ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1896 ทำให้ชื่อเสียงขจรขจาย เรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
- Home
- ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
- ตอนที่ 1896 ทำให้ชื่อเสียงขจรขจาย เรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
เมื่อผลักประตูห้องปรุงยาออก สายลมบริสุทธิ์ก็พัดเข้าปะทะใบหน้า ทั้ง ๆ ที่นางสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนแล้วแท้ ๆ ว่านิรันดร์กำลังหลับใหลอยู่ในมิติพันธสัญญา ทว่านางก็ยังสัมผัสได้ถึงการมีตัวตนของเขาอยู่ไม่คลาย
“ซีซี มีโอกาสครั้งใหญ่มาให้แสดงฝีมืออีกแล้ว!” เมื่อพบว่าในที่สุดมู่เฉียนซีได้กลับออกมาจากการบำเพ็ญตบะแล้ว ร่างสีแดงก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว จูเชว่ได้วาบเข้าไปหามู่เฉียนซีทันที
มู่เฉียนซีเอ่ยถาม “โอกาสแสดงฝีมือครั้งใหญ่อะไรกัน?”
จูเชว่กล่าว “ข้าได้รับข่าวคราวแล้ว หอหนานหลิงใกล้จะเปิดแล้ว ในวันที่หอหนานหลิงเปิด ก็จะเป็นวันที่การชุมนุมผู้มากความสามารถของดินแดนทางทิศใต้เริ่มการชุมนุมขึ้น ซีซีอยากจะเป็นผู้มากความสามารถอันดับหนึ่งของแดนซวนเทียน เพื่อทำให้มู่หลินหลางโกรธจนอกแตกตายไม่ใช่หรือ? ตอนนี้ซีซีเป็นผู้มากความสามารถอันดับหนึ่งของดินแดนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ขั้นต่อไปก็ต้องสยบดินแดนทางทิศใต้ของราชวงศ์ตงหวง!”
“จะไปหรือไม่? หากทำให้มู่หลินหลางโกรธจนอกแตกตายได้ เกรงว่าซีซีคงจะไม่ต้องลงมือเองหรอก ท่านพ่อบุญธรรมก็คงจะพบเจอดวงดาวที่ส่องประกายอย่างเจ้า แล้วเป็นฝ่ายมาหาเจ้าก่อนอย่างแน่นอน!” จูเชว่กล่าวด้วยท่าทางตื่นเต้นเต็มประดา
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ไป ข้าต้องไปอย่างแน่นอน! ข้าจะต้องทำให้เป้าหมายนี้สำเร็จลุล่วงให้ได้ ข้าได้ก้าวออกไปแล้วสองเก้า มาถึงจุดนี้แล้วข้าจะไม่มีทางยอมแพ้อย่างแน่นอน”
นางยังอยากเป็นผู้มากฝีมืออันดับหนึ่งให้ท่านพ่อสนใจนางให้ได้ ถึงแม้นางจะเปลี่ยนนาม ทว่านามนี้เป็นการนำนามของนางและท่านพี่มารวมกัน
เพียงแค่เขาสังเกตสักหน่อย ก็จะต้องทราบอย่างแน่นอน
จูเชว่กล่าว “การชุมนุมผู้มากความสามารถของดินแดนทางทิศใต้ในครั้งนี้ จะมีผู้มากความสามารถของดินแดนตะวันออกเฉียงใต้และดินแดนตะวันตกเฉียงใต้ อีกทั้งยังมีดินแดนทางทิศใต้ สามดินแดนใหญ่มาเข้าร่วมด้วย ซีซีจะต้องทำให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งและยอดเยี่ยมของซีซีให้ได้ ทำให้พวกเขาตกตะลึงไปเลย!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ครานี้มีผู้มากความสามารถของดินแดนทางทิศใต้ของราชวงศ์ตงหวงมาเข้าร่วมด้วย ข้าจะมั่นใจในตัวเองและดูแคลนคู่ต่อสู้เกินไปมากไม่ได้”
“ไม่ว่าอย่างไรข้าก็คิดว่าที่หนึ่งจะต้องเป็นของซีซีอย่างแน่นอน!” จูเชว่เชื่อมั่นในตัวมู่เฉียนซีเป็นอย่างยิ่ง
โม่ซวนเองก็กล่าว “ข้าเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน! ครั้งนี้สำนักหลางซิงก็คงจะส่งผู้มากความสามารถของสำนักมาเข้าร่วมด้วยอย่างแน่นอน เฉียนซีจะต้องระวังตัวให้มาก ๆ นะ”
มู่เฉียนซีพยักหน้าแล้วกล่าว “ข้าเข้าใจแล้ว”
นางเอ่ยถาม “การชุมนุมจะเริ่มขึ้นเมื่อใด?”
