ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1908 เรื่องที่น่าขันที่สุด
ตู๋กูล่างประหลาดใจเป็นอย่างมาก และรีบล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว!
โล่ปฐพีปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็ฝืนสกัดกั้นการโจมตีที่บ้าคลั่งของเถาวัลย์เหล่านี้
แต่กำแพงดินนั้นก็กลายเป็นหลุมเป็นบ่อ และแตกออกในที่สุด
คนอื่นต่างก็ตาเบิกโพลงด้วยความตกตะลึงเช่นกัน ไม่คิดเลยว่าจะเกิดการกลับตาลปัตรอย่างเหลือเชื่อเช่นนี้
เดิมทีมู่เฉินซีถูกกำหนดให้ได้รับความพ่ายแพ้ คาดไม่ถึงว่าจะใช้พลังธาตุวายุที่แปรสภาพทำให้ตู๋กูล่างต้องพบเจอกับการตอบโต้ และทำให้ตู๋กูล่างถูกโจมตีโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเช่นนี้
ตึง!
เถาวัลย์เหล่านั้นถูกสกัดกั้นเอาไว้ได้ และมันก็แตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ในทันที
พรืดดดด!
ของเหลวที่เป็นพิษเหล่านี้ได้กัดกร่อนโล่ปฐพีของตู๋กูล่างให้หายไปอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีบางส่วนที่กระเด็นมาถูกตัวเขา โดยที่เขาไม่มีเวลาที่จะหลบเลี่ยงได้เลย
แต่ทว่าตู๋กูล่างกลับไม่กังวลใจเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าพลังของตนเองไม่สามารถทำร้ายตัวเขาเองได้อยู่แล้ว ฉะนั้นจึงไม่ต้องสนใจพิษเหล่านี้เลย
ตอนนี้เขาเดือดดาลจนถึงที่สุดแล้ว เขาจ้องเขม็งไปที่มู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “มู่เฉินซี เจ้านี่มันกล้านักนะ คิดไม่ถึงเลยว่าข้าจะถูกเจ้าหลอกเช่นนี้ ครั้งต่อไป เจ้าไม่โชคดีถึงเพียงนี้แน่!”
โล่ปฐพีหายไปแล้ว จากนั้นกำแพงดินก็ได้ปิดผนึกมู่เฉียนซีเอาไว้ในพื้นที่เล็ก ๆ อย่างกะทันหัน และพลังธาตุพฤกษาก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นเถาวัลย์วิญญาณพุ่งเข้าโจมตีนาง
ดินโดยรอบสามารถกักขังธาตุวายุเอาไว้ได้ มู่เฉินซีจะต้องประสบกับความยากลำบากอีกครั้ง แน่นอนว่าครั้งนี้ตู๋กูล่างไม่มีทางปล่อยให้นางใช้กระบวนท่านั้นได้อีกแล้ว
“การผสมผสานกันของทักษะพลังธาตุดินและทักษะพลังธาตุพฤกษา ซึ่งทั้งสองธาตุนี้ไม่ถูกกับพลังของจอมภูตธาตุวายุอยู่แล้ว!”
“มู่เฉินซีถูกควบคุมโดยขั้วตรงข้ามเช่นนี้ เกรงว่าน่าจะหมดหนทางโต้กลับเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว”
“……”
และตู๋กูล่างก็ได้กวัดแกว่งดาบใหญ่เล่มนั้นของเขา ให้ฟาดฟันเข้าใส่มู่เฉียนซีจากกลางอากาศ
“ฆ่ามันซะ!”
“มู่เฉินซี เจ้าตายไปได้แล้ว!”
มู่เฉียนซียืนอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าที่นิ่งสงบ ไม่หลบหลีก ไม่ป้องกัน และบนใบหน้าของนางกลับมีรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฎอยู่
“มู่เฉินซีคงไม่ได้ตกใจกลัวจนโง่งมไปแล้วหรอกนะ!”
“นางจะยอมแพ้ไปทั้งอย่างนี้หรือ?”
“……”
ทันทีที่คิดว่ามู่เฉินซีใกล้จะถูกตู๋กูล่างฟันออกเป็นสองท่อนในไม่ช้านี้ เซี่ยโหวจือก็รู้สึกว่าความโกรธแค้นถูกระบายออกไปมากเลยทีเดียว
นางกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า “หนานเฉิน มู่เฉินซีที่เจ้าชื่นชอบไม่เห็นจะเท่าไรเลย อีกไม่นานนางก็จะ…”
ยังไม่ทันที่คำพูดของเซี่ยโหวจือจะจบลง ก็เห็นตู๋กูล่างที่เปิดตัวด้วยพลังของนักฆ่าที่แข็งแกร่งเซถลาอยู่กลางอากาศ และหลังจากนั้นเขาก็ร่วงลงมาบนพื้น
ตึง!
ดาบเล่มนั้นตกลงบนสนามประลอง จนทำให้บนสนามประลองเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้น
พรวด พรวด พรวด!
