ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2032 ส่งเจ้าไปสำรวจเส้นทาง
แววตาของคนสำนักหลินเยว่กวาดสายตามองไปที่พวกเขา หลังจากนั้นจึงกล่าวว่า “ซูอี้ชิง ช่วงนี้หอรัตติกาลของพวกเจ้าจะมีกิจการมากเกินไปหน่อยแล้วนะ! คนที่โลภมากก็มักจะลาภหาย อย่าได้ทำลายตน…”
ปึก!
ผู้หญิงที่ปากคอเราะร้ายของสำนักหลินเยว่ผู้นั้นยังไม่ทันที่จะพูดคำขู่เหล่านั้นจบ ก็ได้ถูกพลังธาตุวายุจู่โจมเข้าที่ข้างหลังของนางอย่างกะทันหัน จนพุ่งตกลงไปในกระแสน้ำวนนั้นทันที
เมื่อถูกคนลอบโจมตีอย่างเงียบ ๆ และร่างกายของหญิงสาวนั้นก็พลันลอยเคว้งออกไปอย่างไร้การควบคุม ความเหลือเชื่อก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของนาง!
“แทนที่จะมัวพูดแต่เรื่องไร้สาระอยู่ตรงนี้ มิสู้ลงไปสำรวจเส้นทางข้างล่างไม่ดีกว่าหรือ!”
ปึก!
แววตาที่ลุกโชนคู่นั้นของนางจ้องมองไปยังร่างเงาสีม่วงที่ยืนอยู่บนอากาศ และหลังจากนั้นร่างของนางก็ได้ถูกกลืนกินลงไปในกระแสน้ำวนแห่งความมืด
“คิดไม่ถึงเลยว่าสำนักหมอทมิฬของพวกเจ้าจะกล้าลงมือกับคนของสำนักหลินเยว่ของพวกข้าเช่นนี้!”
สีหน้าของคนจากสำนักหลินเยว่เผยความดุดันออกมา นอกจากนี้คนของหอรัตติกาลก็ประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน และคิดไม่ถึงเลยว่าแม่นางมู่จะลงมืออย่างเฉียบขาดเช่นนี้ ซึ่งมันก็สุดยอดมากจริง ๆ!
จะได้ทำให้หญิงสารเลวที่ชอบเยาะเย้ยถากถางพวกเขาเหล่านี้ได้รู้เสียบ้าง!
คนของสำนักหมอทมิฬยิ้มแหย ๆ พลางกล่าวว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าหอรัตติกาลของพวกเจ้าจะมีนักฆ่าหญิงที่เก่งกาจถึงเพียงนี้ อีกทั้งทักษะทางร่างกายนั้นก็ทำให้พวกเราไม่ทันได้สังเกตเห็นเลยด้วยซ้ำ”
คนของสำนักหลินเยว่หยิบอาวุธออกมาเตรียมที่จะโจมตี แต่ทว่ายังไม่ทันจะได้เริ่มต่อสู้ สีหน้าของพวกนางก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย หลังจากนั้นพวกเขาก็อ้อมผ่านมู่เฉียนซีไปและพุ่งทะยานเข้าไปในกระแสน้ำวนทันที
นั่นเรียกว่าการเร่งความเร็วสินะ!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ซูอี้ชิง พวกเราก็ลงไปกันเถอะ!”
เหตุผลที่คนของสำนักหลินเยว่รีบเร่งพุ่งทะยานลงไปด้วยความรวดเร็วก่อนหน้านี้นั้น เกรงว่าน่าจะเป็นเพราะคนที่ถูกนางถีบส่งไปก่อนหน้านี้ผู้นั้นส่งข่าวบางอย่างมาแล้วอย่างแน่นอน
ดูท่าแล้วข้างล่างนั่นจะไม่ได้มีอันตรายมากมายอะไรนัก ดังนั้นคนของสำนักหลินเยว่จึงล้มเลิกการปะทะฝีมือกับพวกเขาเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเปล่า
แน่นอนว่าซูอี้ชิงก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน และกระโดดลงไปในกระแสน้ำวนนั้นพร้อมกับมู่เฉียนซีทันที
“บัดซบเอ้ย! คิดไม่ถึงว่าจะถูกแซงหน้าไปแล้ว ลงไปเร็ว!” คุณชายใหญ่ของสำนักหมอทมิฬกล่าวอย่างโกรธเคือง
“คนของสำนักหลินเยว่ หอรัตติกาลและสำนักหมอทมิฬต่างก็ลงไปกันหมดแล้ว พวกเราก็ไปกันบ้างเถอะ!”
