ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2031 น้ำวนอันตราย
อาถิงเม้มริมฝีปากกล่าวว่า “จะเป็นห่วงเขาไปทำไมกัน? เขาเป็นคนชั่วร้ายมานับหมื่นปี เจ้าหมอนั่นไม่ได้เกิดมาตายอย่างง่ายดายเช่นนั้นหรอกนะ”
“หากเจ้าพูดคำนี้ต่อหน้าจิ่วเยี่ยแล้วละก็ อาถิงเจ้าได้ตายอย่างแน่นอนเลย”
อาถิงไม่รู้ว่านี่คือการปลอบโยนหรือว่าคำสาปแช่งกันแน่
“เฮอะ! เจ้าคิดถึงเขาแล้วสินะ การฟื้นพลังให้กลับมาเล็ก ๆ น้อย ๆ จนสามารถมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าได้เช่นนี้มันไม่ง่ายเลย แต่เจ้ากลับคิดถึงคนอื่นต่อหน้าข้าอย่างนั้นหรือ!” อาถิงจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความโกรธ
“องค์ชายน้อยอาถิง นี่เจ้ากำลังหึงแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าเป็นถึงองค์ชายน้อย ข้าไม่มีทางหึงคนอย่างเจ้าหรอก เพียงแค่ในฐานะของศาลาเรือนรางเก้าชั้น และในฐานะของผู้ผูกพันธสัญญาณกับเจ้า เมื่อถูกละเลยเช่นนี้ก็ย่อมต้องไม่พอใจมากอยู่แล้ว”
“ใช่ ใช่ ใช่แล้ว! เจ้าพูดถูกทั้งหมดนั่นแหละ ข้าไม่ควรเพิกเฉยต่อเจ้า…”
“คำพูดนี้ของเจ้าดูไม่จริงใจเลยสักนิด!”
“ต้องการเช่นไรถึงจะเรียกได้ว่าจริงใจกันล่ะ?”
“……”
ในระหว่างที่ถกเถียงกันอยู่นั้น ร่องรอยแห่งความกังวลนั้นก็ดูเหมือนว่ามันจะถูกทำให้หายไปหมดแล้ว
นางเชื่อมั่นในตัวเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ เพราะถึงอย่างไรเสียเขาก็รับปากแล้วว่าจะไม่ทำให้ตนเองต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน
คนของหอรัตติกาลได้เตรียมตัวพร้อมแล้ว และมู่เฉียนซีก็ออกเดินทางไปพร้อมกันกับพวกเขา ซึ่งพลังในการต่อสู้ของนางพวกเขาเคยเห็นมันมาก่อนหน้านี้แล้ว
ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะมีความสามารถเป็นแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตเท่านั้น แต่พวกเขาก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิดที่นางสามารถไปทะเลตะวันออกกับพวกเขาได้
พวกเขามาถึงสถานที่ที่ได้รับข้อมูลมาแล้ว และกองกำลังทั้งหมดต่างก็พุ่งตรงไปยังทะเลตะวันออกด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด สำหรับสิ่งที่เรียกว่าหอคอยนิรันดร์นี้ช่างได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจริง ๆ
และเพื่อที่จะไม่ให้คนอื่นแซงหน้าไปก่อน หอรัตติกาลจึงได้เตรียมสัตวศักดิ์สิทธิ์ท่องนภาที่เร็วที่สุดเอาไว้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่านมานี้หอรัตติกาลของพวกเขาก็ทำเงินได้อย่างมากมาย ฉะนั้นนี่จึงเป็นเพียงเงินเล็กน้อยเท่านั้น
เหตุผลที่พวกเขาทำเงินได้อย่างมากมายนั้น แน่นอนว่าต้องเป็นเพราะลูกค้ารายใหญ่อย่างมู่เฉินซีอยู่แล้ว ขอแค่สามารถจัดการคนของสำนักหมอทมิฬและสำนักหลินเยว่ได้ ผนึกซวนมากมายก็จะเข้ามาในกระเป๋าของพวกเขาอย่างง่ายดาย
