ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2021 กลายเป็นทาสตัวน้อย
“อุแว้ อุแว้ อุแว้!” ซูอี้ชิงอยากที่จะเอ่ยปากออกไป แต่ผลสุดท้ายกลับมีแต่เสียงร้องไห้ของเด็กทารกดังออกมาเท่านั้น
มู่เฉียนซีจิ้มไปบนแก้มกลม ๆ ของเขาพลางกล่าวว่า “ตอนยังเล็กเจ้าค่อนข้างน่ารักเลยทีเดียว หน้าตาไม่เห็นจะเย็นชาเหมือนตอนโตเลย”
ที่จริงแล้วเจ้าต้องการจะทำอะไรกันแน่?
ดวงตากลมโตคู่นั้นจ้องมองมาที่มู่เฉียนซี ซึ่งนั่นก็ทำให้ยิ่งบ้องแบ๊วมากขึ้นไปอีก
แม้ว่าจิตสังหารจะปะทุออกมาจากกระดูกดำ แต่เมื่อได้เห็นรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูน่ารักน่าชังเช่นนี้ ก็ไม่รู้สึกเหมือนถูกคุกคามเลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เอาล่ะ ข้าไม่ใช่มู่หลินหลาง! แต่ข้าก็แซ่มู่เช่นกัน ข้ามีชื่อว่ามู่เฉินซี!”
มู่เฉินซี!
ชื่อนี้ แน่นอนว่าซูอี้ชิงคุ้นเคยดีอยู่แล้ว
นั่นคืออัจฉริยะที่ชนะเลิศอันดับหนึ่งของดินแดนทางทิศใต้แห่งราชวงศ์ตงหวง และความสามารถของนางกับมู่เฉินซีผู้นั้นก็มีความสอดคล้องกันมากจริง ๆ
“เจ้าเด็กน้อย หลังจากนี้ข้าคือเจ้านายของเจ้าแล้ว! เจ้าจงเปลี่ยนเป็นคนอ่อนโยนและเชื่อฟังแต่โดยดี”
“อาถิง เจ้าอุ้มเขาไปสิ!”
“ทำไมต้องเป็นข้าด้วย! ข้าเกลียดเด็กน้อยมากที่สุดเลย!”
“ก็เจ้าเป็นคนเปลี่ยนเขา เช่นนั้นเจ้าก็ต้องเป็นคนอุ้มเขาสิ!”
“เช่นนั้นข้าก็จะทำให้เขากลายเป็นความว่างเปล่าไปเสียเลย มันจะได้หมดปัญหา ถึงอย่างไรข้าก็ไม่อุ้ม!”
“นายท่าน เดี๋ยวข้าเป็นคนทำเอง!” เสี่ยวโม่โม่เป็นคนรับหน้าที่นี้เอง
แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้ชอบเด็กน้อยเช่นกัน แต่มันต้องการที่จะทรมานซูอี้ชิงต่างหาก
เจ้าก้อนกลม ๆ นั่นกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนตัวของสัตว์เทพสีดำตัวนั้น ซึ่งมันก็ทำให้เขาเกือบที่จะขาดใจอยู่แล้ว
โชคยังดีที่ที่นี่ไม่มีคน มิเช่นนั้นมู่เฉียนซีคาดว่าน่าจะถูกคนอื่นพูดว่านางปฏิบัติต่อเด็กน้อยอย่างเหี้ยมโหดเป็นแน่
“ไปกันเถอะ!”