“อีกสามวันการชุมนุมจะเริ่มขึ้น ถึงยามนั้นข้าจะเป็นคนส่งซีซีไปลงสมัครด้วยตัวเอง! ซวนไม่ต้องไปหรอก เจ้าอยู่ดูแลหอหมอปีศาจเถอะ!” ตัวเองต้องคอยดูแลหอหมอปีศาจมาเนิ่นนานถึงเพียงนี้ ความรู้สึกกล่าวโทษของจูเชว่จึงมีอยู่ไม่น้อย
…
สถานที่การจัดการชุมนุมของดินแดนทางทิศใต้ในครั้งนี้ก็คือเมืองหนานหวาง
ในช่วงนี้ผู้คนก็พากันหลั่งไหลมายังเมืองหนานหวางมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อผู้คนที่เดินทางมาจากดินแดนอื่น ๆ ได้ยินถึงเหตุการณ์ของหอหมอปีศาจที่เกิดขึ้นในวันที่เกิดศึกครั้งใหญ่ในวันนั้น รวมไปถึงฝีมือการหลอมยาลูกกลอนของนักปรุงยาระดับเทพขั้นที่เก้าแล้ว พวกเขาก็ได้พากันมาซื้อยาลูกกลอนของหอหมอปีศาจในทันที
“ผลลัพธ์ยาลูกกลอนของหอหมอปีศาจนี่ดีมากจริง ๆ อีกทั้งยังบริสุทธิ์มาก ๆ อีกด้วย!”
“ผลลัพธ์ดีกว่ายาลูกกลอนที่ข้าเคยกินมาเสียอีก!”
“สมแล้วที่ท่านหมอปีศาจเป็นลูกศิษย์ของนักปรุงยาระดับเทพขั้นที่เก้า! น่าเสียดายที่ตอนนี้หอหมอปีศาจไม่ได้มาทำการค้าขายที่ดินแดนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้!”
การชุมนุมในครั้งนี้นับว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้โฆษณาตัวเอง โม่เฉียนซีจึงให้โม่ซวนใช้โอกาสนี้ตีเหล็กในช่วงที่ยังร้อนอยู่
ในช่วงที่หอหมอปีศาจยังไม่ได้ขยายการค้าขายไปทั่วทั้งดินแดนทางทิศใต้ของราชวงศ์ตงหวง นางก็จะใช้ช่วงเวลานี้ทำให้ชื่อเสียงแผ่ซ่านขจรขจายไปให้ไกลที่สุด เมื่อทำการขยับขยายการค้าขายในภายหลังจะได้ราบรื่นมากขึ้น
เมื่อมู่เฉียนซีต้องการจะเข้าร่วมการชุมนุมแลกเปลี่ยนของดินแดนทางทิศใต้ โม่ซวนก็ไม่อาจหยิบยื่นภาระไปให้นางได้ แล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องทำงานต่อไปเพียงคนเดียว
ส่วนโม่ซวนก็ทำงานจนตัวเป็นเกลียวเลยเช่นกัน
สามวันให้หลัง จูเชว่ก็มารับมู่เฉียนซีไปยังหอหมอปีศาจ
“ซีซี พวกเราไปกันเถอะ!”
