ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1780 ช่วยชีวิต คร่าชีวิต
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “บุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณ มันสามารถช่วยชีวิตได้ แต่มันก็สามารถคร่าชีวิตเจ้าได้เช่นกัน!”
“โฮ่ก โฮ่ก โฮ่ก!”
มีเสียงคำรามอันแสนน่ากลัวแว่วดังขึ้น ในขณะที่บุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณกำลังสุกงอมนั้น สัตว์ทะเลเหล่านั้นก็เริ่มไล่เข่นฆ่าซึ่งกันและกันอย่างไร้สติขึ้นในทันที
พวกมันมีเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้น นั่นก็คือสังหารคู่ต่อสู้ และช่วงชิงยาวิเศษมาให้ได้
ฆ่า ฆ่า ฆ่า!
การเข่นฆ่ากันเองของสัตว์ทะเลขนาดใหญ่นับหมื่นตัวเหล่านี้ เป็นภาพเหตุการณ์ที่น่าตื่นตระหนกตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
จูเชว่กล่าว “บุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณนี่สามารถควบคุมการเข่นฆ่าของสัตว์ทะเลเหล่านี้ได้ด้วยหรือ?”
“มันสามารถแผ่ซ่านสารที่ส่งผลกระทบต่อวิญญาณของมนุษย์ออกมาได้ ผลกระทบนี้สามารถนำพามนุษย์ไปสู่ความหายนะได้ มันสามารถทำให้สิ่งมีชีวิตหันมาเข่นฆ่ากันเอง และเมื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นได้เข่นฆ่ากันจนไม่มีผู้ใดเหลือรอดแล้ว มันก็จะอาศัยวิญญาณของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นหล่อเลี้ยงตนเอง ทำให้ตัวมันแผ่ขยายกิ่งก้านสาขาออกไปได้มากยิ่งขึ้น” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยท่าทางสุขุม
“ที่แท้ก็มีสมุนไพรวิญญาณที่โหดเหี้ยมแบบนี้อยู่จริง ๆ ด้วย!”
นิรันดร์กล่าว “เจ้านี่มันไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ สมุนไพรวิญญาณที่มีความโหดเหี้ยมนั้นยังมีอีกไม่น้อย เจ้าดอกไม้ดอกนี้ยังไม่นับว่าเข้าขั้นเลยด้วยซ้ำ! มันสามารถจัดการได้เพียงคนอ่อนแอไร้ย้ำยาก็เท่านั้นแหละ”
การเข่นฆ่ายังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ มู่เฉียนซีกล่าวกับจูเชว่ “หากพวกมันสังหารกันเสร็จแล้วก็เรียกข้าด้วย ข้าจะไปจัดการสมุนไพรวิญญาณของข้า”
ถึงแม้จะเป็นสงครามการเข่นฆ่าครั้งใหญ่ ทว่าเมื่อมองดูเป็นเวลานานแล้วก็ทำให้ปวดสายตาเช่นกัน
จำนวนของพวกมันมีมากเกินไป ทำให้ไม่อาจแยกแยะว่าผู้ใดเป็นฝ่ายแพ้ชนะได้ชั่วขณะ
มีผู้คนจำนวนหนึ่งที่กำลังมองดูการเข่นฆ่ากันของสัตว์ทะเลเหล่านี้อยู่ไม่ไกล อีกทั้งยังส่งเสียงโห่ร้องชอบใจดังลั่น
อีกประเดี๋ยวเมื่อสัตว์ทะเลเหล่านี้เข่นฆ่ากันเองจนหมดสิ้นแล้ว พวกเขาก็จะสามารถเข้าไปเก็บสมุนไพรวิญญาณโดยไม่ต้องเสี่ยงอันตรายอีก นับว่าเป็นอะไรที่ง่ายดายเป็นอย่างยิ่ง
มู่เฉียนซีที่ไปจัดการสมุนไพรวิญญาณที่อยู่แหวนมิติ ก็ได้แยกชนิดของพวกมันแล้วนำไปปลูกไว้ในมิติเป็นที่เรียบร้อย
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อหลงเหลือสัตว์ทะเลกลุ่มสุดท้ายแล้ว พวกเขาก็คิดว่าพวกเขาจะสามารถจัดการกับจำนวนสัตว์ทะเลที่หลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดเหล่านี้ได้ ครานี้มีคนที่อดทนไม่ไหวแล้วได้พุ่งตัวออกไปจัดการสัตว์ทะเลเหล่านั้นแล้ว
“เหลือเพียงไม่กี่ตัวแล้ว ไม่ต้องรอให้เสียเวลา! ฆ่าพวกมันให้หมดแล้วรีบไปเก็บสมุนไพรวิญญาณ จากนั้นก็รีบหนีออกจากที่นี่กันดีกว่า!”
