ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2023 ไม่มีรหัสลับ
“ข้อมูลของซูอี้ชิงนักฆ่าอันดับหนึ่งอย่างนั้นหรือ! เช่นนั้นมันจะต้องสร้างความครึกโครมได้อย่างแน่นอน แม่นางเชิญพูดมาเถิด ขอเพียงแค่เจ้าจ่ายเงินให้อย่างเพียงพอ พวกข้าจะต้องทำงานให้เจ้าอย่างยอดเยี่ยมแน่” พวกเขากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นักฆ่าอันดับหนึ่งรับการว่าจ้างจากสำนักหมอทมิฬ ให้ฆ่าสาวน้อยที่เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดคนหนึ่ง ไล่ล่ามาแล้วสามวันสามคืน จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ที่อยู่แน่ชัด และไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย” มู่เฉียนซีกล่าวกับพวกเขา
พวกเขากล่าวด้วยสีหน้าที่ยากจะเชื่อว่า “นะ…นี่มันเป็นไปไม่ได้หรอก! ได้ยินมาว่าซูอี้ชิงมีความสามารถเป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำแต่พวกข้าก็เคยได้ยินข่าวลือมาว่าแม้แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงเขาก็สามารถทำการลอบบสังหารได้สำเร็จมาแล้ว ไม่มีทางที่จะจัดการผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดเพียงคนเดียวไม่ได้หรอก”
“แม้ว่าพวกเราจะทำงานเพราะเห็นแก่เงิน แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะให้ปล่อยข่าวที่ดูไม่สมเหตุสมผลเช่นนี้!”
ถึงสีหน้าของพวกเขาจะดูลำบากใจ แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่แก้ไขได้ง่ายดายมาก เพราะหลังจากที่ให้เงินได้มากพอพวกเขาก็เปลี่ยนใจกันไปหมดแล้ว
พวกเขากล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเพียงแค่เรื่องง่าย ๆ พรุ่งนี้เรื่องนี้ก็จะถูกแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมของท้องถนนแล้ว และเจ้าพวกนี้ก็เปลี่ยนหน้าได้ไว้กว่าพลิกหน้าหนังสือเสียอีก
แต่หากนักฆ่าอันดับหนึ่งอย่างซูอี้ชิงอยู่ในเงื้อมมือของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดคนหนึ่งเช่นนี้ เมื่อถึงเวลานั้นตำแหน่งของเขาก็จะไม่ได้รับการรับประกันอีกแล้ว กิจการหลังจากนี้ของเขาต้องย่ำแย่เป็นแน่
ในเวลานี้ใบหน้ากลมเล็ก ๆ นั่นของซูอี้ชิงน้อยเย็นชาราวกับน้ำแข็ง แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริง แต่การที่ผู้หญิงคนนี้แพร่กระจายข่าวเช่นนี้ออกไป ก็สามารถเห็นได้ชัดว่านางไม่ได้มีเจตนาดี และตั้งใจที่จะทำลายชื่อเสียงของเขา
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มันจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ เมื่อตำแหน่งในวงการของเจ้าไม่ได้รับการรับประกันอีกต่อไป หลังจากนี้ไปหากไม่มีงานทำก็ระวังจะอดตายเอาเสียล่ะ ทว่าตอนนี้เจ้ายังมีโอกาสที่จะเปลี่ยนใจได้อยู่ แค่ตอบรับว่าจะไปกับข้า มิฉะนั้นหากรอให้ถึงวันพรุ่งนี้แล้วจะมาเสียใจภาพหลังมันก็สายเกินไปแล้ว”
คราวนี้ซูอี้ชิงไม่ร้องไห้งอแงอีกแล้ว เขาหลับตาลงนอน และไม่สนใจมู่เฉียนซีอีกต่อไป
“ไม่กลัวตาย ไม่กลัวความลำบาก และยังไม่กลัวชื่อเสียงถูกทำลายอีกด้วย หรือว่าคนอย่างเจ้าหมอนี่จะไม่มีจุดอ่อนเลยเช่นนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างแผ่วเบา
ในฐานะนักฆ่าคนหนึ่ง หากมีจุดอ่อนก็คงต้องเป็นอันตรายถึงชีวิตอย่างแน่นอน แต่ถึงแม้ว่าจะมี ข้าก็ไม่อาจทำให้คนอื่นรู้ได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว
ดังนั้นในวันรุ่งขึ้น ข่าวนี้ก็ได้แพร่กระจายออกไป และแน่นอนว่ามีคนมากมายที่ไม่เชื่อเรื่องนี้
ถึงคนอื่นจะไม่เชื่อ แต่ทว่าคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ล้วนเชื่อกันไปหมดแล้ว อย่างเช่นคนของสำนักหมอทมิฬ และลูกน้องของซูอี้ชิง
คนที่สำนักหมอทมิฬส่งออกไปก็ไม่มีข่าวกลับมาเลย เพราะพวกเขาต่างก็ตายกันหมดแล้ว นายน้อยสำนักหมอทมิฬกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “นะ…นี่มันเป็นไปไม่ได้หรอก?”
