ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1782 เยี่ยมเยือนยามค่ำคืน
ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนอบอุ่นมากคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น แล้วกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโสมู่ สายัณห์สวัสดิ์!”
“ท่านเป็นผู้ใดอีกล่ะ”
“สกุลของข้าคืออวี๋ เป็นผู้อาวุโสขั้นหนึ่งบนเกาะแห่งนี้”
มู่เฉียนซีชะงักงันไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโสขั้นหนึ่งผู้นี้ ใช่คนที่จะจับข้าไปหาผู้นำเกาะเมื่อเย็นใช่หรือไม่?”
“แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว!” ผู้อาวุโสอวี๋ส่ายหน้าพลางกล่าว
“พวกเราไปหาที่นั่งแล้วค่อย ๆ คุยกันได้หรือไม่?” ผู้อาวุโสอวี๋กล่าว
มู่เฉียนซีก็คาดเดาเจตนาของชายผู้นี้ไม่ออกเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้กลัวว่าเขาจะมาเล่นลูกไม้อะไร นางจึงพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “ตกลง!”
นิรันดร์กล่าวว่า “ศิษย์ที่รักสนใจตาเฒ่าผู้นี้แต่ไม่ยอมสนใจข้า ข้าเสียใจเหลือเกิน ข้าต้องการที่จะไปสงบสติอารมณ์!”
นิรันดร์หายตัวไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาราวกับสายลมอย่างไรอย่างนั้น ถึงความประหลาดใจจะปรากฏขึ้นมาบนหน้าของผู้อาวุโสอวี๋ แต่เขาก็ยังคงนั่งลงอย่างสงบ
แน่นอนว่ามู่เฉียนซีรู้ว่าเพราะเหตุใดนิรันดร์ถึงทำให้ผู้อาวุโสอวี๋ได้เห็น และเพราะเหตุใดถึงได้หายไปกะทันหันเช่นนั้น นี่เป็นการใช้ความสามารถของเขาในการเตือนผู้ชายผู้นี้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโสอวี๋ ท่านพูดเจตนาของท่านออกมาตามตรงเถิด!”
ผู้อาวุโสอวี๋กล่าวว่า “วันนี้พวกเจ้าไม่เชื่อฟังท่านผู้นำเกาะ การต่อสู้ในวันพรุ่งนี้ต้องยากลำบากเป็นแน่ ระวังตัวด้วย”
“ความจริงของเรื่องนี้มันชัดเจนมากอยู่แล้ว แต่ที่วันนี้ท่านอาวุโสอวี๋มาเยี่ยมเยือนเสียดึกดื่น หรือว่าเพียงเพื่อที่จะพูดคำนี้เช่นนั้นหรือ?”
“แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว บางทีพวกเราอาจจะสามารถร่วมมือกันได้”
“ร่วมมือหรือ?” มู่เฉียนซีชะงักงันไป
นางกล่าวอย่างประหลาดใจเล็กน้อยว่า “นี่ท่านต้องการที่จะทรยศท่านผู้นำเกาะ ทรยศนักปรุงยาเพียงคนเดียวเช่นนั้นหรือ?”
