ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1886 ช่างสังเกตและความกล้าหาญ
ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรวิญญาณอะไร หากหอหมอปีศาจไม่ขาดแคลน แน่นอนว่ามู่เฉียนซีก็ไม่ขาดเช่นกัน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่วางอยู่ที่นี่ล้วนเป็นสมบัติท่ามกลางสมบัติทั้งนั้น มู่เฉียนซีกล่าวกับโม่ซวนว่า “สมุนไพรวิญญาณของวันนี้ พวกเราหอหมอปีศาจจะเหมาทั้งหมด! หากสมุนไพรวิญญาณบางอย่างมีอยู่แล้ว ก็เพิ่มให้มีมากขึ้นไปอีก แต่หากไม่มีเลยแล้วละก็ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็เอาทั้งหมดนั่นแหละ”
“ทำให้พวกเขาได้เห็นความร่ำรวยและความกล้าหาญของพวกเราหอหมอปีศาจ อย่าทำให้พวกเขาคิดว่าพวกเราหอปีศาจที่เพิ่งจะปรากฏตัวขึ้นมาไม่นานจะสามารถมารังแกได้ง่าย ๆ”
เห็นได้ชัดว่างานชุมนุมแลกเปลี่ยนคราวนี้ ตระกูลตานวางแผนเพื่อปราบปรามหอหมอปีศาจ เช่นนั้นทุกคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ต่างก็เหินห่างออกจากหอหมอปีศาจ และต่างก็พากันเข้าหาตระกูลตานกันทั้งนั้น
อีกทั้งทางด้านมู่เฉียนซีและโม่ซวน ต่างก็มีนิสัยที่เงียบขรึมมากอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนคนอื่นต่างก็รอดูการแสดงดี ๆ อยู่ “ข้าว่าครั้งนี้ดูท่าหอหมอปีศาจน่าจะประมูลอะไรไม่ได้เลย แม้ว่าหอหมอปีศาจของพวกเขาจะสร้างรายได้จากการขายยาลูกกลอนได้อย่างมากมาย แต่การประมูลสมุนไพรวิญญาณในครั้งนี้ ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะสามารถซื้อของที่ต้องการได้”
“ก็แค่ตุ๊กตาตัวเล็กสองตัวเท่านั้น ถึงอย่างไรหมอปีศาจก็ไม่ได้มาด้วยตนเอง ด้วยความช่างสังเกตและความกล้าหาญของพวกเขาทั้งสองคน ไม่มีทางต่อสู้กับผู้อาวุโสคนอื่นได้หรอก”
“แค่นี้ก็น่าจะกดความหยิ่งยโสและอวดดีของพวกเขาลงได้แล้ว”
งานประมูลเช่นนี้ แน่นอนว่าจะต้องใช้ในตอนที่ต้องการทดสอบความสามารถและพื้นฐานของนักปรุงยาแต่ละคนอยู่แล้ว
ผู้ประมูลกล่าวว่า “สิ่งของชิ้นแรกที่พวกเราจะนำมาประมูล ก็คือสมุนไพรวิญญาณระดับขั้นศักดิ์สิทธิ์ นั่นก็คือดอกซางหวาง”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ภายในใจทุกคนต่างก็พากันคาดเดาถึงราคาของดอกซางหวางนี้ และภายในมือนั้นมีสมุนไพรวิญญาณชนิดไหนบ้างที่ราคามากกว่าดอกซางหวางนี้?
