ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2025 เป็นพ่อทูนหัวไปแล้ว
มู่เฉียนซีคลี่ยิ้มจนตาหยีแล้วกล่าวว่า “พอใจมาก พวกเจ้าช่างใส่ใจจริง ๆ”
“เช่นนั้นแม่นาง เชิญเถอะ!”
พวกเขาเชิญมู่เฉียนซีขึ้นไปบนเกี้ยว และเกี้ยวนี้ก็มีความหรูหราเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
“อุแว้ อุแว้ อุแว้!” อี้ชิงน้อยระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาอีกครั้ง โดยหวังว่าจะขัดขวางการไปยังหอรัตติกาลของมู่เฉียนซีได้
น่าเสียดายที่เขาเด็กเกินไปจึงทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้เลย และมู่เฉียนซีก็ขึ้นไปบนเกี้ยวอย่างใจเย็น
คนที่ยกเกี้ยวต่างก็เป็นยอดฝีมือระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งพวกเขาก็ได้เดินไปบนอากาศ โดยมีมู่เฉียนซีก็นั่งอยู่ภายในเกี้ยวอย่างสะดวกสบายโดยไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกใด ๆ เลย
คนเหล่านี้ได้ออกจากเมืองตงหลิวไปอย่างยิ่งใหญ่ และเมื่อรู้ว่าการร้องไห้ไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ออกจากเมืองซูอี้ชิงก็เลยยอมแพ้
“ร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไปหมดแล้ว มาดื่มยาบำรุงเสียงนี่สักหน่อยมา”
มู่เฉียนซีหยิบยาน้ำขวดหนึ่งออกมา จากนั้นก็ยัดเข้าไปในปากของเขาทัน ยาน้ำนี้ขมเป็นอย่างมาก พลันนั้นใบหน้ากลม ๆ ที่ยิ้มแย้มนั้นก็เปลี่ยนเป็นขมขื่นขึ้นมาทันที
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “วางใจเถอะ! ข้าไม่ขายหอรัตติกาลของพวกเจ้าหรอก อย่าป้องกันข้าราวกับป้องกันขโมยเช่นนั้นเลย”
เมื่อรอให้คนของหอรัตติกาลจากไปแล้ว ที่เมืองตงหลิวก็มีข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
“ได้ยินข่าวมาว่านักฆ่าอันดับหนึ่งอย่างซูอี้ชิงมีลูกแล้วล่ะ”
“ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายและขวาแห่งหอรัตติกาลมาต้อนรับด้วยตนเอง ฉะนั้นเด็กน้อยผู้นั้นก็จะต้องเป็นลูกของซูอี้ชิงอย่างแน่นอน”
ซูอี้ชิงนักฆ่าอันดับหนึ่งผู้น่าสงสาร ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าพ่ายแพ้ให้กับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังได้เป็นพ่อทูนหัวอีก
หอรัตติกาลในฐานะที่เป็นสำนักนักฆ่า ฐานที่มั่นหลักจึงเป็นความลับมาก หากคนสำคัญแต่ละท่านของหอรัตติกาลไม่ได้นำทางเข้ามาด้วยตนเอง มู่เฉียนซีก็ไม่มีวันหาเจอเป็นแน่
หลังจากที่มาถึงทางเข้าแล้ว ทันทีที่มู่เฉียนซีได้ลงมาจากเกี้ยวอันสะดวกสบายนั้น นางก็ได้รับความสนใจทั้งแบบเปิดเผยและแบบลับ ๆ
และแน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาให้ความสนใจก็คือทารกน้อยที่มู่เฉียนซีได้อุ้มอยู่นั่นเอง
ความรู้สึกของซูอี้ชิงที่ถูกลูกน้องของตนเองรายล้อมนั้นย่ำแย่เป็นอย่างมาก ตัวเขารู้สึกรันทดจนอยากจะกระอักเลือดออกมาเลยทีเดียว
“ดวงตาคู่นั้นช่างเหมือนกับลูกพี่จริง ๆ เลย!”
“ยิ่งรู้สึกว่าเหมือนมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว!”
“ช่างน่ารักน่าชังดีจริง ๆ!”
