ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2010 เพราะว่าเบื่อ
“ดีล่ะ! ในที่สุดก็เข้าสู่เกาะชั้นในได้แล้ว” พวกเขากล่าวอย่างตื่นเต้น
“อย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไปนักเลย คนที่อยู่เกาะชั้นในนั้นแข็งแกร่งมาก มันอาจจะเป็นการต่อสู่ที่ดุเดือดมากก็ได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ลงมือถึงขั้นฆ่าคนได้ แต่พวกเจ้าก็ต้องระวังตนเองด้วย” มู่เฉียนซีกล่าวสั่ง
“ขอรับ!”
เมื่อตอนที่เข้าโจมตีเกาะชั้นในเกาะแรก พวกเขาก็ได้รู้อย่างชัดเจนแล้วว่ามันไม่ได้ง่ายดายเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว
แต่ทว่าพวกเขากลับไม่มีใครหวาดกลัวเลยสักคนเดียว อีกทั้งยังมุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญเช่นเคยอีกด้วย
“ที่จริงพวกเจ้าเป็นใครกันแน่?”
แรงกดดันของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสองกำลังใกล้เข้ามา และเขาก็พุ่งตรงออกไปจับมู่เฉียนซีในทันที
เขามองออกว่า สาวน้อยที่มีพลังเป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดผู้นี้ เป็นผู้นำกลุ่มของคนเหล่านี้
แต่ทว่าในตอนที่เขากำลังจะจับมู่เฉียนซีเอาไว้นั้น ร่างของมู่เฉียนซีก็สั่นไหว และคิดไม่ถึงเลยว่านางจะสามารถหลบหลีกการโจมตีของเขาได้
“เป็นความเร็วที่รวดเร็วมาก อีกทั้งการเคลื่อนไหวร่างกายก็ยังคล่องตัวมากด้วย!” ผู้นำเกาะห่าวหรี่ตาลงเล็กน้อย
“ช่างน่าสนใจดีจริง ๆ มิแปลกใจเลยที่กล้ามาสร้างความวุ่นวายบนเกาะของข้าเช่นนี้ จับพวกเขาเอาไว้ ข้าต้องการแบบยังมีชีวิต”
เขาสั่งการลูกน้องของตนเอง และหลังจากนั้นเพียงไม่นานฝั่งตรงข้ามก็เอาอาวุธลับออกมา และสิ่งที่มีพิษเหล่านั้นก็ทำให้ผู้นำเกาะห่าวยิ่งสนใจมากขึ้นไปอีก
“เสี่ยวโม่โม่ จงออกมา!”
เสี่ยวโม่โม่พุ่งทะยานออกมาพัวพันกับผู้นำเกาะห่าว เมื่อไม่นานมานี้เสี่ยวโม่โม่ไม่เชื่อฟังและพยายามต่อสู้กับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ประสบการณ์ในการต่อสู้ของมันเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และความสามารถก็แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
ดังนั้นการปราบปรามผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสองนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ทำให้สีหน้าของผู้นำเกาะห่าวจริงจังขึ้นมาทันที “สัตว์เทพระดับหนึ่งอย่างนั้นหรือ?”
“พวกเจ้ามัวตะลึงงันกันอยู่ทำไม? รีบไปจับนางสาวน้อยคนนั้นมาก่อนเร็วเข้า”
ถึงจะมีผู้นำเกาะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสองเพียงคนเดียว แต่ทว่ามาตรฐานของยอดฝีมือบนเกาะแห่งนี้ก็ไม่ได้เหมือนกับเกาะชั้นนอกที่มีเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์เพียงคนเดียว เพราะบนเกาะแห่งนี้มีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งถึงสองคนด้วยกัน
เดิมทีแล้วพวกเขาคิดว่า แค่จัดการเจ้าเด็กน้อยกลุ่มนี้คงไม่จำเป็นที่จะต้องให้พวกเขาออกโรง แต่ผลสุดท้ายพวกเขาได้ดูถูกคนกลุ่มนี้มากเกินไปหน่อย
จากนั้นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งสองคนก็พุ่งทะยานออกไป และพวกเขาทั้งสองก็ร่วมมือกันจัดการกับมู่เฉียนซี
“แม่สาวน้อย ความสามารถของพวกเราแตกต่างกันมากเกินไป หากทำร้ายเจ้าแล้ว มันก็ง่ายมากที่จะทำให้เจ้าไม่เหลือแม้แต่ชีวิตน้อย ๆ นั่น ถ้าหากข้าเป็นเจ้าแล้วละก็ จะรีบยอมให้จับตัวอย่างเชื่อฟังแต่โดยดี”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เช่นนั้นก็รอให้พวกเจ้าสามารถโจมตีโดนข้าก่อนค่อยมาว่ากันเถอะ!”
