ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1767 ค้นพบบางอย่าง
สัตว์ประหลาดปีศาจโลหิตตัวเล็กเหล่านี้ไม่ค่อยแข็งแกร่งมากเท่าไรนัก แต่กลับสามารถใช้โลหิตในการแอบลอบโจมตีได้
พวกมันอาศัยธรรมชาติในการซ่อนตัวเป็นอย่างดี และมีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นจอมภูตระดับสูงมากมายที่ต้องตายภายใต้การโจมตีแบบนี้ของพวกเขา
พวกเขาได้กระโจนไปมาอยู่ในซากปรักหักพัง และบริเวณโดยรอบก็มีเสียงต่อสู้เกิดขึ้นเล็กน้อย
ที่นี่มีสมบัติอยู่มากมาย และก็มีคนไม่น้อยที่มาเพื่อล่าสมบัติ หากสามารถครอบครองมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพได้สักชิ้นหนึ่ง ก็ถือว่าการมายังสนามรบวิญญาณปีศาจนี้ไม่เสียเปล่าแล้ว
มู่เฉียนซีและจูเชว่ทั้งสองคนดูเหมือนคนที่มีอายุน้อยมาก และสัตว์ประหลาดปีศาจโลหิตก็มักจะชอบคนที่ดูอ่อนแอและรังแกได้ง่าย ฉะนั้นพวกมันจึงได้ปิดล้อมโจมตีมู่เฉียนซีและพุ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
จูเชว่เป็นจอมภูตพลังธาตุอัคคี เมื่อแสงเปลวเพลิงที่พร่างพราวนั้นส่องสว่างขึ้น ก็ทำให้สัตว์ประหลาดปีศาจโลหิตเหล่านั้นต้องล่าถอยไป
“พลังวายุจันทราไร้คู่!”
ทันใดนั้นความเร็วของใบมีดแห่งสายลมก็ได้เฉือนสัตว์ประหลาดปีศาจโลหิตเหล่านี้แยกออกเป็นชิ้น ๆ
“โฮกกกก!”
สัตว์ประหลาดปีศาจโลหิตที่อยู่ด้านหลังของพวกเขามากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ลงมือด้วยกัน แล้วรีบทำลายพวกมันให้เร็วที่สุดเถอะ”
“ได้เลย!”
ทั้งสองคนยืนเคียงข้างกัน และได้กวาดล้างสัตว์ประหลาดปีศาจโลหิตที่อยู่ตรงหน้าเหล่านี้
ตูมมมม!
หลังจากที่กวาดล้างสัตว์ประหลาดปีศาจโลหิตกลุ่มนี้ไปอย่างอย่างรวดเร็วและเฉียบขาดแล้ว พวกเขาก็ออกไปจากจุดนี้อย่างรวดเร็ว และได้มีสัตว์ประหลาดปีศาจโลหิตกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาปิดล้อมเอาไว้
จูเชว่กล่าวว่า “สัตว์ประหลาดปีศาจโลหิตที่นี่ยิ่งรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าน่าจะมีของดี ๆ อยู่ ซีซี เจ้าอยากจะลองโจมตีดูหรือไม่?”
“เอาสิ! เช่นนั้นก็โจมตีเถอะ หากเจ้าถูกกำจัดอยู่ที่นี่ แม้แต่ข้าก็คงพูดยากว่าจะช่วยเจ้าได้หรือไม่”
“ซีซีเจ้าดูถูกข้าเกินไปแล้ว ข้าจูเชว่เป็นผู้ใดกัน ไม่มีทางที่จะถูกกำจัดไปได้ง่าย ๆ หรอก” จูเชว่กล่าวอย่างมั่นใจ
ตูมมม โครมมม!