พวกเขาไม่ได้เพียงแต่มองดูเท่านั้น และยังวิพากษ์วิจารณ์กันอีกด้วย
เมื่อมู่เฉียนซีเหยียบเข้าไปในห้องโถงหลัก ชายชราคนหนึ่งก็เดินเข้ามาทันที คนผู้นี้เป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดเลยทีเดียว
เขากวาดตามองไปที่มู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “อี้ชิงต้องเกิดเรื่องก็เพราะเจ้า แต่เจ้ากลับมีความกล้าที่จะมายังกองกำลังหลักของหอรัตติกาลของข้า แม่สาวน้อย เจ้านี่ช่างกล้าหาญไม่น้อยเลยจริง ๆ!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ใช่แล้ว! ข้ากล้าหาญอยู่ตลอดนั่นแหละ อย่างไรเสียข้าก็กำลังเลี้ยงลูกของซูอี้ชิง พวกเจ้าคงไม่ฆ่าข้าเพื่อล้างแค้นหรอกนะ!”
นางได้ส่งอี้ชิงน้อยไปให้กับท่านผู้เฒ่าผมขาวผู้นั้นแล้วกล่าวว่า “ท่านผู้เฒ่าลองดูให้ละเอียดสิ ว่าเขาเหมือนหรือไม่!”
ผู้เฒ่ารีบร้อนรับอี้ชิงน้อยเอาไว้ด้วยความตื่นตกใจเป็นอย่างมาก ทว่าเมื่อเห็นเด็กน้อยคนนี้แล้วเขาก็ผงะไปครู่หนึ่ง
ผู้เฒ่าคนนี้ไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ เพราะเขาเป็นข้ารับใช้เก่าแก่ของตระกูลซู และเป็นคนที่คอยเฝ้าดูเจ้านายของพวกเขาค่อย ๆ เติบโต ถึงแม้ว่าจะผ่านมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ยังคงจดจำหน้าตาของเจ้านายของพวกเขาเมื่อตอนสมัยยังเล็กได้ดี
เด็กน้อยคนนี้เหมือนเจ้านายเมื่อสมัยยังเด็กราวกับพิมพ์เดียวกันเลยทีเดียว อีกทั้งยังไม่มีส่วนที่แตกต่างกันเลยแม้แต่น้อยอีกด้วย
แน่นอนว่าท่านผู้เฒ่าไม่มีทางที่จะเชื่อได้ง่ายดายถึงเพียงนั้น “ข้าก็ไม่กล้ายืนยันว่าเจ้าได้ลงมือทำอะไรกับเด็กคนนี้หรือไม่?”
“หากแค่นี้เจ้าคิดว่ายังไม่ได้แล้วละก็ เช่นนั้นเจ้าก็สามารถตรวจสอบสายเลือดดูได้! แม้จะมีคนบางคนที่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกได้ แต่การเปลี่ยนแปลงสายเลือดของคนคนหนึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ยากจะเปลี่ยนได้”
“ตกลง! ข้าจะให้คนไปเตรียมตัวให้พร้อม! แม่นางน้อย ที่นี่คือกองกำลังหลักของหอรัตติกาลของข้า ทางที่ดีเจ้าอย่าได้โกหกพวกเราเป็นอันขาด”
มู่เฉียนซียิ้มบาง ๆ อย่างใจเย็น “ข้ามาถึงที่นี่แล้ว ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร ว่าหากโกหกพวกเจ้า ก็เหมือนกับขุดหลุมฝังตนเองอย่างไม่ต้องสงสัยเลย”
ท่านผู้เฒ่าไปเตรียมการ และคนอื่น ๆ ก็คอยปรนนิบัติมู่เฉียนซีและอี้ชิงน้อยอย่างระมัดระวัง
หลังจากที่ซูอี้ชิงมาถึงหอรัตติกาลแล้ว ชีวิตในแต่ละวันของเขาก็สะดวกสบายขึ้นมากเลยทีเดียว เพราะอย่างน้อยก็มีสาวใช้ค่อยปรนนิบัติ และไม่ต้องถูกผู้หญิงคนนั้นโยนไปมาอย่างเหี้ยมโหด รวมไปถึงไม่ต้องกินยาน้ำนั่นของนางอีกแล้ว
เมื่อคิดได้เช่นนี้ตัวของซูอี้ชิงก็มึนงงขึ้นมาทันที เขาถูกผู้หญิงคนนั้นทรมาน จนพึงพอใจกับแค่เรื่องที่เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้อย่างนั้นหรือ และหลังจากนั้นสีหน้าของเขาก็บูดบึ้งไปในทันที
เมื่อถึงตอนเย็น ผู้เฒ่าผมขาวผู้นั้นก็เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงได้เวลาที่จะตรวจสอบสายเลือดแล้ว!
มันสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์แบบ หากนี่ไม่ใช่ลูกชายของซูอี้ชิง แล้วยังจะเป็นลูกของผู้ใดได้อีกล่ะ?
ผู้เฒ่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ตระกูลซูมีทายาทแล้ว!
ซูอี้ชิงรู้สึกรันทดใจเป็นอย่างมาก เพราะความสอดคล้องกันอย่างลงตัวเช่นนี้นอกจากทายาทที่มีสายเลือดบริสุทธิ์แล้ว ก็มีแต่ต้องเป็นเลือดของเขาเองแล้วล่ะ!
แต่ทว่าไม่มีใครคิดถึงจุดนี้เลย เพราะอย่างไรเสียวิธีที่ทำให้คนกลายไปเป็นเด็กทารกได้นั้น ก็ไม่มีใครในแดนซวนเทียนแห่งนี้สามารถทำมันได้
ผู้เฒ่าผมขาวกล่าวว่า “แม่นางเรียกข้าว่าหยวนป๋อก็ได้! ท่านเลี้ยงดูนายน้อยมาเป็นอย่างดีเช่นนี้ คงจะไม่ได้เกลียดอี้ชิงมากเช่นนั้นสินะ ข้าคิดว่าระหว่างท่านกับอี้ชิงน่าจะมีความเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง ข้าคอยเฝ้าดูเขาเติบโตมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เขาเป็นคนเช่นไรนั้นข้ารู้ดีที่สุด”
“เขา…ที่จริงแล้วเขาอยู่ที่ใดอย่างนั้นหรือ! หากยังมีชีวิตอยู่ก็อยากจะเห็นคน หากตายแล้วก็อย่างจะเห็นศพเขาอยู่”
มู่เฉียนซีตอบกลับไปว่า “หยวนป๋อ ข้ายังคงพูดได้เพียงประโยคเดียวเท่านั้น ว่าไม่อาจบอกได้”
“ท่านไม่กลัวพวกเราดึงคำสารภาพออกมาผ่านการทรมานหรือ?” หยวนป๋อกล่าว
“ในเมื่อข้ากล้ามาที่นี่ เช่นนั้นก็หมายความว่าไม่กลัวพวกเจ้า และหากมาบีบบังคับข้ามาก ๆ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะพาอี้ชิงน้อยตายไปพร้อมกับข้าด้วยหรอกนะ!”
“นี่ท่านกำลังข่มขู่ข้าอย่างนั้นหรือ!” แรงกดดันของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดระเบิดออกมา
“ใช่แล้วล่ะ!” มู่เฉียนซีไม่ได้รับแรงกดดันใด ๆ จากการข่มขู่นี้
หยวนป๋อจ้องมองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “แม่นาง ท่านต้องการอะไรก็สามารถบอกเงื่อนไขออกมาได้ ขอเพียงท่านบอกที่อยู่ของอี้ชิงให้ข้ารับรู้ก็พอ”
“แน่นอนว่าข้าก็มีเป้าหมายเช่นกัน แต่ตอนนี้ข้ายังไม่สามารถบอกได้! หากพวกเจ้ามีความตั้งใจแล้วละก็ เช่นนั้นก็รับภารกิจของข้าสักสองสามข้อ ส่วนราคาก็คิดตามที่คิดกับคนภายนอกได้เลย ”
“ท่านต้องการจะฆ่าใครอย่างนั้นหรือ?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ลูกศิษย์ของสำนักหมอทมิฬ เอาที่มีชื่อเสียงด้านความอัจฉริยะมากเท่าไรก็ยิ่งดี และเอาคนที่เจ้าเห็นว่าสังหารได้ง่ายโดยที่ไม่ให้นักฆ่าของหอรัตติกาลต้องเกิดความสูญเสีย พวกเจ้าก็เลือกฆ่าคนนั้นได้เลย ข้าไม่เกี่ยงหรอก”
เป็นครั้งแรก ที่นักฆ่าของหอรัตติกาลอย่างพวกเขาได้รับภารกิจเช่นนี้
หยวนป๋อกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา ข้าจะสั่งการลงไปทันที”
เขาเลือกที่จะเฝ้าดูแม่สาวน้อยผู้นี้เอาไว้อย่างมั่นคง จากนั้นค่อยดูว่าจะสามารถตรวจสอบที่อยู่ของอี้ชิงออกมาได้หรือไม่?
