ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1846 สัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณ
เมื่อเห็นว่ามู่เฉียนซียังดูเด็กกว่าเหยียนเหลียนเจีย จึงทำให้ดูเหมือนว่านางน่าจะจัดการได้ง่ายกว่ามาก
ชายชราคนนั้นจึงทนที่จะลงมือโจมตีมู่เฉียนซีไม่ไหว
ตูมม!
การโจมตีของเขาได้ถูกเงาดำร่างหนึ่งขัดขวางเอาไว้ได้
ตูมมม!
ฉู่หลีออกโรงแล้ว ชายชราคนหนึ่งถูกกระแทกจนกระเด็นลอยออกไป
“เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ทั้งที่มีอายุน้อยเพียงเท่านี้ มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พี่ฉู่ เกาะหนานอู่เป่าใกล้จะหายไปแล้ว ใช้กลยุทธ์สายฟ้าแลบเถอะ!”
ฉู่หลีพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าว “อื้ม!”
ตูมมม โครมมม!
ทางด้านของเหยียนก็ลงมืออย่างไร้ความปรานีเช่นกัน และนางก็หลุดพ้นจากการพัวพันของคนเหล่านี้อย่างรวดเร็ว เหยียนกล่าวกับมู่เฉียนซีด้วยรอยยิ้มว่า “น้องซีเอ๋อร์ช่างเป็นคนที่ชอบธรรมจริงๆ พวกเราไปกันเถอะ”
พวกนางทั้งสองคนนำหน้าไป ส่วนฉู่หลีคอยรั้งท้าย
ปัง ปัง ปัง!
คนไม่กี่คนนี้พยายามอย่างสุดชีวิตที่จะสกัดกั้นพวกเขาเอาไว้ แต่ทว่ามันกลับไร้ผล
พวกของมู่เฉียนซีได้เข้าไปแล้ว และในตอนที่พวกคนพวกนั้นกำลังคิดว่า อย่างไรก็คงไม่สามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้ แต่อย่างน้อยก็เข้าไปขุดหาสมบัติสักหน่อยก็ยังดี ทว่าผลสุดท้ายก็คือ ในตอนนี้เกาะหนานอู่เป่าได้ปิดลงไปแล้ว
พวกเขาแต่ละคนโกรธจนแทบจะกระอักเลือดออกมาอยู่แล้ว และนี่เป็นการสูญเสียซ้ำถึงสองอย่างในคราเดียวโดยสิ้นเชิง
หลังจากที่เข้าไปในเกาะหนานอู่เป่า ในมิติก็เกิดความปั่นป่วนขึ้น
แน่นอนว่าความปั่นป่วนนี้ไม่ถึงขั้นคร่าชีวิตผู้คนได้ มิฉะนั้นก็คงจะไม่มีผู้ใดกล้าบุกเข้ามาเป็นแน่
ไม่เพียงเท่านั้นท่ามกลางกระแสที่ปั่นป่วนนี้ มู่เฉียนซีกลับไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าไรนัก และฉู่หลีก็เช่นเดียวกัน ฉะนั้นเขาจึงสามารถไล่ตามมู่เฉียนซีไปได้
ส่วนเหยียนนั้นค่อนข้างที่จะยากลำบากสักหน่อย นางตามไปตามมา สุดท้ายแล้วคนที่ตามอยู่ก็หายไปเสียอย่างนั้น การจู่โจมทางจิตวิญญาณที่นางถนัดไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงในมิติที่ปั่นป่วนนี้
ความสามารถของนางสู้องครักษ์ผู้นั้นไม่ได้ สาวงามอย่างท่านเหยียนในเวลานี้เริ่มเกิดความลังเลในชีวิตขึ้นมาเสียแล้ว
ในเวลานี้มู่เฉียนซีและฉู่หลีได้มาถึงเกาะหนานอู่เป่าเรียบร้อย แม้จะบอกว่าเป็นเกาะแห่งหนึ่ง แต่ทว่าที่แห่งนี้เหมือนดินแดนที่ล่มสลายเสียมากกว่า
“โฮกกกก!”