“ได้!”
“……”
เมื่อจูเชว่พบว่าพวกเขาได้เริ่มลงมือสังหารสัตว์ทะเลเหล่านั้นแล้ว เขาก็รีบกล่าวออกไปด้วยความร้อนใจ “เจ้าพวกโง่! อย่าออกไป”
“เจ้าเด็กน้อย สัตว์ทะเลเพียงไม่กี่ตัวก็กลัวแล้วหรือ! ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลย”
“พี่น้อง บุก อีกไม่นานสมุนไพรวิญญาณล้ำค่าเหล่านั้นก็จะเป็นของพวกเราแล้ว”
“……”
ครืน ครืน!
พลังของพวกเขาเพียงพอที่จะรับมือกับสัตว์ทะเลเหล่านี้ได้อย่างสบาย ๆ ทว่าเมื่อสังหารสัตว์ทะเลเหล่านั้นแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะไปเก็บบุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณได้ แต่จะกลับกลายเป็นว่าพวกเขาจะเข่นฆ่ากันเอง
เมื่อได้เห็นพวกเขาเข่นฆ่ากันเองด้วยดวงตาแดงก่ำ จูเชว่ก็รู้ได้ในทันทีว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร!
บุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณโหดร้ายทารุณกว่าที่คิด! ในเมื่อมันสามารถทำให้สัตว์วิญญาณหันมาเข่นฆ่ากันเองได้ แน่นอนว่ามันก็สามารถทำให้มนุษย์หันมาเข่นฆ่ากันเองได้เช่นกัน
อย่างไรเสียจิตใจของคนเราก็น่ากลัวว่าสัตว์ทะเลเหล่านั้นเป็นเท่าทวี
“ซีซี!” จูเชว่ตะโกนร้องเรียก
เมื่อมู่เฉียนซีลืมตาขึ้น เสียงสัตว์ร้ายร้องคำรามที่คุ้นหูก็ได้เงียบหายไปแล้ว
“สัตว์ทะเลพวกนั้นตายไปหมดแล้ว”
“สัตว์ทะเลเหล่านั้นตายไปหมดแล้ว แต่คนเหล่านั้นก็จะต้องตายไปด้วย” จูเชว่เหลือบมองไปยังบรรดาผู้อาวุโสที่กำลังเข่นฆ่ากันเอง
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้ารออยู่ตรงนี้ ข้าจะไปเก็บดอกไม้นั่นเอง”
“ซีซี เจ้าคนเดียวคงไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”
“ด้วยพลังวิญญาณของข้าแล้ว ผลกระทบของมันคงไม่อาจทำอะไรข้าได้ เพียงแค่ถอนรากของมันขึ้นมา มันก็ไม่สามารถดูดกลืนพลังวิญญาณได้แล้ว และคนเหล่านี้ก็จะกลับมาเป็นปกติเอง”
มู่เฉียนซีเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง ผู้อาวุโสเหล่านั้นที่กำลังเข่นฆ่ากันอย่างหน้ามืดตามัว ก็ไม่ทันได้สังเกตเห็นมู่เฉียนซีที่เข้ามาใกล้เลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีรีบถอนรากบุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ภายในชั่วพริบตาสติของคนเหล่านี้ก็ฟื้นคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อสติฟื้นคืนกลับมาแล้ว พวกเขาก็ทราบเป็นอย่างดีว่าก่อนหน้านี้พวกเขาได้ทำอะไรลงไปบ้าง
“ขะ…ข้าเป็นอะไรไป?”
“เหล่าซาน ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย!”