“แม่สาวน้อยผู้นี้จะบ้าบิ่นเกินไปแล้ว คอยดูเถอะว่าข้าจะสั่งสอนเจ้าเช่นไร!”
“ลงมือได้!”
พวกเขาทั้งสองคนเข้าไปพัวพันกับมู่เฉียนซี และมู่เฉียนซีก็ได้กางพัดวิหคเฟิงหลิงออกมาเพื่อต่อสู้กับพวกเขา พลันนั้นกระแสลมภายในอากาศก็เปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้นมาทันที จากนั้นทั้งสามคนก็เข้าปะทะกัน
ตูมมมมม!
ทุกครั้งมู่เฉียนซีจะหลบหลีกอย่างแยบยลเป็นอย่างมาก ซึ่งมันก็ทำให้ผู้เฒ่าทั้งสองไม่สามารถจับนางได้ชั่วขณะหนึ่ง
พวกเขากล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “ให้ตายเถอะ นางเด็กสาวผู้นี้มีความเจ้าเล่ห์ที่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ”
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
พัดวิหคเฟิงหลิงล่องลอยอยู่กลางอากาศ และพลังธาตุวายุก็ส่งเสียงร้องหวีดหวิวออกมา
ตูมมม โครมมม!
“เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดก็ควรที่จะฝึกฝนเพื่อเลื่อนขั้นระดับของตนเอง คิดอยากจะก้าวกระโดดมาจัดการผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์อย่างพวกข้า แม้ว่าเจ้าจะเรียนรู้ทักษะวิญญาณอันแข็งแกร่งมาได้ แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้นักหรอก”
พวกเขายอมรับว่าทักษะวิญญาณพลังธาตุวายุของแม่สาวน้อยผู้นี้แข็งแกร่งมาก แต่น่าเสียดายที่คนที่ร่ายทักษะวิญญาณนี้มีระดับที่ต่ำเกินไป ฉะนั้นจึงไม่อาจคุกคามพวกเขาได้เลยแม้แต่น้อย
“เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งอย่างพวกเจ้าก็ควรที่จะต้องตั้งใจฝึกฝนให้ดีเช่นกัน! เพราะแม้แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดเพียงคนเดียว พวกเจ้าก็ยังจัดการไม่ได้เลย พวกเจ้าไม่รู้สึกว่ามันน่าอับอายเกินไปหน่อยหรืออย่างไร?”
เมื่อผู้เฒ่าทั้งสองเริ่มเหน็บแนมนาง มู่เฉียนซีก็เหน็บแนมพวกเขากลับไปบ้างเช่นกัน
“ไม่สำคัญว่าพวกเจ้าทั้งสองคนจะอายุเท่าไร แต่ก็ใกล้ที่จะต้องถูกฝังแล้วเช่นกัน! แม้ว่าจะฝึกฝนมาเป็นอย่างดี คาดว่าน่าจะเลื่อนขั้นไม่ได้มากเท่าไรนักหรอก”
พวกเขาดูแคลนแม่สาวน้อยผู้นี้ว่ามีความสามารถที่อ่อนแอ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าฝีปากของแม่สาวน้อยผู้นี้จะร้ายกาจถึงเพียงนี้ได้ และมันก็ทำให้พวกเขาทั้งสองคนโกรธเคืองเป็นอย่างมาก
“นางเด็กน้อย ข้าไม่เชื่อหรอกว่าข้าจะจัดการเจ้าไม่ได้!”
“ฝ่ามือพิศาล!”
“ค้อนสะท้านนภา!”
