ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1710 หงส์น้ำแข็งทรยศ
“ซี!”
“ข้าคือเจ้านายของสุ่ยจิงอิ๋ง ท่านว่านางจะฟังข้าหรือว่าฟังท่านกันล่ะ มาถึงจุดนี้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็ไม่อาจที่จะยอมแพ้ได้อีกแล้ว และอีกไม่นานก็จะหาวิธีในการถอนคำสาปได้แล้วด้วย”
“มีเจ้าอยู่ ข้าไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้เลย”
เผ่าคำสาปถูกตรึงเอาไว้ และสิ่งนี้ก็ทำให้เทพราชาโมโหเป็นอย่างยิ่ง
ทันใดนั้นลำแสงสีทองก็ระเบิดออกมา และจากนั้นก็มีกระบี่ที่แหลมคมนับไม่ถ้วนพวยพุ่งออกมา
“จินเย้าคลั่งสังหาร!”
ตูม โครมม!
เทพหงส์ตัวนั้นถูกกระบี่ที่แหลมคมจำนวนนับไม่ถ้วนปักตรึงอยู่บนกำแพง
“พวกเจ้าจัดการมันซะ!” เทพราชาออกคำสั่ง และส่งมอบเทพหงส์ไปให้กับลูกน้องทั้งหกคนของเขา
“หยู! เจ้านี่ดีเสียจริง ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทรยศข้า!” เทพราชากล่าวแล้วมองไปที่ท่านหยูด้วยความโมโห
ท่านหยูกล่าวว่า “ข้าเพียงแค่ต้องการที่จะปกป้องลูกและภรรยาผู้ที่เป็นโลกทั้งใบของข้าเท่านั้น ท่านเทพราชา ท่านอย่าได้ขุ่นเคืองไปเลย!”
“ผู้ที่หักหลังข้า ข้าจะทำให้มันอยากที่จะตายเสียยังดีกว่าอยู่แน่นอน แต่ทว่าตอนนี้ข้ายังไม่มีอารมณ์ที่จะมาจัดการกับคนทรยศเช่นเจ้า”
ตูม!
เทพราชาปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาได้อาศัยพลังของเขาเพียงคนเดียวในการสกัดกันพลังธาตุของเหล่ายอดฝีมือของราชวงศ์เหล่านั้น
“ท่านหยา ลงมือซะ!”
เลือดของเผ่ามังกรที่ท่านหยาถืออยู่ ในที่สุดมันก็สามารถนำมันมาใช้ประโยชน์ได้เสียที
ครืนนน!
เสาหินเริ่มขยับ มังกรสีทองเหลืองอร่ามตัวหนึ่งพุ่งออกมา แล้วเข้าไปพันกับนักเล่นคาถาอาคมสีดำทะมึนเหล่านั้น
ท่านหยากล่าวว่า “ผูกคำสาป! เป็นเพียงพลังเล็กน้อยที่เหลืออยู่ของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์โบราณเท่านั้น คิดว่าจะขวางพวกข้าในการทำลายผนึกได้จริง ๆ อย่างนั้นหรือ? ช่างไร้เดียงสาเสียจริง”
เสาหินของเทพหงส์และเทพมังกรได้ถูกเปิดออกมาแล้ว แต่ทว่าจิ่วเยี่ยกลับไม่ได้มีปฎิกิริยาตอบสนองอย่างรุนแรงมากเท่าไรนัก
สายตาของเขาจ้องมองไปบนเสาหินของเผ่ากิเลนต้นนั้น พลางกระซิบกล่าวว่า “อยู่ที่นั่น!”
นอกจากสองต้นนั้น ก็เหลือเพียงแค่ที่นั่นแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าเทพราชาและเผ่าคำสาปจะไม่มีเลือดของเผ่ากิเลน หากรู้แต่แรกว่าจะมาจนถึงจุดนี้ ข้าน่าจะขอเลือดของท่านย่ามาเสียหน่อยก็ดี”
“หากข้าไปลองดู จะสำเร็จหรือไม่?”