“นายน้อย นางเด็กน้อยคนนั้นต้องมีปัญหาแน่ มีความสามารถเป็นเพียงแค่ระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตเท่านั้น แต่กล้ามาทำหยิ่งผยองพองขนในหมู่เกาะเฮยสุ่ยถึงขนาดนี้ อีกทั้งยังหนีออกไปจากเกาะเฮยสุ่ยได้อีก นางต้องไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่งเท่านั้น จะต้องมีคนคอยแอบคุ้มครองนางอยู่แน่! และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้ซูอี้ชิงล้มเหลว นอกจากนี้ความสามารถของคนผู้นั้นเเกรงว่าจะไม่อ่อนแอด้วย”
สามารถทำให้คนของพวกเขาไม่เหลือรอดมาได้แม้แต่คนเดียว อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงขึ้นไปแน่!
“นายน้อย พวกเราจะต้องทำอย่างไรต่อไปหรือขอรับ?” คนของสำนักหมอทมิฬถามขึ้นมาอย่างระมัดระวัง
“ท่านพ่อกำลังเก็บตัวอยู่ และข้าก็มีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงไม่มากพอที่จะระดมพลได้ หากข้างกายของผู้หญิงคนนั้นมีคนอันตรายอยู่ด้วย ข้าก็ไม่สามารถส่งผู้อาวุโสของสำนักหมอทมิฬไปตายได้! ดังนั้น ช่วงนี้พวกเราจับตาดูผู้หญิงคนนั้นไปก่อน ยังไม่ต้องลงมืออะไรทั้งนั้น”
แม้ว่าสำนักหมอทมิฬจะเป็นถึงกองกำลังระดับสี่ครึ่ง แต่พวกเขาก็ฝึกหลอมยาและฝึกหลอมพิษเป็นหลัก และการที่ต้องสูญเสียยอดฝีมือผู้ฝึกบำเพ็ญวิญญาณระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ไปมากมายขนาดนี้ในคราวเดียว มันก็ทำให้พวกเขาปวดใจมากเช่นกัน
“นายน้อยกล่าวได้ถูกต้องแล้ว คนผู้นั้นฆ่าซูอี้ชิงไปแล้ว และหอรัตติกาลก็ไม่ได้อ่อนแอ! หากคิดจะให้หอรัตติกาลไปสำรวจดูก่อนก็ดีเช่นกัน”
ข่าวของซูอี้ชิงแพร่กระจายไปราวกับไฟลามทุ่ง ส่วนมู่เฉียนซีก็อยู่ฝึกฝนที่เมืองตงหลิวต่อไป
“หาผู้หญิงคนนั้นเจอแล้ว ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่เมืองตงหลิวอย่างนั้นหรือ?”
