ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1993 ตัดสินใจโดยพลการ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไปกันเถอะ!”
“ลูกแมวน้อย เขาอยากตาย เจ้าก็ทำให้เขาสมความปราณาเถอะ! หากเจ้าลงมือไม่ได้ ข้าจะทำให้เจ้าเอง!”
ทันใดนั้นพิฆาตวิญญาณที่กำลังยืนอยู่ข้างกายของมู่เฉียนซี ก็ได้จับมือของมู่เฉียนซีเอาไว้ จากนั้นกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณก็ได้ตกไปอยู่ในการควบคุมของเขา
“พิฆาตวิญญาณ!” แววตาของมู่เฉียนซีเปลี่ยนเป็นอันตรายขึ้น และทันใดนั้นพลังจิตวิตวิญญาณก็ระเบิดออกมา
พิฆาตวิญญาณรู้ดีว่าทำให้นางโกรธเข้าแล้วจริง ๆ
เวลานี้ฉู่หลีก็กล่าวขึ้นมาว่า “ศิษย์น้อง ข้าชื่อโม่หลี นี่เป็นเพียงร่างแยกร่างหนึ่งของข้าเท่านั้น ตายไปก็ไม่เป็นไรหรอก อย่างไรก็ตามเจ้ามังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างนั้นไม่รู้เรื่องนี้ ฉะนั้นมันจึงทำให้หลอกเขาได้พอดีเลย”
นิรันดร์เคยบอกเอาไว้ว่าจิตวิญญาณของศิษย์พี่นั้นไม่สมบูรณ์ คิดไม่ถึงเลยว่าศิษย์พี่จะเป็นส่วนหนึ่งของบรรพบุรุษปีศาจจริง ๆ
“ถึงแม้จะเป็นร่างแยก ข้าก็ทำไม่ลงอยู่ดี เพราะท่านคือศิษย์พี่ของข้า!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“พลังปีศาจของข้าฟื้นคืนชีพแล้ว เดิมทีร่างมนุษย์ไม่สามารถกักเก็บพลังปีศาจได้มากนัก เพียงไม่นานร่างนี้ก็จะหายไปแล้ว ฉะนั้นไม่เป็นไรหรอก!”
“ศิษย์พี่”
มังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างกล่าวว่า “มนุษย์ เจ้าจะทำหรือจะไม่ทำกันแน่? หากเจ้าไม่ทำแล้วละก็ ข้าก็จะหายไปจริง ๆ แล้วนะ และเจ้าก็อย่าคิดเลยว่าจะได้รับกระดูกมังกรของมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างอีก”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หากข้าทำมันขึ้นมาจริง ๆ แล้วท่านเกิดกลับคำขึ้นมาภายหลังจะทำเช่นไร”
“ข้าคือมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่าง เจ้าไม่เชื่อคำมั่นสัญญาของข้าได้อย่างไร มนุษย์ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะสงสัยในคำพูดของข้า” มังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างกล่าวอย่างโกรธเคือง
พิฆาตวิญญาณกล่าวว่า “เขาเริ่มประคับประคองร่างไว้ได้อีกไม่นานเท่าไรแล้ว หากเจ้าไม่ลงมือเจ้าก็จะเสียโอกาสที่ดีเช่นนี้ไปแน่ ให้ข้าช่วยเจ้า…”
“พิฆาตวิญญาณ!”
พลังของพันธสัญญากำลังควบคุมพลังของพิฆาตวิญญาณอยู่ แต่ทว่าหากพิฆาตวิญญาณพยายามจะทำสักเรื่องหนึ่งอย่างสุดความสามารถแล้วละก็ มันก็ไม่ง่ายที่จะขวางกั้นเอาไว้ได้
เพียงแต่มันก็มีสิ่งที่ต้องจ่ายเช่นกัน “เรื่องที่ลูกแมวน้อยไม่อยากทำ ให้ข้าเป็นคนช่วยเจ้าทำเถอะ”
เปลวเพลิงสีแดงก่ำปกคลุมมู่เฉียนซีเอาไว้ และทันใดนั้นก็มีแสงสว่างวาบออกมาจากดวงตาของมู่เฉียนซี…
“พิฆาตวิญญาณ!” น้ำเสียงของมู่เฉียนซีเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที แต่ทว่าร่างกายของนางกลับเริ่มเคลื่อนไหว
มังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างกล่าวว่า “ก็แค่นั้นแหละ…”
“เจ้าทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว!”
