ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1952 เคล็ดวิชาลับสับเปลี่ยนใบหน้า
อย่างไรก็ตามกองกำลังทั้งสี่ยังคงหลบซ่อนเพื่อเตรียมโจมตีอยู่ และทางด้านมู่เฉียนซีและฉงหมิงกำลังเกิดข้อถกเถียงกันอยู่เช่นกัน
เส้นทางทั้งสองที่บอกพวกเขาไปคือเรื่องจริง และพวกเขาทั้งสองก็จะเลือกไปทั้งสองเส้นทางเช่นกัน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “สำนักหลางซิงและตระกูลเซี่ยโหวจะต้องส่งยอดฝีมือมาขวางข้าที่เส้นทางนั้นอย่างแน่นอน ดังนั้นข้าจะไปทางนั้น”
“เจ้าโง่ไปแล้วหรือ! เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าอยากจะลอบโจมตีพวกเขา เจ้าเอาข่าวปลอมมาทำเป็นเรื่องจริงไปทำไม แล้วอย่างนี้มันจะยังมีความหมายอะไรอีกล่ะ! ข่าวปลอมบอกว่าเส้นทางนั้น ข้าจะไปเอง!” ฉงหมิงไม่ยินยอม
“นั่นมันไม่ใช่ข่าวปลอมเสียหน่อย! อย่างน้อยคนของเราก็มีมากกว่าสิบเท่าจากที่รายงานไป จะต้องกลัวพวกมันด้วยหรืออย่างไรกัน?”
“ไม่ได้ เจ้าอย่ามาดูถูกข้านักเลย ข้าอยากจะต่อสู้กับพวกเขา เรื่องนี้เอาตามที่ข้าพูดก็พอแล้ว!”
“เจ้านี่ไม่กลัวอันตรายเลย ทางข้าปลอดภัยที่สุดแล้ว เพราะอย่างไรเสียก็มีพิฆาตวิญญาณอยู่ด้วย”
“เจ้าไม่กลัวสายตาอาฆาตของผู้ชายคนนั้นจะฆ่าเจ้าบ้างหรือไร คราวที่แล้วข้าผิดพลาดจนทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บ คราวนี้ข้าเลยจำเป็นต้องลงมือด้วยตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้จูเชว่มาสร้างความวุ่นวายให้ข้าอีก”
“เจ้าต้องการจะเลือกเส้นทางนั้นจริง ๆ ใช่ไหม” มู่เฉียนซีถามย้ำ
“แน่นอนอยู่แล้ว เรื่องของจูเชว่ก็เป็นประเด็นหนึ่ง แต่การต่อสู้แบบสองต่อหนึ่ง เจ้าเอาชนะไม่ไหวหรอก”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เช่นนั้นก็แล้วแต่เจ้า!”
ทั้งสองสับเปลี่ยนเส้นทางกัน แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังทั้งสี่ด้าน แต่ฉงหมิงก็ยังคงเต็มไปด้วยความมั่นใจอยู่ดี
มู่เฉียนซีรู้สึกว่าการต่อสู้กับกองกำลังทั้งสี่ด้านในคราวนี้ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไรนัก จึงได้ปล่อยให้ฉงหมิงไปแต่โดยดี
งานประมูลใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว และพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังเมืองลี่ตูด้วยความรวดเร็ว
เมื่อมาถึงทางเข้าเมืองก็ได้พบกับใครบางคนด้วยความบังเอิญ และชายวัยกลางคนผู้มีใบหน้าสีดำก็เดินเข้ามาพลางกล่าวว่า “คุณชายฉงหมิง ข้ารอพบเจ้ามานานแล้ว!”
ข้างกายของเขามีหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังจ้องเขม็งมาทางมู่เฉียนซี และคนผู้นั้นก็คือเฮยอู่เสีย คุณหนูใหญ่ของสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นนั่นเอง
เฮยอู่เสียกล่าวว่า “มู่เฉินซี คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าปรากฏตัวออกมา ช่างใจกล้าเสียจริง ๆ!”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มีคุณชายฉงหมิงอยู่ด้วย เจ้าคิดว่าจะมีผู้ใดทำอะไรข้าได้อย่างนั้นหรือ?”
“แค่ท่านพี่มู่หรงยังไม่พอ ไม่คิดว่าจะมาเกาะคุณชายฉงหมิงด้วย เจ้านี่มันช่างน่าขายหน้าเสียจริง ๆ เลย!” เฮยอู่เสียกล่าวอย่างโกรธเคือง
มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่นางพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม “ปกติแล้วคนที่พูดกับข้าเช่นนี้ ข้ามักจะทำให้นางขายหน้ายิ่งกว่าข้าเสียอีก”
ฟู่!