“ผีเสื้อหลิงหลานสองต้น” ในเวลานี้ ตระกูลตานเอ่ยปากกล่าว
และโม่ซวนก็รีบกล่าวต่อไปว่า “ดอกซาหัวจักรพรรดิสองต้น”
“……”
หลังจากที่ประมูลไปรอบหนึ่ง มู่เฉียนซีก็ยังไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ และโม่ซวนก็ตะโกนชื่อสมุนไพรวิญญาณอันล้ำค่าหลากหลายชนิดออกมาอย่างใจเย็น
พรสวรรค์ในการปรุงยาของโม่ซวนนั้นสูงมาก เนื่องจากข้อจำกัดทางร่างกายทำให้ความสามารถไม่แข็งแกร่งนัก อีกทั้งยังไปไม่ถึงระดับนักปรุงยาขั้นศักดิ์สิทธิ์ด้วย แต่สติปัญญาและความรู้ในเรื่องการปรุงยาของเขา ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้นำตระกูลตานเลยแม้แต่น้อย
สมุนไพรวิญญาณที่พวกเขาเสนอออกมายิ่งล้ำค่ามากขึ้นเรื่อย ๆ และผู้นำตระกูลตานก็รู้สึกว่าหากมากกว่านี้ก็จะไม่คุ้มค่าแล้ว เช่นนั้นจึงทำได้เพียงแค่ยอมแพ้เท่านั้น
เขาคลี่ยิ้มพลางกล่าวว่า “ดูท่าข้าจะดูถูกคุณชายโม่ซวนเกินไปแล้ว ดอกซางหวางนี้ก็คงต้องปล่อยให้คุณชายโม่ซวนเสียแล้ว”
และการประมูลรายการที่สองก็เริ่มต้นขึ้นทันที ผู้ประมูลกล่าวว่า “สมุนไพรวิญญาณนี้ล้ำค่ามากเป็นพิเศษ มันคือสมุนไพรวิญญาณกึ่งเทพโมราอายุวัฒนะ”
เนื่องจากว่าเป็นยากึ่งเทพ จึงมีคนเข้ามาแย่งชิงมากขึ้นเรื่อย ๆ และในเวลานี้ก็มีผู้ประมูลคนหนึ่งที่ต้องล้มเหลวไป
นักปรุงยาอาวุโสที่อยู่บนเวทีท่านหนึ่งกล่าวขึ้นมาว่า “ผลซางหลัวเทียนที่เจ้าเสนอออกมาสิบเม็ดเทียบกับแก่นดอกจื่อเจียงหลานไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องสามสิบเม็ดถึงจะสู้ได้”
ใบหน้าของคนผู้นั้นซีดเซียว ในเวลานี้เขากลับตัดสินใจผิดพลาดต่อหน้านักปรุงยามากมายถึงเพียงนี้ อีกทั้งการเรียนรู้ก็ไม่แตกฉาน ฉะนั้นนี่จึงเป็นเรื่องที่ทำให้เขาต้องอับอายขายหน้าอย่างแน่นอน
ผู้ประมูลกล่าวว่า “หากท่านใดที่เสนอราคาพลาดถึงสามครั้ง ก็จะถูกตัดสิทธิ์ในการประมูลทันที ทุกท่านจะต้องพิจารณาให้รอบครอบและชัดเจนเสียก่อนค่อยเสนอราคา โปรดอย่าหุนหันพลันแล่นจนเกินไป”
มีคนชนะราคาของโม่ซวนและทำการประมูลต่อไป แต่ในมือของโม่ซวนไม่มีสมุนไพรวิญญาณที่สามารถแข่งขันได้ต่อไปแล้ว เช่นนั้นตอนนี้มู่เฉียนซีจึงเอ่ยปากออกมา
“ยากึ่งเทพผลอู่เฉิน อายุสองหมื่นปี หนึ่งเม็ด!”
มีคนตะลึงงันไปแล้ว “ผลอู่เฉิน นั่นมันคืออะไรกัน? มียากึ่งเทพเช่นนั้นอยู่ด้วยหรือ?”
“เจ้าเด็กน้อยนี่พูดจาไร้สาระสินะ! เสียแรงที่ข้ารู้สึกว่านางเป็นนักปรุงยาอัจฉริยะคนหนึ่ง ข้าชื่นชมนางมากทีเดียว!”
