ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1676 ฟันต่อฟัน
มู่เฉียนซียิ้มเยาะ “ข้าทำเกินไปแล้วหรือ เกรงว่าคุณหนูจื่อเหยาคงจะไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรไปบ้างสินะ?”
จื่อเหยากล่าวว่า “ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรไปบ้าง แต่สิ่งที่ได้เห็นกับตาตนเองนั้นเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน แม่นางมู่ หากท่านฆ่าพวกเขาไปแล้ว ทั้งเผ่าหงส์หยก จะต้องไม่อาจปล่อยท่านไปอย่างแน่นอน ท่านโปรดทบทวนดูอีกครั้งเถิด”
ด้วยการเคลื่อนไหวของมู่เฉียนซี นางได้เอากระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณเก็บกลับไป
นางกล่าวว่า “แค่ปล่อยไปก็เท่านั้น”
ชิงอ้าวเทียนถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วกล่าวกับจื่อเหยาว่า “ขอบคุณมากที่จื่อเหยายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ รอหลังจากที่ออกไปแล้ว ข้าจะตอบแทนท่านอย่างงามแน่นอน”
จื่อเยว่ซางชำเลืองมองไปทางพวกของมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “เดิมทีกลัวว่าพวกเจ้าสองสามคนจะถูกชิงอ้าวเทียนกำจัดไปเสียก่อน นายท่านยังวางแผนไว้ว่าจะเคลื่อนไหวเสียหน่อย! ไม่คาดคิดเลยว่าสุดท้ายแล้วคนที่ชีวิตตกอยู่ในอันตรายจะเป็นเจ้าคนขี้ขลาดอย่างชิงอ้าวเทียนผู้นี้เสียได้”
ฉื้อเหยียนเซียวกล่าวว่า “ผู้ใดอยากให้เจ้าลงมือกัน อย่าแสร้งคิดเข้าข้างตนเองไปหน่อยเลย”
จื่อเหยากล่าวว่า “เวลาไม่คอยท่า ทุกคนอย่ามาเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกเลย”
ชิงอ้าวเทียนกล่าวว่า “พวกเราไปกันเถอะ!”
“ขอรับ! ลูกพี่ชิง!”
หลังจากที่รอให้ชิงอ้าวเทียนเดินออกไปไกลแล้ว ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็พุ่งตัวออกไป
จื่อเหยากล่าวด้วยความโกรธเคือง “มู่เฉียนซี เจ้าคิดจะทำอะไร? เจ้าก็ไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาอย่างนั้นหรือ!”
นางคิดว่า มู่เฉียนซีคิดจะลงมือสังหารพวกของชิงอ้าวเทียน
แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับไม่ได้ลงมือ และโยนขวดยาขวดหนึ่งออกไปในอากาศ
“บุปผาหลั่งสายฝน!”
เพล้ง เพล้ง เพล้ง!
ขวดยาสองสามขวดนั้นแตกกระจาย แล้วร่วงหล่นลงมาจากอากาศราวกับสายฝน
พวกของชิงอ้าวเทียนรีบหลบหลีกอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าบนร่างกายก็ยังสัมผัสเข้ากับยาอยู่ดี
ยานี้ไม่มีทั้งสีและกลิ่น พวกของชิงอ้าวเทียนไม่รู้ว่าน้ำนี่ที่จริงแล้วใช้อย่างไร?
ชิงอ้าวเทียนกล่าวว่า “มู่เฉียนซี เจ้ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่?”
“ข้าเพียงแค่มอบของขวัญให้เท่านั้นเอง”
ชิงอ้าวเทียนกล่าวว่า “ไปเถอะ!”
พวกเขาจากไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นค่อยหาสถานที่ชำระล้างร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าของตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาอะไรก็ตาม
มู่เฉียนซีไม่ได้สังหารคน พวกของจื่อเหยาจึงไม่ได้สนใจอีกต่อไป จื่อเยว่ซางกล่าวว่า “รีบออกเดินทางกันเถอะ!”
มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “ไปเถอะ!”
และเมื่อพบกันแล้วก็เป็นอีกครั้งที่พวกเขาแยกย้ายกันเคลื่อนไหว ฉื้อเหยียนเซียวกล่าวว่า “แม่นางมู่ ข้าคิดว่ายานั่นสามารถเป็นพิษร้ายที่ฆ่าพวกเขาได้! ไม่คิดเลยว่ามันจะไม่ใช่? เช่นนั้นที่จริงแล้วสิ่งนั้นคืออะไรกันแน่ล่ะ?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เพียงแค่ฟันต่อฟันก็เท่านั้นเอง ให้พวกเขาได้ลองลิ้มรสชาติที่ถูกวิญญาณปีศาจล้อมโจมตีเสียบ้าง”
ฉื้อเหยียนเซียวกล่าวอย่างตื่นตกใจ “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง! ฮ่า ๆ ๆ! พวกเขาแค่รอความตายเท่านั้นแล้ว!”
สุดท้ายแล้วพวกของฉื้อเหยียนเซียวก็ไม่มียาน้ำที่แม่นางมู่หลอมนั้น
แม้ว่าชิงอ้าวเทียนจะระมัดระวังมากเพียงใด แต่มันก็ยังคงไม่เป็นผลอยู่ดี
ตูมม!
วิญญาณปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนกระโจนเข้าใส่พวกของชิงอ้าวเทียน ราวกับว่าพวกเขาเป็นของกระตุ้นชั้นดีอย่างไรอย่างนั้น จากนั้นก็วิ่งไล่ล่าพวกเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย!
“ลูกพี่ซิง นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดเจ้าพวกนี้ถึงได้วิ่งไล่ตามพวกเราเช่นนี้ได้?”
“ลูกพี่ชิง ช่วยข้าด้วย!”
ตูมม!
เมื่อถึงตอนสุดท้ายแล้ว พวกเขาก็ต้องยอมเสียสละสมบัติหลายต่อหลายชิ้น เพื่อปกป้องชีวิตของพวกเขาเอาไว้ จนถึงที่สุดแล้วพวกเขาก็ไม่อาจที่จะหลีกหนีจากกรงเล็บของวิญญาณปีศาจเหล่านี้ได้
“มู่เฉียนซี ต้องเป็นนางแน่ นางต้องลอบกัดข้าอย่างแน่นอน!”
ในตอนสุดท้ายแล้ว ชิงอ้าวเทียนก็ร้องตะโกนเสียงดังก้อง และต่อมาก็จมหายไปท่ามกลางฝูงวิญญาณปีศาจเหล่านั้น
หลังจากที่เดินมาเป็นเวลานาน พวกเขาก็มองเห็นสถานที่ที่เป็นแอ่งกระทะแห่งหนึ่ง
เสี่ยวโม่โม่และหลานเนี้ยนหลี่รู้สึกถึงพลังการกดดันทางสายเลือดที่แข็งแกร่งอยู่ในเหวลึกนั้น แล้วยังมีแรงกดดันของบรรพบุรุษเผ่าหงส์อีกด้วย
และพลังนี้ ก็ยังดึงดูดให้พวกเขาลงไปข้างล่างนั่น
มนุษย์อย่างเช่นมู่เฉียนซี แน่นอนว่าตามธรรมชาติแล้วจะต้องรับรู้ได้อ่อนกว่ามาก แต่ทว่ามู่เฉียนซีก็ยังรู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งจากด้านล่างนั่น
อู๋ตี้ที่อยู่ในอ้อมแขนของมู่เฉียนซีก็มองไปบริเวณโดยรอบ หลังจากนั้นก็กล่าวว่า “นายท่าน น่าจะเป็นที่นี่แล้วล่ะ! แกนกลางของสุสานเทพหงส์ศักดิ์สิทธิ์”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ลงไปกันเถอะ!”
