ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1930 ภาพฝันดอกไม้ไฟ
คิดไม่ถึงเลยว่าที่เหมืองแร่รกร้างเช่นนี้จะยังมีของดีเช่นนี้อยู่ด้วย คาดว่าน่าจะไม่มีใครรู้จักจนมันกลายเป็นเพียงแค่ก้อนหินไร้ค่าที่ไม่มีผู้ใดเหลียวแลไป
มู่เฉียนซีเก็บหินก้อนนั้นมาอย่างพึงพอใจเป็นอย่างมาก จากนั้นก็หาต่อไป!
การหาหินแร่ล้ำค่าที่มีคุณภาพดีเจอเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของนางอย่างยิ่ง แต่ทว่าความจริงแล้วที่นี่มีแร่หินที่มีประโยชน์น้อยเกินไป และหลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็ไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง
ส่วนอีกด้านหนึ่งหลงเซินก็เก็บเกี่ยวได้ไม่เลวเลยทีเดียว ซึ่งก็ได้ใช้เวลาไปถึงหนึ่งในสามแล้ว ผู้คนต่างก็รู้สึกว่าคราวนี้สมาคมนักหลอมอาวุธจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
ต้องโทษที่สมาคมนักหลอมอาวุธนั้นทำเป็นมั่นใจมากเกินไป หากเป็นมู่หรงโช่วมาแล้วละก็ บางทีผลที่ออกมาคงจะไม่น่าเวทนาถึงเพียงนี้
ผู้นำสมาคมจ้องมองไปที่เจ้าสำนักฉินอย่างโกรธเคืองเป็นอย่างมาก เขาประเมินการกระทำอย่างไร้ยางอายเช่นนี้ของตาเฒ่านี่ต่ำเกินไป
พวกเขาเดินทางมาที่นี่เพื่อมาแข่งขัน และเจ้าสำนักฉินก็ได้มอบกระจกบานหนึ่งให้พวกเขา
นี่คืออาวุธวิญญาณอย่างหนึ่ง และพวกเขาก็สามารถดูความเคลื่อนไหวของทั้งสองคนที่สำนักเจี้ยนเหมินได้
แต่ทว่าทันใดนั้น ร่างของมู่เฉียนซีก็หายไปจากเบื้องหน้าของพวกเขา
“เหตุใดถึงไม่เห็นมู่เฉินซีแล้วล่ะ?”
“ไม่ใช่ว่าไม่เห็น แต่ความเร็วของนางเร็วเกินไป”
อย่างที่คาดไว้ ถึงจะคอยดูอย่างละเอียดรอบคอบแค่ไหนก็ยังสามารถมองเห็นได้เงาที่ผ่านตาไปเท่านั้น
“หาแร่หินไม่ใช่ว่าต้องเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วถึงจะหาเจอได้ นี่แม่สาวน้อยมู่กำลังทำอะไรอยู่กันแน่?” ฉินเฟิงจู่กล่าวอย่างประหลาดใจเล็กน้อย
หลังจากนั้น พวกเขาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของมู่เฉียนซีอีกแล้ว
มู่เฉียนซีรู้ดีว่าของงดงามละเอียดอ่อนที่พวกเขาพกมาด้วยนั้นเป็นเหมือนกับที่เฝ้าสังเกตการณ์อย่างไรอย่างนั้น และมันสามารถจับการเคลื่อนไหวทั้งหมดถ่ายทอดไปถึงสำนักเจี้ยนเหมินได้
แต่ในเมื่อเป็นอาวุธวิญญาณ แน่นอนว่านางก็มีวิธีในการจัดการ ไม่ให้ถูกเฝ้าสังเกตการณ์ได้
“นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร? คิดไม่ถึงเลยว่าแม่สาวน้อยนี่จะมีวิธีการซ่อนตัวเช่นนี้ด้วย ดูท่าแล้วอาวุธวิญญาณเฝ้าสังเกตการณ์ของข้าจะยังมีช่องโหว่อยู่อีก!” ฉินเฟิงจู่กล่าว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ตาเฒ่า ในตอนที่เจ้าหลอมอาวุธวิญญาณนี้ครั้งแรกเจ้าคงจะอวดเก่งเกินไป และคงไม่คิดว่าจะถูกคนอื่นหาช่องโหว่เจอ! แม้ว่าวันนี้สมาคมนักหลอมอาวุธของข้าจะพ่ายแพ้ แต่ก็สามารถพลิกเกมกลับมาได้!” และผู้นำสมาคมอย่างหัวเราะชอบใจขึ้นมา
“ข้าไม่เชื่อ ว่าแม่สาวน้อยผู้นั้นจะสามารถหลบซ่อนตลอดไปได้!”
แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับทำได้จริง ๆ นางยังคงเก็บตัวได้ตลอด และยังทำให้ทุกคนหมดหนทางที่จะรู้การเคลื่อนไหวของนางได้
ดังนั้น พวกเขาจึงเห็นเพียงแค่หลงเซิน ซึ่งตอนนี้หลงเซินก็ได้เดินลึกเข้าไปและเก็บเกี่ยวหินแร่มาได้อย่างดีมากเลยทีเดียว
และในเวลานี้เอง หลงเซินก็ได้ก้าวข้ามผ่านไปในอากาศ และบนพื้นดินบริเวณนั้นก็พังทลายลง จนเผยให้เห็นปากหลุมแห่งหนึ่ง
หลงเซินโยนหินก้อนหนึ่งลงไป และค้นพบว่าปากถ้ำนี้ลึกมาก
เขาจ้องมองไปที่ปากถ้ำอันมืดสนิท และจากนั้นก็พุ่งเข้าไป
ที่นี่เป็นเหมืองที่ถูกขุดขึ้นมา บางทีอาจจะเจอช่องโหว่บางอย่างภายในนั้นก็ย่อมได้
แม้ว่าตอนนี้เขาจะหาหินแร่ได้เพียงพอต่อการหลอมอาวุธแล้ว แต่กลับยังไม่มีหินแร่ที่ล้ำค่ามากเท่าไรนัก
โรงหลอมอาวุธขั้นสุดยอดของพวกเขาพ่ายแพ้มาครั้งแล้วครั้งเล่า ฉะนั้นการแข่งขันครั้งนี้เขาอยากจะเอาชนะให้งดงามมากยิ่งขึ้นอีกสักหน่อย
หลังจากที่หลงเซินเข้าไปแล้ว คนอื่นที่กำลังดูพวกเขาอยู่ก็เห็นร่างสีม่วงร่างหนึ่งพุ่งเข้าไปเช่นกัน
“เป็นมู่เฉินซี มู่เฉินซีปรากฏตัวออกมาแล้ว!”
“หรือว่า หรือว่านางตามหลงเซินอยู่ตลอดเวลาอย่างนั้นหรือ”
“ดูเหมือนว่าหลงเซินจะไม่สังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย”
ถ้ำแห่งนี้ ยิ่งเข้าไปลึกมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งกว้างมากขึ้น และก็ยังพอมีแร่หินที่มีประโยชน์อยู่บ้าง
ในตอนที่เขาไม่อยากที่จะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ ทันใดนั้นก็มีลำแสงสีฟ้าอ่อนสว่างวาบขึ้นมาอยู่เบื้องหน้าของเขา
มีแสงสว่าง!
และด้วยความอยากรู้อยากเห็นหลงเซินจึงได้เดินหน้าต่อไป และก็ได้เห็นเชิงผาแห่งหนึ่งอยู่ในส่วนลึกเข้าไปในถ้ำ
และลำแสงสีฟ้าอ่อน ๆ นั้นก็สว่างออกมาจากกลางเชิงผานั่น
ลึกเข้าไปในเชิงผานั้น ปรากฏใยแมงมุมขนาดใหญ่ใยหนึ่ง
บนใยแมงมุมนั้นมีลำแสงสีฟ้าอ่อนสว่างขึ้นมาเป็นจุดเล็ก ๆ และดูเหมือนว่าตรงใจกลางของใยแมงมุมนั้นจะมีของบางอย่างอยู่
ผู้ชมที่อยู่ในสำนักเจี้ยนเหมินต่างถกเถียงกันถึงฉากที่เห็นนี้ขึ้นมา “นั่นมันคืออะไรน่ะ?”
