ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2027 มาเยี่ยมหลานชาย
ในเมื่อได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ฉะนั้นจูเชว่จึงอยากที่จะไปด้วยตนเอง
ซีซีได้จากไปพักหนึ่งแล้ว ซึ่งมันก็ทำให้เขาคิดถึงนางมาก อีกทั้งยังได้ไปดูการแสดงดี ๆ อีกด้วย!
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปหาซีซีด้วยตนเอง เช่นนี้จะได้สบายใจขึ้นมาหน่อย ถึงอย่างไรข้าก็ต้องไปทำธุระที่ดินแดนทางทิศตะวันออกอยู่แล้วด้วย”
“ขอรับ!”
หลายวันมานี้มู่เฉียนซีไม่ได้ทรมานเขาหรือหยอกล้อเขาอีกต่อไปแล้ว ซึ่งมันก็ทำให้อี้ชิงน้อยรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่างแทน ซึ่งเพียงไม่นานลางสังหรณ์นั้นของเขาก็ได้รับการยืนยันแล้ว
“แม่นางมู่ คุณชายจูเชว่ต้องการที่จะพบท่าน” มีคนเข้ามารายงาน
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เอาสิ! ให้เขาเข้ามาได้เลย”
หัวใจของซูอี้ชิงกระตุกวูบลงไปทันที ผู้หญิงคนนี้จะต้องมีเจตนาที่ไม่ดีอย่างแน่นอน
เมื่อเขาเห็นร่างเงาสีแดงที่ดูคุ้นเคยร่างหนึ่งเดินเข้ามา ก็สามารถเข้าใจได้ทันทีว่าเขามาด้วยเหตุใด?
เขารู้สึกตื้นตันใจที่พ่อบุญธรรมเห็นความสำคัญ แต่เขาก็กลับรู้สึกโมโหตนเองที่ไม่ระมัดระวังจนถูกคนอื่นจับได้และสร้างความเดือดร้อนให้แก่พ่อบุญธรรมเช่นนี้
“ซีซี ข้าคิดถึงเจ้าจะตายอยู่แล้ว”
เพียงแต่ว่าความซาบซึ้งใจของซูอี้ชิงก็ได้มลายหายไปในอากาศในทันที เพราะตอนนี้จูเชว่ได้กระโจนเข้าใส่มู่เฉินซีที่ทรมานเขาอย่างหนักทั้งกายและใจอย่างกระตือรือร้นเช่นนั้น
ไอ้บ้าจูเชว่นี่ คิดไม่ถึงเลยว่าในสายตาของเขาจะมีแค่ผู้หญิงคนนี้เท่านั้น?
ตัวเขาเองมีหน้าตาที่งดงามยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันที่ถูกผู้หญิงทำให้หลงใหลจนหัวปักหัวปําเช่นนี้ด้วย หรือว่าเขาลืมอะไรไปหรือเปล่า…
แน่นอนว่ามู่เฉียนซีไม่ได้ให้ในสิ่งที่จูเชว่ปรารถนา และนางก็หลบหลีกอ้อมกอดที่เร่าร้อนนั้นของจูเชว่ไปอย่างว่องไว จากนั้นก็เอ่ยถามว่า “จูเชว่ เจ้ามาทำอะไรที่หอรัตติกาล? เจ้าสนิทกับซูอี้ชิงมากอย่างนั้นหรือ?”
จูเชว่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สนิทมากเลยล่ะ ซีซี! อาชิงคือพี่น้องของข้าเอง ให้ข้าได้เห็นหลานชายตัวน้อยของข้าหน่อยสิ”
ในเมื่อกอดซีซีไม่ได้ เช่นนั้นก็ไปกอดหลานชายแทนก็แล้วกัน จูเชว่อุ้มอี้ชิงน้อยขึ้นมา เขาคลี่ยิ้มจนตาหยีพลางกล่าวว่า “ช่างเหมือนอาชิงมากเลยจริง ๆ!”
อี้ชิงน้อยพยายามดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง และภายในใจก็เอาแต่กล่าวอย่างโกรธเคืองว่าเจ้ามันตาบอด เจ้าตาบอด!
