ?
ไม่คาดคิดว่าจะไม่มีศัตรู แต่ข้างหน้านี้คือกลุ่มคนที่คุ้นเคย ที่กำลังพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น
“ลูกพี่ชิง ท่านว่าพวกของหลานเนี้ยนหลี่ตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง?” มีคนกล่าวถามขึ้นมา
ชิงอ้าวเทียนกล่าวว่า “ป่านนี้พวกเขาก็คงจะไม่เหลือแม้แต่กระดูกแล้วล่ะ คิดจะสู้กับข้า! ก็ยังต้องหยุดคิดสักเล็กน้อย ท่านจวี๋ได้ให้สมบัติข้ามาชิ้นหนึ่ง ซึ่งมันสามารถดึงดูดวิญญาณปีศาจของที่นี่ได้ มิเช่นนั้นพวกเจ้าคิดว่าพวกเราจะสามารถมาถึงที่นี่ได้อย่างราบรื่นได้อย่างนั้นหรือ”
“พวกเจ้าลองคิดดูสิ ถูกวิญญาณปีศาจทุกตัวที่อยู่ที่นี่รุมล้อม ไม่ว่ามู่เฉียนซีและหลานเนี้ยนหลี่จะเก่งกาจมากเพียงใด ก็คงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย”
“ลูกพี่ชิงยอดเยี่ยมมากเลย! ไม่ต้องมีการนองเลือดก็สามารถจัดการพวกเขาได้แล้ว”
“หากตายอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีผู้ใดมาเก็บศพของพวกเขาหรอก!”
“……”
เมื่อพวกเขาได้ยินการพูดคุยเช่นนี้ ในที่สุดก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
เจ้าสารเลวกลุ่มนี้ ไม่คาดคิดเลยว่าจะคิดร้ายต่อพวกเขาเช่นนี้
ไม่ได้เป็นเพราะว่าพวกเขาโชคร้ายเกินไปถึงได้เจอกันนกน้อยสีน้ำเงินตัวนั้น แต่เป็นเพราะว่าเจ้าพวกนี้เป็นคนปล่อยนอกน้อยสีน้ำเงินตัวนั้นมา แถมท่านจวี๋ผู้นั้นก็เป็นผู้เสนอให้
ชิงอ้าวเทียนยังกล่าวต่อไปอีกว่า “สมบัติชิ้นนั้นไม่ธรรมดา ตราบใดที่ข้ามีความเกลียดชังต่อผู้ใดเป็นอย่างมากมันก็จะบินไปถึงที่แห่งนั้น และบนร่างกายของมันก็ยังดึงดูดสิ่งของดี ๆ อย่างวิญญาณปีศาจเหล่านั้นด้วย! ดังนั้นมันจะพุ่งตรงไปอยู่ด้านหน้าของมู่เฉียนซีและระเบิดเข้าใส่ร่างของนาง ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะหลบได้ มันก็สามารถที่จะระเบิดตนเอง และดึงดูดทั้งหมด…”
ตูม!
ฉื้อเหยียนเซียวไม่อาจจะระงับความโกรธได้อีกต่อไป และพุ่งตรงชกออกไปโครมใหญ่ทันที
“ชิงอ้าวเทียน เจ้านี่มันรนหาที่ตายเสียจริง!”
“หลานอิ่ง! พวกเราลงมือ”
แม้แต่คนที่ไม่แสดงออกทางสีหน้า และผิวเผินดูเป็นคนที่อบอุ่นและใจดีอยู่เสมออย่างหลานเนี้ยนหลี่ในตอนนี้ก็โกรธขึ้นมาแล้วเช่นกัน
คนพวกนี้ ไม่คาดคิดเลยว่าจะแอบลอบกัดพวกเขาเช่นนี้
ชิงอ้าวเทียนกล่าวด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง “เหตุใดพวกเจ้าถึงยังมีชีวิตอยู่อีก? เป็นไปได้อย่างไร?”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ดูเหมือนว่าการที่พวกเรายังมีชีวิตอยู่ จะทำให้พวกเจ้าผิดหวังมากเลยสินะ!”
“อู๋ตี้ จัดการ!”
ปัง ปัง ปัง!
อู๋ตี้พุ่งออกไปแล้ว เจ้าพวกคนสารเลวกลุ่มนี้กล้ามาลอบกัดนายท่านเช่นนั้นหรือ รนหาที่ตายแล้ว!
