ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1981 อสนีบาตลงทัณฑ์
“ถึงข้าจะขี้เกียจฆ่าพวกเจ้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นที่อยู่ในแผนการของพวกเจ้าจะปล่อยพวกเจ้าไปนี่” มู่เฉียนซีกล่าว
“มู่เฉินซี ในเมื่อเจ้าต่ำทรามถึงเพียงนี้ เช่นนั้นข้าก็ไม่อาจปล่อยเจ้าไปแต่โดยดีเช่นกัน” เจ้าตำหนักเมิ่งกล่าวอย่างมืดมน
“มู่เฉินซีรู้ว่าสมบัติทั้งหมดของตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลอยู่ที่ใด นางต้องการที่จะฮุบทั้งหมดเอาไว้ พวกเจ้าจะต้องไม่ปล่อยนางไป จะต้องไม่…” นำเสียงของเจ้าตำหนักเมิ่งแหลมสูงเป็นที่สุด
นางอยากที่จะให้คนเหล่านั้นจัดการกับมู่เฉินซี แต่ทว่าแผนการที่นางปรารถนานั้นมันผิดถนัดเลยทีเดียว
ถึงคราวนี้พวกเขาจะรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด แต่พวกเขาก็ไม่ได้โง่เช่นกัน เพราะพวกเขาได้รู้ธาตุแท้ของพวกนางแล้ว แล้วพวกเขาจะปล่อยให้นางหลอกเหมือนครั้งก่อนได้อย่างไรกัน!
ตอนนี้มู่เฉินซีสามารถยืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างปลอดภัย และยังสามารถสังหารสัตว์ประหลาดที่แสนอันตรายเช่นนั้นได้ อีกทั้งยังทำให้หญิงชั่วร้ายทั้งสองต้องตายอย่างเลวร้ายอีกด้วย ความสามารถของนางนั้นน่าสะพรึงกลัวจริง ๆ
“แม่นางมู่คือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตพวกเรา เดิมทีแล้วสมบัติของตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลก็ควรที่จะเป็นของนางอยู่แล้ว”
“ใช่แล้ว หญิงชั่วอย่างเจ้ายังคิดแผนการชั่วร้ายอีกอย่างนั้นหรือ คิดว่าพวกข้าโง่เขลาขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร?”
“……”
เจ้าตำหนักเมิ่งและเมิ่งเสี่ยวชิงหวาดกลัวจนตัวสั่นเทา มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกเจ้ามีแค้นก็ชำระ มีโทษก็ร้องเรียนกันเสีย ข้าขอไปดูก่อนว่าที่จริงแล้วตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลของพวกนางมีสมบัติอะไรกันแน่?”
“แม่นางมู่รีบไปเถอะ! ส่วนเรื่องในวันนี้ พวกเราจะไม่เปิดเผยมันออกไปแม้แต่คำเดียวแน่นอน”
“แม่นางมู่วางใจเถอะ พวกเราจะต้องทำให้หญิงชั่วทั้งสองคนนี้ตายทั้งเป็นแน่นอน”
“……”
พวกเขาต่างเกลียดเจ้าตำหนักเมิ่งเข้ากระดูกดำ หลังจากที่ได้เห็นว่าวันนี้พวกเขาไร้อำนาจในการต่อต้านมากเท่าไร สีหน้าของพวกเขาก็ยิ่งมืดมนมากขึ้นเท่านั้น
จูเชว่ไล่ตามไป แล้วกล่าวว่า “ซีซี ข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้า!”
“ถึงคนอื่นจะให้เจ้าเอาไปทั้งหมด แต่ข้าไม่อาจให้ผู้หญิงอย่างเจ้าเอาไปจนหมดได้หรอก ข้าจะต้องไปเลือกวัสดุหลอมอาวุธที่ข้าต้องการเหล่านั้นด้วย เจ้าอย่ามาห้ามข้า! ถึงอย่างไรเจ้าก็ไม่ชอบหลอมอาวุธอยู่แล้ว” ฉงหมิงก็ตามนางไปด้วย
และไป๋เจ๋อก็ตามไปด้วยเช่นกัน “บางทีข้าอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง”
สุดท้ายแล้วก็เป็นถึงกองกำลังระดับสี่ ฉะนั้นพื้นฐานมรดกนับหมื่นปีถือได้ว่ายอดเยี่ยมมากทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังมีความทะเยอทะยานที่จะกลายเป็นคนของกองกำลังระดับห้าอีกด้วย
สำหรับเพื่อนพ้อง ที่ร่วมกันต่อสู้มาก่อนหน้านี้ มู่เฉียนซีไม่มีความตระหนี่อยู่แล้ว “ชอบอะไรก็เลือกได้เลย!”