สัตวศักดิ์สิทธิ์ท่องนภาบินไปยังทิศตะวันออกด้วยความเร็วที่สูงที่สุด อาณาเขตของราชวงศ์ตงหวงนั้นกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก พวกเขาออกเดินทางมาจากหอรัตติกาลโดยใช้สัตว์ศักดิ์สิทธิ์บินได้ที่เร็วที่สุดยังต้องใช้เวลาถึงสามวันกว่าที่จะได้ยินเสียงของคลื่นทะเล
อาณาเขตที่กว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้ ได้ถูกราชวงศ์ตงหวงควบคุมมาตลอดนับหมื่นปี และมันก็คือแผ่นดินของจักรพรรดินั่นเอง
มู่เฉียนซีสามารถมองเห็นได้จากระยะไกลว่าด้านหน้านั้นมีคนหลายกลุ่มกำลังพุ่งตรงไปยังส่วนลึกของทะเลอันกว้างใหญ่นั้น และเมื่อลมทะเลพัดโชยมา มู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ถึงพลังของธาตุแห่งความมืด
อาถิงก็สัมผัสได้เช่นกัน เขาส่งกระแสจิตกล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “มันมีกลิ่นอายของความมืด เพียงแต่ว่ากลิ่นอายนี้เบาบางมากเกินไป”
“มีจริงอย่างนั้นหรือ?” ดวงตาของมู่เฉียนซีเปล่งประกายแวววาว
“มันเบาบางมากจนไม่น่าจะใช่ร่างจริงของเขา แต่สรุปแล้วน่าจะมีความเกี่ยวข้องกันอยู่บ้าง ในเมื่อมาแล้วก็ต้องลองไปดูสักหน่อยแล้วล่ะ” อาถิงกล่าวตอบ
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว!”
มู่เฉียนซีชี้ไปยังทิศทางหนึ่งพลางกล่าวว่า “อยู่ทางนั้น”
พวกเขาประหลาดใจเล็กน้อยว่า มู่เฉินซีจะสามารถยืนยันทิศทางได้อย่างไร?
แม้ว่าซูอี้ชิงเองก็จะไม่รู้เช่นกัน แต่เขาก็รู้ดีว่ามู่เฉินซีไม่มีทางบอกทางอย่างส่งเดชแน่นอน เขาจึงกล่าวว่า “ทำตามที่นางบอก”
ยิ่งเข้าไปใกล้มากเท่าไรพลังธาตุแห่งความมืดก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น และซูอี้ชิงก็สัมผัสถึงมันได้แล้วเช่นกัน แต่ทว่าเรื่องที่ก่อนหน้านี้มู่เฉินซีที่อยู่ในระยะที่ห่างไกลถึงเพียงนั้นกลับสามารถสัมผัสถึงมันได้ ทำให้ซูอี้ชิงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
แม้ว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ท่องนภาจะไม่ได้มีพลังในการต่อสู้มากนัก แต่ระดับของมันก็เพียงพอแล้ว และด้วยเพราะมีแรงกดดันเช่นนั้นทำให้สัตว์ทะเลที่อยู่ภายในทะเลไม่กล้าโจมตีพวกเขา ฉะนั้นพวกเขาจึงผ่านไปได้อย่างราบรื่นตลอดทั้งเส้นทาง
แต่ทว่าเมื่อเข้าสู่อาณาบริเวณของทะเลนี้แล้ว พวกเขาก็เจอกับการโจมตีของสัตว์ทะเลเข้าจนได้
สัตว์ทะเลเหล่านั้นแหวกว่ายอยู่ในท้องทะเล แต่ทว่าลูกศรวารีที่เหมือนกับสายฟ้านั้นกลับพุ่งตรงมายังสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ท่องนภาได้
“หลบ!”
แต่เดิมแล้วก็ไม่มีทางที่จะหลบหลีกได้พ้นอยู่แล้ว สุดท้ายพวกเขาก็ถูกล้อมเอาไว้ และด้วยขนาดที่ใหญ่โตของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ท่องนภาจึงยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ได้รับบาดเจ็บได้
“เกราะพลังวายุ!”
