ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1887 ตระกลูตานก่อจลาจล
พวกเขารู้สึกว่า หากไม่ใช่เพราะมีผู้แข็งแกร่งสักคนหนึ่งอยู่เบื้องหลัง แล้วพวกเขาจะมีความกล้าหาญและรู้รายละเอียดเช่นนี้ได้อย่างไร
ขณะเดียวกัน สายตาที่พวกเขามองตระกูลตานก็เริ่มต่างออกไป มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านผู้นำตระกูลตาน สมุนไพรวิญญาณของตระกูลพวกท่านนั้นมีมากมายเลยทีเดียว! ถือว่าวันนี้ข้าได้เปิดหูเปิดตามากเหลือเกิน”
สีหน้าของทุกคนในตระกูลตานต่างพากันแข็งทื่อ งานประมูลในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพลาดท่าทำให้สมบัติของตระกูลที่สะสมไว้รั่วไหลออกมาจนหมดแล้ว!
และคาดว่าทุกคนภายในสถานที่แห่งนี้คงจะรู้แล้วว่าตระกูลตานของพวกเขามีสมุนไพรวิญญาณชนิดใดบ้าง
พูดกันโดยทั่วไปแล้ว สมุนไพรวิญญาณที่ล้ำค่าแต่ละชนิดถือว่าเป็นความลับที่สำคัญมากของผู้นำตระกูลของพวกเขา ซึ่งมันก็ไม่สามารถให้ผู้อื่นล่วงรู้ได้
แต่ทว่าเพื่อที่พวกเขาจะสามารถต่อกรกับหอหมอปีศาจในคราวนี้ได้ จึงไม่อาจสนใจเรื่องเล็กน้อยได้มากมายเท่าไรนัก และมันก็ทำให้พวกเขาต้องเผยไพ่ตายทั้งหมดของตระกูลตานออกมาอย่างหุนหันพลันแล่น
สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้คู่แข่งรู้เบื้องลึกของพวกเขาเท่านั้น แต่มันยังอาจจะทำให้มีการก่อความวุ่นวายจากคนที่สนใจต่อสมุนไพรวิญญาณอันล้ำค่าที่พวกเขาครอบครองอยู่ และเมื่อถึงเวลานั้นคงจะมีแต่ตระกูลตานที่ต้องปวดหัว
ผู้นำตระกูลตานกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า “หอหมอปีศาจก็ทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตาไปไม่น้อยเช่นกัน จากนี้ไปที่หอหมอปีศาจคงจะคึกคักมากยิ่งกว่านี้เป็นแน่”
หากตระกูลตานของพวกเขาต้องลำบาก แล้วหอหมอปีศาจที่นำไพ่ตายออกมามากมายถึงเพียงนี้ จะผ่านพ้นไปอย่างเป็นสุขได้อย่างนั้นหรือ?
เขาไหนเลยจะรู้ว่า ยาลูกกลอนเหล่านั้นไม่ได้เป็นไพ่ตายของมู่เฉียนซีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และสมุนไพรวิญญาณของมู่เฉียนซีที่ล้ำค่ายิ่งกว่านี้ก็ยังมีอยู่อีกมากมายเป็นกระบุงเลยทีเดียว!
การประมูลสมุนไพรวิญญาณครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้ว ส่วนคนอื่นก็แค่มาร่วมสนุกพอเป็นพิธีก็เท่านั้น
ถึงจะมีสมุนพรวิญญาณที่อยากได้มากเพียงใดแต่ทั้งหมดนั้นก็ไม่ได้มาอยู่ดี หอหมอปีศาจไม่เพียงแต่ร่ำรวยและมีอำนาจเท่านั้น แต่ความสามารถของหนุ่มสาวทั้งสองคนนั้นยังแข็งแกร่งมากอีกด้วย และพวกเขาก็ได้ประมูลสิ่งที่พวกเขาต้องการไปจนหมด
หลังจากงานประมูลสิ้นสุดลง หอหมอปีศาจก็ได้ส่งมอบสมุนไพรวิญญาณก่อนหน้านี้ขึ้นไปทีละชิ้น และดูเหมือนว่าสมุนไพรวิญญาณที่ล้ำค่าเหล่านี้นางจ่ายออกไปอย่างไม่ปวดใจเลยแม้แต่น้อย
พวกเขาได้เอาสมุนไพรวิญญาณไปตรวจสอบ และเพียงไม่นานก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น
“ไม่คิดเลยว่าหอหมอปีศาจจะนำสมุนไพรวิญญาณมาหลอกลวงเราเช่นนี้ วันนี้พวกเจ้าจะต้องอธิบายกับพวกเรา” ผู้นำตระกูลตานกล่าวด้วยความโกรธเคือง
“ของปลอม? ผู้ใดเป็นคนพูดว่าปลอมกัน?” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ผู้ประเมินได้ทำการตรวจสอบมาแล้ว ภายในสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นมีหลายชนิดที่ไม่มีพลังทางวิญญาณเลยและเป็นเพียงแค่ของปลอมเท่านั้น หากเจ้าไม่ยอมรับผิดชอบแล้วละก็ ข้าสามารถให้คนที่อยู่ที่นี่มาเป็นพยายานได้”
เพียงไม่นาน ก็ได้มีคนหยิบเอากล่องหยกหลายใบยื่นมาตรงหน้าของพวกเขา
“นะ..นี่คือสมุนไพรวิญญาณเช่นนั้นหรือ?”
“ดูท่าแล้วเช่นนี้น่าจะเป็นเพียงแค่วัชพืชเท่านั้น! มันไม่มีพลังวิญญาณเลยแม้แต่น้อย จะไปเป็นยากึ่งเทพได้เช่นไร!”
“ข้าก็คิดว่าหอหมอปีศาจจะเก่งกาจสักแค่ไหน! ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแค่พวกชอบข่มขวัญเท่านั้น”
มู่เฉียนซีกวาดตามองไปที่สุมนไพรวิญญาณเหล่านั้น นั่นคือสมุนไพรวิญญาณที่นางเป็นคนเอาออกมา เพียงแต่ว่ามันถูกใครบางคนทำอะไรบางอย่าง และเปลี่ยนให้กลายเป็นเพียงของไร้ค่า ซึ่งคาดว่าตระกูลตานน่าจะวางแผนนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว
ผู้นำตระกูลตานกล่าวว่า “หอหมอปีศาจของพวกเขาฝ่าฝืนกฏของงานชุมนุมแลกเปลี่ยนสมุนไพรวิญญาณในครั้งนี้ จับพวกเขามาให้ข้าซะ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเขาจะต้องให้คำอธิบายแก่พวกเราและต้องชดใช้ทุกท่านด้วย”
“ยาลูกกลอนของข้าไม่มีปัญหา ข้ารู้สึกว่าพวกเจ้าต้องทำอะไรบางอย่างเป็นแน่”
“พวกข้าเปิดโปงไปถึงขนาดนี้แล้ว ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะไม่ยอมรับ ในเมื่อไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร สุดท้ายแล้วพวกเจ้าก็จะยอมรับมันเอง” ทันทีที่เจ้าตระกูลออกคำสั่ง พวกเขาที่ซุ่มโจมตีอยู่ก็พุ่งทะยานออกมา