ชิงอ้าวเทียนชะงักไปครู่หนึ่ง “คิดไม่ถึงว่ามู่เฉียนซีเจ้าจะยังผูกสัญญากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดที่มีขนกระเซอะกระเซิงอีกตัวหนึ่งด้วย”
อู๋ตี้กล่าวอย่างเดือดดาล “เจ้าสิขนกระเซอะกระเซิง ครอบครัวของเจ้าสิขนฟูฟ่อง โคตรเหง้าของเจ้าด้วย!”
ปัง ปัง ปัง!
อู๋ตี้ร่วมต่อสู้กับคนอื่น ๆ แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับปลีกตัวออกไปอีกทางหนึ่งแล้ว
ชิงอ้าวเทียนกล่าวว่า “จัดการพวกเขาซะ! คิดจริงหรือว่าพวกเขาสองสามคนจะหนีไปได้อย่างโชคดีแล้วจะสามารถหยิ่งผยองได้อีก? ฝันไปเถอะ!”
ปัง ปัง ปัง!
ความแข็งแกร่งของอู๋ตี้ ทำให้พวกเขารู้สึกเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก!
การโจมตีของหลานเนี้ยนหลี่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เขาร่วมมือกันโจมตีกับหลานอิ่งอย่างเข้าขากัน และคู่ต่อสู้ทั้งสามสี่คนที่ร่วมมือกัน ต่างก็ทำอะไรเขาไม่ได้
ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่มีความได้เปรียบเลยแม้แต่น้อย และทำได้เพียงแค่โจมตีเท่านั้น!
ในขณะที่กำลังต่อสู้อยู่นั้น ชิงอ้าวเทียนก็ได้ค้นพบเรื่องบางอย่าง นั่นก็คือมู่เฉียนซี
คู่ต่อสู้ที่มีพลังการต่อสู้อันแข็งแกร่งอย่างมู่เฉียนซี ไม่คาดคิดเลยว่าจะไม่เข้าร่วมการต่อสู้
ชิงอ้าวเทียนกล่าวเย้ยหยัน “มู่เฉียนซี เจ้าเป็นอะไรไปแล้วล่ะ? หรือว่าเจ้าเจอปัญหาอะไรอย่างนั้นหรือ…”
เขาวางแผนที่จะโจมตีมู่เฉียนซีที่ไร้ทางต่อสู้ แต่อู๋ตี้กลับกล่าวขึ้นมาว่า “ไอ้ขนกระเซิงเหม็นเน่า อย่ามารบกวนนายท่านของข้า จัดการกับเจ้า ไม่จำเป็นต้องถึงมือนายท่านหรอก”
แต่ความจริงแล้ว มู่เฉียนซีกำลังทำการหลอมยาอยู่
เสี่ยวโม่โม่กล่าวว่า “นายท่าน ข้าก็อยากที่จะเข้าไปต่อสู้ด้วย!”
“ได้สิ! เจ้าก็ระวังตัวด้วย”
ลำแสงสีดำแสงหนึ่งพุ่งออกมา เสี่ยวโม่โม่ร่วมมือกับอู๋ตี้จัดการชิงอ้าวเทียน
อู๋ตี้กล่าวว่า “เจ้าตัวน้อย ข้าคนนี้จะสอนเคล็ดลับให้เจ้าเล็กน้อย เจ้าเรียนรู้มันให้ดีล่ะ”
ปัง ปัง ปัง!
ควบคู่ไปกับการสั่งสอนของอู๋ตี้ ชิงอ้าวเทียนจึงถูกทุบตีอย่างน่าเวทนาเป็นที่สุด
เขาร้องตะโกนออกมาเสียงดังก้อง “มู่เฉียนซีกำลังมีปัญหา ยังไม่รีบลงมือเร็วเข้าอีก! ไปจัดการนางก่อนค่อยว่ากัน!”
หลานเนี้ยนหลี่มีคู่ต่อสู้ถึงสี่คน ส่วนฉื้อเหยียนเซียวถูกแบ่งออกเป็นสองคู่
เมื่อหนึ่งในนั้นได้ยินคำสั่งของลูกพี่ของพวกตน เขาก็ไม่อยู่ติดพันกับฉื้อเหยียนเซียวอีกต่อไป และพุ่งตรงไปยังมู่เฉียนซีทันที
“หยุดเลยนะ! ใครให้เจ้าไปรบกวนกันห้ะ?” ฉื้อเหยียนเซียวกล่าวด้วยความเดือดดาล
ในขณะที่ร่างสีเขียวพุ่งเข้ามาใกล้มากขึ้น มู่เฉียนซีก็ได้หลอมยาใหม่เสร็จเรียบร้อยพอดี
มุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย พลางกล่าวว่า “สำเร็จแล้ว!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า แขนของมู่เฉียนซีก็กระแทกโครมเข้าไปโดยตรง
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ตูม!
