ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2040 กลายเป็นที่นิยม
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ดังนั้นก็ต้องสังหารคนอื่นให้หมด ขอเพียงเป็นผู้ชนะคนสุดท้าย ก็จะมีคุณสมบัติพอที่จะได้เป็นเจ้าของของหอคอยนิรันดร์แล้ว
ความจริงแล้วทุกคนที่ฝ่าการเข่นฆ่ามาตลอดทาง เมื่อมาถึงสถานที่แห่งนี้ต่างก็ฆ่าคนกันจนใกล้จะเสียสติไปหมดแล้ว
สัตว์ร้ายตัวนั้นไม่จำเป็นต้องกระตุ้นอะไร พวกเขาก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวกันแล้ว
มู่เฉียนซีเหลือบมองไปทางซูอี้ชิงแล้วกล่าวว่า “อี้ชิงน้อย เจ้าน่าจะยังสบายดีอยู่ใช่หรือไม่?”
“หากเจ้าไม่ใช้คำเรียกเช่นนั้น ข้าก็ไม่เป็นอะไรหรอก!” ซูอี้ชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“การระงับจิตใจของเจ้าแข็งแกร่งมาก มาจนถึงที่นี่แล้วแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะยังสามารถควบคุมมันได้” สำหรับความสามารถนี้ของซูอี้ชิงนั้น เป็นเรื่องที่มู่เฉียนซียกย่องเขามากอยู่แล้ว
“ข้าก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าผู้หญิงที่ต่ำช้าและไร้ยางอายอย่างเจ้า ก็มีความสามารถเช่นนี้เหมือนกัน!” ซูอี้ชิงกล่าวด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
“พรวดด! หญิงอัปลักษณ์ ข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่จำเป็นที่จะต้องมาเสียเวลากับเจ้าหมอนี่มากนักหรอก เขาไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีต่อเจ้าเลยแม้แต่น้อย เมื่อทำงานเสร็จแล้วก็ควรรีบออกห่างจากเขาไปให้ไกลเถอะ!”
ซูอี้ชิงไม่ชอบมู่เฉียนซีมากถึงมากที่สุด และนอกจากนี้มันยังดึงดูดคำเยาะเย้ยของอาถิงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
“รอให้หอหมอปีศาจของดินแดนทางทิศตะวันออกเข้าที่เข้าทางแล้ว หากเจ้าหมอนี่ยังคงดื้อรั้นอยู่ ข้าก็ควรที่จะเปลี่ยนเป้าหมายได้แล้ว” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยสีหน้าที่จนปัญญา
ตอนนี้ทางฝ่ายของเจ้าพวกนั้นเริ่มฆ่าฟันกันอย่างเสียสติไปแล้ว อาถิงจึงกล่าวว่า “มนุษย์เหล่านี้ทั้งโง่เขลา ทั้งน่ารังเกียจ ยังไม่ทันได้รู้เลยว่ามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนั้นเป็นของจริงหรือไม่ ก็ขาดสติกันไปก่อนแล้ว”
“นั่นมันก็ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าแรงดึงดูดของพวกเจ้านั้นมีมากเกินไปแล้วอย่างไรล่ะ”
“ตอนนี้รู้แล้วสินะว่าข้าเก่งกาจมากเพียงใด! การที่จะผูกพันธสัญญาณกับข้าได้นั้นต้องเป็นเพราะการสะสมโชคดีมาแล้วหลายร้อยชีวิตของเจ้าอย่างแน่นอน ถึงเจ้าจะปฏิบัติต่อข้าไม่ดีเท่าไรก็ช่างมันเถอะ แต่ทำไมต้องปฏิบัติต่อเจ้าสัตว์ประหลาดหวงจิ่วเยี่ยผู้นั้นดีขนาดนั้นด้วย” อาถิงกล่าวอย่างคับข้องใจ
“หรือว่าข้าปฏิบัติต่อเจ้าไม่ดีอย่างนั้นหรือ? เจ้าปฏิบัติต่อเจ้านายอย่างหยาบคายทุกวี่ทุกวัน ข้าก็ยังไม่เคยทุบตีเจ้าเลยสักครั้งนะ”
“นี่เรียกว่าดี…”
ตอนนี้ใกล้ที่จะถึงเวลาแล้ว การต่อสู้อย่างดุดเดือดทางด้านนั้นต่างก็ปรากฏคนเจ็บและตายออกมาแล้ว มู่เฉียนซีที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็เถียงกับอาถิงไปด้วยและดูการแสดงไปด้วย จากนั้นนางจึงกล่าวกับซูอี้ชิงว่า “อี้ชิงน้อย เอากระบี่ของเจ้ามาให้ข้าเถอะ!”