ในตอนที่กระบี่มังกรเพลิงเล่มนั้นกำลังจะแทงทะลุเข้าไปกลางอกของฉู่หลี ก็คิดไม่ถึงเลยว่าฉู่หลีจะระเบิดพลังปีศาจออกมาต่อต้านจริง ๆ
ฉู่หลีกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ข้าไม่เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของศิษย์น้องเลย แต่ทว่าตอนนี้เหมือนข้าจะเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว!”
“ข้าคิดเองว่าวิธีที่ดีที่สุดอาจจะทำให้ศิษย์น้องต้องเสียใจ เช่นนั้นมันก็ไม่ใช่วิธีที่ดีมิใช่หรือ?”
ความซับซ้อนของอารมณ์นั้น เขาขี้เกียจเกินกว่าจะไปทำความเข้าใจมาโดยตลอด แต่ความพยายามและความโกรธเกรี้ยวของศิษย์น้อง ทำให้เขาได้เข้าใจเรื่องอะไรบางอย่าง
พิฆาตวิญญาณกล่าวว่า “หายากจริง ๆ! อารมณ์ที่ซับซ้อนขนาดนี้คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้ามีความคิดที่จะทำความเข้าใจด้วย ดังนั้นคราวนี้ข้าจะเป็นคนลงมือเอง หากลูกแมวน้อยจะโกรธ ก็ให้โกรธข้าก็พอแล้ว”
“กระบี่ที่เจ้าใช้ก็เป็นของศิษย์น้อง ร่างกายที่ใช้ก็เป็นของศิษย์น้อง ถึงจะเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้น…ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าฆ่าข้าได้ง่ายดายขนาดนั้นหรอก”
แววตาของฉู่หลีเปลี่ยนเป็นมืดมนลงทันที และพลังปีศาจก็ระเบิดออกมาสุดกำลังอย่างสมบูรณ์
ฉู่หลีกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “พิฆาตวิญญาณ ถึงอย่างไรก็ไม่ได้เจอกันนานแล้ว พวกเรามาต่อสู้กันสักหน่อยเถอะ!”
“นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าเป็นคนเริ่มท้าทายผู้อื่นก่อนเลยนะเนี่ย หากข้าไม่รับคำท้าก็เป็นการไม่ไว้หน้าเจ้าน่ะสิ” พิฆาตวิญญาณกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ตูมมมม!
เปลวไฟราชันย์แห่งการทำลายล้าง ได้ปะทะเข้ากับพลังแห่งความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุดของพลังปีศาจอย่างกะทันหัน จนสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วทุกทิศทาง
ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะไม่ได้ออมมือให้กันเลยสักนิด และมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างก็ดูพวกเขาต่อสู้กันอย่างดุเดือดด้วยความสุข
“สู้กันเลย สู้กัน! ท่านกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณ อย่าทำให้ข้าผิดหวังเสียล่ะ” มังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างกล่าว
การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่คราวนี้ แข็งแกร่งยิ่งกว่าตอนที่บรรพบุรุษปีศาจจัดการเขาก่อนหน้านี้เสียอีก
เกรงว่าเป็นเวลาเนิ่นนานมากแล้ว ที่เขาไม่ได้ต่อสู้อย่างจริงจังเช่นนี้
พิฆาตวิญญาณหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วกล่าวว่า “มันช่างให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ! แต่ว่ามันควรจะจบลงได้แล้วล่ะ”
พิฆาตวิญญาณได้ใช้พลังขั้นสุดท้ายที่เหลืออยู่ไม่มากของเขาอย่างเต็มที่ มังกรเพลิงพุ่งทะยานออกไป และได้แผดเผาพลังปีศาจ จนเส้นทางถูกแหวกออกเลยทีเดียว
ร่างจริงของกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณพุ่งทะยานออกไป และทะลุแนวป้องกันของฉู่หลีอย่างรุนแรง!