มู่เฉียนซีเอาขวดยาน้ำขวดหนึ่งออกมาแล้วพ่นใส่หน้าเฮยอู่เสียโดยตรง
ความจริงแล้วยาน้ำนี้ไม่มีพิษ แต่มีประสิทธิภาพเป็นที่ล้างเครื่องสำอางได้อย่างดีเลยทีเดียว
การแต่งหน้าของเฮยอู่เสียพังทลายไปอย่างรวดเร็ว มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนูเฮยดูแล้วก็เป็นคนที่ขาวมากทีเดียว ข้าก็เคยสงสัยว่าเจ้าอาจจะไม่ได้เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของผู้นำสมาคมเฮยก็ได้ แต่ตอนนี้ข้าไม่สงสัยอีกแล้ว”
ใบหน้าของคุณหนูเฮยดำเสียยิ่งกว่าผู้นำสมาคมเฮยเสียอีก เพราะมันถูกปกปิดด้วยการแต่งหน้าอย่างละเอียดอ่อน ทำให้คนทั่วไปไม่สามารถมองออกได้
ใบหน้าของเฮยอู่เสียดุร้ายขึ้นมาทันที “มู่เฉินซี ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้น ๆ! เจ้ากล้าดีอย่างไรกัน?”
ในตอนที่เฮยอู่เสียกำลังจะลงมือ สายตาของฉงหมิงก็เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดแล้ว
เขามองไปทางผู้นำสมาคมเฮยอย่างก้าวร้าวแล้วกล่าวว่า “ผู้นำสมาคมเฮย ดูแลลูกสาวของเจ้าด้วย กล้าลงมือกับคนที่คุณชายฉงหมิงคุ้มครองเลยหรือ ก็คอยดูว่าสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นของพวกเจ้าจะมีความสามารถมากแค่ไหนกัน?”
ท่าทางของฉงหมิงก็ทำให้ผู้นำสมาคมเฮยโมโหเช่นกัน “คุณชายฉงหมิงยังเด็กนัก อีกทั้งยังรักสวยรักงามด้วย ทว่าหญิงสาวผู้นี้ชอบสร้างปัญหาเป็นอย่างมาก เจ้าไม่กลัวถูกนางทำให้เดือดร้อนจนผิดใจกับคนอื่นมากมายอย่างนั้นหรือ?”
ฉงหมิงกล่าวว่า “หากเป็นเรื่องสร้างปัญหา ลูกสาวของเจ้าต่างหากที่เป็นคนสร้างปัญหาที่แท้จริง! นางยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย? และลูกสาวของเจ้าก็ยังไม่ได้บาดเจ็บด้วยซ้ำ หรือว่าท่านผู้นำสมาคมเฮยจะซักไซ้เอาความแล้วอย่างนั้นหรือ?”
แม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เวลานี้เฮยอู่เสียทรมานยิ่งกว่าได้รับบาดเจ็บเสียอีก
ฉงหมิงกล่าวว่า “ข้ายังมีธุระอื่นอีก ไม่มาเสียเวลากับผู้นำสมาคมเฮยแล้ว”
“เข้าใจแล้ว ๆ คุณชายฉงหมิงอายุเพียงเช่นนี้ แต่มีการงานที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย หากจะยุ่งสักหน่อยก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว” ผู้นำสมาคมกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อรอให้มู่เฉียนซีจากไปแล้ว เฮยอู่เสียก็รีบร้อนพุ่งไปยังโรงเตี๊ยมที่นางอยู่เมื่อครู่นี้ หลังจากนั้นก็เตรียมให้คนมาแต่งหน้าให้
แต่เมื่อทาแป้งลงไปชั้นหนึ่ง แป้งชั้นนั้นก็หลุดออก และไม่สามารถที่จะแต่งหน้าได้อีกเลย
“กรี๊ดด! คุณหนูไว้ชีวิตข้าด้วยเจ้าค่ะ! ข้าก็ไม่รู่ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับแป้งนี้กันแน่?” หญิงสาวที่มาแต่งหน้าให้คุณหนูเฮยเป็นพิเศษคุกเข่าอยู่บนพื้น และกล่าวอย่างตัวสั่นงันงก
เรื่องนี้มันผิดปกติเกินไปแล้ว และมันก็ไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นกับพวกเขามาก่อนเลย
เฮยอู่เสียกล่าวอย่างดุร้ายว่า “ผู้หญิงคนนั้นจะต้องเป็นคนลงมืออย่างแน่นอน มันต้องใช่แน่!”