ซูอี้ชิงเหลือบมองไปทางนางอย่างเย็นชา
“นี่คือคำสั่งของเจ้านายของเจ้า หากเจ้าไม่เชื่อฟังแล้วละก็ ระวังว่าข้าจะให้อาถิงเปลี่ยนเจ้าให้กลายเป็นเด็กทารกแล้วโยนลงไปในทะเลเพื่อกลายให้เป็นอาหารปลาเสีย”
ซูอี้ชิงไม่สามารถระงับจิตสังหารของเขาเอาไว้ได้ ทันใดนั้นเขาก็ได้ปลดกระบี่ออกจากฝัก ก่อนจะใช้ความอดทนที่มีมากกว่าคนทั่วไป เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะไม่หันดาบไปฟันมู่เฉินซีผู้นี้ได้
หลังจากที่มืออันเรียวบางของนางยึดดาบของซูอี้ชิงเอาไว้มั่นแล้ว นางก็ได้เทยาน้ำขวดหนึ่งลงไป
เมื่อกระบี่อันเป็นที่รักของตนเองถูกผู้หญิงคนนี้ราดสิ่งของบางอย่างลงไปจนเละเทะ คิ้วของซูอี้ชิงก็ขมวดมุ่นจนผูกกันเป็นปมไปในทันที
“นี่ก็คือยาที่สามารถทำให้คนอยู่ในสภาวะแกล้งตายได้ แม้ว่าพวกเขาจะรนหาที่ตาย แต่ก็ไม่สามารถทำให้คนตายอยู่ที่นี่ได้ มิเช่นนั้นก็จะทำให้เจ้าสิ่งที่ถูกผนึกอยู่ที่นี่สมความปรารถนาเป็นแน่” มู่เฉียนซีกล่าว
“ตอนนี้จะเคลื่อนไหวได้หรือยัง?” ซูอี้ชิงกล่าวถาม
“ได้แล้ว! ลงมือเถอะ!”
ถึงจะไม่สามารถเหวี่ยงกระบี่ไปทางมู่เฉินซีได้ แต่ซูอี้ชิงก็สามารถโจมตีผู้อื่นได้โดยไม่ต้องพูดอะไรสักคำ พลังจู่โจมของกระบี่เต็มไปด้วยจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัว ซึ่งมันก็ได้ทำให้สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก
“ซูอี้ชิง คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าก็มาด้วย!”
คนของสำนักหมอทมิฬเหล่านี้มีความได้เปรียบมากที่สุดแล้ว แต่ทว่าคุณชายใหญ่ของพวกเขานั้นใจร้อนมากเกินไป! เพราะเขาอยากจะรีบสังหารคนอื่นให้ได้โดยเร็ว เพื่อจะได้รับมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เสียที
แต่หลังจากที่เขาเห็นซูอี้ชิง จึงกล่าวขึ้นว่า “ซูอี้ชิง เจ้ามาพอดีเลย! ฆ่าพวกเขาทั้งหมดให้ข้า ทุกครั้งที่มีคนถูกฆ่า ข้าจะให้เจ้าห้าสิบล้านผนึกซวน”
ราคาเท่านี้ถือว่าสูงมากแล้ว และซูอี้ชิงก็ตอบตกลงโดยที่ไม่กล่าวอะไรสักคำ
“ตกลง!”
