ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1680 ฟื้นฟูมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ
“ข้ารับปากไปก็เปล่าประโยชน์ ยังต้อง…อู้…”
เอวบางถูกโอบรัดเอาไว้ และริมฝีปากก็ถูกปิดผนึกไว้เช่นกัน
ดูเหมือนว่าต้องการที่จูบจนตราบสิ้นดินฟ้าเสียให้ได้ ใบหน้าของมู่เฉียนซีแดงระเรื่อ อากาศต่างก็ถูกจิ่วเยี่ยกดทับไปจนหมดแล้ว
ริมฝีปากแยกออก มู่เฉียนซียังคิดที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกริมฝีปากของจิ่วเยี่ยบดขยี้ลงมาปิดกั้นจนหมดโอกาส
เขากล่าวด้วยเสียงแหบพร่าว่า “ซีรับปากก็พอแล้ว!”
ดวงตาของมู่เฉียนซีเบิกโพลง “เมื่อครู่ข้าก็จะพูดเช่นนี้ ยังไม่ได้รับ…อุ้บ…”
การหักล้างของมู่เฉียนซี ได้ถูกจิ่วเยี่ยขวางเอาไว้ได้หมดแล้ว
หลังจากที่เสร็จสิ้น จิ่วเยี่ยก็เข้ามาใกล้ข้างหูของมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “หากซีเขินอายและกลับคำภายหลังละก็ ข้าแค่ทำเป็นไม่ได้ยินก็พอแล้ว”
“ท่านนี่เป็นจอมเผด็จการเอาแต่ใจเสียจริง!”
มุมปากของจิ่วเยี่ยยกโค้งขึ้นมาเล็กน้อย
“ขอเพียงแค่ทำให้ซีกลายมาเป็นภรรยาของข้าได้ จะเป็นเผด็จการจอมเอาแต่ใจแล้วจะเป็นอะไรไปล่ะ?”
“ท่านมีเหตุผล ท่านแข็งแกร่งมาก ทะ…ท่านดีมาก!”
“คนที่ซีชอบ ก็จะต้องดีมากแน่นอนอยู่แล้ว!” จากนั้นจิ่วเยี่ยก็ทำเพียงแค่กอดนางเอาไว้
ท่ามกลางเปลวเพลิงของเพลิงหงส์อมตะที่ไม่มีที่สิ้นสุด เสี่ยวโม่โม่กำลังทำการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า
เทพหงส์กล่าวว่า “หากเจ้าตัวน้อยนี้โตเต็มวัยแล้วละก็ การผ่านการทดสอบนี้ไปได้คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ว่า…”
เสี่ยวโม่โม่กล่าวว่า “ตอนนี้ ข้าก็สามารถทำได้!”
เทพหงส์กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เช่นนั้น ทำให้ข้าได้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวของเจ้าหน่อยได้หรือไม่?”
หลังจากที่รอมาเป็นเวลานาน มู่เฉียนซีก็เป็นกังวลเล็กน้อย
“ตอนได้รู้ข้อมูลแล้วควรจะจากไปตั้งแต่แรก แล้วยอมแพ้เรื่องเพลิงหงส์อมตะไปซะ ตอนนี้ไม่รู้ว่าเสี่ยวโม่โม่จะเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ซีไม่ต้องเป็นกังวลหรอก!” จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ตูม!
มีเสียงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงดังขึ้น จากนั้นก็มีหงส์นิลตัวหนึ่งบินออกมา
มู่เฉียนซีสามารถสัมผัสได้ถึงพลังบนร่างกายของมัน นี่คือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ด
สิ่งที่ปะทุออกมาจากร่างกายของมันไม่ใช่โม่เหยียนของเผ่าหงส์นิล แต่กลับเป็นเปลวเพลิงอีกชนิดหนึ่ง
มีสีดำเช่นเดียวกัน แต่กลับไม่เหมือนกับโม่เหยียนโดยสิ้นเชิง ทั้งมีความแข็งแกร่งมากกว่าระดับหนึ่งอีกด้วย
“เสี่ยวโม่โม่เจ้าทำสำเร็จแล้วหรือ เจ้าได้รับสืบทอดเพลิงหงส์อมตะมาแล้วใช่หรือไม่?”
เทพหงส์กล่าวว่า “เจ้าอย่าพึ่งรีบร้อนดีใจเร็วไปหน่อยเลย เด็กน้อยนี่ยังเล็กมากเกินไป มันยังเล็กเกินกว่าที่จะดึงดูดพลังที่มากมายเช่นนั้นได้ เจ้าใช้สิ่งของอื่นมาดูดซับมันไปสักหน่อยเถอะ”
“ของอะไรล่ะ?”