ฉงหมิงเป็นคนแรกที่ไม่เกรงใจ และเขาก็ได้เอาวัสดุในการหลอมอาวุธทั้งหมดไป เขากล่าวว่า “เจ้าไม่เอาจริง ๆ หรือ? หากเจ้าต้องการก็พูดออกมาเถอะ ข้าจะได้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง”
แต่ทว่าฉงหมิงกลับต้องโกรธเกรี้ยวขึ้นมาแทน ที่ตอนนี้มู่เฉียนซีกำลังไปแจกจ่ายสมุนไพรวิญญาณกับโม่ซวนจนไม่สนใจเขา และเขาก็โกรธมากจนโยนครึ่งหนึ่งนั้นออกไปให้ทันที
“ข้าก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเอาเปรียบเจ้า เอาไป และข้าก็ไม่อยากคุยกับเจ้าอีกแล้ว”
ฉงหมิงเดินออกไปด้วยท่าทางโมโหเป็นอย่างมาก มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ช่างอารมณ์ร้ายเสียจริง ๆ ถึงเป็นประทัดก็ยังต้องจุดไฟ แต่เขาถึงไม่จุดไฟก็ระเบิดตัวเองได้แล้ว”
“พรืดด! ระเบิดตัวเองหรือ!” จูเชว่หัวเราะขึ้นมาอย่างมีความสุข
สมบัติของตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลมีส่วนช่วยในกองกำลังระดับสี่ของพวกเขาเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการเก็บเกี่ยวที่ดีเลยทีเดียว แต่หลังจากที่พวกเขาเก็บรวบรวมสมบัติเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท้องฟ้าก็มีเมฆปกคลุมขึ้นไปเป็นชั้น ๆ อย่างกะทันหัน ราวกับว่าท้องฟ้านั้นกำลังจะพังทลายลงมาอย่างไรอย่างนั้น
กลิ่นอายปีศาจแผ่ซ่านอบอวลออกมา และคนที่อยู่ในตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลตอนนี้ต่างก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที
“นะ…นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้ว หายไปแล้วตัวหนึ่ง ก็ยังมีเจ้าตัวที่น่าหวาดกลัวอีกตัวหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาอีกหรือ รีบหนีเร็วเข้าเถอะ!”
“แม่นางมู่ พวกเราขอตัวก่อน ท่านโปรดระวังตัวด้วย!”
“……”
พวกเขาต่างหนีกันไปหมดแล้ว และแน่นอนว่าไม่ลืมที่จะเอาสองแม่ลูกคู่นั่นไปด้วย
“ซีซี…” พลังที่ทำให้คนหายใจลำบากนั้น ทำให้จูเชว่อดที่จะเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้
“เป็นศิษย์พี่! ไม่มีอันตรายหรอก” มู่เฉียนซีกล่าว
มู่เฉียนซีมองหาฉู่หลีไปทั่วทุกที่ และพลังปีศาจนั้นก็ทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง
“ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่งเหลือเกิน ไม่น่าจะมีปัญหาหรอก!”
“นายท่านลูกแมวน้อย ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงเลย พลังเพียงเล็กน้อยเท่านี้เป็นเพียงแค่ยอดเขาน้ำแข็งของเจ้าหมอนั่นเท่านั้นเอง” พิฆาตวิญญาณกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
แต่พลังเพียงแค่ยอดเขาน้ำแข็งนี้ ไม่เพียงแค่ทำให้คนทั่วทั้งดินแดนทางทิศใต้แห่งราชวงศ์ตงหวงรู้สึกตื่นตระหนกเท่านั้น แต่มันยังดึงดูดความสนใจของกองกำลังระดับห้าขนาดใหญ่ของราชวงศ์ตงหวงอีกด้วย
“มีพลังปีศาจที่แข็งแกร่งเช่นนี้ในดินแดนทางใต้ พลังปีศาจนี้อาจจะเป็นเพราะมีปีศาจโบราณปรากฏตัวออกมาก็เป็นได้”
“ปีศาจโบราณได้หายตัวไปนานมากแล้ว แล้วมันจะปรากฏตัวที่แดนซวนเทียนได้อย่างไร รีบส่งคนไปตรวจสอบเร็ว ไปดูว่าเป็นมิตรหรือว่าศัตรูกันแน่?”
“……”
ครืนนน!
และพลังนี้ก็ได้ทำให้ผู้พิทักษ์กฎแห่งโลกใบนี้ต้องตื่นตระหนก ก่อนหน้านี้ยังไม่มีการลงทัณฑ์ของสวรรค์แต่ทว่าตอนนี้มันกลับพุ่งโจมตีไปยังห้องที่ฉู่หลีเก็บตัวอยู่เสียแล้ว
พิฆาตวิญญาณกล่าวว่า “ก็ไม่ใช่ว่าเจ้าหมอนี่จะไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิ้ง เจ้าลูกแมวน้อย พวกเราไปกันเถอะ!”
พิฆาตวิญญาณคว้าตัวมู่เฉียนซีเอาไว้ จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังมังกรเงินอันทรงพลังตัวหนึ่งที่กำลังตกลงมาจากท้องฟ้า
ฉงหมิงเบิกตาโพลง “บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วจริง ๆ นั่นมันคือสายฟ้าพิฆาต เขาเป็นอะไรไปกันแน่? จะลากนางผู้หญิงบ้านั่นไปตายอย่างนั้นหรือ?”