ครั้นคนของสำนักหลางซิงเหล่านั้นต่างก็เคลื่อนไหวด้วยความยินดี “หลอกหลวง เป็นเช่นนี้พวกข้าถึงไม่สามารถประมูลสมุนไพรวิญญาณได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว หอหมอปีศาจนี้ช่างรนหาที่ตายกันเสียจริง ๆ”
ยาลูกกลอนของตระกูลตานไม่สามารถสู้กับหอหมอปีศาจได้ ไม่ว่าจะต่อสู้กันด้วยราคาหรือจะต่อสู้กันด้วยคุณภาพและการแข่งขันทางการตลาด และสุดท้ายพวกเขาก็เลือกวิธีการเช่นนี้ นั่นก็คือการทำลายชื่อเสียงของหอหมอปีศาจไปเสีย
ในเวลานี้คนจากกองกำลังระดับสี่ที่มีชื่อเสียงต่างก็อยู่ที่นี่ อีกทั้งนักปรุงยาที่มีชื่อเสียงก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน และมันก็ชัดเจนแล้วว่าหอหมอปีศาจได้ทำสมุนไพรวิญญาณปลอมขึ้นมาเพื่อหลอกลวงทุกคน แม้ว่าจะมีคุณชายจูเชว่คอยหนุนหลัง แต่ก็คงไม่สามารถที่จะทนอยู่ที่เมืองทางทิศใต้ต่อไปได้อีก
ถึงจะไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร รอให้จับคนได้แล้ว หากไม่ยอมรับก็ต้องยอมรับอยู่ดี
ยอดฝีมือทั้งหมดที่ตระกูลตานรวบรวมมาในครั้งนี้ต่างพุ่งตรงออกมา และมันก็ไม่ได้เป็นการต่อสู้สร้างความวุ่นวายเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมือนตอนลอบสังหารมู่เฉียนซีในครั้งที่แล้วด้วย
คนอื่น ๆ ต่างล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ในครั้งนี้
มีผู้คนไม่น้อยที่รู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าหอหมอปีศาจนั้นแข็งแกร่ง และตระกูลตานก็ต้องการที่จะเล่นงานกับหอหมอปีศาจ
มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกที่จะรู้จักเอาตัวรอด อีกทั้งยังมีกองกำลังบางส่วนที่ถูกตระกูลตานเกลี้ยกล่อมมา และเลือกที่จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับหอหมอปีศาจอีกด้วย
มู่เฉียนซีคาดการณ์ไว้แล้วว่าวันนี้จะต้องไม่มีเรื่องดีเป็นแน่ และตระกูลตานก็ลงมืออย่างรีบร้อนเกินไป
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกเจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าหอหมอปีศาจจะสามารถรังแกได้ง่ายดายเช่นนั้น? ต่อสู้ก็ต่อสู้สิ คิดว่าข้าจะกลัวพวกผู้นำตระกูลตานจริง ๆ หรือ?”
โม่ซวนสั่งการว่า “ลงมือได้!”
พวกเขาก็พาคนมาด้วยเช่นกัน และไม่ได้มีเพียงแค่พาคนมาเท่านั้น แต่ยังมีเหล่าหุ่นเชิดที่มู่เฉียนซีได้รับมาตอนแรกอีกด้วย
“ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะเตรียมตัวมาแล้ว ภายในใจจะต้องมีอะไรผิดปกติเป็นแน่!” เจ้าตระกูลกล่าวด้วยเสียงที่เย็นชา
“ไม่คิดเลยว่าจะมีหุ่นเชิดที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้”
“……”
โครมมม!
การต่อสู้ที่วุ่นวายปะทุขึ้น และการที่ตระกูลตานโจมตีมู่เฉียนซีที่นี่ ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์มากเท่าไรนัก
“ไปจัดการนังสาวน้อยผู้นั้นก่อน แล้วก็คุณชายโม่ซวนด้วย!”
