ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1875 อาจจะตายจริง ๆ
ในเวลาเช่นนี้ เป่ยกงจั๋วก็ได้กล่าวคำพูดนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ซึ่งมันก็ฉับพลันเป็นอย่างมาก
โม่ซวนและฉู่หลีต่างก็พากันตื่นตระหนกตกใจ นี่เป่ยกงจั๋วคิดที่จะทำอะไรกันแน่?
ในส่วนของจูเชว่นั้น จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าคนที่เป่ยกงจั๋วเรียกนั้นเป็นผู้ใดกันแน่?
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสียงต่ำที่เคร่งขรึมว่า “ดูเหมือนว่าข้าจะดูถูกเป่ยกงจั๋วผู้นี้มากเกินไปหน่อย เจ้าหมอนี่มันจะโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!”
ดูเหมือนว่าเป่ยกงจั๋วกำลังเล่นเกมที่น่าหวาดเสียวอยู่อย่างไรอย่างนั้น เพราะการถูกสัตว์ร้ายโบราณฉีฉยงไล่ล่า ก็เหมือนกับว่าไหล่ได้กระทบเข้ากับพญามัจจุราชในทุกย่างก้าวนั่นเอง
พรวดดด!
ถึงเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ทว่าบนใบหน้าก็ยังคงมีรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏอยู่
“ข้าอาจจะตายขึ้นมาจริง ๆ ก็ได้! เจ้าแน่ใจหรือว่าเมื่อเห็นคนใกล้ตายแล้วจะไม่ช่วยน่ะ?”
เงามืดสีดำสนิท ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างอันเรียวบางของเขา ทั้งยังราวกับสามารถบดขยี้ร่างนั้นให้แหลกละเอียดได้ในพริบตา
เป่ยกงจั๋วกล่าวว่า “เจ้าลองเดาดูสิ หากข้าตายไปแล้ว หานจะเป็นเช่นไร?”
ดวงตาของมู่เฉียนซียิ่งล้ำลึกมากขึ้นเรื่อย ๆ และที่เป่ยกงจั๋วมีความกล้าหาญพอที่จะทำเช่นนี้ ต้องเป็นเพราะเขาแน่ใจว่าตนเองนั้นจะไม่ตาย เพราะแน่นอนว่า สุดท้ายแล้วตัวเขาเองก็หวงแหนชีวิตของตนเองเป็นที่สุดเช่นกัน
เป่ยกงจั๋วไม่อาจตายได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าร่างกายของเสี่ยวไป๋จะไม่เกิดปัญหานี่
พื้นที่ที่เดิมทีเต็มไปด้วยความเขียวขจีมีชีวิตชีวา ในเวลานี้ต้นไม้ใบหญ้าทั้งหมดพลันเหี่ยวเฉาลง คนเหล่านั้นกำลังหลบหลีกการโจมตีของสัตว์ร้ายโบราณอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ และบนเสื้อคลุมสีเงินนั้นก็มีรอยสีแดงของเลือดขยายเป็นวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ
“โฮกก!”
และเกมไล่ล่าในขณะนี้ สัตว์ร้ายโบราณก็เล่นจวนจะเบื่อเต็มทนแล้ว
เสียงคำรามเพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำให้คนลอยละลิ่วออกไปได้แล้ว
เขี้ยวของมันเปลี่ยนเป็นคมกริบมากขึ้นเรื่อย ๆ และเป่ยกงจั๋วผู้นี้ก็ได้ตรงเข้าไปปะทะกับคมเขี้ยวนั้นอย่างไม่ลังเล อีกทั้งหน้าอกก็พุ่งเข้าใส่เขี้ยวที่คมที่สุดด้วย
เจ้าสัตว์ร้ายโบราณที่พึ่งคืนชีพไม่เข้าใจการกระทำทั้งหมดของมนุษย์ผู้นี้เลยสักนิด แต่ทว่าหากสามารถกลืนกินพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งของมนุษย์ผู้นี้ได้โดยเร็ว นั่นก็คงจะเป็นเรื่องที่ทำให้มันมีความสุขเรื่องหนึ่งอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นิรันดร์…”
นางทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว นางจะสามารถทนเห็นเป่ยกงจั๋วทำลายร่างกายของเสี่ยวไป๋ได้อย่างไรกัน
ทันใดนั้น สายลมโดยรอบดูเหมือนว่ากำลังก่อตัวขึ้นมา
ความจริงแล้วภายในใจของนิรันดร์ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก ให้ร่างเจ้าหมอนั่นขาดวิ่นจนกลายเป็นเศษผ้าไปเสียเลยก็ยิ่งดี
แต่ทว่าศิษย์ที่รักของเขาเป็นผู้ออกคำสั่งด้วยตนเอง ตัวเขาจะไม่ทำก็คงเป็นไปไม่ได้
“ออกไป!”