หลังจากที่สัตว์ประหลาดที่มีหน้าตาแปลกประหลาดเหล่านั้นรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายแปลกปลอม พวกมันก็โกรธเกรี้ยวกันขึ้นมา จากนั้นมันก็ได้พุ่งเข้าไปหาพวกของมู่เฉียนซี
ฉู่หลีต้องการที่จะโจมตีเพื่อจัดการเรื่องยุ่งยากเหล่านี้ ทว่ามู่เฉียนซีกลับกล่าวว่า “ศิษย์พี่ ให้ข้าได้ฝึกมือหน่อยเถอะ!”
“อื้ม!”
พัดวิหคเฟิงหลิงถูกหยิบออกมา และมู่เฉียนซีก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พลังวายุกักขังวิญญาณ!”
“พลังวายุทำลายวิญญาณ!”
ปัง ปัง ปัง!
เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับสัตว์ประหลาดที่มีระดับต่ำเช่นนี้ ทั้งยังอ่อนแออีกด้วย ดังนั้นนางจึงกวาดพวกมันออกไปด้วยพลังของธาตุวายุอย่างง่ายดาย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ศิษย์พี่ พวกเราไปกันเถอะ!”
ในตอนที่พุ่งตัวออกไป พวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าจะค้นพบโครงกระดูกอยู่ใต้เท้าของพวกเขาเป็นภูเขาเลากาเช่นนี้
“เหยียนเคยบอกว่า บนเกาะหนานอู่เป่าแห่งนี้เคยมีคนที่เก็บหญ้าโลหิตมังกรได้มาก่อน และยังมีความเป็นไปได้มากว่าจะมีสิ่งอื่นอยู่อีกมากมาย แต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด? สถานที่เช่นนี้ เดิมทีแล้วมันก็ไม่เหมาะที่จะมีสมุนไพรวิญญาณเติบโตขึ้นมาได้เลย” มู่เฉียนซีกล่าว
ฉู่หลีกล่าวว่า “สถานที่แห่งนี้นอกจากกลุ่มมนุษย์ที่ปะปนเข้ามาก่อนหน้านี้แล้วก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่อีกเลย”
นี่ก็สามารถแสดงให้เห็นแล้วว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีพืชหรือสัตว์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เลย มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หรือว่าข้อมูลของสาวงามเหยียนจะผิดพลาดเช่นนั้นหรือ?”
“แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือสถานที่ที่มีสิ่งมีชีวิตได้ถูกปิดกั้นการรับรู้เอาไว้”
“แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อยแต่ก็ไม่อาจปล่อยไปได้ พวกเราไปกันเถอะ!”
“โฮกกกกก!” ตลอดเส้นทางพวกเขาเจอผู้คนน้อยมาก แต่กลับได้เจอสัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณไม่น้อยเลยทีเดียว
ยิ่งเข้าไปในเกาะหนานอู่แห่งนี้ลึกขึ้นเท่าไร จำนวนของสัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
โชคดีว่าเจ้าพวกนี้มีสติปัญญาที่ไม่สูงมากเท่าไรนัก ฉะนั้นการจัดการพวกมันจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย
ตึง!
มีสิ่งของที่มีขนาดใหญ่มหึมาหล่นลงมา ทันใดนั้นฉู่หลีก็พุ่งทะยานออกไป พลันนั้นก็มีผลึกสีดำเม็ดหนึ่งหลุดออกมาจากร่างของสัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณตัวนั้น
ภายในของสิ่งนั้นมีพลังที่แข็งแกร่งถูกเก็บสะสมเอาไว้ และไม่ได้มีเพียงแต่มู่เฉียนซีเท่านั้นที่สัมผัสได้ แต่คนที่บังเอิญผ่านมาเหล่านั้นก็สัมผัสถึงมันได้เช่นกัน
“นี่มันเป็นของดีนี่น่า! หากได้มากกว่านี้อีกสักสองสามชิ้นบางทีข้าอาจจะบรรลุขั้นได้เลยก็เป็นได้”
“แม่สาวน้อย เจ้าหนูน้อย จงมอบของสิ่งนั้นมาซะ แล้วข้าจะไม่คิดเล็กคิดน้อยต่อพวกเจ้ามากนัก”
เพียงแค่ฉู่หลีโบกมือ เขาก็ได้ส่งมอบผลึกสีดำชิ้นนั้นไปให้กับพวกเขาจริง ๆ
“เจ้าหนูน้อย ถือว่าเจ้ารู้จักเอาตัวรอดมากเลยทีเดียว!”