คุณชายใหญ่ของสำนักหมอทมิฬรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก มีซูอี้ชิงผู้นี้คอยช่วยเหลือในการสังหารคน เพียงเท่านี้ก็สามารถสังหารคนอื่นได้เร็วมากขึ้นแล้ว
เพียงรอให้คนเหล่านี้ถูกจัดการแล้ว คนของสำนักหมอทมิฬของพวกเขาค่อยล้อมโจมตีซูอี้ชิงอีกทีก็ย่อมได้
แม้ว่าซูอี้ชิงจะมีความสามารถที่เหนือมนุษย์ แต่ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“ซูอี้ชิง เจ้าช่วยข้าฆ่าคน ข้าจะจ่ายให้เจ้าหกสิบล้าน!”
“เจ็ดสิบล้าน!”
ทันทีที่นักฆ่าอย่างซูอี้ชิงปรากฏตัวออกมา ก็ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ละคนเพื่อที่จะรักษาชีวิตและสังหารอีกฝ่าย ก็ทำให้พวกเขายอมที่จะจ่ายในราคาที่สูงเป็นอย่างมาก
มู่เฉียนซีบ่นพึมพำว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าอี้ชิงน้อยจะกลายเป็นของขายดีขนาดนี้ได้!”
มู่เฉียนซีได้ฉวยโอกาสตอนที่พวกเขาถูกซูอี้ชิงดึงดูดความสนใจไป เริ่มใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาอย่างต่อเนื่อง และเอาอาวุธลับกับเข็มยาออกมาเพื่อโจมตีพวกเขา
ฉึก ฉึก ฉึก!
เข็มยาขนาดเล็กได้ถูกมู่เฉียนซีเคลือบยาที่ทำให้ตกอยู่ในสภาวะตายเอาไว้ จากนั้นมันก็ถูกปักลงไปบนร่างกายของพวกเขา ผลของยานั้นรวดเร็วมาก ซึ่งมันทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
“บัดซบเอ้ย ข้าถูกพิษแล้ว”
“มีใครบางคนกำลังแอบลอบโจมตีอยู่”
“……”
พวกเขาหมุนเวียนพลังวิญญาณเพราะอยากที่จะระงับพิษเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่นี่ไม่ใช่พิษ และการหมุนเวียนพลังวิญญาณเช่นนี้กลับทำให้ยานั้นออกฤทธิ์เร็วยิ่งขึ้นไปอีก
“ให้ตายเถอะ! ที่จริงแล้วนี่มันเป็นยาอะไรกันแน่”
“แล้วผู้ใดเป็นคนที่ลอบโจมตีพวกเรากันแน่?”
“……”
ตึง ตึง ตึง!
ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้คำตอบ พวกเขาแต่ละคนต่างก็หมดสติไปกันแล้ว
คนของสำนักหมอทมิฬเหล่านั้นต่างก็พากันตะลึงงันไปเช่นกัน “คุณชายใหญ่ คนเหล่านี้ตายหมดแล้ว! เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าพวกเขาโดนยาพิษอะไรเข้าไปกันแน่?”
คุณชายใหญ่ของสำนักหมอทมิฬกล่าวด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “อะไรนะ? แม้แต่พวกเจ้าก็ยังดูไม่ออกอย่างนั้นหรือ?”
คนเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความสามารถเป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ทุกคนต่างก็เป็นยอดฝีมือในการปรุงยาและใช้พิษด้วยกันทั้งนั้น คิดไม่ถึงเลยว่าจะมียาพิษที่พวกเขาดูไม่ออกอยู่ด้วยเช่นนี้
“ต้องระวังให้มากขึ้นอีก อย่าให้ถูกคนที่ลอบโจมตีผู้นั้นหลอกเอาได้”
“ขอรับ คุณชายใหญ่!”
ความเร็วในการกวัดแกว่งกระบี่ของซูอี้ชิงเร็วยิ่งขึ้นไปอีก ในขณะที่เขาฟาดฟันลงไป คนที่มีความสามารถที่อ่อนแอเล็กน้อยก็จะล่วงลงไปบนพื้นทันที
ในตอนแรกมู่เฉียนซีได้ใช้ความเร็วสูงสุดของการเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาในการลอบโจมตีอย่างราบรื่นมาก แต่เมื่อใช้วิธีการลอบโจมตีเช่นนี้มากเข้า มันก็ต้องดึงดูดความสนใจจากผู้อื่นมากขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว และเพียงไม่นานนางก็ตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมเสียแล้ว
มีคนที่ล้อมมู่เฉียนซีเอาไว้มีทั้งสิ้นห้าคน ตอนที่พวกเขาได้เห็นมู่เฉียนซีก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“เจ้านี่เอง! แม่นางน้อยที่อยู่ข้างกายซูอี้ชิงคนนั้น”
“แม้ว่าความสามารถจะอ่อนแอแต่กลับร้ายกาจยิ่งนัก มิแปลกใจเลยที่สามารถมีชีวิตรอดมาจนถึงที่นี่ได้ พวกเราดูถูกเจ้ามากเกินไปจริง ๆ”
“ลงมือ ฆ่านางซะ!”
