ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1931 ให้ข้าเลือกเถอะ
มีเส้นใยสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งแหวกอากาศที่ว่างเปล่าออกมา และเมื่อมันผสมผสานเข้ากับความมืดมิด ก็ทำให้ยากที่จะค้นพบมากขึ้นไปอีก
ร่างสีม่วงพุ่งทะยานออกไป และมู่เฉียนซีเปิดฉากการโจมตีทันที “พลังวายุกักขังวิญญาณ!”
ตูมมม โครมม!
และในตอนนี้ทุกคนต่างก็ได้เห็นแล้วว่าสัตว์ประหลาดขนาดมหึมานั่นคืออะไรกันแน่ ถึงมีบางคนที่ไม่รู้จัก แต่กลับมีบางคนที่นึกถึงมันออกแล้ว
“นั่นคือแมงมุมทมิฬเรืองแสง”
“ส่วนไอ้ที่เรืองแสงนั้นคือตัวอ่อนของมันสินะ!”
“ถึงอย่างไรความสามารถของมันก็เหนือกว่าสัตว์เทพไปแล้ว หากแม่สาวน้อยนี่ยังไม่รีบหนีออกมา มีแต่จะต้องรับมือกับเจ้าแมงมุมตัวนี้แล้ว”
“น่าจะไม่มีปัญหาอะไรนะ! เพราะมู่เฉินซีมีสัตว์เทพอยู่ด้วย”
“ภายในเหมืองถ้ำเช่นนี้ สัตว์เทพบินได้ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่แล้ว!”
และในตอนที่พวกเขากำลังพูดคุยอยู่นั้น ก็ไม่รู้ว่ามู่เฉียนซีต่อสู้กับเจ้าแมงมุมยักษ์ขนาดมหึมานั้นไปกี่กระบวนท่าแล้ว?
แมงมุมตัวนั้นพ่นใยออกมาแล้วทำเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ใยหนึ่ง และมันก็คิดที่จะจับมู่เฉียนซีเอาไว้ให้ได้
แต่ทว่าความเร็วของมู่เฉียนซีนั้นเร็วเกินไป และนี่ก็ทำให้มันไม่สามารถทำร้ายนางได้เลย
“ฟู่ ฟู่!” หลังจากที่มันพยายามจับเหยื่อนับครั้งไม่ถ้วน มันก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมา และการโจมตีก็ยิ่งบ้าคลั่งขึ้นไปอีก
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
หลงเซินเฝ้ามองมู่เฉินซีที่ต่อสู้อยู่กับแมงมุมตัวนั้น และได้ค้นพบว่านางเป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดคนหนึ่งเท่านั้น
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดยังสามารถที่จะต่อสู้กับแมงมุมตัวนั้นได้ แล้วเขาที่เป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตจะถูกหญิงสาวคนหนึ่งปกป้องได้อย่างไร!
“ข้าช่วยเจ้าเอง!” หลงเซินพุ่งทะยานเข้าไป และยังไม่ทันจะได้โจมตี ก็ถูกแมงมุมตัวนั้นมัดเอาไว้ได้แล้ว
พัดวิหคเฟิงหลิงถูกกางออก และใบพัดอันหนึ่งก็ตรงเข้าไปตัดใยแมงมุมสีดำที่มัดหลงเซินเอาไว้เหล่านั้น
“พลังในการต่อสู้ของเจ้าแย่เกินไปแล้ว ไปหาที่ปลอดภัยสักที่แล้วรอไปก่อนเถอะ อย่าก่อปัญหาจะเป็นการช่วยเหลือข้าได้มากที่สุด”
ใบหน้าของหลงเซินแดงระเรื่อขึ้นมาทันที และทำได้เพียงแค่เดินจากไป!
สีหน้าของฉินเฟิงจู่ก็ดูเคอะเขินเช่นกัน “เจ้าเด็กนี่หมกมุ่นอยู่แต่กับการหลอมอาวุธ ฉะนั้นความสามารถในการต่อสู้จริงของเขาจึงได้แย่เช่นนี้ ข้าคงจะต้องเปลี่ยนวิธีการสั่งสอนเขาเสียหน่อยแล้ว”
ปัง ปัง ปัง!