ชายชราอย่างเขาใช้ชีวิตมานานถึงเพียงนี้ ฉะนั้นเขาจึงยังพอมีสายตาในการมองคนอยู่บ้าง และแม่นางน้อยผู้นี้ก็ไม่ใช่คนชั่วร้ายที่เลือดเย็นและโหดเหี้ยมขนาดนั้น
“เช่นนั้นข้าไปพักผ่อนก่อนแล้วกัน!”
สำนักหมอทมิฬให้นักฆ่ามาไล่ล่านาง เช่นนั้นนางก็จะตอบโต้ด้วยวิธีตาต่อตาฟันต่อฟัน โดยให้นักฆ่าไปจัดการกับพวกเขาบ้าง นอกจากนี้นางยังสั่งนักฆ่าจากในสำนักหลักของหอรัตติกาลแห่งนี้อีกด้วย
นี่เกี่ยวพันกับการหาที่อยู่ของลูกพี่ของพวกเขา ฉะนั้นเหล่านักฆ่าของหอรัตติกาลต่างก็มีความกระตือรือร้นที่จะทำภารกิจในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
มู่เฉียนซีแกล้งหยอกซูอี้ชิงอย่างไม่มีอะไรทำว่า “อี้ชิงน้อย เจ้าก็เห็นว่าทุกคนต่างกำลังเป็นห่วงเจ้า! เจ้าแน่ใจว่าจะไม่ยอมรับข้อเสนอของข้าอยู่อีกอย่างนั้นหรือ? ขอเพียงเจ้าตอบรับข้าก็จะทำให้เจ้าฟื้นตัวกลับมาทันทีเลย”
“อุแว้ อุแว้ อุแว้!” ไม่มีทางเสียหรอก
“ตกลง! หากเจ้ายืดเยื้อต่อไป เช่นนั้นข้าก็จะได้ค่อย ๆ กลืนกินหอรัตติกาลของพวกเจ้าซะ! รู้ไหมว่าเพราะเหตุใดข้าถึงใจดีไม่ฆ่าพวกเขาเหล่านั้น? นั่นเป็นเพราะหากพวกเขามีชีวิตอยู่มันจะมีค่ามากกว่าอย่างไรล่ะ”
“อุแว้…” เจ้าฝันไปเถอะ!
หอรัตติกาลจะสามารถถูกนางควบคุมอย่างง่ายดายเช่นนั้นได้อย่างไร
“ข้าเก็บเจ้าไว้ข้างกายมานานถึงเพียงนี้ เจ้าคงจะเข้าใจข้าบ้างแล้วใช่หรือไม่! ข้าสามารถใช้พิษได้ และในเมื่อข้ามาถึงสำนักหลักของหอรัตติกาลของพวกเจ้าแล้ว ข้าสามารถวางยาพิษโดยที่พวกเจ้าไม่ทันรู้ตัวได้ด้วยซ้ำ เจ้าว่าข้าจะสามารถทำได้หรือไม่ล่ะ?” และมุมปากของมู่เฉียนซีก็ยกขึ้นเล็กน้อย
เมื่ออี้ชิงน้อยมองไปที่แววตานั้น หลังของเขาก็เย็นวาบขึ้นมาเล็กน้อย
เขารู้ดีว่าการชักศึกเข้าบ้านนั้นไม่ได้มีผลดีอะไรเลย แต่ทว่าพวกเขาก็ยังคงให้ผู้หญิงที่มากด้วยเล่ห์เหลี่ยมผู้นี้อยู่ในกองกำลังหลักของหอรัตติกาลอยู่ดี
.
.