นิรันดร์พุ่งทะยานออกไปด้วยความเดือดดาล จากนั้นก็ได้กระแทกสัตว์ร้ายโบราณฉีฉยงจนกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง
ร่างสีดำร่างหนึ่งพุ่งทะยานออกมา และคนผู้นี้ก็มีรูปร่างหน้าตาที่งดงามมากเช่นกัน เพียงแต่เมื่อเขายืนอยู่กับนิรันดร์กลับหม่นหมองลงไปอย่างเห็นได้ชัด
เขามองไปยังนิรันดร์พลางกล่าวว่า “นายท่าน ไม่เจอกันนานเลยนะ”
“ฮืออออ! นายท่าน...” ในเวลานี้ เป่ยกงจั๋วไม่ได้จับหม้อศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุเอาไว้อีกแล้ว เช่นนั้นจึงทำให้หม้อศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุกระโจนเข้าไปหานิรันดร์ด้วยความตื่นเต้น
“ออกไป!” นิรันดร์กล่าวอย่างเย็นชา
และเพียงไม่นาน เจ้าสัตว์ร้ายโบราณตนนั้นก็พุ่งเข้ามาจู่โจมอีกครั้ง
เป่ยกงจั๋วไม่ใช่เป้าหมายในการโจมตีของมันอีกต่อไป เช่นนั้นเขาจึงพุ่งตรงไปทางมู่เฉียนซีทันที เป่ยกงจั๋วจ้องมองไปที่ใบหน้าของคนแปลกหน้าพลางกล่าวว่า “มู่เฉียนซี ข้าผู้นี้ถูกเจ้าหลอกเสียแล้ว โชคดีที่ข้าตัดสินใจกระทำการเสี่ยงภัยครั้งสุดท้ายนั่น มิเช่นนั้นคงหมดหนทางที่จะบีบบังคับให้เจ้าปรากฏตัวออกมาได้เป็นแน่”
“เป่ยกงจั๋ว เจ้ายังคงหน้าไหว้หลังหลอกเหมือนเดิมเลยนะ!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
เป่ยกงจั๋วกล่าวอย่างไม่เคืองโกรธว่า “ข้าไม่อยากที่จะใช้กำลังกับเจ้าเลยจริง ๆ ขอเพียงเจ้าตอบตกลงที่จะเป็นคู่หมั้นของข้า และมอบเขาให้ข้า วันนี้ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้า”
ร่างสีดำร่างหนึ่งพุ่งทะยานออกมา และฉู่หลีก็จู่โจมเป่ยกงจั๋วอย่างไร้มารยาททันที ทั้งยังลงมืออย่างโหดเหี้ยม โดยไร้ความเมตตาเลยแม้แต่น้อย
ฉู่หลีคิดอยากที่จะสังหารชายผู้ที่มาคุกคามศิษย์น้องของตนเองผู้นี้เสีย
ตูมม!
