ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2005 ยอดเยี่ยมมากเกินไปแล้ว
“อย่าหาว่าพวกข้ารังแกคนอื่นเลย หากเจ้านำแก่นเลือดออกมาอย่างเชื่อฟัง เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะมอบยาฟื้นฟูให้พวกเจ้าแน่! ดูเหมือนว่าเด็กน้อยอย่างพวกเจ้าจะชอบโวยวายมากเกินไปสักหน่อยนะ” เขาเหลือบมองเป็นการกล่าวเตือน
ก็แค่แรงกดดันของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งเท่านั้นเอง สำหรับมู่เฉียนซีแล้วไม่มีผลกระทบอะไรเลย
นางเล่นผลึกสีเหลืองที่อยู่ในมือไปมา เกาะแห่งนี้มีแต่เรื่องที่แปลกประหลาดเต็มไปหมดจริง ๆ
นางเอ่ยปากกล่าวว่า “พวกเจ้าให้พวกเราไปขุดแร่หิน พวกเราก็ทำงานอย่างเชื่อฟังแล้ว! อย่างไรเสียนี่ก็เป็นครั้งแรกที่มายังเกาะแห่งนี้ และแน่นอนว่าต้องทำงานตามกฎอยู่แล้ว! แต่ทว่าเรื่องแก่นเลือด พวกข้าขอปฏิเสธที่จะมอบให้”
“อย่าคิดว่าพวกข้าเป็นคนโง่เขลา พวกเจ้าสามารถทำอะไรได้มากมายจากแก่นเลือดของคนคนหนึ่ง อีกทั้งพวกข้าก็ยังไม่คุ้นเคยกับพวกเจ้าเลยด้วยซ้ำ ฉะนั้นพวกข้าไม่มีทางทำเรื่องโง่เง่าอย่างการมอบแก่นเลือดให้กับพวกเจ้าหรอก แม้ว่าความสามารถของเจ้าจะแข็งแกร่งกว่า แต่ข่มขู่ไปก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี”
ลูกศิษย์ของสำนักเซิ่งหลินเหล่านั้นต่างพากันเห็นด้วย “ใช่แล้ว!”
“อย่างไรก็ไม่ให้!”
พวกเขาที่กล้าต่อต้านถึงขนาด มันได้ทำให้ผู้ดูแลโกรธมากเลยทีเดียว
“สั่งสอนพวกเขาสักหน่อย ให้พวกเขาได้รู้ว่าต้องเชื่อฟังแค่ไหน ลงมือได้!”
มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาขวางอยู่เบื้องหน้ามู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “แม่นางมู่ พาพวกศิษย์น้องชายและศิษย์น้องหญิงของข้าหนีไป ข้าจะขวางคนเหล่านี้เอาไว้เอง รีบไปเร็วเข้า!”
“ศิษย์พี่ พวกเราต้องไปด้วยกันสิ!”
“ช่างไร้เดียงสาเสียจริง มาถึงที่นี่ยังคิดเพ้อเจ้ออย่างเรื่องการหนีอีกหรือ?” ผู้ดูแลคนนั้นหัวเราะขึ้นมา และพวกเขาก็ถูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว
ที่นี่ยังมีคนจากที่อื่น ๆ อยู่ด้วย พวกเขาได้กล่าวว่า “นี่มันไม่เกี่ยวกับพวกเรา และพวกเราก็ยินดีที่จะมอบแก่นเลือดให้ด้วย!”
“พวกเจ้าไสหัวออกไปได้! ไปผสานกับผลึกตรงนั้นซะ!”
“ขอรับ!”
จากนั้นมีเพียงมู่เฉียนซีกับลูกศิษย์สำนักเซิ่งหลินเหล่านั้นเท่านั้นที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้ ผู้ดูแลคนนั้นจึงกล่าวว่า “อายุน้อยนี่ดีจริง ๆ ใจกล้าไม่เลวเลย แต่เดี๋ยวพวกเจ้าก็จะได้รู้ว่าการต่อสู้ทั้งหมดนั้นมันไร้ประโยชน์มากเพียงใด”
ลูกน้องทั้งหมดของเขาพุ่งทะยานออกไป และพวกของมู่เฉียนซีก็พยายามจัดการพวกเขาอย่างเต็มที่
ตูมมม โครมมม!