พรวด!
มังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างตื่นเต้นขึ้นมาทันที แม้ว่าพลังปีศาจจะมีผลต่อการรับรู้ของมัน แต่ตอนนี้มันแน่ใจว่าในชั่วพริบตานั้นมังกรเพลิงได้แทงทะลุหน้าอกของฉู่หลีไปแล้ว
พลังปีศาจนั้นแผ่กระจายออกไป และมันได้แผ่กระจายไปทั่วทั้งโลกใบนี้
กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณได้หยุดลงตรงหน้าของมู่เฉียนซี และในเวลานี้พิฆาตวิญญาณก็ไม่มีพลังในการควบคุมนางอีกแล้ว
มู่เฉียนซีจับด้ามของดาบเอาไว้ และมองไปยังเงาร่างที่พร่ามัวก่อนมันจะหายไป
นางกล่าวด้วยเสียงที่แหบพร่าว่า “พวกเจ้าสองคนนี่!”
และนางก็ได้ยินของฉู่หลีผ่านกระแสจิตว่า “ศิษย์น้อง รอข้าได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเถิด และครั้งนี้ข้าก็จะไม่มีปัญหาอะไรอีกด้วย มีเพียงแต่จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเท่านั้น คราวนี้ที่เศษเสี้ยวของวิญญาณที่เหลืออยู่ได้เกิดใหม่มาเป็นมนุษย์ อีกทั้งยังได้เจอกับศิษย์น้อง ทำให้ข้ามีความสุขยิ่งนัก!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าก็ดีใจที่ได้มีคนอย่างท่านเป็นศิษย์พี่เช่นกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้ง อีกอย่าง…ขอบคุณท่านมาก!”
“ศิษย์น้องยังโกรธอยู่อย่างนั้นหรือ มิเช่นนั้นคงไม่พูดขอบคุณข้าหรอก ไว้เจอกันใหม่ ข้าจะหาทางทำให้ศิษย์น้องยกโทษให้ข้าให้ได้เลย”
ทันใดนั้นพลังปีศาจของฉู่หลีก็หายไปอย่างสมบูรณ์ จากนั้นพลังปีศาจที่อยู่โดยรอบก็ได้ถูกพลังธาตุแสงนั้นชำระล้างไปจนหมดสิ้น
มังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างหัวเราะขึ้นมาอย่างตื่นเต้นว่า “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! บรรพบุรุษปีศาจโม่หลี ในที่สุดเจ้าก็ตายเสียที ในที่สุดข้าก็สามารถแก้แค้นให้ตนเองได้แล้ว”
“ในตอนแรกที่ข้าพ่ายแพ้ให้กับเจ้า คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะขี้เกียจเกินกว่าจะฆ่าข้าด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายกลับใช้พลังปีศาจพันธนาการข้าเอาไว้ ทำให้ร่างของข้ากลายเป็นปีศาจ อีกทั้งยังไม่สามารถขจัดพลังชั่วร้ายนั้นออกไปได้อีกด้วย ซึ่งมันทำให้ข้าต้องทรมานราวกับตายทั้งเป็น ในที่สุดข้าก็ทำได้เพียงแต่ทำลายตนเอง และเหลือไว้เพียงพลังกับจิตวิญญาณเท่านั้น และได้แต่เฝ้ารอใครสักคนที่สามารถฆ่าเจ้าได้”
“และสวรรค์ก็ไม่ทำให้ข้าต้องผิดหวัง สวรรค์ยังคงรักข้าอยู่ เพราะคนที่ข้ารอคนนี้ได้มาถึง และในที่สุดข้าก็ได้แก้แค้นแล้ว”