คนอื่นอาจจะจำไม่ได้ หรือรู้สึกว่ามันยากที่จะเชื่อและไม่สามารถจินตนาการในแง่นี้ได้ แต่ทว่าทันทีที่จูเชว่ได้เห็นอี้ชิงน้อยเขาก็สามารถจำได้ในทันที
ถึงอย่างไรพวกเขาก็สนิทสนมราวกับพี่น้องแท้ ๆ อีกทั้งยังเป็นคู่ต่อสู้ที่อยากจะเอาชนะมากที่สุดอีกด้วย
จูเชว่หยิบขนมหวานชิ้นหนึ่งออกมาพลางกล่าวว่า “เป็นเด็กดีนะเด็กน้อย! ลุงรีบมาจนไม่ได้เอาอะไรมาให้เจ้าเลย จึงซื้อขนมหวานมาให้เจ้าได้เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น เจ้ากินเสียเถอะนะ!”
จูเชว่ยัดขนมหวานเข้าไปในปากของซูอี้ชิงอย่างอ่อนโยนเป็นอย่างมาก และสีหน้าของอี้ชิงน้อยก็พลันเปลี่ยนเป็นซีดเผือดขึ้นมาทันที นะ…นี่ นี่มันคือขิงหวาน!
คนที่สนิทสนมต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า เขานั้นไม่ชอบกินขิงมากที่สุด แม้จะกลายเป็นคนตัวเล็กไปแล้ว แต่ก็ยังคงเกลียดมันมากอยู่ดี!
ซูอี้ชิงอยากจะทุบคนจริง ๆ ไอ้หนูนี่มันจงใจแน่ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าจำเขาได้ แต่กลับไปเข้าข้างมู่เฉินซีเสียได้ ให้ตายเถอะ!
“เอาล่ะ! ข้าอยากจะคุยธุระกับซีซีของข้าเสียหน่อย เด็กน้อยเจ้าเล่นเองอยู่คนเดียวไปก่อนนะ!”
จากนั้นจูเชว่และมู่เฉียนซีก็เข้าไปในห้องเพื่อพูดคุยกัน จูเชว่กล่าวว่า “ข้าได้รับความไว้วางใจจากท่านพ่อบุญธรรม ให้มาถามเจ้าว่าที่จริงแล้วอาชิงเป็นอย่างไรบ้าง?”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้ารู้อยู่แล้วอย่างนั้นหรือ? เขายังอยู่ดีเลยล่ะ”
มุมปากของจูเชว่กระตุกขึ้นเล็กน้อย การกลายไปเป็นเด็กน้อยที่สามารถถูกคนอื่นบดขยี้ให้ตายได้โดยง่ายเช่นนี้ สำหรับอาชิงแล้ว มันจะต้องเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดอย่างแน่นอน
“เช่นนั้นเมื่อไรเขาถึงจะฟื้นตัวกลับมาได้ล่ะ?” แม้ว่าเขาจะมีความสุขที่อาชิงต้องเจอกับโชคร้าย แต่ในฐานะที่เป็นพี่น้องกันเขาก็ไม่ต้องการให้อาชิงกลายเป็นแบบนี้ไปตลอดเช่นกัน
“นั่นมันก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของเขา!”