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน และผู้ดูแลคนนั้นก็กล่าวว่า “ดูเหมือนว่าเด็กน้อยอย่างพวกเจ้าจะยังพอมีความสามารถอยู่บ้างนะ แต่ว่า…”
“แล้วอย่างไรล่ะ?”
คราวนี้ เขาลงสนามต่อสู้ด้วยตนเอง พลังของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระเบิดออกมาอย่างไร้ขอบเขต และมันก็ทำให้คนอื่นต้องมีเหงื่อเย็นผุดออกมาจากหน้าผากเลยทีเดียว
ศัตรูมีจำนวนเยอะกว่าจนพวกเขาเริ่มจะย่ำแย่ และสุดท้ายพวกเขาก็เริ่มที่จะพ่ายแพ้แล้ว
มู่เฉียนซีกำลังติดพันอยู่กับผู้ดูแลคนนั้น และเขาก็กล่าวขึ้นมาอย่างประหลาดใจว่า “เป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดคนหนึ่งแต่มีพลังในการต่อสู้เช่นนี้ ข้ายิ่งไม่มีทางปล่อยอัจฉริยะที่พิเศษเช่นเจ้าหลุดไปได้แน่”
เขาพุ่งกระโจนไปทางมู่เฉียนซีอย่างดุดัน และคิดอยากที่จะจับมู่เฉียนซีเอาไว้ให้ได้ แต่ทว่าความรวดเร็วของมู่เฉียนซีก็ไม่ยอมทำให้เขาทำมันสำเร็จได้ง่าย ๆ
“ผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวายุ ช่างมีความเร็วที่รวดเร็วเสียจริง! แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตถึงอย่างไรก็เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตอยู่ดี!”
และความเร็วในการโจมตีของเขาก็เร็วมากขึ้นไปอีก!
ระดับต่างกันมากถึงเพียงนี้ ฉะนั้นเขาไม่เชื่อหรอกว่ามู่เฉียนซีจะสามารถพลิกสถานการณ์ที่วุ่นวายนี้ได้
หลังจากที่ดิ้นรนอยู่เป็นเวลานาน คนอื่นต่างได้รับบาดเจ็บสาหัสจนถูกจับได้หมดแล้ว
เพียงแต่ว่าคนเหล่านี้ต้องการแค่แก่นเลือดและไม่ได้ต้องการฆ่าคน ดังนั้นพวกเขาจึงแค่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น
“แม่นางมู่!”
เมื่อพวกเขาเห็นว่ามู่เฉียนซีกำลังติดพันกับผู้ดูแลคนนั้น ก็อดที่จะเป็นห่วงมู่เฉียนซีขึ้นมาไม่ได้
“แม่นางมู่ระวัง!”
นี่คือผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์เชียวนะ! แม้ว่าทุกครั้งมู่เฉียนซีจะสามารถหลบหลีกได้ด้วยความเร็วอันน่าอัศจรรย์นั้นของนาง แต่หากไม่ทันระวังก็อาจจะรักษาชีวิตน้อย ๆ นั่นไว้ไม่ได้ก็เป็นได้
แต่ทุกคนก็ได้ค้นพบว่า โชคของมู่เฉียนซีนั้นดีจนน่าประหลาด เพราะนางสามารถหลบหลีกมันได้ทุกครั้งไป
“แม่สาวน้อยผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดผู้นี้ไม่ง่ายเลย! คิดไม่ถึงเลยว่าใช้เวลานานถึงเพียงนี้แล้วลูกพี่ใหญ่ก็ยังจับนางไม่ได้เลย!”