ตามท้องถนนแน่นขนัดไปด้วยผู้คน ในบรรดาผู้คนเหล่านั้นมีชายหนุ่มและหญิงสาวอยู่เป็นจำนวนมาก ทว่ากำลังของพวกเขานั้นล้วนไม่ธรรมดา
จูเชว่กล่าว “การเข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้จำเป็นจะต้องลงนามสมัครจึงจะได้รับสิทธิ์ และการลงลงสมัครในครั้งนี้ก็ไม่ใช่การลงนามสมัครธรรมดา แต่จะต้องไปทำการพิสูจน์ที่ศิลาจารึกหนานหลิงด้วย”
“ศิลาจารึกหนานหลิงมีทั้งหมดเก้าชั้น คนที่อายุต่ำกว่าสามสิบปีหากสามารถขึ้นไปได้ถึงชั้นที่สี่ได้ก็จะสามารถลงสมัครได้สำเร็จ อีกทั้งยังจะได้รับป้ายหยกรักษาชีวิตไว้ด้วย เมื่อหยดเลือดลงไปแล้วจึงจะนับว่าการลงสมัครนั้นเป็นอันสำเร็จ เมื่อมีแผ่นป้ายนี้จึงจะสามารถเข้าไปในแท่นประลองโบราณหนานหลิงได้”
เรื่องที่มู่เฉียนซีจะไปสมัครเข้าร่วมก็ยังพอเข้าใจได้ แต่จูเชว่ก็พบว่าฉู่หลีเองก็จะสมัครเข้าร่วมด้วย
“เจ้าที่เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์จะไปสมัครทำไม ไปรังแกผู้อื่นอย่างนั้นหรือ?
ฉู่หลีกล่าว “ศิษย์น้องต้องการอันดับหนึ่ง แต่ระหว่างนั้นมันคงจะวุ่นวายเกินไป คงจะเหนื่อยไม่น้อย ข้าก็เลยจะเข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้เพื่อช่วยศิษย์น้องจัดการคนเหล่านั้นก่อน”
หากผู้อื่นทราบว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งจะเข้าร่วมการประลองเพียงเพราะกลัวว่าศิษย์น้องจะเหนื่อยกับการแย่งชิงอันดับหนึ่งมากเกินไป เกรงว่าคนเหล่านั้นคงจะต้องหลั่งน้ำตาออกมาอย่างแน่นอน
เหตุผลนี้ทำเอาจูเชว่ชะงักงันไปในทันที เพียงแค่อายุถึงเกณฑ์ที่กำหนด การชุมนุมในครั้งนี้ก็ไม่ได้จำกัดอายุแต่อย่างใด
เขากล่าว “ได้ยินเจ้ากล่าวมาเช่นนี้ ข้าเองก็อยากจะลองดูสักหน่อย! แต่คุณชายจูเชว่ผู้มีชื่อเสียงอย่างข้า หากจะเข้าร่วมการประลองเพื่อไปรังแกผู้อื่นแล้ว มันก็ดูจะน่าขายหน้าไปสักหน่อย”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “หากเจ้าอยากไป ก็ไปในฐานะเหยียนเสียสิ! ไม่ใช่ว่าเจ้าชอบแต่งกายเป็นสตรีหรอกหรือ?”
“ซีซี ข้าบอกเจ้าแล้วอย่างไรว่าข้าไม่ได้ชอบ! แต่เพื่อปิดบังสถานะแล้วข้าก็เลยจำเป็นต้องทำ เหตุใดเจ้าถึงไม่เชื่อข้าเลยนะ!” จูเชว่กล่าวด้วยสีหน้าขมขื่นเป็นอย่างยิ่ง
“เป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบเจอบุรุษที่แต่งกายเป็นสตรีได้เป็นธรรมชาติขนาดนี้ แม้กระทั่งข้าและปีศาจจิ้งจอกอย่างนิรันดร์ยังมองไม่ออกเลย นี่เจ้ายังไม่กล้ายอมรับอีกหรือว่าเจ้าน่ะชอบเป็นพิเศษจึงได้ปลอมตัวออกมาได้แนบเนียนขนาดนั้น” มู่เฉียนซีกล่าวหยอกเย้า
“ซีซี เจ้าใส่ร้ายข้า! เจ้าเองก็รู้ความจริงแล้วไม่ใช่หรือ?”
