ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1892 เคารพนิรันดร์
“ตอนนี้ข้าอยากจะฝังตัวเองแล้วนอนหลับไปสักสองสามหมื่นปี”
ในฐานะที่เขาเป็นนักปรุงยาที่เก่งกาจที่สุด การที่เสน่ห์ของเขาสู้เม็ดยาลูกกลอนขั้นเทวะเม็ดหนึ่งไม่ได้นั้น ช่างเป็นอะไรที่ทำร้ายจิตใจเขาเป็นอย่างยิ่ง
มู่เฉียนซีไม่มีทางปล่อยให้เขามีสภาพย่ำแย่ต่อไปอย่างแน่นอน นางจึงกระชากตัวนิรันดร์ขึ้นมาจากพุ่มดอกไม้ “นิรันดร์ เร็วเข้า!”
”หากเจ้าไม่ทำ ก็ลงไปช่วยตรงนู้น”
เมื่อจูเชว่รวมพลังกับไป๋เจ๋อแล้ว ก็เป็นพลังที่ไม่อาจดูแคลนได้ ทว่าสำนักหลางซิงก็เป็นผู้ที่มีอิทธิพลในดินแดนทางทิศใต้เช่นกัน
พวกเขายังมีมู่หลินหลางที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นอิทธิพลของพวกเขาจึงไม่ธรรมดา
เมื่อประจวบรวมกับตระกูลตานที่รวบรวมอิทธิพลจากสำนักน้อยใหญ่ต่าง ๆ แล้ว ถึงแม้หอหมอปีศาจจะไม่ได้รู้สึกเกรงกลัว ทว่าก็เป็นความวุ่นวายและยุ่งยากอยู่ไม่น้อย
นิรันดร์ทอดมองไปยังมู่เฉียนซีแล้วกล่าว “ข้าจะหลอมยาก่อน แล้วค่อยไปช่วย!”
นิรันดร์ใช้ดวงตาอันพราวเสน่ห์ซึ่งมีประกายความเย็นชาแผ่ซ่านออกมาสาดส่องไปยังพวกไร้ค่าเหล่านั้น นิรันดร์ที่ล้มเหลวในการสารภาพรักก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างยิ่ง คนเหล่านี้จึงถูกมองเป็นที่ระบายความโกรธของนิรันดร์ไปโดยปริยาย
ในขณะนั้นเอง คนเหล่านั้นก็สัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบที่วูบวาบไปทั่วร่างกายอย่างไร้สาเหตุ
ทว่าในตอนนี้ก็ไม่มีผู้ใดเก็บเอามาใส่ใจ และยังคงทำการโจมตีหอหมอปีศาจต่อไป
เมื่อเทียบกับพลังทำลายล้างของการต่อสู้อันแสนอลหม่านแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ก็ให้ความสนใจคนทั้งสามที่ล่องลอยอยู่กลางเวหาเสียมากกว่า
ทันทีที่นิรันดร์โบกสะบัดมือ หม้อยาหม้อหนึ่งก็ลอยขึ้นมากลางเวหา
ครานี้มู่เฉียนซีได้คอยช่วยเหลือนิรันดร์อยู่ข้าง ๆ อีกทั้งยังเตรียมสมุนไพรวิญญาณให้นิรันดร์เป็นที่เรียบร้อย
นิรันดร์ฉีกยิ้มกว้างแล้วกล่าว “มีศิษย์ที่รักคอยช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ แบบนี้ พลังของข้าเต็มเปี่ยมจนแทบจะล้นเลยทีเดียว!”
“หากศิษย์ที่รักจูบข้าอีกสักหน่อย ข้าคงจะทำได้สมบูรณ์แบบกว่านี้แน่ ๆ”
ไม่เพียงแต่นิรันดร์จะไม่ได้รับจูบจากมู่เฉียนซีเท่านั้น แต่ยังถูกฉู่หลีหัวเราะเยาะใส่อีกด้วย
“หากแม้กระทั่งยาลูกกลอนขั้นเทวะเจ้ายังกลั่นออกมาได้ไม่ดีละก็ ตอนนี้เจ้าก็ระเบิดตัวเองตายไปได้เลย!”