“ขนาดลูกพี่ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ แล้วพวกเรา…”
“ไปหาท่านผู้อาวุโส เราจะต้องไปหาผู้หญิงคนนั้นแล้วถามที่อยู่ของลูกพี่มาให้ได้”
ทันทีที่หอรัตติกาลได้รู้ข่าวของมู่เฉียนซี พวกเขาก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวขึ้นมาในทันที พวกเขาไม่เชื่อว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับลูกพี่
มู่เฉียนซีที่กำลังพักผ่อนอย่างสุขสบายในโรงเตี้ยม ก็สัมผัสได้ว่ามีจิตสังหารกำลังพุ่งเข้ามา และยังเป็นกลิ่นอายของนักฆ่าอีกด้วย
ซูอี้ชิงลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลิ่นอายของคนเหล่านี้ เขาจะไม่คุ้นเคยได้อย่างไร
เมื่อนึกถึงความโหดเหี้ยมที่มู่เฉินซีใช้จัดการกับคนของสำนักหมอทมิฬ พวกเขาก็เหมือนมารนหาที่ตายอย่างสิ้นเชิง
“อุแว้ อุแว้ อุแว้!”
ซูอี้ชิงร้องเตือนด้วยเสียงอันดังลั่น เนื่องจากว่าไม่สามารถพูดได้เขาจึงทำได้เพียงเปลี่ยนคำพูดเหล่านั้นให้กลายเป็นเสียงร้องแทน
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกยิ้มขึ้นมา มากันแล้วสินะ!
“เหตุใดถึงมีเสียงเด็กร้องไห้อย่างนั้นได้ล่ะ เด็กสาวคนนั้นดูอายุแค่สิบหกสิบเจ็ดเท่านั้นเอง มีลูกแล้วอย่างนั้นหรือ”
“เหตุใดลูกพี่ถึงรับการจ้างวานให้สังหารผู้หญิงที่มีลูกแล้วด้วยล่ะ!”
“……”
หลังจากที่ลูกพี่กลายเป็นเด็กน้อย รหัสลับในวันเก่า ๆ ของพวกเขามันก็ไม่มีอยู่อีกแล้ว
ไม่ว่าจะปล่อยให้จินตนาการของพวกเขาโลดแล่นเพียงใดแต่พวกเขาก็คิดไม่ถึงหรอกว่าลูกพี่ของพวกเขาจะกลายเป็นเด็กทารก และใช้เสียงร้องไห้เพื่อเตือนพวกเขาถึงอันตรายที่อยู่ข้างในนี้
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
นักฆ่าแต่ละคนเหล่านี้มีความสามารถในการซ่อนตัวเเป็นอย่างมาก พวกเขาแต่ละคนเข้ามาภายในห้องโดยไม่มีเสียงเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่สามารถซ่อนจากมู่เฉียนซีและซูอี้ชิงได้
พวกเขาเห็นผู้หญิงที่สวมชุดกระโปรงยาวสีม่วงคนหนึ่งจ้องมองมาทางพวกเขาแล้วกล่าวว่า “ซูอี้ชิงคือนักฆ่าของหอรัตติกาล เช่นนั้นข้าคิดว่าพวกเจ้าก็คือคนของหอรัตติกาลสินะ!”
“ลูกพี่อยู่ที่ใด?” พวกเขากล่าวถามพลางจ้องเขม็งไปที่มู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีกล่าวพลางหัวเราะคิกคักว่า “ลูกพี่ของพวกเจ้าก็อยู่นั่นไง!”
นางยืนนิ้วชี้ไปยังเจ้าก้อนกลมสีขาวนี่
ซูอี้ชิงประหลาดใจเล็กน้อยที่มู่เฉียนซีพูดอย่างนั้นจริง ๆ
แต่สิ่งที่คนของหอรัตติกาลเหล่านั้นแสดงออกมาคือ “เจ้ากำลังเล่นตลกกับพวกเราหรืออย่างไร!”
“บอกความจริงมานะ!”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย ตอนนี้นางได้พูดความจริงที่สุดแล้ว แต่กลับไม่มีคนเชื่อเสียได้
“คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้าจะไม่เชื่อช้า เช่นนั้นก็ลงมือเถอะ!”