“เสี่ยวโม่โม่!” คนจำนวนห้าคนของอีกฝ่ายล้อมโจมตีนางอย่างไร้ยางอาย มู่เฉียนซีจึงปล่อยเสี่ยวโม่โม่ออกมาเพื่อถ่วงเวลา
นางกล่าวว่า “คนของสำนักหมอทมิฬ ซูอี้ชิงคอยช่วยเจ้า ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าควรที่จะส่งคนมาช่วยข้าตรึงพวกเขาเอาไว้หน่อยหรืออย่างไร!”
ตูมมมมม โครมมม
ความสามารถของศัตรูไม่ได้อ่อนแอเลย และมู่เฉียนซีก็ทำได้เพียงใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาเพื่อหลบหลีกเท่านั้น
“เจ้านี่เอง!” คุณชายใหญ่ของสำนักหมอทมิฬจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีอย่างดุร้าย
“อยากให้ข้าช่วยเจ้าหรือ ข้าว่าเจ้าเรียกผิดคนแล้วล่ะ! ก่อนหน้านี้ได้ใช้ชื่อของหอหมอปีศาจมาเหยียบย่ำสำนักหมอทมิฬของพวกเรา ตอนนี้เจ้ารอที่จะถูก...”
ตูมมม!
คุณชายใหญ่ของสำนักหมอทมิฬไม่สนว่ามู่เฉียนซีจะเป็นหรือตาย เขากวัดแกว่งกระบี่ออกไปทันที พลันนั้นเบื้องหน้าของเขาก็เกิดหลุมขนาดใหญ่หลุมหนึ่งปรากฏขึ้นมา!
“หากว่านางตาย เช่นนี้ข้าก็จะไม่รับภารกิจนี้เช่นกัน และไม่เพียงแต่ไม่รับ แต่พวกเจ้าก็ยังจะต้องตายอีกด้วย!” ซูอี้ชิงจ้องมองไปทางพวกเขาด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
“บัดซบเอ้ย! ต้องมีความผิดปกติอะไรบางอย่างกับซูอี้ชิงเป็นแน่ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะสนใจผู้หญิงคนหนึ่งเช่นนี้ นางก็ไม่ได้มีหน้าตาที่งดงามราวกับจะล่มเมืองได้เสียหน่อย อีกทั้งความสามารถที่แท้จริงก็เป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่งอีกด้วย” คุณชายใหญ่ของสำนักหมอทมิฬก่นด่าออกมา
ตอนนี้พวกเขาจัดการคนอื่นอย่างไม่ยากลำบากเท่าไรนัก ดังนั้นจึงได้แบ่งคนสองสามคนเพื่อไปช่วยมู่เฉียนซีด้วย
อันที่จริงแล้วพวกเขาไม่รู้ว่า ซูอี้ชิงก็อยากที่จะโจมตีมู่เฉียนซีมากเหมือนกัน นอกจากนี้เขาก็ไม่ได้อยากที่จะช่วยนางด้วยใจจริง แต่เขากลับไม่สามารถปล่อยให้นางตายได้เช่นกัน
คนที่ล้อมโจมตีมู่เฉียนซีทั้งห้าคนนี้ไม่เพียงแต่ต้องรับมือกับเสี่ยวโม่โม่ที่ระเบิดพลังอย่างบ้าคลั่งเท่านั้น แต่ยังมีคนของสำนักหมอทมิฬเข้ามาอีกด้วย
พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า คนของสำนักหมอทมิฬจะมาช่วยเหลือผู้หญิงคนนี้จริง ๆ?
.