“ก็นั่นนะซิ”
“……”
ลูกน้องของเขาจัดการเจ้าเด็กเลวเหล่านั้นได้แล้ว แต่ผลก็คือเขายังไม่สามารถที่จะจัดการมู่เฉียนซีได้เลย และนี่ก็ทำให้ผู้ดูแลคนนี้โมโหเป็นอย่างมาก
แม้ว่าจะโมโหมาก แต่เขาก็อับอายเกินกว่าที่จะสั่งให้ลูกน้องมาช่วยจัดการมู่เฉียนซีด้วยกัน
แม้แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดคนหนึ่งยังจัดการด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ นี่จะไม่ทำให้ลูกน้องของเขาหัวเราะเยาะเอาหรอกหรือ?
พลันนั้นผู้ดูแลก็ระเบิดพลังออกมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง คราวนี้ นางจะต้องหนีไม่ได้และหลบไม่พ้นเป็นแน่!
ใช่แล้ว คราวนี้มู่เฉียนซีไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด
“ในที่สุดก็จัดการได้แล้ว!” สีหน้าของผู้ดูแลเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
ตูมมม!
พลังนั้นพุ่งเข้าโจมตีมู่เฉียนซี อีกทั้งยังเป็นการโจมตีที่แม่นยำและไม่มีความผิดพลาดเลยด้วย
เพียงแต่ว่าเขารู้สึกโมโหเล็กน้อย พลังการโจมตีเมื่อครู่นี้ไม่ได้อ่อนแอเลย และไม่ได้ควบคุมไม่ดีด้วย ฉะนั้นอย่าว่าแต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตที่โดนกระบวนท่านี้เลย แม้แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสูงก็คาดว่าน่าจะรักษาชีวิตน้อย ๆ นั่นไว้ไม่ได้เช่นกัน!
หากนางสาวน้อยนั่นตายไปแล้ว นั่นมันค่อนข้างที่จะขาดทุนเลยทีเดียว!
“แม่นางมู่!” สีหน้าของคนอื่นเปลี่ยนไปทันที เพราะเป็นห่วงมู่เฉียนซีเป็นอย่างยิ่ง
แต่ในเวลานี้เอง มู่เฉียนซีที่เดิมทีแล้วน่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับทะยานขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นก็กางพัดวิหคเฟิงหลิงออก และควบคุมพลังธาตุวายุให้โจมตีออกไปอย่างกะทันหัน!
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
ความเร็วนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก และผู้ดูแลคนนี้ก็ไม่สามารถที่จะหลบหลีกได้เลย!
ฉึก!
มีบาดแผลที่ลึกจนเห็นกระดูกปรากฏขึ้นมาบนร่างของเขาหลายแผล และจากนั้นเลือดสด ๆ ก็พุ่งกระฉูดออกมา
มู่เฉียนซีฉวยโอกาสตอนที่เขาได้รับบาดเจ็บ แล้วทำการสังหารไปเสีย
นางพุ่งเข้าไปใกล้ผู้ดูแลคนนั้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง พัดวิหคเฟิงหลิงกลับมารวมร่างกัน และหลังจากนั้นก็โจมตีออกไปทันที
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย”
จากนั้นพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดขึ้นมาต่อหน้าต่อตาผู้ดูแลคนนี้ในระยะประชิด อีกทั้งพลังกวาดล้างอันน่าสะพรึงกลัวนี้ก็มาพร้อมเศษของดาวเคราะห์ที่แตกสลาย ผู้ดูแลตกใจจนเหงื่อไหลเต็มไปหมด และถึงแม้ว่าอยากจะหลบหนีเพียงใด แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว
ตูมมม!
ผู้ดูแลคนนั้นลอยละลิ่วออกไปอย่างแรง จากนั้นก็ชนเข้ากับหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง
“ลูกพี่ใหญ่!”