“……”
สมุนไพรวิญญาณที่มู่เฉียนซีเสนอออกมา คนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ไม่มีผู้ใดรู้จักเลย
แต่ทว่าปรมาจารย์ที่อยู่บนเวทีการประมูลหลายท่านกล่าวว่า “ข้าเคยได้ยินชื่อสมุนไพรวิญญาณนี้ ตะ…แต่ก็ไม่มีวิธีในการยืนยัน…”
ปรมาจารย์เหล่านี้ต่างก็มีอายุที่มากแล้ว โดยทั่วไปแล้วไม่มีสมุนไพรวิญญาณไหนที่พวกเขาไม่รู้จักเลย
แต่ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้ปิดบังเมื่อพบเจอกับสมุนไพรวิญญาณที่ไม่รู้จัก อีกทั้งยังพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาด้วย และหลังจากนั้นพวกเขาก็มองไปทางมู่เฉียนซีด้วยสีหน้าที่อยากรู้อยากเห็น
ผู้อาวุโสหลายท่านนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสามารถเท่านั้น แต่ยังมีศีลธรรมที่ทำให้ผู้คนเชื่อถือได้อีกด้วย ถึงสามารถโน้มน้าวผู้คนได้ และนั่นก็เป็นสาเหตุที่พวกเขาถูกเชิญมาที่นี่
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้ามีบันทึกสมุนไพรวิญญาณโบราณที่หายสาปสูญไปแล้วเล่มหนึ่ง หากท่านผู้อาวุโสไม่เชื่อละก็สามารถลองอ่านดูได้ ข้าไม่ได้ปลอมมันขึ้นมาแน่นอน”
จากนั้นบันทึกโบราณเล่มหนึ่งก็ถูกส่งขึ้นไป และเหล่าปรมาจารย์หลายท่านก็รอที่จะได้อ่านไม่ไหวกันแล้ว ผลก็คือ…
พวกเขาตื่นเต้นกันอย่างที่สุด แม่สาวน้อยผู้นี้จะใจกว้างเกินไปแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะเอาบันทึกเช่นนี้ออกมาให้คนอื่นดูได้อย่างง่ายดาย
“ผลอู่เฉินนี้มีราคามากกว่าสมุนไพรวิญญาณที่ปรมาจารย์หลงเสนอออกมามาก”
ประโยคที่น่าตกใจเช่นนี้ ทำให้ทุกคนต่างพากันตะลึงงัน
พวกเขาไม่รู้ว่าผลอู่เฉินนี้คืออะไรกันแน่ แม้คิดที่จะเสนอราคาแต่ก็ไม่อาจตัดสินใจได้
“แม่นางมู่ บันทึกสมุนไพรวิญญาณเล่มนั้นให้พวกเราดูหน่อยจะได้หรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าวพลางขมวดคิ้วมุ่น “มีสิทธิ์อะไร? ทุกท่านเป็นคู่แข่งของข้า เห็นข้าเป็นคนโง่เง่าที่ยอมให้พวกท่านดูหรืออย่างไร!”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของมู่เฉียนซี พวกเขาก็ออกไปอย่างโกรธเคือง แม่สาวน้อยผู้นี้จะไร้เหตุผลเกินไปแล้ว
เมื่อไม่แน่ใจว่าราคาของเจ้าสิ่งนี้มีค่ามากเพียงใด พวกเขาจึงไม่กล้าเสี่ยงที่จะล้มเหลว เช่นนั้นจึงทำได้เพียงให้มู่เฉียนซีประมูลไปได้สำเร็จ
ต่อมามู่เฉียนซีต่างก็ประมูลด้วยสมุนไพรวิญญาณที่พวกเขาต่างก็ไม่รู้จักชื่อ ซึ่งชื่อเหล่านั้นล้วนเหมือนคำพูดที่ไร้สาระอย่างไรอย่างนั้น และมันก็ทำให้พวกเขาต้องกลัดกลุ่มจนแทบจะกระอักเลือดออกมาอยู่แล้ว
แต่ทว่าเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายที่ได้รับบันทึกสมุนไพรวิญญาณโบราณไปต่างก็ไม่เอ่ยปากกล่าวอะไรออกมา แน่นอนว่ามันทำให้พวกเขาไม่มีคำอะไรที่พูดได้แล้วเช่นกัน
มีคนที่คิดอยากจะเสนอสมุนไพรวิญญาณที่ล้ำค่ากว่าแข่งกับมู่เฉียนซี ถึงจะมีคนที่สามารถทำสำเร็จ แต่ทว่าส่วนใหญ่เมื่อถึงเวลานั้นก็ล้วนแล้วแต่ล้มเหลว และจำนวนที่ล้มเหลวนั้นก็ยิ่งเยอะมากขึ้นเรื่อย ๆ จนพวกเค้าทำได้เพียงแค่ระมัดระวังเท่านั้น
ทุกคนต่างก็ตื่นตกใจเป็นอย่างมาก แล้วแม่นางมู้ผู้นี้โผล่มากจากที่ใดกันแน่?