“ไม่ใช่ว่าเจ้ามีแหวนมังกรเทพวารีหรอกหรือ? ไม่มีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ชิ้นไหนเหมาะสมมากเท่านี้อีกแล้ว”
“มันจะไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ไม่มีแน่นอน เปลวเพลิงของเพลิงหงส์อมตะของข้าจะมีปัญหาได้อย่างไร! แม่สาวน้อย พลังแหวนมังกรเทพวารีของเจ้านั้นอ่อนแอมาก คาดว่าคงยังฟื้นฟูได้ไม่สมบูรณ์ใช่หรือไม่! เปลวเพลิงของเพลิงหงส์อมตะของข้า เป็นเปลวเพลิงที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพแล้ว” เทพหงส์กล่าว
จิ่วเยี่ยกล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “อื้ม! ที่เขาพูดมาก็ถูก! เปลวเพลิงของเพลิงหงส์อมตะ มีความสามารถเช่นนี้ เจ้าปล่อยพวกเขาออกมาเถอะ!”
“ดีมากเลย! เดิมทีข้าก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้สิ่งใดถึงทำให้พวกเขาฟื้นฟูเร็วมากขึ้นกว่านี้ได้”
ดังนั้น มู่เฉียนซีจึงหยิบเอาแหวนมังกรเทพวารีออกมา
ไม่ได้มีเพียงแค่แหวนมังกรเทพวารีเท่านั้น แต่ยังมีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ หม้อเทพนิรันดร์ ผู้พิทักษ์นิรันดร์และศาลานิรันดร์ด้วย
นางกล่าวว่า “เสี่ยวโม่โม่ เจ้าอย่าฝืนเกินไปนัก เจ้านำพลังที่มากเกินไปของเพลิงหงส์อมตะ ส่งต่อมาให้พวกเขาทั้งหมดเลย”
“เจ้าคะ! นายท่าน!”
ครืน!
นางได้นำเพลิงหงส์อมตะห่อหุ้มของทั้งห้าชิ้นนี้ขึ้นมา
ในเวลานี้เทพหงส์ยังคงตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกมาเลยสักคำ
“หะ…ห้าชิ้น…แม่สาวน้อยคนนี้ที่จริงแล้วเป็นสัตว์ประหลาดที่ออกมาจากที่ไหนกันแน่?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าท่านมองออกว่าข้าเป็นวิญญาณลิขิตสวรรค์อย่างนั้นหรือ? มีอะไรน่าประหลาดใจกัน”
“ไม่ถูก! มันต้องผิดปกติแน่นอนอยู่แล้ว! มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์โอหังอวดดีมาก ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นวิญญาณลิขิตสวรรค์ เป็นเรื่องปกติมากหากจะมีชิ้นหรือสองชิ้นที่ยอมรับเจ้าเป็นเจ้านาย แต่นี่มีห้าชิ้น…ห้าชิ้น…”
“ท่านมังกรวารีเป็นผู้อ่อนโยนเป็นอย่างมาก ท่านหม้อวิญญาณนิรันดร์เมื่อเห็นสาวงามก็ไปไหนไม่ได้แล้ว จะยอมรับเจ้าเป็นเจ้านายก็เป็นเรื่องปกติแล้ว! แต่ทว่าผู้พิทักษ์นิรันดร์และศาลานิรันดร์โอหังและถือดีเป็นที่สุด แต่ที่เหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นก็คือ กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์…กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์นั่นต่างหาก!”
เทพหงส์ตกตะลึงจนอยากที่จะกรีดร้องออกมาให้สะเทือนเลื่อนลั่น หลังจากที่ดับสูญมานานมาก นี่มันกลับทำให้เขาต้องตื่นตระหนกได้ถึงเพียงนี้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นั่นน่าจะเป็นความโชคดีของข้า!”
หลังจากที่เสี่ยวโม่โม่ได้ปลดปล่อยเพลิงหงส์อมตะที่มากเกินไปออกมาเสร็จแล้ว ร่างกายของนางก็เปลี่ยนเป็นง่วงงุนเล็กน้อย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เสี่ยวโม่โม่ ลำบากเจ้าแล้ว รีบไปพักผ่อนเสียเถอะ!”
“เจ้าคะ! นายท่าน!”
หลังจากที่เสี่ยวโม่โม่กลับไปยังมิติผูกพันธสัญญาแล้ว มันก็สามารถที่จะโจมตีอู๋ตี้ได้
“เจ้าตัวเล็กเหตุใดถึงเลื่อนขั้นเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดได้เร็วถึงเพียงนี้ล่ะ แล้วจะให้ข้ามีชีวิตอยู่ได้อย่างไรล่ะ! ฮือออ!”
หลังจากที่เปลวเพลิงของเพลิงหงส์อมตะที่ปกคลุมหม้อน้ำนิรันดร์เหล่านี้หายไปแล้ว ศาสตราวุธเซียนผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าก็เปลี่ยนเป็นแวววาวมากยิ่งขึ้นทันที
“สุ่ยจิงอิ๋ง อาถิง อีเฉิง มังกรวารี มังกรเพลิงพิฆาต…”
มู่เฉียนซีร้องเรียกพวกเขา แต่ทว่าพวกเขาก็ยังคงไม่ตอบสนอง
“ท่านเทพหงส์!”