ตู๋กูล่างกระอักเลือดออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งเลือดที่กระอักออกมายังมีสีดำสนิทอีกด้วย
ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นเปลี่ยนกลายเป็นสีดำในทันที เขากระตุกอย่างเจ็บปวด จากนั้นก็จ้องเขม็งไปที่มู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “มู่เฉินซี เจ้า…ที่จริงแล้วเจ้าทำอะไรกับข้ากันแน่?”
“คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะลอบกัดข้า เจ้าวางยาข้าอย่างนั้นหรือ! น่ารังเกียจ!”
คิดไม่ถึงเลยว่ามู่เฉินซีจะรอดพ้นจากหายนะนี้ และนี่ก็ทำให้เซี่ยโหวจือโกรธเคืองเป็นอย่างมาก นางมองไปยังคณะกรรมการทุกท่านแล้วกล่าวว่า “ผู้อาวุโสทุกท่าน การชุมนุมอัจฉริยะในครั้งนี้ห้ามให้มีการใช้วิธีสกปรกในการต่อสู้ อย่างเช่นการวางยาพิษ! ไม่คิดเลยว่ามู่เฉินซีนางจะวางยาพิษพี่ตู๋กู แน่นอนว่าจะต้องขับไล่นางออกไปจากงานชุมนุมนี้ และนางจะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรงด้วย”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเรียบเฉย “ข้าไม่ได้วางยาพิษ!”
“คิดไม่ถึงเวลาว่าเจ้าจะไม่ยอมรับ ผู้อาวุโสทุกท่าน รีบจับนางเร็วเข้า!” เซี่ยโหวจือกล่าวอย่างเดือดดาล
“รอเดี๋ยวก่อน!” ในเวลานี้ ‘คุณชายจูเชว่’ ผู้นั้นก็ลุกยืนขึ้น
เขากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คราวนี้ มีนักปรุงยาบางคนของหอหมอปีศาจมาร่วมชมด้วย ให้พวกเขามาตรวจตู๋กูล่างดูเสียหน่อย ว่าที่จริงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ถึงอย่างไรพวกเขาก็ล้วนเป็นนักปรุงยาขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์กันทั้งนั้น”
คำพูดของคุณชายจูเชว่ ไม่มีผู้อาวุโสท่านใดคัดค้าน
เซี่ยโหวจือโมโหเป็นอย่างมาก ไม่คิดเลยว่าคุณชายจูเชว่จะช่วยพูดแทนหญิงสาวผู้นี้
เพียงไม่นาน นักปรุงยาของหอหมอปีศาจก็ขึ้นมาบนสนามประลองเพื่อตรวจสอบร่างกายของตู๋กูล่าง และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร? พวกเขาก็ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับท่านมู่แน่นอนอยู่แล้ว
และผลของการตรวจสอบก็ออกมาอย่างง่ายดาย หนึ่งในนักปรุงยากล่าวว่า “คุณชายตู๋กูถูกพิษแล้วจริง ๆ”
ผู้คนต่างตกอยู่ในความโกลาหล “มู่เฉินซีวางยาพิษตู๋กูล่างหรือ!”
“วางยาพิษตอนไหนกัน พวกเราไม่เห็นเลยนะ!”
“……”
การที่จะวางยาพิษบนสนามประลองต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเอาเสียเลย
เซี่ยโหวจือกล่าวว่า “บางคนที่มีความสามารถอ่อนแอก็ย่อมต้องใช้วิธีการที่ร้ายกาจเช่นนี้เพื่อที่จะเอาชนะ และเมื่อได้รับชัยชนะโดยไม่ต้องใช้กำลัง ยังสามารถเป็นอัจฉริยะลำดับที่หนึ่งได้อีกด้วย เหมือนกับคนเช่นเจ้าไม่มีสิทธิที่จะได้อยู่ในลำดับสุดท้ายเลยด้วยซ้ำ”
สีหน้าของนักรุงยาจากหอหมอปีศาจเคร่งขรึมขึ้นมาทันที พวกเขากล่าวว่า “พวกเราบอกแค่ว่าคุณชายตู๋กูถูกพิษ แต่ไม่ได้บอกว่าแม่นางมู่วางยาพิษเสียหน่อย!”
เซี่ยโหวจือกล่าวว่า “หากไม่ใช่มู่เฉินซีแล้วจะเป็นผู้ใดได้กัน? หรือว่าบนสนามประลองแห่งนี้จะมีบุคคลที่สามอยู่ด้วยอย่างนั้นหรือ?”
“พิษที่คุณชายตู๋กูโดนนั้น เป็นเพียงแค่พิษของเถาวัลย์วิญญาณที่ตัวเขาเองสร้างขึ้นมาก็เท่านั้นเอง ในเมื่อพิษนี้เป็นของตัวเขาเอง พวกเราก็หมดหนทางในการถอนพิษ และคุณชายตู๋กูท่านน่าจะมีวิธีการถอนพิษให้ตนเองได้! เช่นนั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน”
ไม่ว่าจะสามารถช่วยเหลือตู๋กูล่างได้หรือไม่ แต่พวกเขาก็ไม่อาจะที่จะลงมือได้
คนอื่นถึงจะไม่รู้ว่าท่านมู่นั้นมีความสำคัญต่อหอหมอปีศาจเป็นอย่างมาก แต่ทว่าพวกผู้เฒ่าเหล่านี้ก็จะไม่รู้เหมือนกันอย่างนั้นหรือ?