ทักษะวิญญาณที่ไร้ขอบเขตทั้งสองได้พุ่งทะยานเข้าไปพัวพันกับมู่เฉียนซี ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ได้ระเบิดพลังในการโจมตีที่แข็งแกร่งออกมา ซึ่งมันก็ทำให้พื้นดินบริเวณโดยรอบยุบลงไปอย่างกะทันหัน
ครืนนนนน!
หลังคาของคฤหาสน์หลักได้ถูกทำให้พังทะลายลง แต่ถึงกระนั้น มู่เฉียนซีก็ยังสามารถที่จะหลบหลีกไปได้อยู่ดี
“ความเร็วที่รวดเร็วมากเช่นนี้ เป็นแค่สาวน้อยผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดคนหนึ่ง สามารถทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” เมื่อได้เห็นความเร็วเช่นนั้นของมู่เฉียนซี พวกเขาก็รู้สึกมึนงงเป็นอย่างมาก
พวกเขายังคงไล่ตามต่อไปอย่างไม่ลดละ จนในที่สุดก็หาโอกาสที่ดีในการจัดการมู่เฉียนซีได้แล้ว
ตูมมมม!
ฝ่ามือนี้ ได้โจมตีโดนนางเข้าอย่างจัง
ในที่สุดก็สามารถจัดการแม่สาวน้อยคนนี้ได้แล้ว ในตอนที่เขากำลังมีความคิดเช่นนี้มิติบริเวณโดยรอบของมู่เฉียนซีก็เกิดการบิดเบี้ยว หลังจากนั้นนางก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังของคนผู้นี้โดยที่เขาไม่ทันได้รู้ตัว
ฉึก!
เข็มยาเล่มหนึ่งแทงเข้าไปในผิวหนังของเขา และเขายังไม่ทันที่จะตระหนักได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ร่างของเขาก็แข็งทื่อและร่วงลงมาจากกลางอากาศเสียแล้ว
ส่วนผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งอีกคนหนึ่งก็ได้แต่จ้องมองฉากนี้ด้วยความตื่นตะลึง “จะ…เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”
มู่เฉียนซีเลิกคิ้วแล้วกล่าวว่า “คิดว่าข้าจะบอกเคล็ดลับที่ข้าเอาไว้จัดการศัตรูกับเจ้าด้วยอย่างนั้นหรือ ต่อไปก็เหลือเจ้าเพียงคนเดียวแล้ว มันทำให้จัดการได้ง่ายขึ้นมากเลยทีเดียว”
วิธีการลงมือของแม่นางน้อยเมื่อครู่นี้แปลกประหลาดมากเกินไปแล้ว และมันก็ได้ทำให้ผู้เฒ่าคนนี้รู้สึกไม่มั่นใจเอาเสียเลย
แต่เมื่อคิดว่าเขาเป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่ง และเขาจำเป็นที่จะต้องกลัวผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตด้วยอย่างนั้นหรือ?
“เมื่อครู่นี้เจ้าเพียงแค่ใช้วิธีที่ไร้ยางอายในการจัดการน้องชายของข้าเท่านั้น เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าทำสำเร็จได้อย่างนั้นหรือ? ตายซะเถอะ!” จากนั้นเขาก็พุ่งทะยานเข้ามาอีกครั้ง
ผู้นำเกาะห่าวได้สั่งการไปยังมือขวาและมือซ้ายของเขาเพื่อให้สามารถจัดการแม่สาวน้อยผู้นั้นได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อเจ้านายถูกควบคุม สัตว์เทพตัวนี้ก็จะสามารถจัดการได้ง่ายขึ้นมาก
แต่ทว่าในตอนที่สัตว์เทพเริ่มรับมือยากมากขึ้นเรื่อย ๆ นั้น คิดไม่ถึงเลยว่าทั้งสองคนนั่นจะยังไม่สามารถจัดการแม่สาวน้อยคนนั้นได้
นี่มันอะไรกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกโจมตีจนพ่ายแพ้ไปแล้วคนหนึ่งเช่นนี้ ช่างเป็นคนที่ไร้ประโยชน์เสียจริง ๆ!
ในตอนที่ผู้นำเกาะห่าวกำลังโมโหอยู่นั้น การโจมตีด้วยเปลวเพลิงของเสี่ยวโม่โม่ ก็ได้กระแทกเข้าที่แขนข้างหนึ่งของเขาอย่างจัง
พรึ่บ!