นิรันดร์รู้สึกโกรธเป็นอย่างยิ่ง! หากไม่หักหน้ากันสักครั้ง เจ้านั่นจะตายเลยหรืออย่างไร?
เขากล่าวด้วยความหยิ่งยโส “ก็เพียงแค่ยาลูกกลอนขั้นเทวะเท่านั้น เรื่องเล็กจะตายไป!”
นิรันดร์หยุดแสดงท่าทีเย่อหยิ่งและเจ้าชู้ประตูดินลง ถึงแม้ท่าทางของเขาเหล่านั้นจะเป็นอะไรที่น่าดึงดูดก็ตาม ทว่าเมื่อมองดูแล้วก็ทำให้รู้สึกตกตะลึงไม่น้อย
“ศิษย์ที่รัก ไฟ!”
ถึงแม้จะสามารถใช้ไฟอื่นได้ ทว่าไฟที่ดีที่สุดก็ย่อมต้องเป็นไฟของราชาแห่งอัคคี
น่าเสียดายที่กาลก่อนพิฆาตวิญญาณไม่อนุญาตให้มังกรเพลิงออกมาช่วยเขาทำงาน ทว่าตอนนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว
“มังกรเพลิง ไปเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าวกับมังกรเพลิง
“ขอรับ นายท่าน!” มังกรเพลิงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“ดอกเยว่เซิง!” เมื่อเขาเอ่ยถึงชื่อสมุนไพรวิญญาณ มู่เฉียนซีก็นำสมุนไพรวิญญาณนั้นให้กับเขา
นิรันดร์รู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างยิ่ง นี่มันเหมือนสุภาษิตที่ว่าผัวหาบเมียคอนชัด ๆ!
เมื่อครู่ยังมีท่าทีจริงจังอยู่แท้ ๆ แต่ตอนนี้กลับยิ้มร่าราวกับดอกทานตะวันก็มิปานเช่นนี้อีกแล้ว
“ผลอายุวัฒนะ!”
“……”
ถึงแม้นิรันดร์จะมีความคิดต่าง ๆ มากมายอยู่ในหัว ทว่ายามเขาหลอมยานั้นก็ไม่ได้มีความสับสนแต่อย่างใด
ครานี้ทุก ๆ คนก็รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง “ท่าน…ท่านผู้นั้นกำลังหลอมยาอยู่หรือ?”
“ตอนนี้หอหมอปีศาจถูกล้อมโจมตีอยู่ แต่พวกเขายังมีกระจิตกระใจมาหลอมยาระดับสูงอีก หรือหอหมอปีศาจจะมีความมั่นใจมากจริง ๆ?”
“หรือท่านผู้นั้นจะเป็นหมอปีศาจผู้ลึกลับที่ผู้คนล่ำลือกัน? นี่เขากำลังหลอมยาลูกกลอนอย่างนั้นหรือ?”
ดอกท้องามเบ่งบานส่งกลิ่นหอมไปไกลพันลี้ ครั้นได้เห็นฝีมือการหลอมยาของนิรันดร์ที่ราวกับเทพเซียนลงมาหลอมยาบนโลกมนุษย์ด้วยตนเองนั้น ก็ราวกับว่าพวกเขาถูกสะกดไว้จนไม่อาจสนใจสิ่งใดได้อีก
จูเชว่เบ้ปากแล้วกล่าว “เจ้านี่ จะหลอมยาก็หลอมไปสิ จะมานั่งแสดงท่าทางราวกับจะร่ายระบำอย่างนั้นไปทำไม หากไม่รู้ก็คงนึกว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของเขาเสียแล้ว!”
ไป๋เจ๋อตกตะลึงไปในทันที เมื่อได้เห็นท่าทางที่ราวกับจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับหม้อยา รวมทั้งท่าทางที่ตั้งอกตั้งใจหลอมยาของเขานั้น เขาก็อดรู้สึกตกตะลึงเสียไม่ได้
ไม่เพียงแต่ไป๋เจ๋อเท่านั้นที่จะรู้สึกประหลาดใจ เมื่อคนอื่น ๆ ได้เห็นนักปรุงยาผู้นี้ พวกเขาก็รู้สึกตกตะลึงไม่ต่างกัน
พวกเขาได้ตกสู่หลุมพรางลึกแล้ว พวกเขาถูกนักปรุงยาที่กำลังหลอมยาลูกกลอนดึงดูดความสนใจไว้จนไม่อาจฉุดรั้งตัวเองขึ้นได้ เพียงแค่ได้มองจากที่ไกล ๆ ก็สามารถทำให้บรรลุ และยกระดับขึ้นได้ในทันที…
ปัง ปัง ปัง!