คนที่ตามมาถึงทีหลังเมื่อเห็นว่าคนจากทั้งสามกองกำลังใหญ่ลงไปอย่างไร้ความลังเล พวกเขาจึงมีความมั่นใจเช่นกัน
เมื่อเข้าไปในกลางกระแสน้ำวน หากมองไปโดยรอบก็จะเห็นสิ่งปลูกสร้างที่ถูกสร้างอยู่กลางน้ำ ซึ่งมันช่างวิจิตรงดงามตระการตาเป็นอย่างมาก
สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้มีความยิ่งใหญ่กว่าสิ่งปลูกสร้างที่อยู่บนพื้นดินมากมายนัก ราวกับว่าเป็นพระราชวังที่ยักษ์อาศัยอยู่อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อพวกเขาลงมาถึงก้นบึ้งของท้องทะเลแห่งนี้แล้ว มันก็ยิ่งแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งดูราวกับว่าได้เข้ามาในอีกมิติหนึ่งของก้นบึ้งแห่งท้องทะเลก็มิปาน
ความเงียบงันของก้นบึ้งแห่งท้องทะเลช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก คนที่เข้ามาต่างก็แยกย้ายกันไปและพยายามใช้พลังวิญญาณสกัดกั้นน้ำทะเลโดยรอบกายออก จากนั้นก็แหวกว่ายไปในท้องทะเล
ในเวลานี้ น้ำทะเลได้เกิดความปั่นป่วนขึ้น หลังจากนั้นก็มีลูกบอลแสงสีดำปรากฏขึ้นมาทีละลูก และภายในลูกบอลแสงนั้นก็มีสัตว์ร้ายที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏตัวออกมา
ภายในท้องทะเลราวกับเป็นสรวงสวรรค์ของพวกมันก็มิปาน จากนั้นพวกมันก็รีบกระโจนเข้าใส่คนที่อยู่ในทะเลอย่างบ้าคลั่ง ประหนึ่งสัตว์ร้ายในความฝันที่กำลังล่าเหยื่ออยู่อย่างไรอย่างนั้น
เป้าหมายแรกในการพุ่งโจมตีของพวกมันก็คือคนที่นำหน้าอย่างสำนักหลินเยว่ ปากที่เปื้อนเลือดนั้นอ้าออก จากนั้นก็ใช้เขี้ยวที่แหลมคมนั้นพุ่งเข้าไปกัดพวกเขา
“ให้ตายเถอะ!” หญิงสาวในชุดขาวนั้นเหวี่ยงกระบี่ออกไป และตัดหัวของเจ้าสัตว์ทะเลตัวนั้น
คนของสำนักหลินเยว่ล้วนมีความสามารถอยู่ในระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปทั้งนั้น แม้ว่าสัตว์ทะเลเหล่านี้จะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้
“อย่าตายล่ะ!” ซูอี้ชิงกระโจนออกไปจากข้างกายมู่เฉียนซี จากนั้นก็กวัดแกว่งกระบี่ออกไป และตรงเขาไปตัดหัวเจ้าสัตว์ทะเลตัวยักษ์เหล่านั้น
ซูอี้ชิงแหวกว่ายเข้าไปกลางสัตว์ทะเลเหล่านั้น ความดุร้ายของสัตว์ทะเลเหล่านั้นไม่ได้ทำให้เขาหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่กลับยิ่งทำให้จิตสังหารของเขาพุ่งสูงขึ้นเสียมากกว่า
นักฆ่าแต่ละคนของหอรัตติกาลก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน และพวกเขาก็รู้ดีว่าเสี่ยวโม่โม่ไม่เหมาะกับการต่อสู้ภายในน้ำทะเลเช่นนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงคุ้มครองอยู่โดยรอบของมู่เฉียนซี
ตูมมมมม!