สมุนไพรวิญญาณแต่ละชนิดถึงจะไม่รู้ก็ช่างปะไร ถึงอย่างไรก็มีสิ่งที่เหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นและก็คือยาที่มีอายุที่สูงอย่างน่ามหัศจรรย์
มู่เฉียนซีเอาสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นออกมาโดยไม่ปวดใจเลยแม้แต่น้อย สมุนไพรวิญญาณที่มีอายุมากส่วนใหญ่เก็บได้จากอาณาเขตของเผ่ามังกรและเผ่าหงส์ และยังมีที่ได้มาจากภายนอกบ้างเป็นครั้งคราว
เมื่อถึงเวลาที่งานประมูลใกล้จะสิ้นสุดลง ทุกคนต่างก็รู้สึกโมโหจนแทบอยากจะกระอักเลือดออกมา
เนื่องจากพวกเขาได้ค้นพบว่า สมุนไพรวิญญาณทั้งหมดตกอยู่ในมือของหอหมอปีศาจแล้ว และพวกเขาก็ไม่ได้แม้แต่ขนสักเส้นเดียว
รู้สึกว่าการประมูลครั้งนี้จะถูกหอหมอปีศาจเหมาไปมากกว่าครึ่ง สีหน้าของผู้นำตระกูลตานเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดขึ้นมาทันที แม่สาวน้อยผู้นี้จะอวดดีเกินไปแล้ว
ผู้นำตระกูลตานทุ่มเทกำลังทั้งหมดในการต่อสู้กับมู่เฉียนซี ยาลูกกลอนที่สะสมไว้ของตระกูลตานก็มีอยู่ไม่น้อย เช่นนั้นจึงได้ต่อสู้กับมู่เฉียนซีได้หลายสิบรอบ
สุดท้ายแล้วท่านผุ้อาวุโสท่านหนึ่งก็กล่าวออกมาว่า “สิ่งนี้ไม่ได้ ยังคงต่างกันอยู่นิดหน่อย!”
สีหน้าของผู้นำตระกูลเคร่งขรึมขึ้นทันที หลังจากนั้นเขาก็เสนอราคาต่อไป และโอกาสในการตัดสินใจผิดพลาดทั้งสามครั้งของเขาก็ได้ใช้จนหมดสิ้นแล้ว
โชคดีที่คนของตระกูลตานมาค่อนข้างมาก ด้วยการเสนอของแต่ละคน ทำให้มีสมุนไพรวิญญาณนานาชนิดได้ถูกผลัดกันเสนอขึ้นมา บวกกับมีจำนวนมากด้วย ทำให้เมื่อต่อสู้กันไปเช่นนี้ จึงทำให้สามารถต่อสู้กับมู่เฉียนซีอยู่หลายรอบเลยทีเดียว
แต่ทว่ามู่เฉียนซีมีสมุนไพรวิญญาณล้ำค่ามากกว่าที่พวกเขาได้คาดการณ์เอาไว้ และมู่เฉียนซีก็ไม่ล่าถอยจนกว่าตระกลูตานจะล้มเหลวไปอย่างสิ้นเชิงเสียก่อน
และสุดท้ายสมุนไพรวิญญาณนี้ก็ได้ไปตกอยู่ในมือของมู่เฉียนซี อีกทั้งสมุนไพรวิญญาณนี้ยังเป็นชิ้นสุดท้ายแล้วด้วย
แล้วมันก็เป็นเช่นเดียวกับที่มู่เฉียนซีได้กล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้ นั่นก็คือเหมาทั้งงาน และก็เอามันมาให้หมด
ผู้คนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ต่างมองไปที่พวกของมู่เฉียนซีด้วยสายตาที่ต่างกันออกไปแล้ว พวกเขาสามารถนำสมุนไพรวิญญาณออกมาได้มากมายถึงเพียงนี้ เช่นนั้นมันจะเป็นไปได้ไหมว่าผู้ที่คอยสนับสนุนหอหมอปีศาจอยู่เบื้องหลังจะเป็นนักปรุงยาโบราณสักคนหนึ่ง