การที่สำนักหลางซิงโอบล้อมโจมตีหอหมอปีศาจในครั้งนี้ ก็ได้รับความสนใจจากนักปรุงยาจำนวนไม่น้อย ในขณะที่การหลอมยาของนิรันดร์ยิ่งลึกล้ำขึ้นเรื่อย ๆ ความน่าเกรงขามก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ในขณะนี้พวกเขาจึงรู้สึกเคารพนับถือและศรัทธาอย่างยิ่งยวด
ดังนั้นพวกเขาจึงพากันคุกเข่าเพื่อแสดงความเคารพนับถือไปยังทิศที่นิรันดร์หลอมยาลูกกลอนอยู่ในทันที
“นายท่าน นายท่านเป็นอะไรไป?”
“อาจารย์!”
“……”
ยิ่งเป็นนักปรุงยาที่มีฝีมือขั้นเทพ ผลกระทบที่พวกเขาได้รับก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขามีศักดิ์สถานะสูงส่ง นิสัยเย่อหยิ่งไม่สนผู้ใด ทว่าอยู่ ๆ ก็คุกเข่าทำความเคารพ อีกทั้งยังทำการคารวะอย่างเต็มรูปแบบ ครั้นคุกเข่าลงแล้วก็ไม่ยอมลุกขึ้นอีก จึงทำให้ผู้คนที่อยู่รอบข้างรู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง
สถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงบุคคลภายนอกเท่านั้น แต่ยังมีคนตระกูลตานอีกด้วย คนของตระกูลตานส่วนใหญ่เป็นนักปรุงยา ถึงแม้ก่อนหน้านี้พวกเขาจะสนใจเพียงการสู้รบเท่านั้น และไม่ได้สนใจนิรันดร์ที่ล่องลอยอยู่กลางเวหาแต่อย่างใด ทว่าในครานี้พวกเขาล้วนถูกมวลพลังนั้นดึงดูดไว้จนต้องหักเหสายตาไปมองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพียงได้มองแค่ปราดเดียว พวกเขาก็ไม่อาจละสายตาได้อีก
ตุบ ตุบ ตุบ!
พวกเขาแต่ละคนก็พากันคุกเข่าลงกับพื้น ท่าทางนั้นดูเคารพและศรัทธากว่าการได้เจออาจารย์ของพวกเขาเองเสียอีก
ในขณะนั้นเองก็มีใครบางคนที่ทำการลอบโจมตีไป๋เจ๋อ
ปัง!
จูเชว่ได้ป้องกันพลังที่จะเข้ามาโจมตีไป๋เจ๋อไว้ได้ จูเชว่กล่าวด้วยท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย “ซวน ในยามนี้เจ้าก็ยังเหม่อลอยได้ เจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่หรือไม่?”
ไป๋เจ๋อทอดมองไปยังนิรันดร์ “ท่านนิรันดร์…เขาสุดยอดมากจริง ๆ!”
“ข้ารู้หรอกน่า! แต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกกระมัง!”
จูเชว่ไม่ได้เป็นนักปรุงยา แน่นอนว่าเขาจึงไม่ได้มีความรู้สึกร่วมเฉกเช่นนักปรุงยาคนอื่น ๆ มากมายขนาดนั้น ผลปรากฎว่าเมื่อได้เห็นคนของตระกูลตานแล้ว เขาก็พบว่าคนตระกูลตานเหล่านั้นก็มีท่าทางไม่ต่างกันแต่อย่างใด?
น่าประหลาดเกินไปแล้ว ที่สุดแล้วเจ้าปีศาจจิ้งจอกนั่นมีความสามารถพิเศษอันใดอยู่จริง ๆ อย่างนั้นหรือ?