“ถึงจะใช้วิธีเช่นนี้บีบบังคับเขาก็ยังไม่ตอบรับอีกอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะยอมรับข้าในตอนนี้ เพียงแค่เอาเขามาไว้ในกำมือให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน”
“มันหายากมากที่ซีซีจะเอาแต่ใจเช่นนี้ กับข้าซีซียังไม่เคยเอาแต่ใจเช่นนี้มาก่อนเลยนะ?” จูเชว่เริ่มมีอารมณ์อิจฉาขึ้นมาแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญา “ไม่มีทางเลือก อย่างที่เจ้าได้พูดไป เขาเป็นกระดูกที่เคี้ยวยากจริง ๆ นั่นแหละ และเขาก็เกือบที่จะฆ่าข้าตายอีกด้วย”
“ให้ตายเถอะ! คิดไม่ถึงเลยว่าเขาเกือบที่จะฆ่าซีซี ข้าต้องไปสั่งสอนเขาสักหน่อยแล้ว!” จูเชว่กล่าวด้วยความโกรธเคือง
“เขาเป็นเช่นนี้ไปแล้ว เจ้าจะทนสั่งสอนเขาไหวอย่างนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วกล่าว
“แน่นอนว่าทำได้อยู่แล้ว เป็นลุงแล้วก็ต้องสามารถตีก้นของหลานชายที่ไม่ยอมเชื่อฟังได้สิ”
“เจ้ากำลังฉวยโอกาสนี้ในการแก้แค้นสินะ แต่ข้าก็ไม่คัดค้านเจ้าหรอก!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างมีความสุข
“ที่ข้ามาหาเจ้าคราวนี้ยังมีอีกเรื่องด้วย ถึงเสี่ยวซวนซวนจะเคลื่อนไหวไปแล้ว แต่เรื่องเหล่านี้ก็ยังต้องการให้เจ้าไปจัดการอยู่ดี”
จูเชว่ได้มอบแหวนมิติวงหนึ่งให้กับมู่เฉียนซี และแน่นอนว่าข้างในนั้นก็มีสิ่งที่ต้องการอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่เพราะวันนี้มู่เฉียนซีอารมณ์ดี นางจึงได้ยอมรับภารกิจสำคัญเหล่านี้อย่างไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด
และจูเชว่ก็ได้ฉวยโอกาสที่ดีเช่นนี้ไปสั่งสอนบทเรียนกับอี้ชิงน้อยจริง ๆ ซูอี้ชิงไม่รู้ว่าพวกเขาไปพูดคุยเรื่องอะไรกัน แต่ทว่าในตอนที่จูเชว่เดินออกมาพร้อมเสียงหัวเราะเป็นระลอกนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีมากบางอย่าง!
เพียะ!
หลังจากนั้นร่างของเขาก็ถูกพลิกคว่ำ และถูกตีอย่างแรง!
ซูอี้ชิงได้แต่คิดว่า หากเขามีกระบี่อยู่ในมือ ไอ้เด็กบ้านี่จะต้องถูกสับเป็นชิ้น ๆ อย่างแน่นอน
แต่แน่นอนว่า ด้วยสภาพของเขาตอนนี้แม้จะเป็นกระบี่เพียงเล่มเดียวก็ถือเอาไว้ไม่ไหวอยู่ดี
“เด็กน้อย ตอนนี้ข้าคันไม้คันมือเหลือเกิน! ใครใช้ให้เจ้าพ่อบ้า ๆ นั่นของเจ้า คิดจะฆ่าซีซีของข้ากันล่ะ! เจ้าต้องรู้ไว้ด้วยว่า ในอนาคตซีซีก็จะกลายเป็นป้าของเจ้า!”
อี้ชิงน้อยทำได้เพียงกลอกตาเท่านั้น เจ้าเด็กนี่รักเขาข้างเดียวอย่างสมบูรณ์เลยสินะ
“ซีซีของข้ายอดเยี่ยมมาก...”
ตอนนี้จูเชว่ได้กลายร่างเป็นคนที่คุยโวโอ้อวดเฉียนซีไปเสียแล้ว และเขาก็ทนรอที่จะยกยอมู่เฉียนซีขึ้นไปเทียมฟ้าไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ทว่าอี้ชิงน้อยกลับเกลียดมู่เฉินซีจนเข้ากระดูกดำมากขึ้นไปอีก
จูเชว่ก็ได้พักอยู่ที่นี่เช่นกัน แม้เขาจะปีนขึ้นเตียงของซีซีไม่ได้ แต่การพาหลานชายไปนอนด้วยกันก็ไม่แย่เท่าไรนัก
ส่วนอี้ชิงน้อยก็ได้แต่รู้สึกอึดอัดไปทั้งตัวเท่านั้น!