หลังจากที่ถูกไล่ล่าไปจนถึงที่รกร้างแถวชานเมือง ตอนนี้วิกฤตก็ได้ถูกขจัดไปแล้ว ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงได้หาเมืองแห่งหนึ่งพักผ่อนก่อน
ส่วนซูอี้ชิง หากไม่ได้ถูกเสี่ยวโม่โม่พาไปด้วยก็คงถูกโยนเข้าไปในมิติแล้ว เพราะอย่างไรเขาไม่ใช่เด็กเล็กจริง ๆ เสียหน่อย
แต่ทว่าร่างกายของซูอี้ชิงนั้นเป็นร่างของเด็กน้อยจริง ๆ และการทรมานเช่นนี้ก็ทุกข์ทรมานยิ่งกว่าฆ่าให้ตายเสียอีก
คนที่โตแล้วอย่างเขารู้ซึ้งได้อย่างชัดเจนแล้วว่าความรู้สึกของการกลายเป็นทารกเช่นนี้ทั้งไร้ความสามารถและไร้พลังมากเพียงใด อีกทั้งยังทำได้เพียงปล่อยให้คนอื่นบีบอย่างหดหู่ใจต่อไปเท่านั้นเอง
เขาอยากให้นางวางยาพิษเขาต่อไป มากกว่ากลายมามีรูปร่างเช่นนี้เสียอีก
เมื่อมาถึงโรงเตี้ยม มู่เฉียนซีก็โยนเขาไปแบบไม่ใส่ใจเท่าไรนัก ในเมื่อไม่มีนม มู่เฉียนซีจึงให้เขาดื่มยาแทน อีกทั้งยังเป็นยาที่ขมที่สุดอีกด้วย
ทุกครั้งที่นางเห็นเขาดื่มยาอย่างทรมานและดื่มไปพร้อมกับดวงตาที่เขียวปั้ดของเขา มันก็ทำให้มู่เฉียนซียิ้มอย่างมีความสุขมากขึ้นไปอีก!
ใครใช้ให้เจ้ามาไล่ล่าข้ากันล่ะ และยังให้เจ้ามาคิดว่าข้าเป็นมู่หลินหลางอีก
มู่เฉียนซีหัวเราะอย่างชอบใจพลางกล่าวว่า “นักฆ่าอันดับหนึ่ง เมื่อลองย้อนเวลากลับไปเป็นทารกแล้วเป็นอย่างไรบ้าง? หากชอบก็เป็นเช่นนี้ต่อไปได้ แต่หากไม่ชอบก็ยอมให้ข้าเป็นเจ้านายของเจ้าซะ แล้วข้าจะเปลี่ยนให้เจ้ากลับมาเป็นเหมือนเดิมเอง”
เจ้านาย!
สีหน้าของซูอี้ชิงแข็งทื่อไปทันที และภายในใจของเขาก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้นไปอีก
ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะเป็นเจ้านายของเขาทั้งนั้น!
“ไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร พวกเรามาค่อย ๆ ใช้เวลาร่วมกันเถอะ เจ้าทาสตัวน้อย!” มู่เฉียนซีคลี่ยิ้มอย่างชั่วร้าย
ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังแกล้งซูอี้ชิงที่เปลี่ยนเป็นเด็กทารกอยู่นั้น สำนักหมอทมิฬในเวลานี้ต่างก็เต็มไปด้วยด้วยความโศกเศร้า
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ? ผลึกวิญญาณอำพัน ผลึกวิญญาณอำพันทั้งหมดใช้งานไม่ได้แล้วอย่างนั้นหรือ เจ้าบอกมาให้ชัดๆหน่อยสิ”
“เรียนนายน้อย มันคือความจริงขอรับ! ผลึกวิญญาณอำพันที่ขุดออกมาได้ในภายหลัง ดูเหมือนว่าจะไม่มีพลังแห่งมิติอยู่เลยแม้แต่น้อย อีกทั้งมิติที่ผนึกหมู่เกาะเฮยสุ่ยเอาไว้ก็มีรอยแตกปรากฏขึ้นมาอีกด้วย และจนถึงตอนนี้พวกเรายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ขอรับ”
“ดูเหมือน...ดูเหมือนว่าหลังจากที่สาวน้อยผู้นั้นหนีไป มันก็ได้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น! หรือว่านาง…”
คิ้วของนายน้อยชุดดำผู้นั้นขมวดมุ่น เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “มีข่าวของผู้หญิงคนนั้นบ้างหรือยัง? ถึงขั้นให้นักฆ่าอันดับหนึ่งลงมือแล้ว เหตุใดถึงยังไม่สำเร็จอีก?”