“ท่านผู้นำเกาะเป็นนักปรุงยา และมันก็ทำให้มีคนจำนวนมากที่อยากยอมจำนนต่อเขา แต่ทว่าเขาได้อาศัยความเป็นนักปรุงยาของตนเอง ทำกับพวกเราเหมือนไม่ใช่คนเลย อันที่จริงข้าทนมาพอแล้ว ข้าอยากที่จะต่อต้านเขามาโดยตลอด แต่ก็ไม่มีโอกาส! อิทธิพลของนักปรุงยานั้นไม่อาจที่จะดูถูกได้เลย โดยเฉพาะบนเกาะที่รกร้างเช่นนี้” ผู้อาวุโสอวี๋กล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
มู่เฉียนซีตอบกลับว่า “การที่จะเป็นศัตรูกับท่านผู้นำเกาะนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก ซึ่งข้าก็ไม่ได้ต้องการเลย! ท่านแน่ใจหรือว่าพรุ่งนี้ท่านผู้นำเกาะจะโจมตีพวกข้า?” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเรียบเฉย
“ข้าติดตามเขามานานหลายปีแล้ว แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่เข้าใจเขามากที่สุดคนหนึ่ง ในตอนแรกที่พวกเจ้าจัดการผู้อาวุโสขั้นสองทั้งสองคนนั้นมันเป็นการไปล้ำเส้นของเขาแล้ว แต่ทว่าน่าประหลาด ที่ท่านผู้นำเกาะไม่ได้มีความโกรธเคืองเลย อีกทั้งยังให้พวกเจ้ามาเป็นผู้อาวุโสขั้นสองอีกด้วย” ผู้อาวุโสอวี๋กล่าว
“เพราะเขาสูญเสียไม่ได้ใช่หรือไม่?” มู่เฉียนซีกล่าว
“แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว เนื่องจากว่าเขาต้องการที่ใช้ประโยชน์จากพวกเจ้าเพื่อทำอะไรบางอย่างให้สมบูรณ์? ข้าไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้อาวุโสขั้นที่หนึ่งของเกาะไม่หวนคืนเท่านั้น แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นพ่อบ้านของเขาด้วย เช่นนั้นข้าถึงรู้ดีว่าเขาจะต้องมีแผนร้ายบางอย่างกับเจ้าเป็นแน่! บวกกับทันทีที่พวกเจ้าได้รับตำแหน่งก็ได้วางแผนให้พวกเข้าไปเก็บยาบนเกาะ ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้ข้าสงสัยมากขึ้นไปอีก” ผู้อาวุโสอวี๋กล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“นับตั้งแต่พวกเจ้าขึ้นมาอยู่บนเกาะ ข้าก็ได้นำเรื่องทั้งหมดของพวกเจ้าไปตรวจสอบมาอย่างละเอียดแล้ว ที่สำคัญคือมีคนธรรมดาที่ป่วยหนักคนหนึ่งบนเกาะ แต่ว่าหลังจากที่พวกเจ้าไปบ้านของพวกเขาแล้ว อาการป่วยก็เปลี่ยนเป็นดีขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อีกทั้งความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสขั้นสองผู้นั้นกลับอ่อนแอลงอย่างกะทันหัน ฉะนั้นมันก็ต้องเป็นฝีมือของเจ้าแน่นอน ข้าแน่ใจว่าเจ้าก็เป็นนักปรุงยาเช่นกัน และคิดว่าเพราะการที่เจ้าเป็นนักปรุงยา จึงทำให้ท่านผู้นำเกาะสนใจเจ้ามากถึงเพียงนี้” การวิเคราะห์ของผู้อาวุโสอวี๋ทั้งเป็นระเบียบและชัดเจน และในเวลานี้เขาก็ยืนยันสถานะนักปรุงยาของมู่เฉียนซีได้แล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ถูกต้อง ไม่เลวเลย! ข้าคือนักปรุงยา หรือว่าท่านผู้นำเกาะของพวกท่านจะทนให้มีนักปรุงยาคนอื่นอยู่บนเกาะไม่หวนคืนไม่ได้เช่นนั้นหรือ?”