“ท่านพ่อ!” เฮยอู่เสียร้องไห้พลางมาหาพ่อของนาง “ท่านพ่อ ท่านจะต้องแก้แค้นให้ข้า ท่านจะต้องเอาศพของนางผู้หญิงคนนั้นมาสับหมื่นชิ้นให้จงได้นะเจ้าคะ”
ผู้นำสมาคมเฮยกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ลูกสาวข้า เจ้าวางใจเถอะ ผู้หญิงคนนั้นจะต้องไม่มีโอกาสได้เห็นตะวันในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน”
จากนั้นเขาก็กล่าวกับเฮยอู่เสียว่า “คราวนี้พวกเราได้ให้ความร่วมมือกับตระกูลเซี่ยโหว และผู้นำตระกูลเซี่ยโหวก็ได้มอบเคล็ดวิชาลับอย่างหนึ่งให้พ่อมาแล้ว เคล็ดวิชาลับนั้นก็คือสามารถเอาใบหน้าของคนอื่นมาเปลี่ยนกับใบหน้าคนของตนเองได้ เพียงแค่ลอกใบหน้าของคนนั้นออกมาก็ได้แล้ว และมันก็ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเจ้าด้วย”
“เจ้าอยากได้ใบหน้าของใคร บอกพ่อมาซิ ไม่มีเรื่องใดที่สมาคมการค้าเฮยอวิ๋นใช้เงินจัดการไม่ได้” ผู้นำสมาคมเฮยกล่าวถามลูกสาวของตนเอง
เมื่อเฮยอู่เสียได้ฟังดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที นางทนกับใบหน้าที่หมองคล้ำเช่นนี้ของนางไม่ได้มานานแล้ว
“พ่อเคยโกหกเจ้าที่ไหนกันล่ะ” ผู้นำสมาคมเฮยกล่าวย้ำด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอนว่าข้าต้องอยากได้ใบหน้าของมู่เฉินซีอยู่แล้ว ในบรรดาผู้หญิงที่ข้าเคยเห็นมา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่งดงามมาก อีกทั้งท่านพี่มู่หรงก็ยังชื่นชอบใบหน้านั้นด้วย หากข้าเปลี่ยนเป็นใบหน้านั้นท่านพี่มู่หรงจะต้องรักข้าหลงข้าอย่างแน่นอน” เฮยอู่เสียกล่าวอย่างร่าเริง
ผู้นำสมาคมเฮยกล่าวว่า “เจ้านี่นะ! ไปหลงรักเจ้าหนูที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างนั้นได้อย่างไรกัน! แต่ก็ดีเหมือนกัน หากนักหลอมอาวุธอัจฉริยะอย่างมู่หรงโช่วกลายมาเป็นลูกเขยของข้า เขาคงจะช่วยสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นของข้าได้มากเลยทีเดียว”
“ท่านพ่อ! เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้! แผนการครั้งนี้ข้าก็จะเข้าร่วมด้วยเช่นกัน ข้าอยากเห็นมู่เฉินซีถูกฆ่าด้วยตาตัวเอง และอยากเห็นใบหน้านั้นของนางถูกลอกออกมาด้วยตัวข้าเอง”
ผู้นำสมาคมเฮยกล่าวอย่างยากลำบากว่า “งานที่พ่อได้รับมอบหมายในคราวนี้ก็คือการสกัดกั้นฉงหมิงเอาไว้ หลังจากนั้นเมื่อรอให้คนอื่นจัดการมู่เฉินซีได้แล้วค่อยมาจัดการคุณชายฉงหมิงทีหลัง เพียงแต่ว่าคนของสำนักหลางซิงเหล่านั้นคงจะไม่ปล่อยให้มู่เฉินซีตายอย่างง่ายดายเกินไปแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะต้องให้เจ้าได้เห็นใบหน้าของมู่เฉินซีถูกทำลายตอนที่นางมีสติอยู่ด้วยตาของเจ้าเองแน่”
เฮยอู่เสียกล่าวว่า “เช่นนี้ก็ดี จะให้นางตายไปเลยก็ดูจะง่ายดายไปจริง ๆ ข้าจะทำให้นางตายทั้งเป็นให้ได้”
แม้ว่าจะไม่พอใจมากที่ใช้ผู้ที่มีความสามารถส่วนใหญ่ไปจัดการกับมู่เฉินซี แต่เพื่อที่จะตีสนิทกับสำนักหลางซิงและเจ้าตระกูลเซี่ยโหว สมาคมการค้าเฮยอวิ๋นและสำนักสือเหมินจึงต้องยอมถอยให้
อย่างไรก็ตามไม่ช้าก็เร็ว คุณชายฉงหมิงก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
วันนี้เจ้าเด็กน้อยนั่นยังกล้าแสดงท่าทางยโสโอหังต่อหน้าเขา คงจะคิดไม่ถึงว่าเย็นวันนี้จะต้องเป็นวันตายของมันอย่างแน่นอน
งานประมูลหินแร่ของเมืองลี่ตูได้เริ่มขึ้นแล้ว กองกำลังต่าง ๆ อีกทั้งนักหลอมอาวุธต่างก็มากันหมดแล้ว รวมไปถึงผู้นำสมาคมโรงหลอมอาวุธแห่งดินแดนตะวันตกเฉียงใต้ก็มาแล้วเช่นกัน
ยังไม่ทันที่งานประมูลจะเริ่มต้นขึ้น ผู้นำสมาคมก็ตรงมาพบคุณชายฉงหมิงก่อนแล้ว
ฉงหมิงกล่าวว่า “เชิญเขาเข้ามา!”
มู่เฉียนซีจ้องมองไปยังฉงหมิงที่สวมหน้ากากสีดำสนิท พลางกล่าวอย่างหยอกล้อว่า “ให้ผู้นำสมาคมเข้ามา เจ้าไม่กลัวว่าตนเองจะถูกเปิดเผยหรืออย่างไร?”
.