จูเชว่กล่าวว่า “เด็กน้อย เจ้าอย่าได้ฉี่รดที่นอนเชียวนะ! มิฉะนั้นแล้วละก็ ไม่ว่าพ่อของเจ้าจะเป็นใคร ข้าก็จะโยนเจ้าออกไปอย่างแน่นอน”
ซูอี้ชิงรู้สึกว่าจูเชว่เป็นคนที่ไม่เอาถ่านคนหนึ่ง เพราะหากเจ้าหมอนี่ไม่ได้มาแกล้งเขาก็ทำแค่เพียงแวะไปกวนมู่เฉินซีก็เท่านั้น
เขาไม่แน่ใจว่าที่จริงแล้วจูเชว่รู้รูปร่างหน้าตาของมู่เฉินซีที่ไม่ได้แปลงโฉมหรือไม่ กับคนที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับมู่หลินหลางมากถึงเพียงนี้ หากสามารถมีความรู้สึกที่ดีให้ได้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากทีเดียว แต่เจ้าโง่เง่านี้กลับชอบนางเสียได้!
เมื่อมู่เฉียนซีจัดการงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่จูเชว่จะต้องไปแล้วเช่นกัน แต่ทว่าเขาก็ยังคงอาลัยอาวรณ์ที่จะจากไปอยู่ดี!
เขาค่อย ๆ เดินจากไปอย่างลังเล ก่อนที่จะกล่าวกลับมู่เฉียนซีว่า “ซีซี ข้าจะไปแล้วนะ! เจ้าจะต้องคิดถึงข้าให้มาก ๆ ด้วย!”
ซูอี้ชิงได้แต่กล่าวอยู่ในใจว่า ‘ดูเจ้านี่สิ!’
เขารู้สึกว่าหลายปีมานี่จูเชว่ขาดวินัยเป็นอย่างมาก และดูจะทำอะไรอย่างอิสระเกินไปแล้ว ซึ่งมันก็ดูจะแย่มากเลยจริง ๆ
หลังจากที่จูเชว่จากไปแล้ว มู่เฉียนซีก็เริ่มจิ้มไปที่ใบหน้าของอี้ชิงน้อย ส่วนอี้ชิงน้อยก็แสร้งทำเป็นหลับไปเช่นกัน แต่มู่เฉียนซีกลับจิ้มต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เมื่อแก้มของซูอี้ชิงเปลี่ยนเป็นสีแดงระรื่ออย่างทนไม่ไหว หลังจากนั้นเขาจึงจ้องเขม็งไปที่มู่เฉียนซีด้วยความโกรธ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อี้ชิงน้อย พวกเรามาคุยกันหน่อยเถอะ! พวกเราทั้งสองคนถ่วงเวลากันมานานแล้วนะ”
“การมาเป็นทาสของข้า ไม่ใช้เวลานานขนาดนั้นหรอก แค่ครึ่งปีก็พอแล้ว! หากครึ่งปีแล้วข้ายังไม่สามารถจัดการกับคนที่จัดการยากอย่างเจ้าได้ เช่นนั้นข้าก็จะไม่เสียเวลาอีกแล้ว”
แม้ว่านางยังต้องการการยอมรับจากอีกสองคน เพื่อบางทีอาจจะสามารถให้ผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขาบอกที่อยู่ของท่านพ่อของนางได้ แต่ทว่าต้องเสียเวลาไปกับคนเพียงแค่คนเดียวเกินครึ่งปีนางก็รอไม่ไหวเช่นกัน ไม่สู้ไปหาอีกคนไม่ดีกว่าหรือ
“วางใจเถอะ แม้ว่าเจ้าจะพยายามอย่างหนัก ข้าก็จะไม่ปล่อยให้เจ้าไร้สิทธิ์ในความเป็นมนุษย์มากเกินไปอย่างแน่นอน! ข้าจะไม่บังคับให้เจ้าทำในเรื่องที่ขัดต่อหลักการของเจ้า และแน่นอนว่าบางเรื่องอาจจะใช้เป็นวิธียื่นหมูยื่นแมวกันก็ได้” มู่เฉียนซีกล่าวพลางคลี่ยิ้มบาง ๆ
.