ท่านย่าของนางเป็นคนของเผ่ากิเลน ในร่างกายของนางมีสายเลือดของเผ่ากิเลนอยู่ เพียงแต่มันน้อยมากเหลือเกิน หากเทียบก็คงเท่ากับหนึ่งในสี่ส่วนเท่านั้นเอง
“รอเดี๋ยวก่อน!” จิ่วเยี่ยกล่าว
“เลือดหยดหนึ่งไม่ได้มากมายเลย เพียงแค่ต้องลองเท่านั้น! ไม่อย่างนั้นหากพลาดโอกาสนี้ไป แล้วรอให้ท่านย่ากลับมา ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะต้องรอไปจนถึงเมื่อไหร่”
ครืนน!
พวกของเผ่าหงส์อัสนีได้ช่วยเทพมังกรในการจัดการพรรคพวกของเทพราชา และการต่อสู้ก็ยิ่งดุเดือดมากขึ้นเรื่อย ๆ
เสียงหงส์กรีดร้องออกมาดังสนั่นหวั่นไหว พลังของเทพหงส์ถูกทำให้อ่อนแอหลังจากการต่อสู้มาอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดก็สูญสิ้นไป
ครืนนน!
ตามมาด้วยเสาหินของเทพหงส์ได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ รวมไปถึงรูปปั้นหินด้วย
มันได้กลายเป็นเพียงเศษหิน ที่ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย
ท่านหลานกล่าวว่า “รายงานท่านเทพราชา ภายในเสาหินของเทพหงส์ ไม่มีคัมภีร์หมื่นคำสาปขอรับ”
“หากไม่มีแล้วละก็ เช่นนั้นก็เหลือเพียงแค่ที่เดียวเท่านั้น ลงมือซะ!”
เหลยป้ากล่าวด้วยความเดือดดาล “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เหลือเสาหินอีกเพียงแค่สองต้นเท่านั้น มีความเป็นไปได้อยู่หนึ่งในสอง และไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเขาไม่อาจปล่อยให้เทพราชาเปิดเสาหินเทพมังกรต้นนี้ได้
พวกเขายังคงพยายามอย่างเต็มที่ในการต่อสู้กับพวกของเทพราชา
“ไสหัวออกไปให้หมด!”
ในเรื่องของการต่อสู้ คนของเทพราชาเดิมทีก็แข็งแกร่งมากกว่าพวกเขาอยู่แล้ว
ในเวลานี้ หงส์สีเงินตัวหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นไปกลางอากาศ จากนั้นทั่วทั้งร่างก็ได้แผ่กระจายไอเย็นยะเยือกที่น่าสะพรึงกลัวออกมา และกระแสไอเย็นนั้นก็พัดโหมกระหน่ำเข้ามา
พลังไอเย็นยะเยือกนี้ ไม่ได้พุ่งเข้าโจมตีพวกของเทพราชา แต่กลับเป็นพวกของหัวหน้าเผ่าหงส์อัสนีแทน
ยอดฝีมือแต่ละคนต่างก็จ้องมองไปที่ม่านแสงสีเงินนั้นด้วยความตื่นตะลึง “หัวหน้าเผ่าหงส์น้ำแข็ง เจ้า…”
เดิมที่แล้วหัวหน้าเผ่าหงส์น้ำแข็งเป็นกำลังรบในการต่อสู้ครั้งที่สองของฝ่ายพวกเขา ไม่คาดคิดเลยว่าจะไปช่วยเหลือเทพราชาเสียแล้ว
เหลยป้ากล่าวว่า “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ข้าควรที่จะคิดได้มาตั้งนานแล้ว ลูกชายของเจ้าผูกพันธสัญญากับองค์ชายแปด แล้วเจ้าจะสามารถปลีกตัวออกมาได้อย่างไร”
หัวหน้าเผ่าหงส์น้ำแข็งกล่าวว่า “ข้าเพียงต้องการที่จะทำให้เคราะห์ร้ายของเผ่าหงส์สิ้นสุดลงเสียที ตราบใดที่พวกเขาเอาคัมภีร์หมื่นคำสาปที่ชั่วร้ายออกไปแล้ว เผ่าหงส์ของพวกเราจะต้องฟื้นตัวเหมือนอย่างที่ผ่านมาได้อย่างแน่นอน และจะไม่ต้องถูกคัมภีร์หมื่นคำสาปอันแสนชั่วร้ายนั้นทำให้ต้องเหน็ดเหนื่อยอีกแล้ว”
หัวหน้าเผ่าหงส์อัสนีกล่าวว่า “หัวหน้าเผ่าหงส์น้ำแข็ง อายุอานามของเจ้าก็ไม่น้อยแล้ว! เจ้าจะไม่ไร้เดียงสามากเกินไปหน่อยหรือ!”
