ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1907 วิญญาณจันทร์สะพรั่ง
ตู๋กูล่างได้หยิบเอาดาบที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความชั่วร้ายที่เย็นยะเยือกออกมา นี่คือมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ครึ่งเทพ อีกทั้งยังไม่ใช่มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ครึ่งเทพธรรมดาอีกด้วย
ดาบเล่มนี้ เกรงว่าคงจะเปื้อนเลือดของผู้คนมานับหมื่นคน ถึงได้มีกลิ่นอายที่ชั่วร้ายเช่นทุกวันนี้ได้
เขาใช้ทั้งสองมือกำดาบเอาไว้มั่น จากนั้นก็กวัดแกว่งดาบพุ่งไปทางมู่เฉียนซีด้วยความรวดเร็ว
“ดารามรณะสังหาร!”
ในตอนที่เขากวัดแกว่งดาบนี้ออกไป จิตสังหารของตู๋กูล่างก็ดูเหมือนว่าจะระเบิดออกมาถึงจุดสูงสุด และเป้าหมายของกระบวนท่าที่ปล่อยออกมานี้ก็เพื่อต้องการจะสังหารมู่เฉียนซีนั่นเอง
การแสดงออกของมู่เฉียนซีนั้นยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่สงบนิ่ง กลิ่นอายที่ชั่วร้ายนี้สำหรับคนอื่นคงจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่สำหรับนางแล้ว มันเล็กน้อยมากจริง ๆ
พัดวิหคเฟิงหลิงถูกกางออก และธาตุวายุก็ปกคลุมไปทั่วทั้งสนามประลอง จนทำให้มู่เฉียนซีดูเหมือนว่าร่างกายจะกลมกลืนไปกับสายลมอย่างไรอย่างนั้น อีกทั้งยังสามารถหลบหลีกการโจมตีของตู๋กูล่างได้อย่างใจนึกอีกด้วย
มันเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ที่จะสามารถมองเห็นร่างของมู่เฉียนซีได้ พวกเขาต่างจ้องมองไปยังสนามประลองที่ยากจะคาดเดาด้วยความตื่นตะลึง นี่พวกเขาได้พบเจอกับจอมภูตพลังธาตุวายุที่เก่งกาจมากถึงเพียงนี้เลยหรือ!
หนานเฉินแอบหัวเราะเบา ๆ “เป็นอย่างที่คาดไว้จริง ๆ! ตอนที่ต่อสู้กับข้า ความเร็วของนางยังไม่ไปจนถึงขีดสุดเลย! นี่คือจอมภูตพลังธาตุวายุที่มีความเร็วสูงสุดแล้ว”
“เป็นอย่างที่คาดไว้เลย! นางแข็งแกร่งมาก!”
มู่เฉียนซีเข้าใกล้ตู๋กูล่างราวกับภูตผีอย่างไรอย่างนั้น และทันใดนั้นพลังธาตุวายุก็แปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายและน่าสะพรึงกลัวขึ้นมาทันที จากนั้นสายลมหวิวก็พัดผ่านข้างหูของตู๋กูล่างไป
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
ทักษะการโจมตีของพลังธาตุวายุภายใต้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ครึ่งเทพอย่างพัดวิหคเฟิงหลิง ทำให้การโจมตียิ่งโหดร้ายรุนแรงมากขึ้นไปอีก
ทว่าตู๋กูล่างกลับกล่าวพลางยิ้มเยาะว่า “การโจมตีเพียงเล็กน้อยนี้ คิดจะทำอะไรข้าได้อย่างนั้นหรือ ช่างคิดเพ้อเจ้อเสียจริง ๆ”
“โล่ปฐพี!”
ด้านหน้าของตู๋กูล่าง มีกำแพงดินปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน และสายลมก็ทำได้เพียงทิ้งร่องรอยเอาไว้บนกำแพงดินนี้เท่านั้น อีกทั้งยังไม่สามารถทำให้ตู๋กูล่างบาดเจ็บได้เลยแม้แต่น้อย
“เถาวัลย์ปลิดวิญญาณ!”