ทุกฝ่ายเริ่มการต่อสู้ และหญิงสาวของสำนักหลินเยว่ที่ถูกมู่เฉียนซีถีบส่งมาก่อนหน้านี้ผู้นั้น แม้แต่เวลาเช่นนี้ก็ยังกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า “คิดว่าจะเก่งกาจสักแค่ไหนกันเชียว ใครจะไปรู้ว่าเป็นเพียงตัวละครเล็ก ๆ ที่ฉวยโอกาสแอบลอบโจมตีคนอื่นตอนที่คนเขาไม่สังเกตเห็นกันล่ะ คู่ต่อสู้เช่นนี้ยังต้องให้คนมาคอยคุ้มกันอีก! คิดไม่ถึงเลยว่าหอรัตติกาลจะออกมาทำงานโดยที่เอาเด็กน้อยพ่วงมาด้วยเช่นนี้ หรือจะเป็นเพราะซูอี้ชิงถูกความงดงามทำให้หน้ามืดตามัวไปแล้ว”
“แต่ว่ารูปร่างหน้าตาของนางก็ดูงั้น ๆ นะ?” เมื่อกวาดสายตามองไปยังใบหน้านั้นของมู่เฉียนซี นางก็ยิ่งดูถูกเหยียดหยามมากขึ้นไปอีก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกเจ้าไม่ต้องมากังวลเรื่องของข้าหรอก ทำเรื่องของตนเองให้ดีเถอะ! ขนาดซูอี้ชิงข้ายังไม่กลัว แล้วคิดว่าข้าจะกลัวสัตว์ร้ายในท้องทะเลลึกเหล่านี้อย่างนั้นหรือ?”
มุมปากของพวกเขากระตุกขึ้นเล็กน้อย แม่นางมู่ ท่านเอาลูกพี่มาเปรียบเทียบเช่นนี้ ลูกพี่อาจจะโกธรเอาก็ได้นะ!
พวกเขาต่างก็รู้ถึงพลังในการต่อสู้ที่กล้าหาญของมู่เฉียนซี และแน่นอนว่านางก็ไม่ใช่เจ้านายที่ต้องการให้พวกเขามาคอยคุ้มครองอยู่แล้ว
พวกเขากล่าวว่า “เช่นนั้นแม่นางมู่โปรดระวังตัวด้วย!”
“หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นละก็ ออกคำสั่งมาได้ทันทีเลยนะขอรับ!”
สำหรับคนของหอรัตติกาลแล้ว แม่นางมู่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากลูกพี่ของพวกเขา อีกทั้งยังเป็นลูกค้ารายใหญ่ด้วย ฉะนั้นจึงไม่สามารถปล่อยให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับนางได้เป็นอันขาด!
“ได้!”
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็พุ่งทะยานออกไป พัดวิหคเฟิงหลิงถูกกางออกแล้วเหวี่ยงออกไป และมันก็เข้าโจมตีสัตว์ทะเลไปทั่วทุกทิศทาง
ที่ก้นทะเลแห่งนี้ หากใช้พลังธาตุวารีแล้วละก็ พลังในการโจมตีก็จะแข็งแกร่งกว่าพลังธาตุวายุมากมายนัก แต่ทว่านางก็ไม่อยากที่จะเผยไพ่ตายต่อหน้าคนเหล่านี้มากจนเกินไป
“ศิษย์พี่หญิงเหลียน นะ…นั่นเป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดเองนะ! ท่านถูกผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดคนหนึ่งลอบโจมตีได้อย่างไรกัน” ศิษย์น้องคนหนึ่งในสำนักหลินเยว่กล่าวอย่างตื่นตกใจ
ดวงตาของเหลียนเหวินเบิกกว้าง นั่นคือผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดจริง ๆ ด้วย!