“ลงมือ! ต้องจับนางมาแล้วให้นางอธิบายให้จงได้”
นักฆ่าของหอรัตติกาลลงมือแล้ว มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พลังของพวกเจ้าอ่อนแอยิ่งกว่าซูอี้ชิงเสียอีก ขนาดซูอี้ชิงยังพ่ายแพ้แล้วตกอยู่ในกำมือของข้าเลย แล้วพวกเจ้าจะมาตายฟรีหรืออย่างไรกัน?”
“เสี่ยวโม่โม่ ออกมาเล่นกับพวกเขาหน่อยสิ!”
เสี่ยวโม่โม่รู้ดีว่าคนเหล่านี้คือลูกน้องของนักฆ่าชั่วผู้นั้น แน่นอนว่าไม่มีทางอ่อนข้อให้พวกเขาอยู่แล้ว
ซูอี้ชิงรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้พูดคำโกหกจนกลายเป็นนิสัยไปแล้ว คนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ไม่ใช่นาง แต่เป็นหนุ่มน้อยที่แปลกประหลาดคนนั้นต่างหาก
แต่เขาคงคิดไม่ถึงหรอกว่า มู่เฉียนซีคือผู้ผูกพันธสัญญาของอาถิง เมื่อเขาพ่ายแพ้ให้กับอาถิงก็เท่ากับว่าเขาได้พ่ายแพ้ให้มู่เฉียนซีเช่นกัน ซึ่งนางก็ไม่ได้พูดผิดแต่อย่างใด
ตูมมมม โครมมม!
“พวกเจ้ายังห่างชั้นกับซูอี้ชิงมากมายนัก!”
“พลังวายุทำลาย จันทราหนาวเหน็บ!”
“พลังวายุทำลาย ดับสูญ!”
“ทักษะซิวหลัว!”
มู่เฉียนซีอยู่ท่ามกลางพวกเขาด้วยท่าทางการเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความตื่นตระหนก “เร็วมาก!”
ในฐานะนักฆ่าคนหนึ่ง แน่นอนความเร็วนั้นสำคัญมาก นอกจากนี้พวกเขายังได้ฝึกฝนทักษะทางร่างกายที่เหนือกว่าอีกด้วย แต่กลับถูกทักษะทางร่างกายของผู้หญิงที่เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดคนหนึ่งทำลายอย่างโหดเหี้ยม
มู่เฉียนซีใช้วิธีอย่างแยบยลในการจัดการพวกเขา ส่วนเสี่ยวโม่โม่ก็ใช้พลังที่ดุร้ายในการจัดการพวกเขา และเมื่อทั้งสองร่วมมือกันก็ทำให้นักฆ่าเหล่านี้รับมันไม่ไหวเลยทีเดียว
หอรัตติกาลของพวกเขาก็มีผู้อาวุโสเช่นกัน แต่ทว่าในตอนที่พวกเขากำลังต่อสู้อย่างยากลำบาก แล้วผู้อาวุโสล่ะ?
คนหายไปไหน!
ในตอนที่พวกเขารู้สึกว่ามีอะไรแปลก ๆ หนุ่มน้อยคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมากลางอากาศ เขาโบกมือพลางกล่าวว่า “พวกเจ้าคิดว่าพวกเขาจะมาหาพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ? ไม่มีทางเสียหรอก!”
ตึง ตึง ตึง!
หลังจากนั้นผู้อาวุโสที่เป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับกลางและผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงที่แอบอยู่อย่างลับ ๆ เหล่านั้น ก็ถูกโยนลงไปบนพื้นทีละคน
ร่างของซูอี้ชิงแข็งทื่อไปในทันที แต่เมื่อค้นพบว่าพวกเขาเพียงแค่สูญเสียพลังในการต่อสู้และยังไม่ตาย เขาก็ถอนหายใจเล็กน้อยอย่างโล่งอก
.