เผ่าหงส์ได้ครอบครองสายเลือดของสัตว์เทพโบราณในตำนานที่ยิ่งใหญ่ทั้งสาม ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเผ่าเทพไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปอย่างแน่นอน
“หลีกไป!”
“ไม่มีทางหรอก!”
ครืนนน!
พลังธาตุน้ำแข็งและพลังธาตุอัสนีผสมผสานเข้าด้วยกันอีกครั้ง จากนั้นเสียงระเบิดที่สะเทือนฟ้าทลายดินก็ดังสนั่นออกมา
เทพราชาพุ่งตัวเข้ามาประชิดเทพหงส์ภายในชั่วพริบตา จากนั้นก็ฟันไปสามครั้งติดต่อกัน
ปัง ปัง ปัง!
การต่อสู้ที่ชุลมุนนี้ ยังคงดำเนินต่อไป!
ปัง!
หัวหน้าเผ่าหงส์อัสนีถูกหัวหน้าเผ่าหงส์น้ำแข็งทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส และร่วงลงมาจากกลางอากาศ
“ท่านพ่อ!” ร่างสีดำร่างหนึ่งพุ่งออกมาราวกับสายฟ้าแลบ และได้เข้าไปช่วยหัวหน้าเผ่าหงส์อัสนีเอาไว้ได้
“เหลยหมิง! เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” หัวหน้าเผ่าหงส์อัสนีกล่าวอย่างตื่นตกใจเป็นอย่างมาก
“ในเวลานี้ข้ายังไม่อาจพูดออกมาได้ สถานการณ์ตอนนี้…”
ครืนนน!
พลังอัสนีของเขาระเบิดออก จนแทบจะฝืนหลีกเลี่ยงจิตสังหารนั้นไม่ได้
“ข้า…” หัวหน้าเผ่าหงส์อัสนีต้องการที่จะต่อสู้ต่อ แต่ทว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสมากจนเกินไป
“ท่านพ่อ ท่านกินยารักษาอาการบาดเจ็บก่อนเถอะ! ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าเผ่าหงส์น้ำแข็งจะเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลเช่นนี้ ซ้ำยังไปยอมจำนนต่อเทพราชาอย่างคาดไม่ถึงไปเสียแล้ว”
หัวหน้าเผ่าหงส์อัสนีกล่าวพลางถอนหายใจว่า “ข้าก็ไม่คิดมาก่อนว่าเผ่าหงส์น้ำแข็งผู้ที่เย่อหยิ่งมาเสมอนั้น ในตอนนี้…”
สายตาของหัวหน้าเผ่าหงส์อัสนีเศร้าสลด เดิมทีแล้วพวกเขาไม่มีโอกาสที่จะเอาชนะได้เลย และทำได้เพียงแค่ดิ้นรนอย่างยากลำบากเท่านั้น
เมื่อเผ่าหงส์น้ำแข็งโจมตี พวกเขาก็ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับชัยชนะใด ๆ อีกต่อไปแล้ว
ถึงเหลยหมิงจะหามู่เฉียนซีไม่เจอ แต่เขาก็เชื่อว่ามู่เฉียนซีจะต้องอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน
เขากล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านอย่าสูญเสียกำลังใจไปเลย บางทีในเส้นทางที่คดเคี้ยว ไม่แน่ว่าอาจจะมีความเป็นไปได้ใหม่เกิดขึ้นมาก็เป็นได้!”
