ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1895 เมื่อตกต่ำ ผู้คนก็พร้อมซ้ำเติม
แต่ดูเหมือนว่าโม่ซวนจะรู้ว่าจูเชว่ต้องการที่จะพูดอะไร เขาจึงกล่าวว่า “จูเชว่ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะสามารถตัดสินใจได้”
“หากมีนักปรุงยาระดับเทพขั้นที่เก้า ก็ไม่ได้เช่นนั้นหรือ?”
โม่ซวนนิ่งเงียบไป จากนั้นก็เรียกจูเชว่เอาไว้ “นักปรุงยาอย่างท่านนิรันดร์เกรงว่าแม้ผู้อื่นจะใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ก็ยากที่จะเชิญเขาไปได้ แต่ว่า…”
มู่เฉียนซีไม่รู้ว่าพวกเขาคุยเรื่องอะไรอยู่เช่นกัน แต่ว่ามันจะต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากอย่างแน่นอน
สุดท้ายแล้วโม่ซวนก็กล่าวพลางถอนหายใจว่า “ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไร จูเชว่หากพวกเราฝ่าฝืนกฏ เกรงว่าตลอดชีวิตนี้พ่อบุญธรรมคงไม่ยอมรับพวกเราอีกแล้ว ดังนั้นเราจำต้องรักษาบรรทัดฐานเอาไว้”
“ไม่ยอมรับก็ไม่ต้องยอมรับ ข้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ข้า…” และเหมือนว่าริมฝีปากของจูเชว่จะแข็งทื่อไปอย่างไรอย่างนั้น
ดูจากการแสดงออกของพวกเขา มู่เฉียนซีก็สามารถเดาได้หนึ่งถึงสองอย่างแล้ว
นางมองไปทางพวกเขาทั้งสองคน “จูเชว่ โม่ซวน ข้าคิดว่าพวกเจ้าน่าจะอยากช่วยเหลือคนที่สำคัญมากคนหนึ่งอย่างนั้นสินะ! ที่จริงแล้วเขาเป็นโรคอะไรกันแน่ สามารถบอกข้าก่อนได้ ให้ข้าลองวิเคราะห์สักหน่อย! หากข้าหาทางไม่ได้แล้วละก็ เช่นนั้นก็สามารถขอให้นิรันดร์ลงมือได้”
โม่ซวนมองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “เรื่องที่ร่างกายของพ่อบุญธรรมมีปัญหาตรงไหนกันแน่นั้น ความจริงแล้วแม้แต่ข้าก็ยังไม่เข้าใจมันเลย คนที่ชี้แนะการหลอมยาให้กับข้าก็เป็นนักปรุงยาระดับเทพขั้นที่เก้าท่านหนึ่งเช่นกัน เขาก็ยังมองไม่ออกเลย ถึงท่านนิรันดร์แข็งแกร่งกว่าเขามาก แต่ข้าก็ไม่กล้าที่จะมั่นใจได้ว่าเขาจะสามารถหาหนทางได้หรือไม่ บางที…อาจจะไม่มีหนทางเช่นกัน”
มู่เฉียนซีตะลึงงันไปครู่หนึ่ง “แม้แต่นักปรุงยาระดับเทพขั้นที่เก้ายังไม่มีหนทาง ดูท่าแล้วคงจะรับมือยากเป็นแน่ หากพวกเจ้าร้อนใจแล้วละก็ สามารถไปลองดูก่อนได้”
แม้ว่านิรันดร์จะยังตื่นขึ้นมาไม่ได้ แต่หากนางสามารถหาทางบรรเทาให้ได้ก่อนก็ยังดี
จูเชว่กล่าวอย่างกลัดกลุ้ม “ซีซี ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน! แต่แม้แต่ข้าเองก็ไม่รู้ว่าพ่อบุญธรรมอยู่ที่ใด และถึงแม้จะรู้ก็ไม่กล้าพูดอยู่ดี นอกเสียจากว่าพ่อบุญธรรมพูดว่าต้องการพบเจ้าเป็นการส่วนตัวถึงจะทำได้ แต่ทว่าเงื่อนไขก็เหมือนกับที่ข้าบอกไปก่อนหน้านี้…”
“ยังขาดอยู่อีกสามคน ข้าอยากที่จะเอาทั้งสามคนนั้นมามัดเอาไว้ จากนั้นก็ให้เจ้าใช้พิษควบคุมพวกเขาและให้พวกเขายอมรับทุกวิถีทาง เช่นนี้น่าจะสะดวกที่สุดแล้ว”
จูเชว่กระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่พวกเขาแยกทางกันออกไปนอกสถานที่ต่าง ๆ ในตอนแรก น้อยครั้งมากที่จะได้พบกับพ่อบุญธรรมและได้รับข่าวคราวจากพ่อบุญธรรม อีกทั้งทุกครั้งที่ได้รับข่าวคราวก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไรอีกด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หากเจ้าทำเช่นนี้ มันน่าจะกลับตรงกันข้ามเสียมากกว่าน่ะสิ!”