“ข้ารู้สึกเหมือนว่ามันจะมีอะไรแปลกประหลาดอยู่หน่อย ๆ!”
“เจ้าเด็กโง่ รีบออกมาเร็วเข้า!” ฉินเฟิงจู่ก็นับว่าเป็นผู้มีประสบการณ์และความรู้ที่กว้างขวางเช่นกัน เขาสัมผัสได้ว่าถ้ำแห่งนี้อันตรายเป็นอย่างมาก
สิ่งที่ทำให้เขาโล่งใจก็คือ ลูกศิษย์ที่เขาสอนมานั้นดูเหมือนว่าจะไม่ใช่คนที่บุ่มบ่ามเท่าไร เพราะเขาเตรียมตัวที่จะหันหลังเดินจากไปแล้ว
ตุบ!
แต่ทว่าในเวลานี้ ก็ได้มีหินก้อนหนึ่งร่วงลงมาจากปากถ้ำอย่างกะทันหัน และหลงเซินก็หลบหลีกอย่างรวดเร็ว
แม้จะเป็นแค่การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย แต่ราวกับว่ามันจะตกใจกับบางสิ่งที่เป็นอันตรายเหล่านี้ และลำแสงสีฟ้าอ่อนนั้นก็พุ่งมาทางหลงเซินด้วยความรวดเร็ว
หลงเซินได้ระเบิดการโจมตีของพลังธาตุอัคคีออกมาตามสัญชาตญาณ และได้โจมตีมันเข้าใส่แสงสว่างสีฟ้าอ่อนเหล่านั้น
เปลวเพลิงไม่เพียงแต่จะทำลายแสงสว่างนั้นไม่ได้ แต่กลับยิ่งทำให้แสงสว่างเหล่านั้นมีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นมาอีก
หลงเซินต้องการที่จะหนีออกไปข้างนอก แต่ทว่าแสงสว่างเหล่านั้นกลับเข้ามาล้อมเขาเอาไว้แล้ว
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
การโจมตีของเขาไร้ประโยชน์ต่อพวกมัน และเขาก็ทำได้เพียงหลบหลีกเท่านั้น
แต่ทว่าจำนวนของเจ้าพวกนี้มีมากเกินไป หากเขาไม่ระมัดระวังก็อาจจะถูกพวกมันปกคลุมไปจนมิดเลยก็ได้
พรึ่บ!
ทันใดนั้นแขนเสื้อก็ไปสัมผัสโดนแสงสว่างนั้นเพียงเล็กน้อย และเปลวเพลิงสีน้ำเงินก็ลุกโชนขึ้นมาทันที แต่ด้วยความพยายามเพียงชั่วพริบตาเดียวมันก็หายไป
“เซินเอ๋อ!” ในเวลานี้ฉินเฟิงจู่ก็กระวนกระวายใจจนแทบจะสิ้นสติอยู่แล้ว
สายแร่แห่งนี้ไม่มีอันตรายอะไร ดังนั้นเขาจึงได้ให้เด็กน้อยทั้งสองบุกเข้าไปได้ อีกทั้งยังไม่ให้ใครคอยไปคุ้มกันอีกด้วย
แต่กลับไม่คาดคิดเลยว่า ใต้ดินของสายแร่แห่งนี้จะมีของที่แปลกประหลาดซ่อนอยู่
“ไปเตรียมสัตว์เทพที่บินเร็วที่สุดมาให้ข้า เร็ว! ข้าจะต้องไปช่วยเหลือลูกศิษย์ข้า!”