เทพหงส์กล่าวว่า “เพลิงหงส์อมตะของข้าเชี่ยวชาญมากในการฟื้นฟูมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ แต่ทว่าท่านทั้งห้าต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ และประสิทธิผลของเพลิงหงส์อมตะก็มีจำกัดอีกด้วย”
“อื้ม! ข้าเข้าใจแล้ว” สถานการณ์ของพวกสุ่ยจิงอิ๋งนั้นไม่ธรรมดา หากให้พวกเขาต่างฟื้นฟูทั้งหมดได้ภายในพริบตา เช่นนั้นคงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เทพหงส์กล่าวว่า “พวกเจ้าออกไปเถอะ! เพราะทั่วทั้งสุสานเทพหงส์ศักดิ์สิทธิ์ จะต้องตกอยู่ภายในความเงียบงันชั่วนิรันดร์แล้ว และนี่ก็เป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะปล่อยให้คนภายนอกเข้ามารบกวนได้”
มู่เฉียนซีถามว่า “ท่านเทพหงส์ ข้าจะสามารถเข้าไปในสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไรหรือ?”
“ความสัมพันธ์ของข้ากับไอ้แก่นั่นไม่ค่อยจะดีเท่าไร แล้วจะไปรู้ได้อย่างไรกันล่ะ? พวกเจ้าก็ค่อย ๆ ควานหาเอาเถอะ!”
หลังจากที่เทพหงส์ได้ให้คำตอบกับนางเช่นนี้ มู่เฉียนซีและหวงจิ่วเยี่ยก็หายออกไปจากสุสานเทพหงส์ศักดิ์สิทธิ์ในทันที
เมื่อลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาก็ได้ออกมาแล้ว
ฉากด้านหน้าที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย ราชวงศ์ระดับสูงทั้งเก้าต่างก็มากันหมดแล้ว
และยังรวมไปถึงท่านจวี๋นั่นด้วย
ในตอนที่มู่เฉียนซีเดินออกมา ก็มีคนกลุ่มหนึ่งมาล้อมนางเอาไว้ และปิดกั้นไว้แม้แต่บนอากาศ
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกยิ้มราบเรียบขึ้นมาเล็กน้อย “ทุกท่านต่างมาที่นี่เพื่อต้อนรับข้าเช่นนั้นหรือ? คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้ข้ามู่เฉียนซีจะได้รับเกียรติเช่นนี้ด้วย”
จื่อเหยาเดินออกมาจากกลุ่มคนเหล่านั้นพลางกล่าวว่า “มู่เฉียนซี เจ้าได้รับสมบัติของพวกเราเผ่าหงส์ ส่งมันมาให้ข้าเดี๋ยวนี้! ตอนนี้เจ้าไม่มีโอกาสที่จะหลบหนีไปพร้อมกับสมบัตินี้แล้ว”
มู่เฉียนซีหยิบเอาม้วนหนังสือโบราณเล่มหนึ่งออกมา พลางกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายต้องการของสิ่งนี้อย่างนั้นหรือ?”
ทุกคนต่างก็มองไปยังม้วนหนังสือโบราณเล่นนี้กันอย่างพร้อมเพรียงกัน หัวหน้าเผ่าจื่อกล่าวว่า “มู่เฉียนซี สิ่งนี้คือสมบัติของพวกเราเผ่าหงส์ ส่งมอบมันมาซะ!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “แน่นอนว่าการที่จะมอบให้นั้นมันไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว แต่ทว่าข้าประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ท่านผู้อาวุโสทุกท่านจะมอบของรางวัลให้ข้ามากมายใช่หรือไม่?”
ท่านจวี๋กล่าวพร้อมเสียงหัวเราะว่า “ฮ่า ๆ ๆ! แน่นอนว่าจะขาดของรางวัลไม่ได้อยู่แล้ว แม่สาวน้อยเจ้าลองพูดมาเถิด ต้องการสิ่งใดกัน? มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพหรือว่ายาลูกกลอน!”
“ข้าต้องการสมุนไพรวิญญาณ อีกทั้งเสี่ยวโม่โม่ของข้ายังเด็กนัก ความสามารถยังอ่อนแอ หากมีสิ่งของดี ๆ อะไรที่สามารถยกระดับความสามารถได้ พวกท่านก็สามารถเอามันมาเป็นรางวัลได้”
ผู้อาวุโสต่างพากันไปปรึกษาหารือเรื่องของรางวัล มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ถึงอย่างไรพวกผู้อาวุโสทุกท่านต่างก็เป็นผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเผ่าหงส์ คงจะไม่ขี้เหนียวเกินไปหรอกใช่หรือไม่?”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว!” พวกเขากล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