“ข้ารู้ดี” จูเชว่กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“วางใจเถอะ! ข้าจะให้ทำสำเร็จโดยเร็ว เพราะข้าก็อยากที่จะรู้ข้อมูลที่อยู่ในมือของเขามากเช่นกัน และหากข้าสามารถช่วยเหลือเขาเพื่อแลกกับน้ำใจของผู้ยิ่งใหญ่ได้ ข้าก็จะมีเบี้ยที่ทรงอำนาจมากเอาไว้ต่อสู้กับศัตรูของข้าได้ในอนาคต” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ดีมาก ข้าก็จะคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาเหล่านั้นให้กับเจ้า แล้วดูว่ามีโอกาสที่จะวางแผนให้เจ้าใกล้ชิดกับพวกเขาได้หรือไม่ ซีซีของข้าเก่งกาจถึงเพียงนี้ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกเขาจะไม่ชื่นชม!” จูเชว่กล่าวอย่างเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ช่วยเหลือซีซีในบรรทัดฐานที่พ่อบุญธรรมสามารถยอมรับได้ เพื่อทำให้พ่อบุญธรรมให้ความสนใจกับซีซีเร็วขึ้นหน่อย และให้พวกเขาพาซีซีเขาไปพบเขาให้เร็วที่สุดด้วย
สงครามของหอหมอปีศาจในครานี้ ทำให้กองกำลังต่าง ๆ ของดินแดนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และดินแดนทางทิศใต้ต่างมีความหวาดกลัวต่อหอหมอปีศาจ ซึ่งอันที่จริงแล้วผู้สนับสนุนหอหมอปีศาจต่างหากที่น่าสะพรึงกลัว
ตระกูลตานได้พ่ายแพ้ไปแล้ว และในงานประมูลครั้งนี้ก็ได้เปิดเผยไปแล้วว่าตนเองมีสมุนไพรวิญญาณมากมายเพียงใด จึงทำให้ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศที่ถูกความโลภเข้าครอบงำ บุกไปยังตระกูลตาน
สิ่งนี้ทำให้ตระกลูตานที่กำลังสั่นคลอนกลายเป็นผู้ที่ตกต่ำทั้งยังมีผู้คนคอยซ้ำเติมอยู่ไม่ขาดจริง ๆ สุดท้ายก็ถูกลบชื่อออกจากกองกำลังระดับสี่แห่งดินแดนทางทิศใต้ไปอย่างสมบูรณ์
แน่นอนว่าคนที่บุกเขาไปในตระกูลตานเหล่านั้นไม่ได้อะไรกลับมาเลยสักอย่าง “นึกไม่ถึงเลยว่าตระกูลตานจะเคลื่อนย้ายสมุนไพรวิญญาณไปแล้ว!”
“หรือว่าตระกูลตานจะขี้โม้ และเดิมทีตระกูลตานของพวกเขาก็ไม่ได้มีสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นอยู่แล้ว?”