ทั้งสองร่วมมือกัน และสังหารไปทั่วทั้งสี่ทิศ
หลังจากที่สังหารทั้งหมดไปเรียบร้อยแล้วจูเชว่ก็หัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! สะใจ มันช่างสะใจจริง ๆ เลย”
“เลิกหัวเราะได้แล้ว ดูทางนั้นสิ!” มู่เฉียนซีชี้ไปที่มุมหนึ่ง และที่นั่นก็มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์มากมายเลยทีเดียว
“เก็บเกี่ยวได้ดีเลยทีเดียว!” จูเชว่กล่าว
“แบ่งครึ่งกัน!” มู่เฉียนซีกล่าว
“ซีซี สิ่งของทั้งหมดเหล่านี้ข้าขอมอบให้กับเจ้า ข้าไม่ขาดอะไรเลย และไม่เคยที่จะขาดเงิน และสิ่งของที่ใช้เงินซื้อได้ก็หาไม่ยากเลยสำหรับข้า”
มู่เฉียนซีกล่าวพลางยิ้มจาง ๆ “พอดีเลย ข้าก็เช่นกัน!”
“ซีซี ข้าผู้นี้ทำการค้าเกี่ยวกับข่าวสาร แน่นอนว่าจะต้องมีเงินมากกว่าเจ้าอยู่แล้ว เช่นนั้นเจ้าไม่ต้องเกรงใจหรอก” จูเชว่ตอบกลับมา
“นั่นก็ไม่แน่หรอก ตระกูลของข้าขายยาเชียวนะ! ข่าวสารนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนต้องการเสมอไป แต่ทว่ายานั้นไม่ใช่แน่นอน”
“เจ้าพวกเด็กน้อย ในเมื่อตระกูลของพวกเจ้าร่ำรวย เช่นนั้นอาวุธศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ข้าไม่เกรงใจก็แล้วกัน”
ทันใดนั้นได้มีคนพุ่งออกมาอย่างกะทันหัน แล้วคิดอยากจะแย่งชิงอาวุธศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ของมู่เฉียนซีและจูเชว่ไป
ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีและจูเชว่ทั้งสองคนจะไม่ได้ให้ความสนใจต่อสิ่งของเหล่านี้มากนัก แต่ก็ไม่อาจปล่อยให้ผู้อื่นมาครอบครองสิ่งเหล่านี้ไปได้โดยง่าย
“พี่ชาย เจ้านี่ช่างกล้าเสียจริง! หยุดเดี๋ยวนี้เลย!”
พลังวิญญาณธาตุอัคคีของจูเชว่ระเบิดออกมา และสกัดกั้นผู้ชายคนนั้นเอาไว้
มีคนพุ่งออกมาจากด้านข้าง และร่างเงาสีม่วงก็สว่างวาบขึ้นมาขวางหน้าพวกเขาเอาไว้พลางกล่าวว่า “พวกเจ้าจะมาทำเช่นนี้ไม่ได้! รีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้”
“แม่นางหนูนี่ อย่าอวดดีนักเลย สิ่งของเหล่านี้ถือว่าเป็นของข้าแล้ว”
มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา “ถ้าเจ้าคิดว่าทำได้ ก็ลองดูสิ!”
“พลังวายุทำลายวิญญาณ!”