พลังธาตุวายุเริ่มเปิดการป้องกัน ส่วนคนอื่น ๆ ก็เริ่มเปิดการป้องกันแล้วเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าสัตว์ทะเลเหล่านี้จะกลายพันธุ์เพราะได้รับพลังแห่งความมืด ดวงตาของพวกมันคู่นั้นแต่ละตัวต่างก็กลายเป็นสีแดงฉาน และด้วยพลังแห่งความมืดนี้ก็ได้ทำให้เกาะป้องกันพวกเขายากที่จะสกัดกั้นการโจมตีของพวกมันได้
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ยังคงอยู่ไกลจากจุดหมายปลายทางเล็กน้อย พวกเขาคิดว่าหากจะเดินหน้าต่อแทนที่จะถอยหลังกลับ ก็คงจะหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีไม่ได้
ฉึก!
ในที่สุดสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ท่องนภาก็ได้รับบาดเจ็บเข้าจนได้ ซูอี้ชิงจึงกล่าวว่า “ที่นี่เคลื่อนไหวไม่สะดวก ระยะห่างอยู่อีกไม่ไกลเท่าไรนัก จงละทิ้งสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ท่องนภาซะ”
มู่เฉียนซีกล่าวตอบว่า “ข้าเห็นด้วย!”
พวกเขาเหาะทะยานลงมาจากอากาศ ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีร่างกายที่แข็งแรงและปราดเปรียวอยู่แล้ว แม้ว่าจะต้องจัดการกับสัตว์ทะเลที่ดุร้ายก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
“เสี่ยวโม่โม่ เจ้ามาเล่นกับพวกมันหน่อย! แต่ก็ต้องระวังตัวด้วยนะ”
สถานการณ์ของเสี่ยวโม่โม่นั้นดีกว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ท่องนภามากนัก อย่างไรเสียมันก็เป็นสัตว์เทพ ซึ่งแรงกดดันของสัตว์เทพนั้นสามารถควบคุมสัตว์ทะเลเหล่านี้ได้
และไม่ได้มีเพียงแต่พวกเขาเท่านั้นที่ถูกบีบจนไม่สามารถบินอยู่กลางอากาศได้ แต่กลุ่มที่ตามหลังพวกเขามาก็มีผลลัพธ์เช่นเดียวกัน
พวกเขาทะยานข้ามเหนือท้องทะเลไป และจำเป็นต้องฝ่าการโจมตีอย่างหนักของสัตว์ทะเลเหล่านี้ ซึ่งราวกับว่าต้องฝ่าผ่านเส้นทางนองเลือดอย่างไรอย่างนั้น
อันตรายที่เกิดขึ้นระหว่างทางนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่กลับไม่มีผู้ใดที่จะถอดใจกลางคันเลยสักคน เพราะสัตว์ทะเลยิ่งกลายพันธุ์จนเก่งกาจมากเท่าไร ความเป็นไปได้ที่อาณาเขตของทะเลแห่งนี้จะมีหอคอยนิรันดร์ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
หอคอยนิรันดร์ เป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ที่มีธาตุแห่งความมืด นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ไม่มีใครล่วงรู้ข้อมูลอื่น ๆ อีกเลย
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับมัน ดูเหมือนว่าจะถูกซ่อนอยู่ในความมืดอย่างไรอย่างนั้น อีกทั้งยังไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้ได้แม้แต่เศษเสี้ยวเดียว
กองกำลังที่กล้ามาหาหอคอยนิรันดร์ถึงทะเลตะวันออกจะต้องมีความมั่นใจแน่นอนอยู่แล้ว ดังนั้นสำหรับพวกเขาแล้วสัตว์ทะเลเหล่านี้ไม่ได้สร้างความลำบากอะไรเท่าไรนัก
เมื่อพวกเขามาถึงแกนกลางของธาตุแห่งความมืดนั้น สิ่งที่ปรากฏอยู่เหนือพื้นผิวทะเลอันกว้างใหญ่นั้น ก็คือน้ำวนสีดำขนาดใหญ่นั่นเอง
พลังแห่งความมืดนั้นแผ่กระจายออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงลางร้ายบางอย่าง
อันตราย! คนที่อยู่ในสถานที่แห่งนั้นต่างก็พากันสัมผัสถึงมันได้ และมู่เฉียนซีเองก็เช่นกัน
อาถิงกล่าวว่า “อะไรกัน? หญิงอัปลักษณ์ เจ้ากลัวหรือ? ขนาดมีข้าอยู่ด้วยทั้งคน หากเจ้ายังจะกลัวอยู่ละก็ ถือว่ากำลังดูถูกข้ามากเลยนะ”
“ใครบอกว่าข้ากลัวกันล่ะ?”