มู่เฉียนซีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะศิษย์พี่ไม่ใช่คนที่ยอมใครง่ายดายถึงเพียงนี้
ความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณที่อยู่ในผลึกนั้น ดูเหมือนจะมีพลังปีศาจอย่างไรอย่างนั้น และมันก็มีแรงดึงดูดให้ผู้ถือและมองได้ดูดซับมันเข้าไป
“ให้ตายเถอะ ของที่ดีเช่นนี้เจ้าไม่สามารถฮุบเอาไว้เพียงผู้เดียวได้นะ!”
“หรือว่าไม่ใช่ศิษย์น้อง?”
“……”
คนผู้นั้นดูดซับพลังวิญญาณจากผลึกสีดำนั้นไปเพียงผู้เดียว และแน่นอนว่าจะต้องทำให้คนที่อยู่ข้างกายของเขาโกรธเคืองมากอยู่แล้ว
“อ๊ากกก!” แต่ทว่าเพียงไม่นาน คนผู้นั้นก็กรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา
เส้นเอ็นทั่วทั้งร่างกระตุกอย่างรุนแรง อีกทั้งเส้นเลือดยังเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท และทั้งร่างก็ได้กลายเป็นเหมือนกับสัตว์ประหลาดอย่างไรอย่างนั้น
ตึง!
สติสัมปชัญญะของเขาได้หายไปอย่างสิ้นเชิง และได้กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณที่เคยพ่ายแพ้ให้กับมู่เฉียนซีมาแล้วก่อนหน้านี้
“นะ…นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” คนที่อยู่ข้างกายของเขาต่างก็พากกันตกตะลึง
ตูมมม!
สัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณตัวนี้โจมตีพวกเขาโดยที่ไม่สนว่าเป็นมิตรหรือศัตรู “เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว ฆ่ามันซะ!”
“รีบลงมือเร็วเขา! ข้ารู้สึกว่ามันจะยิ่งแข็งแกร่งมาขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่ลงมือตอนนี้ พวกเราทั้งหมดจะต้องถูกมันฆ่าอย่างแน่นอน”
“……”
ตูมมม!
บางทีอาจจะเป็นเพราะเพิ่งจะเริ่มกลายร่าง เลยทำให้ความสามารถไม่แข็งแกร่งมากนัก อีกทั้งความสามารถของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์อย่างพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอด้วย ฉะนั้นจึงสามารถที่จะกำจัดสัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณตัวนี้ไปได้
แต่ถึงเป็นเช่นนั้น ก็ยังมีคนที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ดี
ในเวลานี้พวกเขาจ้องมองมาทางฉู่หลีอย่างโกรธเคือง “เจ้าหนูน้อย! ไม่คาดคิดเลยว่าจะกล้าลอบกัดศิษย์น้องของข้า ฆ่าพวกมันซะ!”
พวกเขาก็ได้กล่าวโทษฉู่หลีและมู่เฉียนซี ที่ทำให้เกิดการสูญเสียเช่นนี้ขึ้นมา
“พวกเจ้าต้องการที่จะแย่งผลึกนั้นไปเอง ที่โชคร้ายเช่นตอนนี้ มันก็สมควรแล้ว!” มู่เฉียนซีหลบหลีกอย่างรวดเร็ว
คนผู้นั้นกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า “เป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเจ็ดยังกล้ามายังเกาะหนานอู่เป่าอีก ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้เป็นผู้ฆ่าเจ้า แต่เจ้าก็จะต้องถูกสัตว์ประหลาดเหล่านั้นฆ่าตายเป็นแน่”
“ฆ่ามัน!”