ธาตุวายุที่พ่วงมาด้วยจิตสังหารทำให้พวกเขาตกใจเป็นอย่างมาก “ถึงความเร็วของจอมภูตพลังธาตุวายุนั้นจะรวดเร็วมากเพียงใด แต่ทว่าตอนนี้ คนของพวกข้าใกล้จะมาถึงที่นี่แล้ว หากพวกเจ้าคิดอยากที่จะหนีตอนนี้ก็ยังทัน ไม่เช่นนั้นพอถึงเวลาคงหนีไปไม่พ้นเป็นแน่”
“พวกเจ้าวางใจเถอะ เมื่อถึงเวลานั้นคนที่ต้องหนีไม่ใช่ข้าแน่นอน แต่เป็นพวกเจ้า!” มู่เฉียนกล่าวอย่างเย็นชา
“พลังวายุจันทราไร้คู่”
กลุ่มของพวกเขาคอยรีดไถผู้อื่นอยู่ที่ซากปรักหักพังปีศาจโลหิตโดยเฉพาะ ทั้งยังเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่มีคนจำนวนมาก ฉะนั้นจึงมีคนมามากมายได้ภายในชั่วพริบตาเดียว
“พี่สาม! แค่จัดการกับตุ๊กตาตัวน้อยเพียงสองตัวเท่านั้น ไม่คิดว่าจะถึงขั้นต้องเรียกพวกข้ามาด้วย”
“พี่ใหญ่! ถึงแม้ว่าเจ้าตุ๊กตาตัวน้อยพวกนี้จะง่ายต่อการจัดการ แต่ทว่าด้านหลังของพวกเขามีสมบัติอยู่มากมาย! ข้าไม่อยากให้มีเรื่องผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น!”
“ที่ท่านพูดก็ถูก รีบจัดการทั้งสองคนนี้ให้เรียบร้อยเถอะ”
และในเวลานี้ มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “ในเมื่อทุกคนมากันหมดแล้ว เช่นนั้นเรามาต่อสู้กันเถอะ มาดูว่าใครจะหนีก่อนกัน!”
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง เสี่ยวโม่โม่ ออกมา!”
อู๋ตี้ เสี่ยวหงและเสี่ยวโม่โม่ได้ปิดกั้นพวกเขาไว้ทั้งสามทาง แรงกดดันของสัตว์เทพนั้นต่างก็ชัดเจนอยู่ในบรรยากาศที่ขุ่นมัวของซากปรักหักพังปีศาจโลหิตนี้
“ไม่คาดคิดว่าจะมีสัตว์เทพปรากฏตัวออกมาถึงสามตัวภายในพริบตาเช่นนี้ พระเจ้า!”
“สัตว์เทพไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด! ฆ่ามันซะ!”
“……”
ฝ่ายตรงข้ามพยายามเข่นฆ่าอย่างสุดความสามารถ และการต่อสู้เช่นนี้ในสนามรบวิญญาณปีศาจนั้นเป็นเรื่องที่ปกติมาก แต่ทว่าเมื่อมีสัตว์เทพเพิ่มขึ้นมาอีกสามตัว มันก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
พวกเขาค้นพบว่าสัตว์เทพทั้งสามตัวนี้ไม่ได้เป็นสัตว์เทพธรรมดา แต่ละตัวนั้นต่างก็รับมือยากและมีความพิเศษมากทั้งนั้น
มู่เฉียนซีทำให้ศัตรูต้องสั่นสะท้านขึ้นมา และเสียงของสายลมก็ระเบิดออกมา “พลังวายุจันทราไร้คู่!”
“พลังวายุกักขังวิญญาณ!”
ปัง ปัง ปัง!
ทางจูเชว่นั้นก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน ด้วยอุณหภูมิเปลวเพลิงของเขาสูงเป็นอย่างมาก ฉะนั้นคู่ต่อสู้ที่ไม่ได้มีความสามารถสูงมากเท่าไรนัก จึงทนไม่ไหวเมื่อเข้าไปใกล้เปลวเพลิงนี้ของเขา
พวกของอู๋ตี้ปิดล้อมโจมตีอีกฝ่ายไว้ทั้งสามด้าน และความเสียหายของพวกเขาก็หนักหนาสาหัสมากยิ่งขึ้น
ในที่สุดพี่ใหญ่ของพวกเขาก็ได้แต่กัดฟันแล้วร้องตะโกนออกมาคำหนึ่งว่า “ถอย!”