“ซวยจริง! เสียเวลาเปล่าเลย”
ตระกูลตานนั้นจบสิ้นอย่างน่าสังเวช แม้ว่าสำนักหลางซิงจะมีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งจนไม่จบลงอย่างน่าสังเวชเช่นนั้น แต่ก็สูญเสียอย่างสาหัสเช่นกัน อีกทั้งยังโดนสำนักหลินเยว่หัวเราะเยาะอีกด้วย
โชคดีที่คราวนี้พวกเขาดูถูกหอหมอปีศาจมากเกินไป จึงไม่ได้ส่งคนทั้งหมดออกไปต่อสู้ มิเช่นนั้นยอดฝีมือของพวกเขาต้องล้มหายตายไปทั้งหมดเป็นแน่
“เจ้าพวกไร้ประโยชน์ คิดให้ดีว่าจะอธิบายกับฝ่าบาทเช่นไรเถอะ!”
“ขอรับ!”
“ไม่ว่าอย่างไรหอหมอปีศาจนี้ก็ไม่อาจที่จะปล่อยเอาไว้ได้ มีนักปรุงยาระดับเทพขั้นที่เก้าแล้วจะทำไม? แต่กลับไม่เห็นองค์หญิงหลินหลางอยู่ในสายตาได้เช่นนั้นหรือ?”
“ท่านเจ้าสำนัก แต่นักปรุงยาระดับเทพขั้นที่เก้าผู้นั้นไม่ธรรมดานะขอรับ! วันนั้น ปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดนั่น นั่น…”
“มันเป็นเพียงแค่ความเหลื่อมล้ำของมังกรโบราณเท่านั้น ตอนที่เจ้าสำนักของพวกเราติดตามฝ่าบาทไป ก็เคยเห็นนักปรุงยาระดับเทพขั้นที่เก้ามาก่อน เป็นตอนที่นักปรุงยาระดับเทพขั้นที่เก้ากำลังแสดงฉากหลอมยาด้วยความฉูดฉาดจนน่าตื่นตาตื่นใจเช่นนั้น เพียงแต่มันเป็นสิ่งที่มีไว้เอาใจมวลชนที่โง่เขลาเหล่านั้นเท่านั้นเอง” ผู้ช่วยของสำนักหลางซิงกล่าวอย่างเย็นชา
“เจ้าสำนักฉลาดยิ่งนัก เจ้าสำนักเฉียบแหลมที่สุด!”
แม้ว่าเจ้าสำนักของสำนักหลางซิงจะคิดเช่นนี้ แต่ก็รู้ดีว่าความสามารถของผู้ที่คอยหนุนหลังให้หอหมอปีศาจนั้นแข็งแกร่งจนยากที่จะจัดการได้ ฉะนั้นจึงต้องการให้ที่ให้มู่หลินหลางที่คอยสนับสนุนส่งกำลังคนมาช่วยเหลือเพิ่มอีก
หลังจากสิ้นสุดการต่อสู้ กิจการของหอหมอปีศาจก็ดีมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้หม้อหลุนหุยแห่งความตายงานยุ่งขึ้นมาทันที รวมไปถึงโม่ซวนก็งานยุ่งมากเช่นกัน
หลังจากที่ทั้งสองเคยดูนิรันดร์หลอมยาลูกกลอนขั้นเทวะเก้าชั้นจนเข้าใจอย่างชัดแจ้งแล้ว พวกเขาก็ไม่ทันรอให้เรื่องราวเงียบสงบลงก่อนก็ไปเรียนรู้การกลั่นยาเสียแล้ว และทิ้งเรื่องมากมายไว้กับจูเชว่
ตอนนี้นอกจากกิจการของหอหมอปีศาจจะดีแล้ว ก็ยังมีปัญหาใหญ่อีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือเหล่านักปรุงยามากมายต่างพากันมายังหอหมอปีศาจอย่างต่อเนื่อง พวกเขาบอกว่าต้องการที่จะเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ของหมอปีศาจ และเป็นหมอเถื่อนด้วย
จูเชว่กล่าวว่า “นายท่านบอกแล้ว ว่าลูกศิษย์มีคนดียวก็เกินพอ อีกทั้งพรสวรรค์ของพวกเจ้าก็ไม่เพียงพอด้วย!”
