ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1743 แสดงความจริงใจ
เดิมทีแล้วราชามังกรน้อยก็ถูกสาปแช่งเช่นกัน แต่กลับยังคงปลอดภัยไร้อาการใด ๆ ซึ่งมันก็ทำให้แผนที่จัดวางไว้อย่างต่อเนื่องหลังจากนั้นไร้ประโยชน์ไปอย่างสิ้นเชิง
หากกล่าวว่าที่เกาะราชามังกรของพวกเขามีผู้ที่สามารถถอนคำสาปได้ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ด้วยคำอธิบายเช่นนี้ ก็ถือว่าสมเหตุสมผลมาเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างราบเรียบว่า “ในเมื่อข้าสามารถที่จะพูดคำนี้ได้ เช่นนั้นก็หมายความว่ายังมีหนทางอยู่”
ผู้ที่กล้ามากระทำความผิดบนเกาะราชามังกร ต่างก็ถูกจับไปจนหมดสิ้นแล้ว
แต่ทว่าจะจัดการกับพวกเขาอย่างไรนั้น ทั้งห้าเผ่าจะต้องรวมตัวกันเพื่อเปิดการประชุม!
แต่ถึงจะปรึกษากันไปแล้วครึ่งค่อนวัน ก็ไม่ยังไม่ได้ผลสรุปออกมาเสียที
ถึงอยากที่จะตัดรากถอนโคน แต่พวกเขาก็ไม่อาจลงมืออย่างโหดเหี้ยมเช่นนั้นได้!
แต่หากปล่อยปละละเลยไปเช่นนี้ เรื่องอย่างในวันนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นอีกหลายครั้งเลยก็เป็นได้
“ท่านมู่ ท่านโปรดให้คำแนะนำกับพวกเราสักหน่อยได้หรือไม่?” ทุกคนต่างจ้องมองไปทางมู่เฉียนซีอย่างพร้อมเพียงกัน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นี่มันเป็นเรื่องภายในของพวกเจ้าเผ่ามังกร ข้าไม่ควรที่จะยืนมือเข้าไปยุ่งถึงจะถูกต้อง!”
“ท่านไม่ใช่ใครอื่น แต่ท่านเป็นถึงผู้ผูกพันธสัญญาของท่านเทพมังกรเชียวนะ”
“ถูกต้องแล้ว!”
พวกเขาคิดจนหัวจะแตกแต่ก็ไม่อาจคิดหาทางออกได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากมู่เฉียนซีเท่านั้น
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ในส่วนของคน แน่นอนว่าไม่อาจปล่อยไปได้ ไม่ควรที่จะให้โอกาศผู้กระทำความผิดอย่างพวกเขา พวกเราจะต้องใช้โอกาศในครั้งนี้ จัดการคนของฝ่ายของเทพให้สิ้นซาก”
“ข้ารู้แผนการก่อนหน้านี้ของพวกเจ้า พวกเจ้าวางแผนว่าจะยกระดับความสามารถก่อนแล้วค่อยลงมือ! แต่ทว่าทางฝ่ายเทพยังคงระรานพวกเจ้าอยู่ตลอด! มีทั้งแผนการลับและชั่วร้ายต่าง ๆ แล้วยังมีเหล่านักเล่นคาถาอาคมที่รับมือได้ยากอีกด้วย ซึ่งมันก็ทำให้พวกเจ้าหมดหนทางที่จะฝึกฝนกันได้อย่างสบายใจ”
“ดังนั้นข้าจึงคิดว่า จำเป็นที่จะต้องจัดการปัญหาภายในก่อน จากนั้นค่อยต่อสู้กับศัตรูภายนอก”
เมื่อมู่เฉียนซีกล่าวจบ พวกเขาต่างพากันนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
หัวหน้าเผ่ามังกรไม้กล่าวว่า “หลักการเรื่องการจัดการปัญหาภายในก่อนพวกเราต่างก็เข้าใจดี แต่เนื่องจากว่าเผ่าเทพมีวิธีที่จะส่งคนเข้ามายังเผ่ามังกรของพวกเรา ไม่ว่าจะจัดการอย่างไรก็ไม่สิ้นซากไปเสียที พวกเราก็มีแต่จะเหนื่อยล้าเพราะพวกเขาเท่านั้น และยังยุ่งยากมากขึ้นอีกด้วย!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เช่นนั้นตอนนี้ก็จัดการเรื่องที่มีให้เรียบร้อยก่อน ถามพวกเขาว่าใช้วิธีไหนถึงสามารถเปิดปราการป้องกันของเผ่ามังกรได้ หลังจากนั้นค่อยมาคิดหาวิธีในการอุดช่องโหว่นี้”
สุ่ยอู๋ซินกล่าวว่า “ที่ท่านมู่กล่าวมาก็มีเหตุผล ข้าเห็นด้วย!”