“ระวังด้วย!”
“อื้ม!”
ร่างเงาของพวกเขาสองสามคน พุ่งกระโจนลงไปยังส่วนลึกของแอ่งกระทะแห่งนั้น
และในเวลานี้ อีกทางด้านหนึ่ง พวกของหงส์ม่วงก็ลงมาแล้วเช่นกัน
จื่อเหยากล่าวว่า “ในที่สุดพวกเราก็มาถึงแล้ว ไปเถอะ!”
พรึ่บ!
พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่า ในส่วนลึกนี้จะเป็นทะเลสาบแห่งหนึ่ง
แรงดึงดูดของสายเลือด ทำให้พวกเขาดำดิ่งลงไปในทะเลสาบ
และภายในทะเลสาบแห่งนี้ พวกเขาก็ได้เห็นสมบัติและมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพมากมายหลากหลาย…
ฉื้อเหยียนเซียวตื่นเต้นเล็กน้อย และเตรียมที่จะพุ่งเข้าไป แต่กลับถูกมู่เฉียนซีขวางเอาไว้เสียก่อน
ทั่วทั้งก้นทะเลสาบนั้น ต่างก็มีขุมทรัพย์เกลื่อนกลาดไปหมด!
หากว่ายน้ำผ่านไปเช่นนี้ จะต้องทนต่อความยั่วยวนมากถึงเพียงไหนกัน?
มู่เฉียนซีและหลานเนี้ยนหลี่สงบนิ่งมาก และถึงแม้ว่าฉื้อเหยียนเซียวจะตื่นเต้น แต่ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างสะเพร่า
เมื่อรอให้พวกเขามาจนถึงจุดสิ้นสุด และไม่มีสมบัติอะไรเหลืออยู่แล้ว ลำแสงที่ห่อหุ้มพวกเขาเอาไว้นั้น ก็หายไปจากก้นทะเลสาบในชั่วพริบตา
คนของเผ่าหงส์ม่วงก็ลงมาแล้วเช่นกัน เมื่อเผชิญหน้ากับสมบัติเหล่านี้ สีหน้าของจื่อเหยายังคงไร้ซึ่งอารมณ์ ส่วนจื่อเยว่ซางมุมปากของเขาได้ยกยิ้มขึ้น
มีหนึ่งในนั้นทำลับ ๆ ล่อ ๆ คิดอยากจะแอบขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพไป แต่ในทันทีที่เขาสัมผัสเข้ากับมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนั้น มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนี้ก็อันตรธานหายวับไปทันที และเขาก็ได้ถูกขับไล่ออกไปด้วย
“ระวังด้วย! ห้ามแตะต้องสิ่งของที่อยู่ที่นี่”
พวกของมู่เฉียนซีได้ถูกส่งยังมาอยู่ภายในพระราชวังสีแดงเข้มแห่งหนึ่ง ประตูขนาดใหญ่ของพระราชวังถูกสร้างขึ้นมาด้วยหินศิลาจารึก
ด้านบนนั้นได้ถูกจารึกเอาไว้ว่า “หากต้องการที่จะเข้าสู่พระราชวังของเทพหงส์ เช่นนั้นจะต้องมีจิตสำนึกแห่งความตาย”
พวกของมู่เฉียนซียังคงเดินเข้าไป และมู่เฉียนซีก็ได้กล่าวว่า “ไม่รู้ว่าที่นี่จะมีอันตรายอะไรบ้าง และมีบททดสอบอะไรบ้าง! พวกเจ้าจะต้องระมัดระวังให้มาก”
“ท่านก็ด้วย!”
หลังจากที่เข้ามาในพระราชวังเทพหงส์แล้ว พวกเขาทั้งสามคนก็ถูกแยกออกจากกันนั้นทันที
เปลวเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวได้เริ่มม้วนตัวเข้ามา มู่เฉียนซีได้เหวี่ยงกระบี่มังกรเพลิงออกไป และทันใดนั้นเปลวเพลิงทั้งสองชนิดก็เข้าปะทะกัน
“ผนึกมังกรวารี!”
ธาตุวารีทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง นางจมดิ่งลงสู่ทะเลเพลิงขณะที่มีธาตุวารีอยู่ ซึ่งนั่นก็ช่วยเหลือนางได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีพุ่งตรงออกไป ทะเลเพลิงแห่งนี้ ไม่มีขอบเขตของทะเลเพลิง ไม่ว่าจะเดินไปนานเพียงใด ต่างก็ไม่ถึงจุดสิ้นสุดเสียที
ดูเหมือนว่าเมื่อเข้ามาแล้วจะมีเพียงชะตากรรมเดียวเท่านั้น นั่นคือการถูกเปลวเพลิงเผาเป็นเถ้าถ่าน
มู่เฉียนซียังคงเดินต่อไปอย่างอดทนเพื่อหาทางออก แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
อู๋ตี้กล่าวแนะนำว่า “นายท่าน ให้เจ้าตัวน้อยนี้ออกไปสิ! ไม่มีเผ่าหงส์ คาดว่าไม่ว่าท่านจะยืนหยัดอยู่ได้นานเพียงใด เทพหงส์ผู้นั้นก็คงไม่ปล่อยให้ท่านผ่านด่านเป็นแน่”
“แต่ว่าในนี้มันอันตราย!”
เสี่ยวโม่โม่กล่าวว่า “นายท่าน ข้าไม่กลัว! แล้วข้าก็ยังพ่นไฟได้อีกด้วย ข้าไม่กลัวไฟหรอก! แล้วยังมีนายท่านอยู่ด้วย”
เสี่ยวโม่โม่ขอร้องอ้อนวอนไม่หยุด มู่เฉียนซีจึงได้ยอมให้มันออกมา ต่อมาเสี่ยวโม่โม่ก็ถูกอาบไปด้วยทะเลเพลิงแห่งนี้ และได้พบกับประสบการณ์ความเจ็บปวดที่ยากจะจินตนาการได้
สีหน้าของมู่เฉียนซีเคร่งขรึมไปเล็กน้อย แต่ก็สามารถที่จะมองออกได้ว่า เปลวเพลิงของเทพหงส์นั้นมีประโยชน์สำหรับเสี่ยวโม่โม่เป็นอย่างมาก ร่างกายที่บกพร่องมาแต่กำเนิดของมันนั้น หลังจากที่ถูกเปลวเพลิงแผดเผาแล้ว กลับเปลี่ยนเป็นดีขึ้นไม่น้อยเลย!
การแผดเผาด้วยเปลวเพลิงของเทพหงส์นี้ เป็นการทดสอบสำหรับคนรุ่นหลังของเทพหงส์ผู้นั้น อีกทั้งยังเป็นของขวัญด้วย!
มู่เฉียนซีรู้ว่าตนเองไม่อาจที่จะขัดขวางได้ เช่นนั้นจึงทำได้เพียงหยิบยาลูกกลอนออกมาให้กับเสี่ยวโม่โม่เท่านั้น
“เสี่ยวโม่โม่ กินมากอีกหน่อย! หลังจากที่กินไปแล้วก็จะไปเจ็บมากถึงเพียงนั้นแล้ว”
ในขณะที่เสี่ยวโม่โม่กำลังอาบเปลวเพลิงของเทพหงส์ไปทั่วทั้งร่างกาย พวกของฉื้อเหยียนเซียวก็กำลังประสบกับบททดสอบแบบเดียวกันอยู่เช่นกัน
“อ๊ากก! ข้าจะตายอยู่แล้ว!” ฉื้อเหยียนเซียวร้องตะโกนออกมาอย่างน่าสลดใจเป็นอย่างมาก!
.
.