“มันสายไปแล้ว! มันสายไปแล้วอย่างนั้นหรือ?” ฉินเฟิงจู่กล่าวด้วยตัวสั่นเทา
แขนเสื้อถูกเผาไปแล้ว และสิ่งเหล่านี้ก็พุ่งเข้าใส่หลงเซินอีกครั้ง ตอนนี้เขาถูกต้อนให้จนมุมและไม่สามารถหลบหลีกได้อีกแล้ว
หลงเซินใกล้ที่จะสิ้นหวังเต็มทีแล้ว หรือว่าเขายังไม่ทันที่จะสร้างเกียรติยศให้กับโรงหลอมอาวุธขั้นสุดยอดของเขา แต่กลับต้องมาตายอยู่ที่นี่เสียแล้วอย่างนั้นหรือ?
ในเวลานี้เอง ก็มีได้ลมกระโชกแรงพัดเข้ามาภายในถ้ำ และน้ำเสียงที่คมชัดเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “เกราะพลังวายุ!”
สายลมนั้นได้พัดแสงสว่างเหล่านั้นให้แยกออกไป และทำให้พวกมันไม่สามารถเข้าใกล้หลงเซินได้ หลงเซินตะลึงงั้นไปครู่หนึ่ง คนผู้นั้นก็คือมู่เฉินซีนั่นเอง
แผ่นหลังของฉินเฟิงจู่ถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อเย็น ยังดี ยังดีที่เซินเอ๋อร์ยังไม่เป็นอะไร
“หนีเร็วเข้า!” ฉินเฟิงจู่ร้องตะโกน
แต่ทว่ามู่เฉียนซีไม่ได้ยินคำพูดนี้ของฉินเฟิงจู่แต่อย่างใด
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!” เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ด้วยตนเอง นางจึงหยิบพัดวิหคเฟิงหลิงออกมาและพุ่งทะยานออกไป
ปัง ปัง ปัง! ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงของมู่เฉียนซี แสงสว่างสีฟ้าเหล่านี้จึงระเบิดออก และเปลวเพลิงสีฟ้าอ่อนที่งดงามก็บานสะพรั่งราวกับดอกไม้ไฟอย่างไรอย่างนั้น
มีคนอุทานออกมาว่า “งดงามมาก! ดอกไม้ไฟที่งดงามที่สุดที่ข้าเคยเห็นมายังเทียบกับดอกไม้ไฟสีฟ้านี้ไม่ได้เลย”
“งดงามแต่ก็อันตรายมาก ศิษย์น้องหลงเกือบจะถูกเผาจนไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้าด้วยซ้ำ”
“แต่ทว่างดงามก็คืองดงามนะ!”
นี่มันงดงามมาก และในมุมมองของหลงเซินที่เห็น เขารู้สึกว่าฉากเบื้องหน้านี้งดงามราวกับอยู่ในความฝัน แต่กลับไม่มีอารมณ์ที่จะชื่นชมมันมากนัก
ในเวลานี้เอง ก็ได้มีแสงสว่างอีกกองหนึ่งจู่โจมเข้ามา หลงเซินกล่าวว่า “มู่เฉินซี ระวัง!”
“พลังวายุ กักขังวิญญาณ!”
ทักษะพลังธาตุวายุที่แข็งแกร่งได้กวาดเจ้าพวกนี้ออกไป พลังธาตุอัคคีเป็นสิ่งที่ช่วยเติมเชื้อไฟให้กับพวกมัน แต่ทว่าพลังธาตุวายุนี้กลับสกัดกั้นพวกมันเอาไว้ได้
ภายใต้การโจมตีที่ต่อเนื่องของมู่เฉียนซี เมื่อผ่านไปได้สักพัก ก็ไม่มีแสงสว่างสีฟ้าอ่อนเหล่านั้นพุ่งออกมาอีกแล้ว
หลงเซินถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดสถานการณ์วิกฤตก็ได้รับการแก้ไขแล้ว
และในเวลานี้ มู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นว่า “อย่าพึ่งรีบดีใจเร็วนักเลย มีอะไรบางอย่างกำลังจะมาแล้ว!”
“มันมาถึงแล้ว!”
ตึง!
มู่เฉียนซีผลักหลงเซินออกไป
.
.