“ข้าก็เห็นด้วยเช่นกัน!” เฮยเย้ากล่าวต่อ
อย่าว่าแต่สิ่งที่มู่เฉียนซีพูดมานี้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดเลย ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่วิธีที่ดี เฮยเย้าก็ไม่มีทางที่จะไม่เห็นด้วยแน่นอนอยู่แล้ว
คนอื่นต่างก็เห็นด้วยกับวิธีนี้เป็นอย่างมาก หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีกล่าวว่า “แต่ทว่าหากพวกคนจากเผ่ามังกรม่วงและเผ่ามังกรปีศาจเหล่านั้นดื้อดึงไม่ยอมรับผิด และไม่ยินยอมที่จะชดใช้ความผิด เช่นนั้นจะต้องทำอย่างไร?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าคิดว่าหัวหน้าเผ่ามังกรม่วงจะต้องมาขอร้องข้าแน่ ถึงอย่างไรเขาก็รักลูกชายของเขาเป็นอย่างมาก ส่วนเผ่ามังกรปีศาจหากไม่ยอมรับ ข้าก็จะลงโทษให้หนัก”
สำหรับเผ่ามังกรปีศาจแล้ว มู่เฉียนซีไม่คิดที่จะเกรงใจเลยแม้แต่น้อย
“ตกลง! พวกเราเข้าใจแล้ว”
บาดแผลภายนอกของนายน้อยเผ่ามังกรม่วงถูกพันไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าคำสาปที่อยู่บนร่างกายกลับยังไม่ได้ถูกขจัดออกไป
สิ่งนี้จะต้องทำให้คนรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นแน่นอน!
“ท่านพ่อ! ฆ่าข้าเถอะ! ข้าขอร้อง ฆ่าข้า ให้ข้าได้ตัดขาดจากความทรมานนี้เสียที”
นายน้อยมังกรม่วงที่อยู่ภายในห้องขัง อ้อนวอนให้พ่อของเขาช่วยลงมืออย่างไม่หยุดหย่อน
แต่ทว่าหัวหน้าเผ่ามังกรม่วงจะมีความอดทนแล้วลงมืออย่างโหดเหี้ยมเช่นนั้นได้ที่ไหนกัน
เขามองดูร่างกายและจิตวิญญาณของลูกชายตนเองที่กำลังถูกพลังของคำสาปกลืนกินและคุกคาม มันจึงทำให้เขาเพิ่งได้ค้นพบว่าฝีมือของเผ่าคำสาปนั้นน่าหวาดกลัวเพียงใด
เขาที่มีความเชื่อมโยงกับคนเหล่านี้ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วหลังแล้ว
เขากอดลูกชายของตนเองไว้แล้วกล่าวว่า “อย่ากลัว! อย่ากลัวไปเลย ข้าจะหาทางจัดการเรื่องนี้ให้ได้”
จากนั้นเขาก็พุ่งออกไปแล้วร้องตะโกนว่า “ข้าอยากพบมู่เฉียนซี ข้าอยากพบมู่เฉียนซี! ข้าต้องการจะพบนาง!”