คนคนหนึ่งแม้ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ยากที่จะต่อต้านสายฟ้าพิฆาตได้ โดยเฉพาะสายฟ้าพิฆาตอันน่าสะพรึงกลัวที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นนี้
แม้แต่ไป๋เจ๋อก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้เช่นกัน ทว่าจูเชว่ได้เคยเห็นถึงความน่าสะพรึงกลัวของความสามารถในการขัดเกลาร่างกายของมู่เฉียนซีมาก่อนแล้ว
เขาจึงกล่าวว่า “ซีซีไม่มีทางเป็นอะไรหรอก”
ถึงปากเขาจะพูดเช่นนั้น แต่ทว่าหมัดของเขาก็ถูกกำไว้จนแน่น สายฟ้าพิฆาตนี้น่าหวาดกลัวกว่าที่เคยเห็นมาก่อนหน้านี้เสียอีก ฉู่หลีอัญเชิญของเล่นอะไรมากันแน่นะ!
ตูมมม!
ในตอนที่สายฟ้ากำลังปกคลุมพวกเขาอยู่นั้น มู่เฉียนซีก็จ้องเขม็งไปที่พิฆาตวิญญาณที่คว้าตัวนางมา
“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ! เคล็ดวิชาขัดเกลาร่างกายที่ข้าฝึกฝนจำเป็นต้องใช้สายฟ้าเพื่อชุบร่างกาย แต่นี่เจ้าเป็นบ้าอะไรกันน่ะ!”
“ข้าก็ต้องการที่จะชุบร่างกระบี่ด้วยเช่นกัน! อีกอย่างข้าก็ไม่อาจปล่อยให้เจ้าของเล่นนี่มารังแกลูกแมวน้อยของข้าได้หรอก” พิฆาตวิญญาณกล่าวด้วยรอยยิ้ม
สายฟ้าลงทัณฑ์ที่น่าสะพรึงกลัวนี้เมื่อพิฆาตวิญญาณกล่าวออกมาก็เป็นราวกับเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ในตอนที่พิฆาตวิญญาณถูกฟ้าผ่าเขาไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วเลยด้วยซ้ำ แต่ทว่ามู่เฉียนซีในเวลานี้เจ็บปวดเจียนจะตายอยู่แล้ว
ศิษย์พี่ไม่ใช่คนธรรมดาจริง ๆ สินะ สายฟ้าลงทัณฑ์นี้ช่างรุนแรงเหลือเกิน
ครืนนนน!
นางถูกโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า และในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังจะทนไม่ไหวอีกต่อไป พิฆาตวิญญาณก็ผ่าสายฟ้าเหล่านั้นออกด้วยกระบี่โดยตรง
โชคดีที่ที่นี่ไม่ได้มีคนอยู่มากมายนัก มิเช่นนั้นคงต้องตกใจตายเป็นแน่ คิดไม่ถึงว่าจะเผชิญหน้ากับสายฟ้าลงทัณฑ์เช่นนี้
“ลูกแมวน้อย อย่าหาว่าข้ายุ่งไม่เข้าเรื่องเลย! ความสามารถทางร่างกายของเจ้าในตอนนี้ยากที่จะต้านทานสายฟ้าลงทัณฑ์นี้ได้”
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะได้รับการยั่วยุ และการผ่าครั้งนี้ก็รุนแรงมากขึ้นไปอีก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าได้พักหายใจแล้ว ครั้งนี้ข้าจะรับมันไว้เอง”
พิฆาตวิญญาณกล่าวอย่างจนปัญญาว่า “ลูกแมวน้อยความเพียรพยายามอย่างหนักของเจ้าเช่นนี้ มันทำให้ข้าทั้งเกลียดและรักเจ้าในเวลาเดียวกันจริง ๆ!”
ครืนนนน!
น้ำเสียงของพิฆาตวิญญาณถูกกลืนหายไปท่ามกลางเสียงดังกึงก้องของสายฟ้า
ดังนั้นทั้งสองจึงร่วมมือกันทนสายฟ้าลงทัณฑ์มากมาย แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่สามารถหยุดได้อย่างไรอย่างนั้น และคิดอยากจะโจมตีไปอีกนานมากด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างหดหู่ว่า “ศิษย์พี่ของข้าทำให้เจ้าขุ่นเคืองอย่างนั้นหรือ ถึงต้องให้สายฟ้าผ่าเช่นนี้?”
เรื่องนี้มันจะจบลงเมื่อไรกันนะ!
“พลังของเขาพบเจอการปฏิเสธของโลกใบนี้ หากเขาไม่สามารถควบคุมให้ดีได้ก็จะถูกผ่าอย่างนี้ต่อไปเรื่อย และวิธีการของเขาก็ไม่ได้ช้าอย่างธรรมดาเลยจริง ๆ!”
“ลูกแมวน้อยเจ้าออกไปก่อนเถอะ การฝึกร่างกายของเจ้าใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว หากยังทำต่อไปอีกก็มีแต่จะทำให้ตนเองทรมานและเสียเวลาเท่านั้นแหละ!” และพิฆาตวิญญาณก็ผลักมู่เฉียนซีออกไป
.
.