ปัง ปัง ปัง!
การโจมตีของพวกเขาถึงแม้ว่าจะรุนแรง แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะโจมตีมู่เฉียนซีได้อยู่ดี
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? แม่สาวน้อยผู้นี้เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเจ็ดเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าพวกเราจะไล่ตามไม่ทันเช่นนี้!”
และในตอนนี้มู่เฉียนซีก็รู้สึกว่า การที่นางดูดซับของพลังของผลึกมิติชิ้นนั้น มันทำให้พลังวิญญาณมิติของนางแข็งแกร่งขึ้นมาเล็กน้อย และยิ่งทำให้ใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาเร็วขึ้นอีกด้วย
คนเหล่านี้คิดว่าจะจับนางได้อย่างนั้นหรือ ก็ฝันไปเสียเถอะ!
และในเวลานี้ฉู่หลีก็ลงมือแล้วเช่นกัน กระบวนท่าของฉู่หลีรวดเร็วอ่อนช้อยทั้งยังรุนแรงอีกด้วย
ปัง ปัง ปัง!
“นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาดเป็นแน่ ไม่คิดเลยว่าเด็กน้อยผู้นี้เป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม!” พวกเขาจ้องมองไปที่ฉู่หลีอย่างเหลือเชื่อ
ตอนนี้ฉู่หลีกำลังดึงดูความสนใจของพวกเขา และแน่นอนว่าในเวลาเดียวกันนี้มู่เฉียนซีก็เริ่มลอบโจมตีพวกเขาจากทางด้านหลังด้วยความรวดเร็ว
“พลังวายุจันทราไร้คู่!”
“พลังวายุทำลาย จันทราหนาวเหน็บ!”
ตูมม โครมม!
ฉู่หลีไม่เพียงแต่เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสามเท่านั้น แต่พลังในการต่อสู้ของเขาก็เกินกว่าระดับของพวกเขาไปมากอีกด้วย
พรวด พรวด พรวด!
การปะทะฝีมือหลายครั้ง ไม่ได้มีประโยชน์ต่อคนเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังทำให้บาดเจ็บสาหัสอีกด้วย
“วันนี้เป็นเพราะพวกเรามีตาหามีแววไม่จนทำให้พวกท่านทั้งสองต้องขุ่นเคืองใจ ท่านทั้งสองโปรดให้อภัยในความผิดพลาดของพวกข้าด้วยเถิด” หนึ่งในนั้นกัดฟันกล่าวออกมา
ฉู่หลีไม่ได้ตอบกลับ แต่ทว่าหยุดการโจมตีของเขาลง
พวกเขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก พลางกล่าว “ถอย!”
ความแค้นในครั้งนี้ ข้าฝากไว้ก่อนเถอะ!
พวกเรารีบพุ่งทะยานไปยังสถานที่แแห่งหนึ่ง ผลก็คือมีสัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณจำนวนไม่ถ้วนปรากฏตัวออกมา
“เหตุใดถึงมากมายเพียงนี้!”
“ช่วยด้วย อ๊ากกก!”
“……”
พวกเขาได้ล่าถอยมาจนถึงภายในรังของสัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณ โชคของพวกเขานั้นแย่มาก ครั้งนี้ถึงเขาจะร้องขอความเมตตา แต่สัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณเหล่านี้คงจะพูดคุยไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างมนุษย์เช่นนั้น และฉู่หลีก็ได้หยิบเอาผลึกสีดำนั้นออกมาอีกเม็ดหนึ่ง จากนั้นก็กล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “พวกมันกำลังไล่ตามมาแล้ว ศิษย์น้องพวกเราไปกันเถอะ!”