และในเวลามู่เฉียนซีก็ได้ต่อสู้กับเจ้าแมงมุมตัวนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้ว่าจะไม่ได้เปรียบ แต่นางก็มีแผนที่จะให้เสี่ยวโม่โม่ออกมาช่วยเหลือเช่นกัน
ลูกศิษย์คนอื่นของสำนักเจี้ยนเหมินกล่าวว่า “เป็นการมาชมการแข่งขันของโรงหลอมอาวุธขั้นสุดยอดที่ไม่เสียเที่ยวจริง ๆ! มันวิเศษมาก!”
“มิน่าศิษย์พี่ถึงสู้นางไม่ได้ แม่นางมู่ช่างยอดเยี่ยมมากเกินไปแล้วจริง ๆ”
“หากข้าต้องเผชิญหน้ากับสัตว์วิญญาณเช่นนี้ แม้จะไม่ไร้พลังในการต่อสู้ถึงขนาดศิษย์พี่หลง แต่คาดว่าคงจะยืนหยัดอยู่ได้ไม่นานเท่าไรนักอยู่ดี”
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
มู่เฉียนซีทั้งโจมตีไปด้วยและหลบหลีกไปด้วย และในระหว่างนั้น เจ้าแมงมุมตัวนั้นก็ค้นพบความผิดปกติบางอย่างโดยไม่รู้ตัว
ไม่คาดคิดเลยว่าตัวมันเองจะถูกพันธนาการเอาไว้เสียแล้ว และเมื่อเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงก็จะยิ่งถูกขัดขวางมากขึ้นไปอีก!
ที่แท้ตอนที่มู่เฉียนซีกำลังหลบหลีกก็ได้ขุดหลุมพลางเอาไว้แล้ว นางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้าชอบพ่นใยหรอกหรือ? พันธนาการตนเองเอาไว้เช่นนี้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างล่ะ?”
ลูกศิษย์ของสำนักเจี้ยนเหมินต่างชื่นชมนางด้วยความเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง “ไม่เพียงมีความสามารถที่เก่งกาจเท่านั้น แต่ยังมีกลยุทธ์มากมายอีกด้วย ช่างสมคำร่ำลือกับชื่อเสียงที่เป็นถึงอัจฉริยะอันดับหนึ่งจริง ๆ”
มู่เฉียนซีพุ่งทะยานไปเพื่อหมายจะเอาชีวิตของแมงมุมตัวนั้น
และเป็นผลให้แมงมุมตัวนั้นบ้าคลั่งขึ้นมากะทันหัน อีกทั้งตัวของมันยังขยายใหญ่ขึ้นอีกหลายเท่า และในที่สุดมันก็หลุดออกมาจากพันธนาการของใยแมงมุมเหล่านั้นได้ หลังจากนั้นมันก็พุ่งตรงเข้าใส่มู่เฉียนซีในทันที
ตูมม!
มู่เฉียนซีชนเข้ากับกำแพงหินภายในถ้ำจนเกิดเป็นรูขนาดใหญ่ขึ้นมา
ทุกคนต่างอุทานออกมาอย่างตื่นตกใจ “แม่นางมู่!”
“แม่นางมู่ไม่เป็นไรใช่หรือไม่!”