ถึงแม้ว่าแม่นางมู่จะทำตัวไม่ให้เป็นที่สนใจ แต่พวกเขาต่างก็คาดเดาอยู่ภายในใจว่า นางน่าจะเป็นลูกศิษย์ของท่านหมอปีศาจอย่างแน่นอน
“อะไรนะ? ข้าถูกพิษของตนเองอย่างนั้นหรือ!” ใบหน้าที่เดิมทีบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวดของตู๋กูล่างเมื่อรู้ผลเช่นนี้แล้ว สีหน้าของเขาก็ยิ่งบิดเบี้ยวมากขึ้นไปอีก
กระบวนท่าสังหารเช่นนั้น แม้ว่าจะเรียนรู้มันแต่ก็ไม่เคยคิดใช้กับตนเองมาก่อนเลย และจะยืนยันอย่างมั่นใจได้อย่างไรว่าหากถูกกระบวนท่าของตนเองแล้วจะไม่เกิดปัญหา?
ถึงอย่างไรเขานั้นก็มักจะอวดดีอยู่เสมอ เขาต้องรู้สึกว่าจะไม่เกิดปัญหาแน่นอนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ดันเกิดสถานการณ์เช่นนี้ออกมาจนได้
ตอนนี้ทุกคนก็นึกถึงตอนที่มู่เฉินซีโต้ตอบกลับไปอย่างงดงามก่อนหน้านี้ได้แล้ว และยังจำได้แล้วว่าตู๋กูล่างสัมผัสโดนของเหลวพิษที่ตนเองสร้างขึ้นมาจริง ๆ
เมื่อเห็นว่าตู๋กูล่างดูเหมือนจะไม่สนใจมันเลยแม้แต่น้อย พวกเขาจึงคิดว่าพิษนั้นใช้ไม่ได้ผลต่อตัวเขา แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะเกิดผลร้ายขึ้นกับตัวเขาเองเช่นนี้ แถมเขายังปล่อยให้ตนเองถูกมันกัดกร่อน จนตกลงไปในหลุมนั้นเสียเองอีกด้วย!
ช่างน่าสมเพชเหลือเกิน!
สีหน้าของเซี่ยโหวจือซีดเผือดขึ้นมาทันที จะเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?
เจ้าคนงี่เง่าตู๋กูล่าง ไม่คิดเลยว่าจะวางยาพิษตนเองเสียได้
ตู๋กูล่างไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองจะถูกกระบวนท่าของตนเองทำให้บาดเจ็บเช่นนี้ ในเวลานี้การถูกพิษของเขาก็ไม่มีอะไรซับซ้อนอีกแล้ว และความกระวนกระวายใจก็โจมตีเขาจนกระอักเลือดออกมาไม่หยุด
“ศิษย์พี่!”
“ศิษย์พี่ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”
คนของสำนักหลางซิงรีบยกตู๋กูล่างออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หานักปรุงยามาแก้พิษให้เขา
หากเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไป คาดว่าเรื่องของตู๋กูล่างจะต้องกลายเป็นเรื่องที่น่าขันที่สุดในงานชุมนุมอัจฉริยะคราวนี้เป็นแน่
และหลังจากที่บรรลุแล้วมู่เฉียนซีก็กลับไปยังที่นั่งชั้นที่เก้า สุดท้ายก็ไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายมู่เฉียนซีอีกเลย
ผู้ที่สามารถเอาชนะสี่อันดับแรกของชั้นที่แปดได้ แม้จะเป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดคนหนึ่ง แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะรนหาที่ตายอีกแล้ว
งานชุมนุมอัจฉริยะในวันที่สองได้ผ่านพ้นไปแล้ว ส่วนวันที่สามถึงวันสุดท้ายจะเป็นการแข่งขันหาสิบอันดับแรก โดยชั้นที่แปดจะแข่งขันเพื่อจัดลำดับตั้งแต่ลำดับที่สี่ถึงลำดับที่สิบ และชั้นที่เก้าก็ต้องแข่งขั้นเพื่อจัดสามลำดับแรกด้วยเช่นกัน
“ลำดับต่อไป มู่เฉินซีปะทะกับเหยียนเหลียนเจีย!”
“การต่อสู้ระหว่างสาวงามทั้งสองกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว” เมื่อร่างของทั้งสองขึ้นมาบนสนามประลองพร้อมกัน ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“ความสามารถของเหยียนเหลียนเจียลึกเกินจะหยั่งถึง ข้ารู้สึกว่าเหยียนเหลียนเจียจะต้องชนะเป็นแน่!”
“มันก็ไม่แน่หรอก รายชื่อที่คุณชายจูเชว่ทำออกมาบอกว่าแม่นางมู่จะได้ที่หนึ่ง บางทีแม่นางมู่อาจจะมีไม้ตายอะไรบางอย่างที่ทำให้คนอื่นต้องประหลาดใจก็เป็นได้!”
.
.