ลูกน้องเหล่านั้นของเขาตกใจเป็นอย่างมาก จากนั้นพวกเขาก็เตรียมตัวจะไปจัดการมู่เฉียนซี และไปช่วยลูกพี่ของพวกเขา แต่ทว่าความเร็วของมู่เฉียนซีกลับเร็วยิ่งกว่าพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด
นางได้เข้าไปใกล้ผู้ดูแลคนนั้นราวกับปีศาจร้ายอย่างไรอย่างนั้น และหลังจากนั้นก็เหยียบลงไปบนปากแผลของผู้ดูแลคนนั้น
“อ๊ากกกก!” ผู้ดูแลคนนั้นกรีดร้องโหยหวนออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับหมูถูกเชือดอย่างไรอย่างนั้น
และพัดหยกที่เย็นยะเยือกเล่มหนึ่งก็จ่ออยู่ตรงขมับของเขา มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “อย่าเข้ามา ไม่อย่างนั้นข้าฆ่าเขาแน่!”
“อย่า…อย่าเข้ามา…” ผู้ดูแลคนนั้นกล่าวอย่างอ่อนแรง และภายในน้ำเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยความกลัวอย่างสุดซึ้ง
เขาควรที่จะต้องขอบคุณตนเองที่เพียรพยายามฝึกฝนจนได้อยู่ในระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ เพราะหากเขาเป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดคนหนึ่งแล้วละก็ เขาเกรงว่าวันนี้คงจะรักษาชีวิตน้อย ๆ นี้ไว้ไม่ได้เป็นแน่
นางเด็กสาวผู้นี้เป็นลูกศิษย์อัจฉริยะของกองกำลังระดับสูงกองกำลังไหนกันแน่ ทักษะวิญญาณที่นางใช้ช่างน่าหวาดกลัวมากจริง ๆ
ในเมื่อเป็นคำสั่งของลูกพี่ พวกลูกน้องที่เหลือก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวใด ๆ อีก
และมู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นมาอีกว่า “ยังไม่ปล่อยคนมาอีก!”
คนของสำนักเซิ่งหลินเหล่านั้นได้รับอิสระไปแล้ว และตอนนี้พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกศรัทธามู่เฉียนซีมากขึ้นไปอีก
นี่…นี่มันยอดเยี่ยมมากเกินไปแล้วจริง ๆ
อีกฝ่ายคือผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์เชียวนะ! แต่นางกลับเอาชนะได้ อีกทั้งยังเหยียบเอาไว้ใต้เท้าของนางได้อีก
มู่เฉียนซีมองไปทางพวกเขา “เรื่องที่ข้าจะทำต่อไปนี้มันอันตรายมาก หากพวกเจ้ากลัวว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องแล้วละก็ ตอนนี้ก็จงออกไปจากที่นี่ซะ รีบออกไปเร็วเข้า!”
พวกเขากล่าวว่า “แม่นางมู่ ดูเหมือนว่าตั้งแต่มาถึงหมู่เกาะเฮยสุ่ยก็ไม่มีสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับพวกเราอีกแล้ว อีกอย่างเจ้าก็ช่วยเหลือพวกเรามาหลายครั้งหลายครา ฉะนั้นพวกเราไม่มีทางทิ้งเจ้าไปแน่นอน ”
“ฮิ ฮิ ฮิ! แม่นางมู่ ศิษย์พี่ของข้าหนังเหนียวจะตายไป เมื่ออยู่ในช่วงวิกฤตเขาสามารถขวางคมดาบให้เจ้าได้นะ!”
“เจ้าเด็กน้อย เจ้าพูดกับศิษย์พี่เช่นนี้เลยหรือ?”
ถึงอย่างไรคนเหล่านี้ก็ไม่คิดที่จะไปอยู่แล้ว มู่เฉียนซีจึงเหลือบมองไปทางพวกเขาแล้วกล่าวว่า “เรียกผู้นำเกาะของพวกเจ้าออกมาพบข้า เร็วเข้า!”
นางอยากที่จะทำให้ชัดเจนว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ หากถามท่านผู้เฒ่าของเกาะนี้ตรง ๆ น่าจะรู้เรื่องอะไรขึ้นมาบ้าง
.
.