“เจ้า…”
พวกเขาทอดมองไปยังดอกไม้ที่มีขนาดเท่าหัวแม่โป้งและได้ขยายใหญ่จนมีขนาดเท่าฝ่ามือดอกนั้น พลางกล่าว “นะ…นั่นมันดอกไม้ปีศาจ!”
“ต้องเป็นดอกไม้ปีศาจแน่ ๆ มันทำให้สัตว์ทะเลเหล่านั้นหันมาเข่นฆ่ากันเอง จากนั้นก็ทำให้พวกเราเข่นฆ่ากันเองด้วย แม่หนูน้อยรีบทำลายดอกไม้ปีศาจนั่นทิ้งเร็วเข้า มันอันตรายเกินไป”
“จะต้องทำลายดอกไม้ปีศาจนั้นทิ้งให้ได้”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าเป็นคนเก็บดอกไม้ดอกนี้ได้ จะทำลายมันหรือไม่ก็ใช่เรื่องที่พวกท่านจะเป็นคนตัดสินใจได้! ดูสิตอนนี้พวกท่านก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วไม่ใช่หรือ? อย่ากลัวไปเลย!”
“จะ…เจ้า หยุดอยู่ตรงนั้นนะ อย่าเข้ามา!”
อย่างไรเสียพวกเขาก็กลัวดอกไม้ปีศาจเพียงดอกนี้ดอกเดียวอยู่ดี ดังนั้นพวกเขาจึงรีบออกห่างจากมู่เฉียนซีไปในทันที
ร่างสีแดงทะยานลงมาจากกลางท้องนภา จูเชว่กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เมื่อซีซีจัดการอะไรก็สำเร็จเสมอจริง ๆ ด้วย ยอดเยี่ยมไปเลย!”
มู่เฉียนซีเด็ดบุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณลงมา จากนั้นจึงจะนำมาเก็บไว้ในกล่องหยกน้ำแข็ง แล้วยื่นให้กับจูเชว่พลางกล่าว “ติดค้างบุญคุณข้าไว้เท่าไร ข้าขอจำไว้ก่อนก็แล้วกัน”
จากนั้นมู่เฉียนซีก็ได้นำบุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณมาปลูกไว้ในมิติศาลานิรันดร์
“ไม่มีปัญหา ขอบใจซีซีมาก” จูเชว่เองก็ไม่เกรงใจ อย่างไรเสียของสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่สามารถช่วยชีวิตได้ เป็นสิ่งของที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง
พวกเขาหวาดกลัวบุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้จะเห็นมู่เฉียนซีและจูเชว่แบ่งบุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณกัน ทว่าพวกเขาก็ไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย
“สัตว์ทะเลบนเกาะนี้ล้วนตายไปหมดแล้ว ที่นี่มีสมุนไพรวิญญาณเยอะมาก ๆ เพียงแต่เราจะมาเสียเวลากับที่แห่งนี้มากไม่ได้ พวกเราต้องกลับขึ้นเรือในเวลาภายในครึ่งวัน หากไม่มีใครมาแล้วเราก็ไม่ต้องรออีก เจ้าว่าเป็นอย่างไร?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่มีปัญหา!”
ถึงแม้เกาะแห่งนี้จะกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก ทว่าเมื่อมีนิรันดร์ผู้มากความสามารถที่รอบรู้ไปเสียทุกสิ่งอยู่ด้วยแล้ว เวลาเพียงครึ่งวันก็เพียงพอเหลือคณา
ไม่นานนักมู่เฉียนซีก็ได้กลับมาพร้อมกับสมุนไพรวิญญาณที่เต็มตะกร้า แล้วรอพวกเขาอยู่บนเรือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าว “จูเชว่ ข้าคิดว่าพวกเราควรลองออกจากที่นี่ด้วยวิธีที่ข้าคิดขึ้นได้แล้ว”
จูเชว่กล่าวด้วยความตื่นเต้น “ซีซี เจ้าคิดหาวิธีออกจากที่นี่ได้เร็วขนาดนี้เลยหรือ วิธีใดกัน?”