ซูอี้ชิงขมวดคิ้วมุ่น หากที่นี่มีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพต้านสวรรค์นั้นจริง ๆ เช่นนั้นความเสี่ยงเช่นนี้ก็เป็นเพียงความเสี่ยงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เขาก็ไม่อาจที่จะหุนหันพลันแล่นได้อยู่ดี
หลังจากนั้นไม่นานคนอีกกลุ่มหนึ่งก็มาถึงแล้วเช่นกัน และเมื่อคนผู้นั้นเห็นพวกของซูอี้ชิงก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “หอรัตติกาลอย่างพวกเจ้ากล้ามาที่นี่ด้วยอย่างนั้นหรือ?”
เจตนาอันเป็นศัตรูของอีกฝ่ายนั้นรุนแรงมาก และคนที่อยู่ข้างกายของซูอี้ชิงก็กล่าวขึ้นว่า “ลูกพี่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นคนของสำนักหมอทมิฬ”
ซูอี้ชิงกวาดสายตามองด้วยท่าทางที่เย็นชา อีกทั้งยังปล่อยจิตสังหารออกมาด้วย และกลิ่นอายที่อันตรายอย่างน่าสะพรึงกลัวนี้ก็ทำให้ชายชุดดำเหล่านั้นหวาดกลัวมากเลยทีเดียว
“อยากจะตาย! หรืออยากจะหุบปากล่ะ!”
ด้วยจิตสังหารเช่นนี้ ซูอี้ชิงไม่จำเป็นที่จะต้องแนะนำตนเอง พวกเขาก็สามารถรู้ถึงตัวตนของคนผู้นี้ได้แล้ว
คนผู้นี้ก็คือ ซูอี้ชิง นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งดินแดนทางทิศตะวันออกนั่นเอง
“คุณชายใหญ่ นี่มันเรื่องมันสำคัญมาก เราไม่สามารถเสียกำลังคนทั้งที่ยังหาสมบัติไม่เจอได้หรอกนะขอรับ! แม้ว่าหอรัตติกาลจะฆ่าพวกเราไปแล้วหลายคน แต่พวกเขาเหล่านั้นก็เป็นเพียงคนที่ไม่ได้สำคัญอะไร ตอนนี้สมบัติสำคัญกว่านะขอรับ” มีใครบางคนเกลี้ยกล่อมคุณชายใหญ่ผู้มีอารมณ์ฉุนเฉียวผู้นี้
“คิดไม่ถึงเลยว่าสำนักหมอทมิฬและหอรัตติกาลจะมาได้เร็วถึงเพียงนี้! ดูท่าแล้วมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์จะน่าสนใจมากเลยทีเดียวนะ แต่ทว่ามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ บนโลกใบนี้มีเพียงผู้ที่สูงส่งที่สุดเท่านั้นถึงจะคู่ควรกับมัน! และพวกเจ้าก็ไม่มีสิทธ์นั้น”
พลันนั้นน้ำเสียงที่เย่อหยิ่งของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา ด้วยสำเนียงเช่นนี้ ถึงตัวคนจะยังมาไม่ถึง แต่มู่เฉียนซีก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นกองกำลังใดที่จะมา
นั่นก็คือสำนักหลินเยว่ ที่เป็นลูกสมุนของมู่หลินหลางนั่นเอง
และผู้หญิงที่อยู่ในชุดเดียวกันกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาอยู่ตรงหน้าพวกเขาจริง ๆ
.