ทันใดนั้น ก็มีเถาวัลย์สีดำสนิทนับไม่ถ้วนปรากฏออกมาจากกำแพงดิน และเถาวัลย์เหล่านี้ก็เป็นเหมือนกับคลื่นทะเลอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งมันก็ปราฏออกมาละลอกแล้วละลอกเล่า จากนั้นก็พุ่งตรงไปทางมู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว
“เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวิญญาณคู่ทั้งธาตุดินและธาตุพฤกษา สมกับที่เป็นศิษย์พี่ของสำนักหลางซิงจริง ๆ”
“ครอบครองพลังธาตุทั้งสองชนิดเอาไว้ อีกทั้งการต่อสู้ยังเป็นสองรูปแบบ มีทั้งการโจมตีและป้องกันที่สมบูรณ์แบบถึงเพียงนี้ ดูท่ารายชื่ออัจฉริยะที่คุณชายจูเชว่ทำออกมานั้นจะเป็นการประเมินตู๋กูล่างต่ำเกินไปหน่อยแล้ว”
“มู่เฉินซีสามารถที่จะต่อสู้อย่างก้าวกระโดดได้ จอมภูตพลังธาตุคู่อย่างตู๋กูล่างก็น่าจะสามารถทำได้เช่นกัน!”
ตู๋กูล่างกล่าวว่า “มู่เฉินซี คนที่สามารถบีบบังคับข้ามาจนถึงจุดนี้ได้มีไม่มากนักหรอก แม้ว่าเจ้าจะถูกเถาวัลย์วิญญาณนี้สังหาร ก็จงรู้สึกเป็นเกียรติเสียเถอะ”
และทั่วทั้งสนามประลอง ก็ได้กลายเป็นป่าของเถาวัลย์วิญญาณที่ดำสนิทนี้ไปแล้ว
“ถึงจะเพิ่มความเร็วให้มากขึ้นแล้วจะทำไม? ข้าจะดูว่าครานี้ เจ้าจะหลบได้อย่างไร?”
ลักษณะพิเศษของเถาวัลย์ที่พาดผ่านไปทั่วสนามประลองแห่งนี้เป็นเหมือนกับอัสนีบาตอย่างไรอย่างนั้น และมันก็ได้ไล่ล่าร่างสีม่วงร่างนั้น จนพื้นที่ว่างทั้งหมดเริ่มแคบลงเรื่อย ๆ สุดท้ายความเร็วของมู่เฉียนซีก็ช้าลงเรื่อย ๆ เช่นกัน
ฝูงชนกล่าวอย่างประหลาดใจว่า “มู่เฉินซีกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว”
“ความเร็วของนางก็เร็วอยู่หรอก แต่ทว่ากระบวนท่าที่ตู๋กูล่างแสดงออกมานี้ มันยากมากที่นางจะคิดทะลวงผ่านไปได้!”
“ในเมื่อจนตรอกแล้ว ก็รีบยอมรับความพ่ายแพ้ไปเสียเถอะ มิเช่นนั้น…”
“พลังวายุเมฆา ดาวกระจาย!” ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังจะถูกเถาวัลย์สีดำสนิทไล่โจมตี นางก็ใช้พลังธาตุวายุจู่โจมออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ทว่าเถาวัลย์เหล่านี้แข็งเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่สามารถตัดให้ขาดได้ง่ายดายขนาดนั้น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! มู่เฉินซี ไม่มีประโยชน์หรอก สิ่งที่เจ้าทำไปทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นเพียงการดิ้นรนครั้งสุดท้ายก่อนตายเท่านั้น”
ตึง!