แม่งมุมตัวนั้นเตรียมที่จะยืนยันว่ามู่เฉียนซีตายแล้วหรือไม่ จึงพุ่งตรงขึ้นไป
และในขณะนั้นเองมู่เฉียนซีก็มาปรากฎตัวมาอยู่ที่ด้านหลังของมันอย่างฉับพลัน จากนั้นพัดวิหคเฟิงหลิงที่เป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ครึ่งเทพก็ตัดร่างของมันออกเป็นสองท่อน
แกนวิญญาณสีดำสนิทเม็ดหนึ่งตกลงมาจากกลางอากาศ และมู่เฉียนซีก็คว้ามันเอาไว้
นางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เยี่ยมมาก! ในที่สุดก็หาวัตถุดิบในการหลอมอาวุธชนิดที่สองเจอแล้ว มีของสิ่งนี้บางทีข้าอาจจะหลอมของเล่นที่น่าสนใจออกมาได้ก็เป็นได้”
ที่สำนักเจี้ยนเหมินในเวลานี้ ทุกคนต่างจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความตกตะลึง
“ถูกกระแทกออกไปตั้งขนาดนั้น มู่เฉินซีกลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด! ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าร่างกายของนางแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่คิดเลยว่าจะแข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้?”
“แข็งแกร่งผิดมนุษย์มนาเสียจริง นอกจากเสื้อผ้าที่ขาดเป็นรูแล้ว นางก็ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย”
“ความรวดเร็วนั้นก็ยากเกินที่จะคาดเดา และสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกฆ่าตายโดยไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ”
อย่าว่าแต่พวกเขาตกใจเลย หลงเซินเองก็ตกใจจนแทบขาดสติไปเลยเช่นกัน
ฉินเฟิงจู่กล่าวว่า “แม่สาวน้อยผู้นี้จะสุดยอดเกินไปแล้ว! ความสามารถจะแข็งแกร่งอะไรขนาดนั้น คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาแย่งงานนักหลอมอาวุธกับพวกเราด้วย มันจะไม่มีเหตุผลเกินไปแล้ว”
หลังจากที่วิกฤตถูกคลี่คลาย หลงเซินจึงกล่าวว่า “ขอบคุณแม่นางมู่มากที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้”
ผู้นำสมาคมกล่าวกับฉินเฟิงจู่ว่า “ไอ้เฒ่า แม่สาวน้อยมู่ช่วยชีวิตลูกศิษย์ของเจ้าเอสไว้ ไม่ต้องพูดถึงการทดแทนบุญคุณด้วยใจและกายเลย อย่างน้อยก็ให้ลูกศิษย์ของเจ้ามอบหินแร่ที่รวบรวมมาได้ให้แม่สาวน้อยมู่เป็นของขวัญขอบคุณเสียหน่อยเถอะ!”
ฉินเฟิงจู่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ทุกคนต่างก็เป็นมิตรสหายกัน ถึงขั้นต้องให้ของขอบคุณ ช่างทำร้ายความรู้สึกกันเสียเหลือเกิน”
“ช่างหน้าด้านหน้าทน ครั้งนี้ข้านับถือเจ้าเลยจริง ๆ” ผู้นำสมาคมกัดฟันกล่าว
และในเวลานี้มู่เฉียนซีก็มองไปทางหลงเซินพลางกล่าวว่า “หลงเซิน หากเจ้ารู้สึกขอบคุณข้าละก็ เช่นนั้นก็เอาหินแร่ที่เจ้าหาเจอมาให้ข้าเลือกเถอะ!”
หลงเซินผงะไปครู่หนึ่ง “เจ้าพูดว่าอะไร?”
“ข้าใช้เวลานานถึงเพียงนี้แต่ก็หาหินแร่เจอเพียงแค่สองชิ้นนี้เท่านั้น จำนวนมันไม่พอน่ะ และอาจารย์ของเจ้าก็เป็นคนกำหนดสถานที่เอาไว้ เจ้าจึงขุดมาได้ไม่น้อย เอามาให้ข้าดูหน่อยเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เดิมทีแล้วนางคอยติดตามเขาอย่างเงียบ ๆ นั่นก็เพื่อที่จะรอให้หลงเซินหาหินแร่ให้ได้อย่างเพียงพอและหลังจากนั้นนางค่อยลงมือแย่งชิงมา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลงเซินจะค้นพบถ้ำแห่งนี้ และทำให้นางสามารถรวบรวมแกนวิญญาณมาได้อีกเม็ดหนึ่ง
แม้ว่าจะมีแกนวิญญาณ แต่นางก็ไม่ได้วางแผนจะปล่อยเจ้าแกะน้อยที่เลี้ยงไว้จนอ้วนพีอย่างหลงเซินไปหรอกนะ!