“นักฆ่าอันดับหนึ่งซูอี้ชิงไล่ล่าผู้หญิงคนนั้นมาสามวันแล้ว แต่ทว่าตอนนี้กลับยังไม่มีการส่งข่าวมาเลย เนื่องจากว่ามีสัตว์เทพ ผู้หญิงคนนั้นจึงหนีไปได้อย่างรวดเร็ว แต่นักฆ่าอันดับหนึ่งอย่างซูอี้ชิงไม่น่าปล่อยให้หลุดมือไปได้ขอรับ”
“หากพรุ่งนี้ยังไม่มีข่าวส่งมา พวกเราจะลงมือด้วยตนเอง! นักฆ่าอันดับหนึ่งอะไรกันไว้ใจไม่ได้เลย แม้ว่านางจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายไปของพลังแห่งมิติของผลึกวิญญาณอำพันแม้เพียงเล็กน้อย แต่ก็จะต้องเอาผู้หญิงคนนั้นมาให้ข้าให้ได้” แววตาของนายน้อยสำนักหมอทมิฬเปล่งประกายชั่วร้ายออกมา
“ขอรับ นายน้อย!”
ไม่ได้มีเพียงทางด้านของสำนักหมอทมิฬเท่านั้นที่เกิดสถานการณ์เช่นนี้ เพราะคนของหอรัตติกาลเองก็ยากที่จะเชื่อเช่นกัน
“ลูกพี่ยังไม่กลับมาเลยนะ!”
“ลูกพี่ขาดการติดต่อไปแล้ว ตอนนี้ยังหาลูกพี่ไม่พบเลย”
“เป็นไปไม่ได้ ด้วยความสามารถของลูกพี่แล้ว จะเกิดเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร”
การไล่ล่าเป้าหมายที่เป็นภารกิจถึงสามวันโดยไร้ข่าวคราวใด ๆ เลยเช่นนี้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ตอนนี้ แม้ว่าพวกเขาจะมีความมั่นใจในตัวลูกพี่มากเพียงใด แต่พวกเขาก็มีความร้อนใจอยู่เล็กน้อยเช่นกัน
“ตามหา! รีบหาทางตามหาลูกพี่เร็วเข้า”
ถึงแม้จะรู้ว่าสำนักหมอทมิฬต้องการจะสังหารนาง แต่มู่เฉียนซีก็ไม่ได้ปิดบังที่อยู่ของตนเองเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้อาถิงได้ตื่นขึ้นมาแล้ว และต่อให้พวกกากเดนเหล่านั้นจะมาอีกเท่าไร ก็จะถูกทำลายไปอยู่ดีนั่นแหละ
ด้วยเหตุนี้ซูอี้ชิงที่ถูกทรมานให้เป็นเด็กทารถก็ได้ถูกพาไปเดินเล่น นอกจากนี้ยังถูกมู่เฉียนซีพาไปซื้อเสื้อผ้าอีกด้วย
“เถ้าแก่! รีบไปเตรียมผ้าที่ดีที่สุดมาทำเสื้อผ้าให้เด็กน้อยคนนี้”
มู่เฉียนซีลงมือใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย เถ้าแก่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แม่นางน้อย นี่คือน้องชายของท่านหรือ?”
“ไม่ใช่ นี่คือทาสตัวน้อยของข้าต่างหาก!”
เถ้าแก่ได้แต่บ่นพึมพำอยู่ในใจ ดูแม่นางน้อยที่ดูร่ำรวยผู้นี้จะเปิดเผยเกินไปหน่อยแล้ว คิดจะเลี้ยงเด็กทารถเช่นนี้ไปเป็นสามีอย่างนั้นหรือ?
เดิมทีแล้วซูอี้ชิงไม่อยากพบเห็นใครด้วยรูปลักษณ์เช่นนี้เลย เพราะมันน่าอับอายเป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนว่ามู่เฉียนซีจะรู้ถึงความคิดนี้ของเขา ฉะนั้นที่ใดที่มีคนพลุกพล่านนางก็จะไปเดินเล่นที่นั่น
แม้ว่าความสามารถของหนุ่มน้อยชุดเขียวจะมีความผิดปกติเป็นอย่างมาก แต่กลับให้อารมณ์เหมือนเด็กน้อยอยู่บ้าง ซึ่งดูจะให้ความร่วมมือในการสร้างความวุ่นวายกับมู่เฉินซีเป็นอย่างดี
หากได้รู้ว่าวันนี้จะต้องมีจุดจบเหมือนเช่นในตอนนี้ หรือหากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ก็คือมู่เฉินซี เขาจะไม่รับภารกิจในการลอบสังหารนางเช่นนี้อย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่บนโลกนี้ไม่ยาแก้รักษาโรคเสียใจภายหลัง!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เมืองแห่งนี้มีผู้คนมากมายเลยทีเดียว หากข้าเอาเจ้าไปแขวนไว้บนกำแพง แล้วบอกคนเหล่านี้ว่าเจ้าคือซูอี้ชิงนักฆ่าอันดับหนึ่ง เจ้าคิดว่าเป็นไร?”