เป่ยกงจั๋วและฉู่หลีเริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือด
เป่ยกงจั๋วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “มัวแต่ตะลึงอะไรกันอยู่? ไม่ว่าอย่างไรวันนี้ก็จะต้องเชิญพระชายาในอนาคตของข้ากลับไปยังวังเหนือให้จงได้”
“องค์รัชทายาทเป่ยกง พระชายาในอนาคตของพระองค์คือมู่หลินหลาง ไม่ใช่ซีซีของข้าเสียหน่อย ช่างเป็นกระต่ายหมายจันทร์เสียจริง ๆ” จูเชว่กล่าวอย่างโกรธเคือง
เปลวเพลิงที่ร้อนระอุปะทุออกมา แม้ว่าในเวลานี้จูเชว่จะยังไม่รู้ถึงสถานการณ์ที่ชัดเจนว่าเป็นเช่นไรกันแน่ แต่ทว่าเขาก็ยังต้องการที่จะปกป้องซีซีอยู่ดี
โม่ซวนกล่าวว่า “ลงมือ จำต้องคุ้มครองซีเอ๋อร์ให้ดี”
เป่ยกงจั๋วกล่าวว่า “คุณชายจูเชว่ คุณชายไป๋เจ๋อ พวกเจ้าแน่ใจหรือว่าจะต่อต้านข้าอย่างไม่รู้ผิดชอบเช่นนี้ หากพวกเจ้ายืนอยู่ฝ่ายเดียวกับข้า ข้าจะให้ประโยชน์ต่อพวกเจ้าไม่น้อยเป็นแน่”
“ข้าไม่อยากที่จะต่อรองเรื่องหนังกับพยัคฆ์หรอก!” จูเชว่กล่าวอย่างเย้ยหยัน
เขาเคยรับรู้ถึงความเก่งกาจของเป่ยกงจั๋วมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทว่าการบีบบังคับด้วยความตายของเป่ยกงจั๋วเมื่อครู่นั้น ก็ทำให้เขาตระหนักได้ว่าเจ้าหมอนี่ยังไม่ถึงคราวลงสุสาน ทั้งยังมีกลอุบายมากมายถึงเพียงนี้
หากต้องคลุกคลีกับคนเช่นนี้ จะตายเมื่อใดก็คงไม่อาจรู้ได้
และตอนนี้ ทั้งคนที่องค์รัชทายาทเป่ยกงพามาอย่างโจ่งแจ้ง และคนที่แอบพามาด้วย ต่างก็จู่โจมมู่เฉียนซีตามคำสั่งของเขาแล้ว
“เสี่ยวโม่โม่ อู๋ตี้ เสี่ยวหง ทั้งหมดจงออกมาต่อสู้กับคนพวกนี้เสีย”
สัตว์เทพทั้งสามได้ปรากฏตัวออกมา และปกป้องมู่เฉียนซีเอาไว้ตรงกลาง
ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง ฉีฉยงกำลังพัวพันอยู่กับนิรันดร์ ส่วนจิ่วจวนก็ไม่ได้ช่วยนิรันดร์ในการจัดการกับฉีฉยง แต่กำลังที่จะลอบโจมตีนิรันดร์อยู่ต่างหาก
เสี่ยวอู่โกรธจนอกจะแตกตายอยู่แล้ว “เหล่าจิ่ว เจ้ากำลังจะทำอะไรน่ะ? มะ…ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะโจมตีนายท่าน เจ้านี่มันเนรคุณเกินไปแล้ว!”
หม้อเก้าวิญญาณหวนคืนกล่าวด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันว่า “เหอะ ๆ ๆ! เนรคุณรึ เขามันก็เพียงแค่โชคดีที่ได้รับพลังไร้เทียมทานตอนที่มาจุติยังโลกนี้ก็เท่านั้น หากข้ามีโอกาสเช่นนั้นบ้าง บางทีข้าก็อาจจะทำได้ดีกว่าเขาก็เป็นได้”
“หากข้าสามารถกลืนกินเขาได้ จะต้องสามารถกลายเป็นหม้อเทพชั้นยอดที่ยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่าหม้อเทพนิรันดร์เป็นแน่”
หม้อศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุได้ถูกความทะเยอทะยานของหม้อเก้าวิญญาณหวนคืนทำให้หวาดกลัวเข้าเสียแล้ว “จะ…เจ้า เจ้าจะอาจหาญเกินไปแล้ว!”