ทางด้านหน้าถูกขวางเอาไว้แล้ว และมู่เฉียนซีก็หลบหลีกไปโดยรอบ และกำลังพุ่งทะยานผ่านเถาวัลย์สีดำสนิทเหล่านี้ไป
“เถาวัลย์ทมิฬวายุคลั่ง!” ตู๋กูล่างหมุนเวียนพลังธาตุพฤกษาขึ้นมา และโจมตีใส่อีกครั้ง
เหยียนในเวลานี้เฝ้ามองอยู่ที่ชั้นเก้าด้วยความเดือดดาลอย่างที่สุด “จอมภูตพลังธาตุคู่แล้วน่าภูมิใจตรงไหนกัน การต่อสู้ในครั้งนี้น้องซีเอ๋อร์ไม่ได้ต่อสู้กับเขาอย่างสุดความสามารถเท่านั้นเอง!”
เหยียนรู้ดีว่ามู่เฉียนซีครอบครองพลังวิญญาณถึงสามธาตุ เถาวัลย์สีดำสนิทเหล่านี้หากมู่เฉียนซีต้องการแล้วละก็ เพียงแค่ใช้เพลิงราชันย์ก็สามารถเผาพวกมันให้ราบเป็นหน้ากองได้อยู่แล้ว
“วิ่งไปเถอะ! วิ่งไป! ใช้ความพยายามเฮือกสุดท้ายของเจ้าวิ่งไปเสียเถอะ!”
ความโหดเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของตู๋กูล่าง และการโจมตีก็ยิ่งดุดันมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าเขาจะสนุกสนานกับเกมแมววิ่งไล่จับหนูเป็นอย่างมาก และเขาก็ชื่นชอบที่ได้เห็นอีกฝ่ายดิ้นรนอย่างทุกข์ทรมานด้วย
“มันควรจะจบลงได้แล้ว” ตู๋กูล่างกล่าวอย่างเย็นชา
“เถาวัลย์พิษติดวิญญาณ!”
พรวด!
สิ่งที่อำมหิตยิ่งกว่าคือ หลังจากนั้นเถาวัลย์เหล่านั้นก็ระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน และยังระเบิดเอาของเหลวสีดำสนิทออกมาอีกด้วย
ของเหลวสีดำสนิทนี้พ่วงมาด้วยฤทธิ์กัดกร่อนและพิษที่ร้ายแรงมาก ส่วนมู่เฉินซีที่อยู่ท่ามกลางพวกมัน จะต้องถูกกัดกร่อนจนไม่เหลือแม้แต่ซากอย่างรวดเร็วเป็นแน่
ชั่วร้ายมากเลย! สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปในทันที
กลิ่นนี่มันจะเหม็นเกินไปแล้ว!
มู่เฉียนซีในเวลานี้มีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น คือนางกำลังจะถูกความเหม็นนี้ทำให้ขาดอากาศหายใจตาย เขากล้าดีอย่างไรถึงได้เอาพิษเด็กเล่นเช่นนี้มาเล่นต่อหน้านาง
และในที่สุดมู่เฉียนซีก็ทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ตอนนี้นางบรรลุได้แล้ว นางสามารถบรรลุเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดได้แล้ว
ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณในร่างกายของมู่เฉินซีแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งเห็นได้ชัดว่านางบรรลุได้แล้ว
“อะไรน่ะ?” ตู๋กูล่างประหลาดใจเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจำต้องเผยกระบวนท่าสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดเช่นนี้ออกมา
แต่ทว่ากระบวนท่าสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดนี้ไม่เพียงแต่ไม่อาจจัดการมู่เฉินซีได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้มู่เฉินซีบรรลุได้อีกด้วย
“นี่ยังสามารถบรรลุได้อีกหรือ?”
“ดูเหมือนว่าพิษของตู๋กูล่างจะไม่ร้ายแรงเท่าไรนัก เพราะมู่เฉินซีไม่ถูกพิษเลยด้วยซ้ำ”
“ดูเหมือนว่าจะใช่นะ!”