“นักปรุงยาทั้งหมดบนเกาะนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนสนิทของเขาทั้งนั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมให้ผู้ใดมาเป็นภัยคุกคามต่อเขา นี่คือประการแรก”
“ประการที่สอง ท่านผู้นำเกาะของพวกข้าไม่ต้องการที่จะออกไปจากเกาะไม่หวนคืนแห่งนี้ เป้าหมายของเขาก็คือการวางอำนาจบาตรใหญ่อยู่ที่เกาะไม่หวนคืนนี้! แต่ทว่าความสามารถและพรสวรรค์ของเขาไม่อาจเพิ่มพูนได้มากเท่าที่ควร ดังนั้นจึงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานเท่าไรนัก แต่เขากลับอยากที่จะมีชีวิตที่เป็นอมตะ เช่นนั้นในช่วงเวลาหลายปีมานี้ เขาจึงได้พยายามที่จะปรับปรุงยาแห่งความเป็นอมตะมาโดยตลอด เขาอยากที่จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป นักปรุงยาที่ขึ้นมาบนเกาะก่อนหน้านี้ก็ถูกเขาจับไป และใช้วิธีการทรมานต่าง ๆ นานาเพื่อถามวิธีการปรุงยาที่พวกเขารู้ทั้งหมดมา”
สมกับที่เป็นพ่อบ้านของท่านผู้นำเกาะ ช่างเป็นคนที่เข้าใจท่านผู้นำเกาะอย่างไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ด้วยความสามารถอันน้อยนิดของเขายังคิดที่จะปรุงยาแห่งความเป็นอมตะอีก ทั้งหมดนั่นเป็นเขาที่กำลังฝันกลางวันอยู่ หากเขาคิดที่จะลงมือจริง ๆ ข้าก็ไม่กลัวเขาหรอก”
ผู้อาวุโสอวี๋กล่าวว่า “ในเมื่อผู้อาวุโสมู่มีความมั่นใจข้าก็วางใจ หากท่านตอบโต้กลับอย่างเต็มที่ ข้าก็จะพยายามทำทุกอย่างที่สามารถทำได้”
มู่เฉียนซีเลิกคิ้วเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “อยากที่จะยืมมือของข้าในการทำลายท่านผู้นำเกาะ ความปรารถนาของท่านยิ่งใหญ่มากเลยทีเดียว!”
“นี่คือโอกาสที่ข้ารอมาเป็นเวลานานแล้ว แน่นอนว่าไม่คิดที่จะยอมแพ้ ท่านอาวุโสมู่ได้โปรดอย่าโกรธเคืองเลย นี่คือน้ำใจเล็กน้อยของข้า” ผู้อาวุโสอวี๋หยิบเอากล่องหยกออกมาหลายใบ
ข้างในนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสมุนไพรวิญญาณที่ยอดเยี่ยม ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสขั้นที่หนึ่งของเกาะไม่หวนคืน และยังเป็นพ่อบ้านของท่านผู้นำเกาะ มันก็ไม่ใช่เรื่องยากหากเขาต้องการที่จะเก็บซ่อนสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ไว้เป็นของส่วนตัว
เขาหวังว่าสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้จะทำให้มู่เฉียนซีมีความสุขได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าท่านจะเข้าใจเรื่องราวได้ดีมากเลยทีเดียว บางทีอาจจะจัดการได้อย่างราบรื่นก็เป็นได้! ท่านสามารถดึงเอาผู้อาวุโสมาได้เท่าไรก็ดึงมาเท่านั้น แค่นี้พวกเราก็สามารถร่วมมือกันได้แล้ว”
ใบหน้าของผู้อาวุโสอวี๋เปล่งประกายอย่างมีความสุข เขากล่าวว่า “ข้าต้องพยายามอย่างแน่นอน วันนี้ข้าไม่รบกวนท่านอาวุโสมู่แล้ว พรุ่งนี้ยังมีการต่อสู้ที่ยากลำบากอีก”