พวกเขาล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว และจูเชว่ก็กล่าวว่า “เห้! พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้ ข้ายังไม่สะใจเลย ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าอยากจะมาปล้นหรอกหรือ? รีบมาปล้นเร็วเข้าสิ”
แต่ทว่าเขาและมู่เฉียนซีนั้นยากที่จะรับมือได้ พวกเขาจึงหนีไปอย่างรวดเร็ว และไม่กล้าแม้แต่จะหันหลังกลับมาเลยด้วยซ้ำ
ศัตรูไม่ได้ปล้นสิ่งของเหล่านี้ไป และแน่นอนว่ามันต้องเป็นของพวกเขา
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าบอกว่าแบ่งกันก็คือแบ่งกัน ไม่ต้องพูดจาไร้สาระอีกแล้ว”
“เอาเถอะ! ข้าฟังซีซี!”
ในเวลานี้ นิรันดร์ได้กล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า “ศิษย์ที่รัก ข้าค้นพบบางอย่าง! เจ้าอยากจะลองฟังดูหรือไม่!”
“รีบพูดมา!”
“เจ้าจุมพิตข้าก่อน แล้วข้าจะพูด หรือว่าที่รักจะให้ข้าจุมพิตเจ้าสักครั้งดีหรือไม่?” นิรันดร์มักจะพูดจาแทะโลมลูกศิษย์ของเขาอยู่เสมอ และไม่มีท่าทางเคอะเขินเลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นิรันดร์เจ้าช่วยจริงจังกับข้าหน่อยเถอะ ไม่อย่างนั้นข้าก็ไม่ถือสาที่จะให้มังกรวารีมาพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตกับเจ้าหรอกนะ”
“ผู้ที่สามารถปฏิเสธข้าคนนี้ได้อย่างสิ้นเชิงมีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้นที่รัก เพียงแต่คนอย่างข้าไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรอย่างง่ายตายอยู่แล้ว”
ดวงตาสีส้มอมชมพูที่เย้ายวนของนิรันดร์เต็มไปด้วยความหลงใหล จนทำให้คนลุ่มหลง แต่ทว่ามู่เฉียนซีก็ยังคงไม่สะทกสะท้านอยู่ดี
“ทางซ้ายที่ห่างไปประมาณหนึ่งร้อยก้าวด้านหน้า มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงที่มีคุณสมบัติเป็นกระบี่วายุอยู่เล่มหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นกึ่งมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ และนี่ก็เป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่เหมาะสมกับที่รักมากที่สุดภายในที่แห่งนี้ หากที่รักต้องการแล้วละก็สามารถเอามันมาใช้ก่อนได้” นิรันดร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
นิรันดร์รู้ดีว่าเนื่องด้วยเหตุผลบางอย่างในตอนนี้ทำให้ไม่สามารถที่จะใช้งานกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณได้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบพิฆาตวิญญาณผู้นั้นมาก แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าอาวุธหลักของที่รักมีเพียงกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณเท่านั้น
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไปดูกันก่อนเถอะ”
หลังจากนั้นก็พุ่งทะยานไปยังทิศทางที่นิรันดร์ได้กล่าวไว้อย่างรวดเร็ว และค้นพบว่าสถานที่แห่งนั้นมีคนอยู่มากมายเลยทีเดียว
“อยู่ ๆ พื้นดินก็พังทลายลงไปจนมีซากวัตถุโบราณขนาดเล็กปรากฏออกมา ภายในนั้นจะต้องมีสมบัติอยู่มากมายแน่นอน”
“หากมีสมบัติ ก็มีความเป็นไปได้มากกว่าจะเป็นรังเก่าของสัตว์ประหลาดปีศาจโลหิตซึ่งมันก็มีอันตรายมาก”
“อย่าดูเลย พวกเซี่ยเทียนที่เป็นนักล่าปีศาจเข้าไปแล้ว หากจะมีสมบัติจริง ๆ ก็น่าจะไม่มีส่วนของคนอื่นแล้วล่ะ”
“รอดูอยู่ที่นี่เถิด หากมีโอกาศได้เห็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์สักครั้งก็คุ้มค่าแล้วล่ะ”