และทันใดนั้นแขนของเขาก็ถูกเผาจนกลายเป็นสีดำไปแล้ว!
ถึงจะมีสองคนก็ยังจนปัญญาที่จะจัดการกับมู่เฉียนซีได้ ฉะนั้นการจัดการนางด้วยตัวคนเดียวนั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าเสียอีก
และในเวลานี้เอง เขาก็ได้เห็นผู้นำเกาะที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีดำตกลงมาจากกลางอากาศ จากนั้นก็มีเสียง ตูมมมม! ดังขึ้น และบนพื้นก็มีหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น!
สีหน้าของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก เขากล่าวอย่างเป็นกังวลว่า “ท่านผู้นำเกาะ ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่! ท่านผู้นำเกาะ!”
ในเวลานี้เขาก็รู้สึกได้ว่าร่างของตนเองกำลังตกอยู่ในเงามืด สัตว์เทพที่เอาชนะผู้นำเกาะของพวกเขาได้ตัวหนึ่งนั้นกำลังบินอยู่กลางอากาศในเวลานี้ หลังจากนั้นมันก็กล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “นายท่าน ตรงนั้นต้องการความช่วยเหลือจากเสี่ยวโม่โม่หรือไม่?”
ฮวบ!
เขาถูกทำให้หวาดกลัวจนแข้งขาอ่อนแรงและทรุดตัวลงไปคุกเข่าอยู่บนพื้นเสียแล้ว
แม้แต่ผู้นำเกาะยังไม่ใช่คู่ต่อสู้กับสัตว์เทพตัวนี้ แล้วเขาจะไปเป็นคู่ต่อสู้ของสัตว์เทพตัวนี้ได้อย่างไรกันล่ะ!
สุดท้ายแล้วมู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “ไม่ต้องหรอก ตรงนี้ข้าจะจัดการเอง! เจ้าไปช่วยจัดการคนอื่นเถิด!”
ที่นี่มีคนจำนวนมาก จึงทำให้พวกของเซิ่งชงบางคนเริ่มที่จะยืนหยัดต่อไปไม่ไหว และต้องการให้ใครสักคนเข้ามาช่วยอย่างเร่งด่วน
“เจ้าค่ะ!” เสี่ยวโม่โม่ตรงไปช่วยเหลือพวกของเซิ่งชงอย่างเชื่อฟัง และแรงกัดดันอันน่าสะพรึงกลัวนั้นก็ได้หายไป
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นมองไปทางมู่เฉียนซี และในเวลานี้เขาไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้เลยแม้แต่น้อย เขาจึงกล่าวว่า “แม่นางน้อย ไม่อย่างนั้นข้าขอยอมแพ้ ไม่สู้อีกแล้ว!”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ได้สิ! รอให้เสี่ยวโม่โม่จัดการคนอื่นต้องใช้เวลาอีกสักพักเลย หากเจ้าไม่สู้กับข้ามันก็จะน่าเบื่อเกินไปไม่ใช่หรือ? ถึงอย่างไรเสียก็มีเสี่ยวโม่โม่อยู่ด้วย ทางนั้นไม่ต้องการข้าหรอก”
คิดไม่ถึงเลยว่านางกลัวที่จะเบื่อถึงขั้นให้เขาที่เป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ต่อสู้เป็นเพื่อนนาง
และชายชราที่เป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้ก็ใกล้ที่จะร้องไห้ออกมาเต็มทีแล้ว แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงต้องยอมรับเท่านั้น
“ได้! ข้าจะต่อสู้เป็นเพื่อนเจ้าไปอีกสักพักก็แล้วกัน!”
มู่เฉียนซีกล่าวกับเขาว่า “แต่เจ้าก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่ด้วยนะ! มิเช่นนั้น หากเจ้าต้องตายไปก่อนก็อย่ามาโทษว่าข้าไม่ออมมือให้ก็แล้วกัน”
พลันนั้นพลังวิญญาณธาตุวายุก็ระเบิดออกมา และมู่เฉียนซีก็พุ่งเข้าไปโจมตีเขาอย่างดุเดือด
.
.