เรื่องที่ชอบแต่งกายเป็นสตรีนี้ เห็นทีไม่ว่าจูเชว่จะอธิบายอย่างไร ก็คงไม่อาจคืนความบริสุทธิ์ให้ตัวเองได้แล้ว
“แต่ข้าก็คิดว่าความคิดของซีซีนี่ก็ไม่เลวเหมือนกัน เพียงแต่…เพียงแต่เหมือนข้าจะลืมอะไรไปบางอย่างนะ?” จูเชว่บ่นพึมพำ
ทว่าเขาก็นึกขึ้นได้อย่างรวดเร็ว “ข้าได้ถูกเชิญไปรับชมการประลอง ไม่มีทางเปลี่ยนเป็นสถานะอื่นได้!”
“เจ้าสามารถให้คนอื่นปลอมเป็นเจ้าได้ เมื่อคุณชายจูเชว่และเหยียนปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน ถึงยามนั้นก็จะไม่มีผู้ใดสงสัยแล้วว่าเจ้าทั้งสองเป็นคน ๆ เดียวกัน”
ถึงแม้ภายนอกจูเชว่และเหยียนจะดูเป็นบุรุษและสตรี ทว่าก็ยังมีส่วนที่คล้ายคลึงกันอยู่ หากมีคนสืบสาวราวเรื่องก็คงจะรู้สึกสงสัยเอาได้ ดังนั้นการทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกมั่นใจพวกเขาก็จะไม่รู้สึกสงสัยอีก
“ซีซีฉลาดเป็นที่สุด แต่ที่สนามประลองก็คงจะมีคนจำนวนไม่น้อย หากจะปลอมตัวก็คงมีคนพบพิรุธได้ง่าย ๆ?”
“ข้ามียาลูกกลอนและยาน้ำแปลงโฉม สำหรับการประลองหนึ่งสนามก็เหลือเฟือแล้ว ถึงตอนนั้นเจ้าก็เตรียมคนไว้ให้ดีก็แล้วกัน!”
“ได้!”
เมื่อตกลงเรื่องนี้กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เดินทางไปยังศิลาจารึกหนานหลิงในทันที
สถานที่แห่งนี้เป็นภูเขาที่ค่อนข้างสูง ทว่าก็มีผู้คนมาจับจองพื้นที่บนแท่นหินที่อยู่บนภูเขาจนแน่นขนัดแล้ว
เมื่อพวกของมู่เฉียนซีเหาะเหินขึ้นไปบนภูเขา ในขณะนั้นเองก็มีคนกล่าวขึ้น “เวรเอ้ย มีคนขโมยป้ายหยกของข้าไป รีบไปหามาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
“เป็นเขา ต้องเป็นเขาแน่ ๆ! เจ้านี่สวมชุดเก่าขาดรุ่งริ่ง ดูเหมือนคนจนไม่มีเงิน เจ้าจะต้องลักลอบเข้ามาขโมยของอย่างแน่นอน”
คุณชายผู้สูงศักดิ์สวมชุดคลุมยาวซึ่งถักทอด้วยผ้าแพรผู้หนึ่งชี้หน้าด่ากราดบุรุษหนุ่มที่สวมชุดสีเขียวคนหนึ่งด้วยท่าทางดูแคลน คนของคุณชายผู้สูงศักดิ์ผู้นั้นก็รีบเข้ามาล้อมบุรุษหนุ่มไว้
บุรุษหนุ่มชุดเขียวขมวดคิ้วพลางจ้องมองผู้มาเยือนซึ่งไร้ความเป็นมิตรเหล่านี้
คุณชายสวมชุดคลุมผ้าแพรกล่าว “เจ้า เพียงแค่เจ้านำป้ายหยกที่ขโมยไปคืนมา แล้วไสหัวออกไปจากที่แห่งนี้ เช่นนั้นแล้วข้าก็จะเว้นโทษตายให้เจ้าสักครั้ง!” ความสูงของภูเขาในตอนนี้ก็สูงมากแล้ว ถึงแม้จะเป็นผู้บำเพ็ญภูต ทว่าหากจะต้องกลับลงไป ก็นับเป็นเรื่องที่ยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง
.
.