หลังจากที่เพิ่งประชุมเสร็จสิ้นไปได้ไม่นานนัก มู่เฉียนซีก็ได้ยินข่าวที่ถูกส่งมาจากทางห้องขัง
ฝีมือของนักเล่นคาถาอาคมผู้นั้นชั่วร้ายเป็นอย่างมาก และนางก็รู้ว่านายน้อยมังกรม่วงคงจะยืนหยัดไปได้ไม่นานนัก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไปพาเขามาพบข้าเถอะ!”
“ขอรับ ท่านมู่”
ทันทีที่หัวหน้าเผ่ามังกรม่วงมาถึง ก็ไม่แม้แต่จะพูดจาไร้สาระ และกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ขอร้องท่านช่วยลูกชายข้าด้วย ไม่ว่าต้องการให้ข้าทำสิ่งใดก็ได้ทั้งนั้น”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เอาล่ะ! ในเมื่อเจ้าจริงใจถึงเพียงนี้ เช่นนั้นข้าจะพูดออกมาว่าข้าต้องการให้เจ้าทำอะไรบ้าง เจ้าก็ค่อย ๆ ฟังไปก็แล้วกัน”
“ประการแรก ข้าต้องการให้แดนมังกร ไม่มีคนจากเผ่าเทพหลงเหลืออยู่อีกต่อไป”
“ประการที่สอง เผ่ามังกรม่วงจะต้องยอมจำนนต่อเฮยเย้า”
คำร้องขอนี้ของมู่เฉียนซี ทำให้หัวหน้าเผ่ามังกรม่วงต้องลำบากใจอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเรียบเฉย “เจ้าค่อย ๆ คิดทบทวนดูเถิด ข้าไม่รีบ!”
แต่ว่าเขากำลังรีบอยู่น่ะสิ! เขาเลือกที่จะไม่คิดถึงเรื่องนี้ไปชั่วขณะหนึ่ง เนื่องจากลูกชายของเขาก็กำลังทุกข์ทรมานอยู่ ซึ่งนั่นมันก็ทำให้หัวหน้าเผ่ามังกรม่วงในเวลานี้กระวนกระวายใจราวกับมดที่อยู่ในกะทะร้อนอย่างไรอย่างนั้น
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ทหาร!”
“ท่านมู่!”
“ทางด้านของเฮยเย้าและหัวหน้าเผ่ามังกรวารีทรมานเผ่ามังกรปีศาจเป็นอย่างไรบ้าง?” มู่เฉียนซีถามขึ้น
“ฝ่าบาทราชามังกรและหัวหน้าเผ่ามังกรวารีเวลานี้กำลังทำการทรมานอยู่ขอรับ เมื่อได้ผลลัพธ์แล้วจะมารายงานให้ท่านมู่ทราบทันทีขอรับ”
“เข้าใจล่ะ! เจ้าไปเถอะ”
มู่เฉียนซีกล่าวกับหัวหน้าเผ่ามังกรม่วงว่า “ถือว่าข้ามีความเมตตาต่อเผ่ามังกรม่วงมาก ท่านหัวหน้าเผ่ามังกรม่วงจะต้องรู้จักหวงแหนมันไว้ให้ดี หากว่ามันต้องไปถึงจุดที่ต้องทรมานกันจริง ๆ พวกท่านทุกคนก็คงจะไม่มีผู้ใดรับไหวเป็นแน่”
หัวหน้าเผ่ามังกรม่วงผงะไปเล็กน้อย สาวน้อยผู้นี้ช่างโหดเหี้ยมจริง ๆ
“ท่านมู่สามารถคุยกับคนของเผ่ามังกรปีศาจดี ๆ ได้ พวกเราเผ่ามังกรต่างก็หยิ่งผยองกันทั้งนั้น และการทรมานก็จะทำให้คนยอมศิโรราบได้ยากมากด้วย” หัวหน้าเผ่ามังกรม่วงกล่าว
“ไม่มีอะไรที่ต้องพูดกันดี ๆ เลย ใครใช้ให้เผ่ามังกรปีศาจมาทำให้ข้าเกลียดกันล่ะ ใช้โอกาศตอนที่ข้ายังไม่เกลียดเผ่ามังกรม่วงนี้ให้ดีเถิด ข้าหวังว่าพวกท่านจะตัดสินใจเลือกทางที่ถูกต้อง”