ฉินเฟิงจู่กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “สมแล้วที่เป็นคนของสมาคมนักหลอมอาวุธ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีความคิดเหมือนกับตาแก่อย่างเจ้าไม่มีผิด! ลูกศิษย์ของข้า อย่าตอบรับเด็ดขาดเลยนะ!”
หลงเซินกล่าวว่า “เรื่องที่แม่นางมู่ช่วยข้าเอาไว้ ข้าจะต้องตอบแทนท่านอย่างแน่นอน! แต่ทว่าตอนนี้อยู่ท่ามกลางการแข่งขัน และพวกเราก็ยังคงเป็นศัตรูกัน ข้าไม่สามารถใช้ความประมาทเพียงชั่วครู่ทำให้โรงหลอมอาวุธขั้นสุดยอดของพวกเราต้องพ่ายแพ้อีกครั้งได้”
“ไม่อยากมอบให้ ก็ไม่เป็นไร! เช่นนั้นข้าคงต้องใช้กำลังแล้วล่ะ จะได้เตือนถึงมิตรภาพของเราสักหน่อย หากข้าจะลงมือ ก็ไม่มีทางทำอย่างเบามือแน่นอน!” มู่เฉียนซีระเบิดพลังวิญญาณออกมา แม้ว่าระดับของนางจะต่ำ แต่ทว่าหลงเซินกลับสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
หากว่าไม่ได้เห็นมู่เฉินซีจัดการสัตว์วิญญาณที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับสัตว์เทพอย่างงดงามแล้วละก็ เมื่อได้ยินคำพูดนี้เขาจะต้องสู้กลับเป็นแน่ แต่ทว่าตอนนี้ เขารู้ดีว่าถึงจะมีตัวเขาอีกสิบคนก็ไม่อาจที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของแม่นางมู่ได้
หลงเซินกล่าวว่า “ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่าน และไม่อยากโดนตีด้วย ทั้งหมดนี้คือหินแร่ที่ข้าเก็บรวบรวมมาได้ ข้ายอมเอามันออกมาแล้ว”
เมื่อลูกศิษย์ของตนเองยอมจำนนโดนไม่ดิ้นรนเลยแม้แต่น้อย ฉินเฟิงจู่จึงตีอกชกหัวด้วยความโมโห “นางกำลังปล้น นางเป็นโจรชัด ๆ! แม่นางน้อยผู้นี้ทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”
ผู้นำสมาคมหัวเราะอย่างพึ่งพอใจ แม่สาวน้อยผู้นี้ทำได้ดีมากจริง ๆ
เขากล่าวโต้ตอบว่า “ดูเหมือนกฎของการแข่งขันของเจ้าจะไม่ได้บอกเอาไว้นะ ว่าแย่งชิงมาไม่ได้น่ะ! แม่สาวน้อยมู่ไม่ได้ทำผิดกฎเสียหน่อย! หากลูกศิษย์ของเจ้าปฏิเสธ ก็สามารถต่อต้านได้นี่! หากเอาชนะได้ก็ไม่ต้องมอบหินแร่ให้แล้ว”
ฉินเฟิงจู่โกรธจนแทบจะกระอักเลือดอยู่แล้ว แม่สาวน้อยผู้นั้นมีพลังในการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวถึงขนาดนั้น แม้แต่ลูกศิษย์อายุน้อยที่อยู่ในอันดับหนึ่งของสำนักเจี้ยนเหมินของพวกเขายังสู้ไม่ได้ แล้วลูกศิษย์ที่ไร้ความสามารถในการต่อสู้คนนั้นของเขา ถ้าต่อสู้ได้ก็คงบ้าไปแล้วล่ะ
.