ขณะนี้แข้งขาของผู้นำตระกูลตานก็สั่นสะท้านไม่หยุด และไม่คิดสนใจการต่อสู้อีกต่อไป เขารีบทอดมองไปยังนิรันดร์ในทันที
“หะ…เหตุใดหอหมอปีศาจจึงมีคนแบบนี้ได้? มันเป็นไปไม่ได้ นักปรุงยาแบบนี้ไม่ได้หายสาบสูญไปตั้งแต่ยุคโบราณแล้วอย่างนั้นหรือ หากข้ารู้ว่าหอหมอปีศาจมีคนผู้นี้อยู่ แล้วตระกูลตานของข้า…ตระกูลตานของข้าจะกล้ายั่วโทสะได้อย่างไร?”
ในฐานะผู้นำตระกูลของตระกูลที่มีความรู้ด้านการหลอมยามานับไม่ถ้วน ผู้นำตระกูลตานก็ทราบได้ในทันทีว่านี่มันหมายความว่าอย่างไร?
เขาไม่ยอมที่จะคุกเข่า ตอนนี้เป็นพวกเขาเองที่เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีอีกฝ่ายก่อน หากเขายอมคุกเข่าตอนนี้ละก็ พวกเขาตระกูลตานคงต้องอับอายขายขี้หน้าอย่างแน่นอน
เมื่อสมุนไพรวิญญาณทุกชนิดได้ถูกนำลงไปในหม้อหลอมยา และการหลอมยาได้เริ่มดำเนินขึ้นแล้วนั้น ผู้นำตระกูลตานก็เริ่มมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นทั่วทั้งหน้าผากในทันที แข่งขาทั้งสองข้างเริ่มย่อลงเรื่อย ๆ
ตุบ!
ในที่สุดขาของเขาทั้งสองข้างก็ทรุดลงกับพื้น
นี่เป็นภาพเหตุการณ์ที่น่าประหลาดเป็นอย่างยิ่ง ทั้ง ๆ ที่ตระกูลตานเป็นผู้รวบรวมกองกำลังมาอย่างน่าเกรงขามเพื่อโจมตีหอหมอปีศาจแท้ ๆ ทว่าในบัดนี้กลับมาคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าหอหมอปีศาจแทน และถึงแม้คนของพวกเขาส่วนใหญ่จะเป็นนักปรุงก็ตาม
“ท่านผู้นำตระกูล!”
“ท่านผู้อาวุโส!” พวกเขาเหล่านี้ไม่ใช่นักปรุงยาที่มีฝีมือยอดเยี่ม พวกเขาจึงรู้สึกประหลาดใจและตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง ว่าในตอนนี้มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?
มีคนคุกเข่าแสดงความเคารพศรัทธาเป็นจำนวนมาก แล้วพวกเขายังควรจะทำการต่อสู้ต่อไปอีกหรือไม่?
อยู่ ๆ ตระกูลตานก็มีท่าทีเช่นนี้ คนของสำนักหลางซิงจึงรู้สึกโกรธเป็นอย่างยิ่ง
“คนตระกูลตานเหล่านี้ไร้ค่ายิ่งนัก กลับถูกพวกมันหลอกล่อเอาได้ง่าย ๆ ฆ่ามันให้หมด!”
สำนักหลางซิงจำต้องทุ่มกำลังโจมตีอีกฝ่ายอย่างปฏิเสธไม่ได้ จูเชว่กล่าว “ซวน ไป๋เจ๋อ เจ้า…เจ้าใจเย็นก่อน ตอนนี้อีกฝ่าย…”
สถานการณ์เช่นนี้เป็นสถานการณ์ที่มู่เฉียนซีเองก็คาดไม่ถึง
ครั้งก่อนนิรันดร์ได้ร่วมมือกับนางปรุงยา และส่งผลกระทบต่อผู้อื่นอยู่ไม่น้อย ทว่าก็ไม่เคยส่งผลกระทบให้นักปรุงยาทุกคนต้องคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเช่นนี้
นี่เป็นความสามารถของสุดยอดนักปรุงยา เป็นเสน่ห์อันน่าทึ่งของนิรันดร์ อีกอย่างเขาในตอนนี้ก็ยังไม่อาจฟื้นฟูกลับไปในระดับสูงสุดได้ แต่ก็สามารถมาถึงจุดนี้ได้! ดูเหมือนนนางและนิรันดร์จะยังคงห่างชั้นกันอีกมากทีเดียว!
.