“รอเดี๋ยวก่อน!” ในตอนที่ผู้อาวุโสอวี๋กำลังจะเดินจากไป มู่เฉียนซีก็ได้กล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“หากใช้คำพูดแล้วท่านไม่สามารถโน้มน้าวผู้อาวุโสเหล่านั้นได้ละก็ เช่นนั้นก็หลอกล่อเอาก็ได้! ท่านผู้นำเกาะใช้ยาลูกกลอนในการล่อลวงผู้คน และสิ่งที่ข้าไม่เคยขาดเลยก็คือยาลูกกลอนเช่นกัน เรื่องนี้ข้ากล้าที่จะยืนยัน ว่าเขาไม่สามารถเทียบชั้นข้าได้แน่นอน” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ยาลูกกลอนที่อยู่ภายในแหวนมิติอันนี้ท่านสามารถใช้ได้ตามต้องการ ท่านสามารถดึงคนเข้ามาเป็นแนวร่วมกับท่านได้มากเท่าไรก็พยายามดึงเข้ามาให้หมด!” มู่เฉียนซีหยิบเอาแหวนมิติออกมาแล้วยื่นออกไปให้อย่างใจกว้าง
ทันทีที่ผู้อาวุโสอวี๋ตรวจสอบสิ่งของที่อยู่ในแหวนมิติ เขาก็ต้องประหลาดใจกับจำนวนยาลูกกลอนที่มากมายถึงเพียงนั้น
เขาอยู่กับท่านผู้นำเกาะมานานถึงเพียงนี้ คาดว่ายาลูกกลอนของนักปรุงยาที่ท่านผู้นำเกาะเก็บสะสมเอาไว้ทั้งหมด ก็ไม่ได้มากมายเท่านี้เช่นกัน
แต่ทว่าคนที่อยู่เบื้องหน้านี้กลับหยิบออกมาได้อย่างง่ายดาย และได้ทำให้ผู้อาวุโสอวี๋รู้ว่า มันมีความหวังที่จะสำเร็จขึ้นมาบ้างแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าหวังว่าท่านผู้นำเกาะของพวกท่านจะไม่รนหาที่ตายด้วยตนเองก็แล้วกัน! หากไม่ต้องเคลื่อนไหวได้ข้าก็ไม่อยากที่จะเคลื่อนไหวเช่นกัน”
เพราะท้ายที่สุดนางก็หาวิธีที่จะออกไปได้แล้ว
ผู้อาวุโสอวี๋หัวเราะออกมา นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีความเป็นไปได้เลย เขาเข้าใจท่านผู้นำเกาะเป็นอย่างดี และเขาก็ไม่มีทางที่จะไม่ทำอะไรเลยแน่นอน
…
วันรุ่งขึ้น มู่เฉียนซีและจูเชว่ก็ได้ไปพบกับท่านผู้นำเกาะ
เมื่อเห็นว่าพวกเขามาถึงแล้วสีหน้าของท่านผู้นำเกาะก็ถือได้ว่าดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เขากล่าวว่า “ช่วงไม่กี่วันมานี้ ได้ยินมาว่าพวกเจ้าเก็บเกี่ยวสมุนไพรวิญญาณในทะเลมาได้ไม่น้อยเลย เอามันทั้งหมดออกมาให้ผู้นำเกาะอย่างข้าดูหน่อย จะได้หรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ผู้ใดเป็นผู้เก็บได้ก็ต้องเป็นของคนผู้นั้น เช่นนั้นคงไม่ใช่หน้าที่ที่ข้าจะต้องเอาของของข้าออกมาให้ท่านดูหรอกกระมัง!”
“แต่ข้าคือผู้นำเกาะของเกาะไม่หวนคืนแห่งนี้ ไม่คิดว่าเจ้าจะไม่ตอบรับในสิ่งที่ข้าต้องการ” ผู้นำเกาะกล่าวขึ้นมาอย่างโกรธเคือง
“ไม่ตอบรับแล้วจะทำไมหรือ?”
“ข้ารู้ว่าคนหนุ่มสาวนั้นหยิ่งยโสมาก แต่พวกเจ้าก็จะต้องรู้ด้วยว่าที่นี่เป็นเขตแดนของผู้ใด ก่อนที่ข้าจะโมโหไปมากกว่านี้ ก็เอาสมุนไพรวิญญาณที่พวกเจ้าเก็บเกี่ยวมาได้ออกมาซะ! ถึงอย่างไรพวกเจ้าก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโสขั้นสอง และข้าผู้นี้ก็ไม่อาจที่จะปล่อยพวกเจ้าไปได้” ภายในคำพูดของท่านผู้นำเกาะมีความหมายที่คุกคามอย่างชัดเจน