เมื่อเห็นว่าเหล่าศิษย์แต่ละคนแสดงท่าทางแปลกประหลาดออกมา นางก็รู้สึกว่าตนเองถูกทำให้อับอายขายขี้หน้าเป็นอย่างมาก นางเด็กน้อยบ้านั่น นางจะต้องฆ่านางให้ได้!
ในตอนที่นางกำลังจะเคลื่อนไหวนั้น ศิษย์พี่หญิงที่เป็นผู้นำของพวกเขาก็ได้กล่าวขึ้นมาว่า “เหลียนเหวิน ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธมาก พวกเราก็อยากจะฆ่านางเด็กน้อยนั่นเหมือนกัน! แต่ทว่าภารกิจนี้สำคัญกว่า อย่าถูกสาวน้อยผู้นั้นทำให้เราต้องเปลืองแรงไปอย่างเปล่าประโยชน์เลย พวกเราจำเป็นที่จะต้องบุกทะลวงออกไป เพื่อที่จะหาหอคอยนิรันดร์ให้เจอให้จงได้!”
“เจ้าค่ะ ศิษย์พี่ใหญ่!” ศิษย์พี่หญิงใหญ่พูดถึงขนาดนี้ เหลียนเหวินจึงทำได้เพียงแต่อดกลั้นเอาไว้เท่านั้น
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
พัดวิหคเฟิงหลิงได้ทิ้งรอยแผลไว้บนสัตว์ทะเลเหล่านั้น บาดแผลนั้นไม่ใหญ่มากนัก อีกทั้งยังไม่ได้สร้างความเสียหายต่อพวกมันมากเท่าไรอีกด้วย
พัดวิหคเฟิงหลิงได้กลับมาอยู่ในมือของมู่เฉียนซีอีกครั้ง และทักษะวิญญาณพลังธาตุวายุอันน่าสะพรึงกลัวก็กวาดออกไป
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
การต่อสู้ในช่วงแรกของทุกคนนั้นเป็นไปอย่างง่ายดาย
แต่เมื่อม่านแสงสีดำนั้นมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ทำให้สัตว์ทะเลเหล่านั้นยิ่งออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
มดจำนวนมากย่อมกัดช้างจนตายได้ อีกทั้งยังอยู่ในอาณาเขตของพวกมัน จึงทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
พรวด พรวด พรวด!
ในตอนนี้เริ่มมีคนได้รับบาดเจ็บกันแล้ว
“สัตว์ทะเลเยอะเกินไปแล้ว มันเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เลย จะฆ่าอย่างไรก็ไม่หมดเสียที พวกเราจะต้องออกไปจากที่นี่กันแล้วล่ะ!”
“ข้าอยากจะออกไป! ข้าอยากจะออกไปจากที่นี่”
เมื่อเข้ามาจากกลางกระแสน้ำวนนั้นแล้ว ก็ราวกับว่าทำได้เพียงแค่เข้ามาได้เท่านั้น ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาไม่สามารถหาทางออกไปได้ และถูกขังอยู่ที่นี่เสียแล้ว
เมื่อเห็นว่าร่างของสัตว์ทะเลได้เข้ายึดครองพื้นที่ของก้นทะเลแห่งนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ พื้นที่ในการเคลื่อนไหวและหลบหลีกของพวกเขาทั้งหมดก็ยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ เช่นกัน อีกทั้งพลังในการโจมตีและพลังในการป้องกันของสัตว์ทะเลเหล่านี้ยังเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นอีกด้วย ทำให้พวกเขารับมือได้ยากจริง ๆ!
ทุกคนต่างเริ่มรู้สึกปวดหัวกันขึ้นมาแล้ว ผู้อาวุโสของสำนักหมอทมิฬจึงกล่าวว่า “คุณชายใหญ่ พวกเราไม่สามารถติดอยู่ที่นี่กับเจ้าขยะเหล่านี้ได้ ลงมือกันเถอะขอรับ!”
.