“ความเป็นไปได้ใหม่? เว้นเสียแต่ว่าจะมีผู้ที่มีบทบาทที่แข็งแกร่งกว่าเทพราชาปรากฏตัวขึ้นในเผ่าหงส์ของพวกเรา ไม่เช่นนั้นก็ไม่อาจที่จะพลิกสถานการณ์อันเลวร้ายตอนนี้ไปได้หรอก”
ครืนน!
เหลยป้าเองก็กำลังต้านทานเอาไว้ด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับมือกับการโจมตีของเผ่าหงส์น้ำแข็ง
อดีตเป็นสหายร่วมรบ แต่ในวันนี้ได้เปลี่ยนกลายมาเป็นศัตรูไปเสียแล้ว
“พวกเจ้าเผ่าหงส์น้ำแข็งนี่ช่างระริกระรี้เสียจริง ๆ ดีเหลือเกินนะ!” เหลยป้ากล่าวด้วยความโกรธแค้นเป็นที่สุด
ปัง ปัง ปัง!
ภายใต้การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าของเทพราชา เทพมังกรสีทองอร่ามตัวนั้นได้กลายเป็นจุดสีทองเล็ก ๆ แล้วมลายหายไป
มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่แสงสว่างนั้นพลางกล่าวว่า “พลังของผนึกนี้ อ่อนแอกว่าที่ข้าได้จินตนาการเอาไว้เสียอีก เดิมทีคิดว่าจะสามารถทำให้พวกของเทพราชาบาดเจ็บสาหัสได้บ้าง”
จิ่วเยี่ยกล่าวตอบ “แรงกดดันได้ถูกใช้มาเป็นเวลาหลายปี ทำให้พลังของพวกมันอ่อนแอลงไปไม่น้อยแล้ว และบวกกับที่ข้ามาที่นี่ด้วย”
หากว่าเขาไม่ได้มาที่นี่ ด้วยพลังที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดนี้ การจะทำให้เทพราชาได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใดเลย แต่ทว่าในตอนนี้…
“ตูม!”
เมื่อเทพมังกรมลายหายไป ผนึกเสาหินของเทพมังกรต้นนั้นก็ได้พังทลายลง
ในตอนที่เสาหินแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย บนใบหน้าของเทพราชาก็ไม่ได้มีรอยยิ้มอีกต่อไปแล้ว
“ไม่มี! มันไม่มี!”
ถึงจะทลายเสาหินไปแล้ว แต่กลับไม่ได้อะไรกลับมาเลย
เหลยป้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เทพราชา ดูเหมือนว่าจะทำให้ท่านต้องผิดหวังเสียแล้ว”
เทพราชากล่าวว่า “ผู้ใดเป็นผู้รวบรวมเลือดของเผ่ากิเลน เอามันออกมา!”
อยู่ห่างจากชัยชนะอีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น หากว่าต้องมาพ่ายแพ้อยู่ที่นี่ เขาคงจะต้องกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธเป็นแน่
“ดูท่าว่าพวกเจ้าจะไม่มีแล้วสินะ! ในตอนแรกผู้ใดใช้ให้พวกเจ้ากำจัดไปจนสิ้นซากกันเล่า ดันไปฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เผ่ากิเลน แล้วมาเสียใจภายหลังเอาตอนนี้สินะ!” เหลยป้ากล่าวขึ้นมาอย่างเยาะเย้ย