แน่นอนว่าคนที่คุ้มครองพวกเขานั้นแข็งแกร่งมาก อีกทั้งยังมีความสามารถที่เทียบเท่ากับคนของตระกูลตานเหล่านั้นได้เลย แต่เขาพวกเขาค้นพบแล้วว่ามู่เฉียนซีและโม่ซวนไม่ได้แข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด
มู่เฉียนซีเป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเจ็ดคนหนึ่งเท่านั้น แม้ว่าระดับพลังการต่อสู้ของนางจะก้าวหน้าไปไกล แต่เมื่อต้องมาพบเจอกับผู้แข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมก็ยังเกินกำลังที่จะสู้กลับอยู่ดี
โม่ซวนเองก็เป็นแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสูงเท่านั้น อีกทั้งร่างกายก็ยังคงอ่อนแออยู่มาก และคาดว่าหากมีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสูงเข้ามาใกล้เพียงแค่เขาขยับปลายนิ้วก็คงสามารถทำให้เขาตายได้แล้ว
หลังจากที่คนตระกูลตานจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังพุ่งเข้ามา พวกเขาก็ร้องกล่าวอย่างตื่นตกใจว่า “คุ้มครองคุณชาย!”
พัดวิหคเฟิงหลิงถูกกางออกอย่างกะทันหัน และมู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นอย่างเย็นชาว่า “พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
ตูมมมม โครมมม!
แม้ว่าการโจมตีของธาตุวายุจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่อาจเป็นภัยคุกคามต่อผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ได้
ในฐานะที่ตระกูลตานมีความสามารถถึงระดับสี่ ทำให้ยอดฝีมือต่างก็เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์อยู่ไม่น้อยเลย มีบางคนที่พุ่งเข้ามาบุกทะลวงเกาะป้องกัน และทะยานไปทางมู่เฉียนซี
ตูมมม!
เงาร่างสีดำร่างหนึ่งพุ่งทะยานออกมา พร้อมด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของเขา
กระบี่สีดำสนิทกวัดแกว่งไปทั่ว และผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำเหลานั้นก็ได้กลายมาเป็นวิญญาณภายใต้คมกระบี่ของเขา
คนอื่นรีบล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว ฉู่หลีกวาดสายตาไปทางพวกเขาแล้วกล่าวว่า “ผู้ใดกล้าเข้าใกล้ มันต้องตาย!”
เมื่อมู่เฉียนซีเข้าไปใกล้ก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของฉู่หลี และนางก็ได้กล่าวถามว่า “ศิษย์พี่ พลังอำนาจตอนนี้ของท่าน ท่านสามารถควบคุมมันได้โดยไม่มีปัญหาเช่นนั้นหรือ?”
พลังนี้ทั้งแข็งแกร่งและบ้าคลั่ง ซึ่งมันก็แตกต่างไปจากพลังวิญญาณในแต่ละธาตุอย่างสิ้นเชิง
ฉู่หลีกล่าวว่า “ศิษย์น้องโปรดวางใจ นี่เป็นเพียงพลังเดิมของข้าเท่านั้น”
“ในฐานะที่เป็นศิษย์พี่ แน่นอนว่าต้องปกป้องศิษย์น้องอยู่แล้ว!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ศิษย์พี่ ระวังด้วย! ไม่นานพวกเราก็สามารถฝ่าวงล้อมนี้ไปได้แล้ว เพียงแต่หากไปเช่นนี้แล้วละก็ มันจะเป็นการเอาเปรียบตระกูลตานมากเกินไป”
ร่างสีดำนั้นสกัดกั้นศัตรูไว้ให้มู่เฉียนซี
ด้วยความสามารถเพียงพริบตาเดียว พวกเขาก็ได้ค้นพบว่าร่างสีม่วงนั้นหายไปจากด้านหลังของฉู่หลีอย่างคาดไม่ถึงเสียแล้ว
มู่เฉียนซีได้ใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาระดับสูงสุด ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขายากที่หานางเจอได้ ในตอนที่พวกเขาค้นพบกลิ่นอายของมู่เฉียนซี ก็เป็นตอนเดียวกับที่นางไปปรากฏตัวอยู่ข้างกายของคุณหนูตานอย่างกะทันหัน และในเวลานี้ก็ได้ใช้พัดที่เย็นยะเยือกจ่อไปที่ต้นคอของคุณหนูตระกูลตานแล้ว