นิรันดร์กล่าวอย่างเย้ยหยัน “ช่างเพ้อฝันเสียจริง ทางที่ดีที่สุดเจ้าจัดการเจ้านี่เสียตั้งแต่ตอนนี้เถิด มิเช่นนั้นแล้วละก็ ข้าอาจจะทำให้เจ้าต้องตายอย่างน่าอนาถที่สุดก็เป็นได้”
สถานการณ์ทางด้านศิษย์ที่รักนั้นไม่ดีเป็นอย่างมาก และเขาก็ไม่มีเวลาที่จะมาเล่นกับเจ้าสัตว์ร้ายนี่
ข้อได้เปรียบของศิษย์ที่รักของเขาก็คือมิตรภาพ และในเวลาเดียวกันมันก็เป็นจุดอ่อนของนางด้วย และเมื่อศัตรูได้คว้าเอาจุดอ่อนนี้ของนางเอาไว้ มันก็จะทำให้นางต้องตกอยู่ท่ามกลางอันตรายเช่นกัน
พลังในการต่อสู้ของฉู่หลีนั้นน่าทึ่งเป็นอย่างมาก และนี่ก็ทำให้เป่ยกงจั๋วรู้สึกประหลาดใจอย่างที่สุด
“พรวด พรวด พรวด!”
ถึงคนของจูเชว่และไป๋เจ๋อจะมีมากมาย แต่ทว่าก็เริ่มมีการสูญเสียเกิดขึ้นแล้ว อีกทั้งยังถูกคนของวังเหนือเหล่านั้นทำร้ายจนเจ็บหนักอีกด้วย
“คุณชาย!” พวกเขาเริ่มกระวนกระวาย การเดินทางครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะอันตรายเกินกว่าที่พวกเขาคาดการณ์เอาไว้เสียแล้ว
หากคุณชายทั้งสองมีเหตุผลมากกว่านี้สักหน่อยละก็ ตอนนี้พวกเขาก็น่าจะคุ้มครองพวกเขาจนออกไปได้แล้ว และไม่ต้องมาเผชิญหน้ากับอันตรายเช่นนี้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หยุนชาง เจ้าก็ฟื้นตัวดีมากแล้ว จงออกมาซะ! ไม่รู้ว่าหลังจากที่เจ้าฟื้นตัวมาได้ถึงจุดนี้แล้ว มันจะเป็นเช่นไรบ้าง?”
“ช่วยเหลือผู้ที่บาดเจ็บก่อน”
“ขอรับ นายท่าน!”
ทันใดนั้นก็ได้มีหอฉงโหลวปรากฏขึ้นมากลางอากาศที่ว่างเปล่า และพลังแห่งมิติก็ได้ห่อหุ้มพวกเขาขึ้นมาก จากนั้นก็ดูดออกไป
“นี่ก็คือมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพมิติ!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าวางใจที่ทุกท่านมาเสี่ยงอันตรายเป็นเพื่อนข้า แต่ทว่าการบ่มเพาะนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แน่นอนว่าข้าก็ไม่อาจทนเห็นทุกท่านต้องมาตายได้ หากว่าอดทนไม่ไหว ก็สามารถที่จะขอความช่วยเหลือได้!”
ทุกคนต่างพากันตกใจ แม่นางน้อยมู่เป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมจริง ๆ
“แม่นางมู่โปรดวางใจ แม้นพวกข้าจะกลัวตาย แต่พวกข้าก็จะใช้พลังเฮือกสุดท้ายต่อสู้กับพวกเขาอย่างสุดความสามารถ!”
“ผู้ที่แข็งแกร่งแห่งวังเหนือที่ยอดเยี่ยมอะไรกัน ที่นี่เป็นอาณาเขตของราชวงศ์ตงหวงต่างหาก”
“…” เมื่อหัวหน้าส่วนช่วยเหลืออย่างหอฉงโหลวบนเมฆาปรากฏตัวขึ้น ไม่เพียงแต่จะช่วยเหลือพวกเขาให้ถอยออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ยังทำให้พวกเขามีความกล้าหาญที่จะต่อสู้มากขึ้นอีกด้วย