“ถึงเวลานั้นแล้วค่อยว่ากัน สำหรับข้าข้าคงไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับเจ้าข้าคิดว่าต้องปลอดภัยไว้ก่อน ข้าจะต้องเตรียมสิ่งของบางอย่างให้เจ้าก่อน จึงจะทดลองวิธีที่ข้าคิดขึ้นได้”
“เตรียมอะไรหรือ?”
“กลับไปที่เกาะไม่หวนคืนก่อนแล้วค่อยว่ากัน อีกอย่างข้าก็ยังอยากอยู่ที่นี่ต่ออีกสักระยะ อย่างไรเสียที่นี่ก็มีสมุนไพรวิญญาณเยอะมาก ๆ! เจ้าไม่ได้มีธุระเร่งด่วนข้างนอกนั่นใช่หรือไม่?”
“ไม่มีธุระด่วนอันใด ข้าไม่ออกไปสักระยะก็คงไม่มีเรื่องใหญ่อะไรหรอก ในเมื่อซีซีเริ่มเก็บสมุนไพรครั้งใหญ่ แน่นอนว่าข้าก็จะต้องคอยอยู่เคียงข้างอยู่แล้ว อย่างไรเสียเจ้าก็ให้ยาวิเศษนั่นกับข้าแล้ว” จูเชว่กล่าวตอบ
จากนั้นคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันกลับมา เนื่องจากสัตว์ทะเลได้ตายกันไปจนหมดแล้ว ดังนั้นทุก ๆ คนจึงปลอดภัยดี
ทว่าการบาดเจ็บล้มตายในครั้งนี้หนักหนาสาหัสเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นคนเหล่านี้จึงไม่กล้าล่องเรือไปตามอำเภอใจอีกแล้ว แม้กระทั่งการที่ได้เผชิญหน้ากับสัตว์ทะเลขนาดเล็ก ก็ทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ไปอย่างย่อยยับได้!
“กลับขึ้นเรือ! กลับขึ้นเรือ!”
“กลับเกาะไม่หวนคืน!”
“……”
พวกเขาเดินทางกลับถึงเกาะไม่หวนคืนอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่มาถึงเกาะ พวกเขาก็รีบพากันเดินทางไปยังวังของผู้นำเกาะด้วยท่าทางดีอกดีใจเป็นเต็มประดา พวกเขาหวังว่าเมื่อนำสมุนไพรวิญญาณไปมอบให้ท่านผู้นำเกาะแล้ว ท่านผู้นำเกาะจะกล่าวชมด้วยความพึงพอใจ แล้วมอบยาลูกกลอนให้พวกเขาเป็นรางวัล
ส่วนมู่เฉียนซีก็ได้พาจูเชว่ออกไปเดินเล่น มู่เฉียนซีตั้งใจเลือกซื้อก้อนหินที่ไม่มีสีสันมาจำนวนหนึ่ง
จูเชว่กล่าว “ซีซีเหตุใดข้าไม่ยักจะรู้ว่านอกจากเจ้าจะชอบสมุนไพรวิญญาณแล้ว เจ้ายังชอบก้อนหินไร้ค่าพวกนี้ด้วย”
มู่เฉียนซีกล่าว “นี่ไม่ใช่ก้อนหินไร้ค่าสักหน่อย ไม่แน่ชีวิตของเจ้าอาจจะต้องพึ่งพามันก็ได้นะ! อย่าได้ดูแคลนมันเชียว”
“ชีวิตข้าต้องพึ่งพามันหรือ?” มู่เฉียนซีตั้งใจให้เขาคาดเดาเอาเอง ทว่าจูเชว่ในตอนนี้ก็คิดไม่ออกจริง ๆ
“พวกเจ้ายังมีสมองอยู่หรือไม่? ของพวกนี้ก็ยังกล้านำมาให้ข้า ไสหัวออกไป ไสหัวไปให้หมด!” ขณะนี้มู่เฉียนซีและจูเชว่กำลังออกไปเดินเล่นอยู่ เมื่อท่านผู้นำเกาะพบว่าสิ่งของที่คนเหล่านี้นำมาให้ล้วนเป็นของไร้ค่า เขาจึงอาละวาดใส่พวกผู้อาวุโสไปด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยวเป็นการใหญ่ไปในทันที