หงส์สีเขียวที่กลายเป็นร่างจริงแล้วได้ถูกกระแทกลอยออกไป มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จัดการเลย! ทุบให้แรง! ถึงพวกเขาจะต้องตายอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีผู้ใดมารู้หรอก”
มู่เฉียนซีตรงเข้าไปช่วยหลานเนี้ยนหลี่คลายความกดดัน กระบี่สีแดงก่ำถูกเหวี่ยงออกมา
“บัวแดงพิฆาต!”
ตูม ตูม ตูม!
ชิงอ้าวเทียนมองไปที่มู่เฉียนซีอย่างประหลาดใจ เหตุใดเขาถึงไม่คิดมาก่อนว่าที่มู่เฉียนซีไม่ได้เข้าร่วมต่อสู้ไม่ได้เป็นเพราะว่าร่างกายเกิดปัญหาขึ้น แต่เป็นกับดักต่างหาก!
พลังการต่อสู้ของนาง อยู่ในจุดสูงสุดอย่างสมบูรณ์แล้ว
ปัง ปัง ปัง!
ต่อมาก็เป็นการโจมตีที่เอาให้ถึงตายอย่างแท้จริง
ลมหายใจของพวกเขาอ่อนแรงเป็นอย่างมาก ชิงอ้าวเทียนกล่าวว่า “หยุดได้แล้ว! หยุดเดี๋ยวนี้!”
ความเย็นยะเยือกเปล่งประกายอยู่ภายในแววตาของมู่เฉียนซี “เจ้าอย่าได้รีบร้อนไป! รอให้ข้าฆ่าเจ้าตายอยู่ที่นี่เสียก่อน แล้วข้าจะหยุดมืออย่างแน่นอน”
ชิงอ้าวเทียนกำลังถูกมู่เฉียนซีทำให้โกรธจนอยากที่จะกระอักเลือดออกมา
ตีให้ตายถึงจะหยุดมืออย่างนั้นหรือ!
“เจ้ากล้าฆ่าข้าเช่นนั้นหรือ!”
ทันใดนั้น มู่เฉียนซีก็ไม่ได้ปกปิดจิตสังหารของนางอีกต่อไป
“ฆ่าเจ้าแล้วมันจะทำไมล่ะ? เมื่อตอนที่เจ้าวางแผนจัดการพวกข้า ก็ควรที่จะต้องคิดถึงผลที่ตามมาด้วยสิ”
ชั่วขณะหนึ่ง ชิงอ้าวเทียนก็รู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกไปทั้งตัว เขากล่าวว่า “เช่นนั้นข้าจะสู้กับเจ้าอย่างสุดกำลังเอง!”
ในตอนที่ชิงอ้าวเทียนพุ่งตัวออกมา ก็เป็นเวลาเดียวกับที่หลานเนี้ยนหลี่และมู่เฉียนซีลงมือเช่นกัน!
ปัง!
บนร่างกายของชิงอ้าวเทียน มีหลุมเลือดขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นอีกสองสามที่
ถึงแม้ว่าการรักษาตนเองของเผ่าหงส์จะแข็งแกร่งมาก แต่ทว่าตอนนี้เขาก็รับมันไม่ไหวแล้ว
ความร้อนดั่งนั่งบนกองไฟของกระบี่ติดตรึงอยู่บนผิวหนังของเขา ชิงอ้าวเทียนกล่าวว่า “เจ้ากล้าหรือ!”
“ข้ามีอะไรที่จะไม่กล้าด้วยหรือ!”
ในตอนที่มู่เฉียนซีเตรียมจะลงมือ ก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา
“หยุดเดี๋ยวนี้!” ผู้ที่เดินออกมานั้นก็คือคนของตระกูลหงส์ม่วง จื่อเหยาเดินออกมาข้างหน้า แล้วมองไปทางมู่เฉียนซี “แม่นางมู่ ที่พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อที่จะทำภารกิจให้สำเร็จ แต่ไม่ใช่เพื่อการที่จะมาเข่นฆ่ากันเอง! ท่านอย่าทำอะไรที่มันมากเกินไปเลย”