ตู๋กูล่างยังไม่ยอมแพ้ และพุ่งเข้าไปจู่โจมมู่เฉียนซีอีกครั้งหนึ่ง
มีเสียงกระหึ่มนับไม่ถ้วนดังกึกก้องขึ้นมา ปลายของเถาวัลย์สีดำสนิทเหล่านั้นแหลมคมเหมือนดาบ มันพุ่งตรงเข้ามาที่ดวงตา ลำคอ และจุดสำคัญตามส่วนต่าง ๆ ของมู่เฉียนซี
และครานี้มู่เฉียนซีก็ไม่ได้หลบหลีกแต่อย่างใด นางหมุนวนพลังธาตุวายุ หลังจากนั้นพลังธาตุวายุก็ก่อตัวเป็นเกาะป้องกันอยู่รอบตัวนาง!
“เกราะพลังวายุ!”
“ไม่มีประโยชน์ คิดว่าทักษะป้องกันเช่นนี้จะสกัดกั้นการโจมตีของข้าได้อย่างนั้นหรือ ฝันไปเถอะ!” ตู๋กูล่างแสยะยิ้มกล่าว
ตึง!
เถาวัลย์เหล่านั้นถูกสกัดกั้นเอาไว้ได้ และมันก็ค้างอยู่กลางอากาศ แต่ทว่าทันใดนั้น พวกมันก็จู่โจมอย่างต่อเนื่องและทะลวงผ่านเข้ามาจนได้
พลังธาตุวายุได้หมุนเคว้งอยู่โดยรอบ และมันก็แปรเปลี่ยนเป็นโล่วายุขึ้นมาอีกครั้งในทันที
“วิญญาณจันทร์สะพรั่ง!”
ดูเหมือนว่าทิศทางที่เถาวัลย์เหล่านั้นพุ่งไปจะไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นเพียงเหวลึกเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่สามารถที่จะทำร้ายมู่เฉียนซีได้เลยแม้แต่น้อย
“เป็นไปได้อย่างไร?” ตู๋กูล่างประหลาดใจเป็นอย่างมาก!
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? เหตุใดพลังธาตุวายุถึงมีพลังมากถึงเพียงนี้ หรือว่ามันจะแปรสภาพไปแล้ว!”
“การแปรสภาพของพลังธาตุวายุอย่างนั้นหรือ ช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน!”
“……”
มู่เฉียนซีครอบครองพลังธาตุวายุที่ได้รับสืบทอดมาจากผู้ผูกพันธสัญญากับนางอย่างนิรันดร์ และมันยังเป็นพลังธาตุที่ประกอบขึ้นมาจากหม้อเทพนิรันดร์และหม้อวิญญาณนิรันดร์อีกด้วย
ซึ่งนี่ถือว่าเป็นพลังธาตุวายุที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุดในเวลานี้ และแน่นอนว่ามันไม่มีการแปรสภาพแต่อย่างใด
ส่วนการมีพลังวิญญาณที่พิเศษเช่นนี้ นั่นเป็นเพียงเพราะว่าหลังจากที่มู่เฉียนซีเลื่อนขั้นได้แล้วมีความเข้าใจในทักษะใหม่ต่างหาก และมันก็เป็นทักษะการป้องกันของธาตุวายุ ยิ่งไปกว่านั้น…
มู่เฉียนซีพุ่งทะยานไปหาตู๋กูล่างที่กำลังหวาดผวา แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ตู๋กูล่าง การโจมตีทั้งหมดของเจ้า ตอนนี้ข้าจะคืนมันให้เจ้าเอง! ฉะนั้นก็สนุกสนานไปกับมันเสียเถอะ!”
เถาวัลย์วิญญาณที่หายไปจนหมดสิ้นแล้ว ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งอย่างกะทันหัน และเป้าหมายการโจมตีของพวกมันในครั้งนี้ไม่ใช่มู่เฉียนซี แต่กลับเป็นผู้ที่เคยใช้พวกมันมาก่อนหน้าอย่างตู๋กูล่าง
.
.