“อุแว้ อุแว้ อุแว้!” ไม่มีใครเชื่อหรอก ใช้วิธีเช่นนี้ข่มขู่ข้า เจ้ายอมแพ้เสียเถอะ!
“เป็นทาสของข้ามีอะไรที่ไม่ดีกัน ข้ามีรางวัลตอบแทนให้เจ้าไม่ขาดแน่นอน ข้ารับประกันได้ว่าต้องทำเงินได้มากกว่าตอนที่เจ้าเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งเสียอีก”
ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ค่าตอบแทน แต่เป็นศักดิ์ศรีต่างหาก!
แม้ว่าการข่มขู่ซูอี้ชิงของมู่เฉียนซีจะล้มเหลวอีกครั้ง แต่นางก็ไม่ยอมแพ้หรอก
สำนักหมอทมิฬมีสายลับอยู่มากมายในดินแดนทางทิศตะวันออก และด้วยท่าทางโอ้อวดของมู่เฉียนซี ทำให้พวกเขาหานางเจอได้ภายในวันเดียวเท่านั้น
มีจิตสังหาร! เด็กทารกน้อยซูอี้ชิงที่กำลังหลับอยู่ ได้เบิกตาโพลงขึ้นมาทันที
ถึงแม้ว่าจะไม่มีพลังวิญญาณและพลังกายที่สมบูรณ์ แต่สัมผัสทางจิตวิญญาณของเขายังคงอยู่
มีบางคนกำลังใกล้เข้ามา แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่มีความเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย แต่ซูอี้ชิงมั่นใจมากว่า ผู้หญิงที่มีความสามารถพอที่จะหลบหนีการไล่ล่าของคนผู้นั้นได้ จะต้องแสร้งหลับอยู่อย่างแน่นอน
สำนักหมอทมิฬรู้ดีว่ามู่เฉียนซีเป็นตัวละครที่รับมือยากคนหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่ได้ส่งผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำมาเท่านั้น แต่ยังส่งถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับกลางมาอีกด้วย
ในตอนที่พวกเขาพุ่งทะยานเข้ามา ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับกลางเหล่านั้นก็ได้กลายเป็นชายชราที่หนังหุ้มกระดูกไปในทันที และหลังจากนั้นพวกเขาก็ล้มลงไปบนพื้นทีละคน และก็จ้องมองไปยังกลางอากาศที่มีหนุ่มน้อยผู้เหมือนภูตก็มิปานผู้นั้นอย่างหวาดกลัว
อาถิงกล่าวว่า “เจ้าพวกนี้อ่อนแอเกินไปจริง ๆ! หญิงอัปลักษณ์ ส่วนคนอื่นเจ้าจัดการเองก็แล้วกัน!”
แม้ซูอี้ชิงจะรู้ถึงความสามารถของหนุ่มน้อยผู้นั้นมาก่อนแล้ว แต่ตอนนี้เขาก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัวกับการลงมือนั้นอยู่ดี เขาควบคุมชีวิตของคนได้ง่ายดายราวกับการละเล่นอย่างไรอย่างนั้น อันที่จริงแล้วเจ้าหนุ่มน้อยผู้นี้เป็นใครกันแน่?
หรือจะกล่าวว่า เดิมทีแล้วเขาไม่ใช่มนุษย์กัน!
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เข้าใจแล้ว! เจ้าดูแลทาสตัวน้อยของพวกเราให้ดีก็พอ อย่าให้เขาต้องไปชนอะไรเข้าล่ะ”
“นี่คือทาสของเจ้าต่างหาก ข้าไม่ต้องการทาสที่อ่อนแอเช่นนี้หรอกนะ! อีกอย่างข้าไม่สนใจที่จะมีทาสด้วย” อาถิงกล่าวตอบ
.
.