“เป็นเพียงแค่หมอเถื่อน อายุของพวกเจ้าก็มากทั้งยังหน้าตาไม่ดีอีกต่างหาก เขาไม่ต้องการแน่”
ถึงจะคารวะนักปรุงยาระดับเทพขั้นที่เก้าผู้นั้นเป็นอาจารย์ไม่ได้ แต่พวกเขาก็สามารถคารวะหมอปีศาจเป็นอาจารย์ได้มิใช่หรือ?
สามารถกลายเป็นศิษย์หลานของท่านผู้นั้นได้ พวกเขาก็จะไม่ถูกคนครหาได้อีก
“นั่นก็ไม่ได้เช่นกัน ท่านหมอปีศาจก็ไม่รับลูกศิษย์! เชิญพวกท่านกลับไปเสียเถอะ!”
หากคนที่มาคารวะอาจารย์เหล่านี้เป็นเพียงนักปรุงยาธรรมดาคงจะหยุดไปนานแล้ว แต่ทว่าคนที่มาเหล่านี้กลับเป็นนักปรุงยาที่มีชื่อเสียงมากในดินแดนทางทิศใต้ อีกทั้งยังมีนักปรุงยาขั้นศักดิ์สิทธิ์มากมายอีกด้วย และพวกเขาต่างก็พากันมาขอคารวะอาจารย์กันอย่างไม่ลังเลเลย
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น พวกเขาต่างก็ถูกปฏิเสธกลับไปอย่างไร้ความปรานีอยู่ดี
“หมอปีศาจและอาจารย์ของหมอปีศาจต่างไม่รับลูกศิษย์ แต่หากทุกท่านชื่นชอบหอหมอปีศาจแล้วละก็ เช่นนั้นก็สามารถรับตำแหน่งในหอหมอปีศาจมาเป็นนักปรุงยาของหอหมอปีศาจได้ นอกจากนี้ก็ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว! ทุกท่านค่อย ๆ คิดดูให้ดีเถิด!”
ถึงจะคารวะอาจารย์ไม่ได้ และทำได้เพียงเป็นคนงานให้กับเขา แต่เพื่อที่จะได้เข้าใกล้ท่านนักปรุงยาระดับเทพขั้นที่เก้าผู้นั้น เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับหมอปีศาจ ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ยินยอม
ในที่สุดเขาก็ส่งนักปรุงยาที่มาเพราะถูกชื่อเสียงดึงดูดออกไปได้แล้ว หลังจากที่จูเชว่ขึ้นไปชั้นบนก็จ้องมองไปที่บานประตูขนาดใหญ่ของห้องนักปรุงยาที่ถูกปิดสนิทอยู่
“หากรู้เช่นนี้ข้าน่าจะเรียนปรุงยาเสียตั้งแต่แรก เช่นนี้ก็จะสามารถอยู่ห้องเดียวกันกับซีซีได้ และแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันได้!” จูเชว่บ่นพึมพำ
โม่ซวนนับถือนิรันดร์ และตอนนี้เขาก็นับถือมู่เฉียนซีมากเช่นกัน ด้วยการกลั่นยาที่เหนือกว่า ซึ่งเขาเองก็ยังห่างชั้นอยู่อีกมาก
แต่ในตอนนี้ร่างกายของเขาได้รับการรักษาจากนิรันดร์จนหายดีแล้ว เขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อไล่ตามไป เพื่อที่จะได้ลดระยะห่างระหว่างพวกเขาลงได้บ้าง
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “โม่ซวน เจ้าไม่ต้องกดดันตนเองมากไปนัก นิรันดร์บอกว่าพรสวรรค์ของเจ้านั้นไม่เลวเลย ในอนาคตจะต้องเป็นนักปรุงยาที่เก่งกาจอย่างแน่นอน”
โม่ซวนพยักหน้าพลางกล่าวว่า “อื้ม! แน่นอนว่าข้าไม่มีทางที่จะเนรคุณต่อคำประเมินที่ท่านนิรันดร์มีต่อข้าได้”
หลังจากที่รวบรวมทักษะการปรุงยาแล้ว มู่เฉียนซีก็พอใจกับการมาถึงมาก แต่ทว่า…