เผ่ามังกรปีศาจทำให้นางไม่มีสบอารมณ์เลยจริง ๆ โดยเฉพาะเจ้ามังกรปีศาจจ่านคงก่อนหน้านี้ อีกทั้งตอนที่อยู่ในสุสานมังกรเผ่ามังกรปีศาจก็ก่อเรื่องไว้มากมายอีกด้วย หากนางจะทำดีกับพวกเขาก็คงเป็นเรื่องที่แปลกมากทีเดียว
หัวหน้าเผ่ามังกรม่วงกล่าวว่า “ตกลง! ข้ารับปากท่าน ข้าไม่เคยลืมว่า ข้าคือเผ่ามังกร! ก่อนหน้านี้ข้าเพียงแค่ถูกเผ่าเทพทำให้ดีใจเกินไปกับสัญญาที่ไม่มีตัวตนเหล่านั้น”
“ยินดีกับท่านด้วย เลือกไม่ผิดเลยจริง ๆ” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เฮยเย้าและสุ่ยอู๋ซินกลับมาแล้ว มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ตอนแรก ถึงพวกเขาจะตายก็ปฏิเสธที่จะร่วมมือด้วย! แต่ทว่าหลังจากที่ใช้ยาพิษที่ท่านมู่ให้ไปกับพวกเขา พวกเขาก็ยอมและเชื่อฟังเป็นอย่างดีเลยขอรับ” เฮยเย้ากล่าว
สุ่ยอู๋ซินมองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “การคาดเดาของท่านมู่นั้นถูกต้องเป็นอย่างมาก พวกเขาคับแค้นใจต่อการตายของราชินีเย้าหลงของพวกเขามาโดยตลอด หากไม่ควบคุมพวกเขาอย่างสมบูรณ์ เช่นนั้นก็ต้องจะกำจัดพวกเขาทิ้งไปซะ! เนื่องด้วยเผ่ามังกรของพวกเรามีพลังในการต่อสู้ มันจึงได้ผลดีที่สุดในการควบคุมพวกเขา”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จัดการเผ่ามังกรม่วงและเผ่ามังกรปีศาจเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ถึงเวลาต้องลงมือทำให้พวกเขาพ่ายแพ้แล้ว”
“เรียกประชุมการทำสงครามอีกครั้งหนึ่ง ไปแจ้งพวกของหัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีให้ทราบด้วย”
ในที่สุดก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่แล้ว พวกของหัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน เพราะต้องทนกับลูกหลานกลุ่มนั้นเป็นเวลานานมากแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ต่อไป พวกเราจะต้องแบ่งกองกำลังออกไปสองกลุ่ม เฮยเย้า สุ่ยอู๋ซิน และหัวหน้าเผ่ามังกรไม้มุ่งหน้าไปบุกทะลวงเผ่ามังกรปีศาจ”
“ข้า หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีและหัวหน้าเผ่ามังกรดิน จะไปบุกทะลวงเผ่ามังกรม่วง ความเร็วในการบุกทะลวงเผ่ามังกรม่วงค่อนข้างที่จะเร็วมากกว่า หากว่าทางเผ่ามังกรปีศาจมีสถานการณ์อะไรเกิดขึ้น ไม่ว่าอย่างไรก็จงยืดหยัดไว้จนกว่าพวกเราจะไปช่วยเหลือให้ได้”
หลังจากที่ปรับแผนกันเรียบร้อยแล้ว มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “เวลาไม่คอยท่า ในตอนที่พวกเขายังไม่ทันได้มีเวลาเตรียมตัว พวกเราต้องลงมือทันที! ออกเดินทางได้!”