มู่เฉียนซีได้ยินมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างพูดพึมพำกับตนเอง ศิษย์พี่ไม่ได้ต้องการชีวิตของเขามาตั้งแต่แรกแล้ว เขาเพียงแค่ทำให้มันกลายเป็นปีศาจไปเท่านั้น
เขาคาดว่าหลังจากที่เจ้าหมอนี่กลายเป็นปีศาจไปแล้วน่าจะไม่มาวุ่นวายกับเขาอีก แต่กลับไม่คิดเลยว่าเจ้าหมอนี่จะสุดขั้วถึงขนาดนี้
มันไม่สามารถทนกับการมีอยู่ของพลังแห่งความมืดที่ชั่วร้ายได้ และหากร่างของมันก็มีพลังนี้อยู่ด้วย แม้แต่ตัวมันเองก็สามารถทำลายได้เช่นกัน
ซึ่งนี่เป็นตัวละครหนึ่งที่เมื่อบ้าคลั่งขึ้นมาก็ฆ่าได้แม้กระทั่งตัวเอง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พลังถูกใช้ไปจนหมดแล้ว”
พิฆาตวิญญาณตอบกลับไปว่า “ใช่แล้ว! พลังถูกใช้ไปจนหมดแล้ว หากเจ้าอยากที่จะฆ่าข้าตอนนี้ละก็ ดูเหมือนว่าข้าจะไม่มีพลังมากพอที่จะต้านทานเจ้าได้เลยด้วยซ้ำ!”
“ฆ่าเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
“ทำไม ไม่ได้วางแผนไว้ว่าจะลงมืออย่างนั้นหรือ? ข้าเป็นคนสังหารศิษย์พี่ของเจ้าเลยนะ”
“กระบี่ของเจ้า ไม่ได้ทำร้ายศิษย์พี่เสียหน่อย! ในตอนนั้นเป็นเพราะพลังปีศาจเกิดการปะทุขึ้นจนร่างกายของศิษย์พี่รับไม่ไหวจึงสลายหายไปต่างหาก”
ในเสี้ยวเวลาสุดท้ายนั้นเอง พิฆาตวิญญาณก็ได้หยุดกระบี่ลง และไม่ได้แทงทะลุผ่านหน้าอกของฉู่หลีไปจริง ๆ อีกทั้งยังกลืนกินจิตวิญญาณของฉู่หลีไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นด้วย
พวกเขาทั้งสองทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นก็คือการหลอกมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างได้สำเร็จ แต่พวกเขากลับไม่เคยหลอกนางได้มาก่อนเลย
“ดูเหมือนว่าลูกแมวน้อยจะอาลัยอาวรณ์ข้าอยู่มากเลยทีเดียว!” ภายในน้ำเสียงของพิฆาตวิญญาณเต็มไปด้วยร่องรอยของความยินดี
“แต่ในฐานะที่เจ้าเป็นผู้ผูกพันธสัญญาของข้า แต่กลับตัดสินใจทำเรื่องเช่นนี้ออกมาด้วยตนเอง หนี้ในคราวนี้ ข้าจะจำเอาไว้แน่!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียเย็นชา
“ได้สิ! ในเมื่อลูกแมวน้อยจะจำเอาไว้ เช่นนั้นข้าก็จะรอวันที่เจ้าจะมาคิดบัญชีก็แล้วกัน”
เมื่อเรื่องทั้งหมดได้จบลงแล้ว มู่เฉียนซีก็กล่าวกับมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างว่า “มังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่าง ตอนนี้เจ้าก็ได้แก้แค้นแล้ว เช่นนั้นเจ้าจะทำตามที่ได้สัญญาณไว้ใช่หรือไม่?”
.