ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2045 กินอาหารจานหลัก
ในที่สุดเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้ก็เริ่มตระหนักแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ ก่อนหน้านี้มันไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อยว่ามู่เฉียนซีทำอะไรบางอย่างใต้จมูกของมันบ้าง และนั่นเป็นเพราะว่ามันทระนงตนมากเกินไป
หากไม่ใช่เพราะตอนนี้มันออกมาได้เพียงแค่ครึ่งเดียว และต้องติดอยู่ระหว่างกลาง มันก็คงจะไม่โกรธจัดถึงขนาดนี้
ในเวลานี้ รอยร้าวบนยอดของหอคอยแห่งความมืดที่ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศก็เริ่มเคลื่อนไหวขึ้นมาแล้ว
และพลังแห่งความมืดนั้นก็ไหลทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันก็ได้พุ่งตรงไปตรึงสัตว์ร้ายตัวนั้นให้กลับลงไปใต้พื้นดินดังเดิม
“โฮกกกก!” มีเสียงคำรามร้องอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าตอนที่มันถูกตรึงให้กลับลงไปนั้นทุกข์ทรมานมากเพียงใด
“บัดซบเอ้ย! ไอ้หอผนึกสัตว์ร้ายแห่งความมืดของหอคอยนิรันดร์บัดซบนี่ ให้ตายเถอะ! เจ้าหายสาบสูญไปหลายปีขนาดนี้แล้ว ยังมาหลอกหลอนอยู่อีกรึ ยังคิดที่จะทรมานข้าอยู่อีกหรืออย่างไร!”
“อ๊ากกกกก!”
เจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้นถูกหอคอยขนาดย่อมนั้นทรมานอย่างหนัก และมู่เฉียนซีกับซูอี้ชิงก็รู้สึกว่าแรงกดดันก่อนหน้านี้ได้สูญสิ้นไปแล้ว
ซูอี้ชิงจ้องมองไปข้างหน้า เป็นอย่างที่หนุ่มน้อยผู้นั้นบอกจริง ๆ ที่นี่ได้ตรึงสัตว์ร้ายตัวหนึ่งเอาไว้ และเจ้าสิ่งนี้ก็ไม่ใช่หอคอยนิรันดร์อีกด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หอผนึกสัตว์ร้ายแห่งความมืด! ก็คือชื่อของความมืด”
“อี้ชิงน้อย ไปเถอะ!”
“เจ้าไม่ไปหรือ?” ซูอี้ชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“นางต้องไปด้วยแน่นอนอยู่แล้ว หญิงอัปลักษณ์ เจ้าขึ้นไปบนทะเลกับเขาก่อน ข้าจะเป็นคนรั้งท้ายเอง เพราะก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้ทำให้มีคนตายมากมายนัก ผนึกของมันจึงได้แตกออกเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ฉะนั้นมันจึงได้ถูกร่างแยกของหอคอยแห่งความมืดตรึงเอาไว้อยู่! แม้ว่าจะหนีออกมาได้แต่ก็อ่อนแอมากอยู่ดี ข้าเพียงคนเดียวก็สามารถจัดการมันได้แล้ว” อาถิงกล่าวพลางมองไปที่มู่เฉียนซี
ซูอี้ชิงคิดไม่ถึงเลยว่า การที่ผู้หญิงคนนี้เลือกทางเดินที่จะทำให้คนอื่นแกล้งตายนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้ารู้สึกว่าข้าควรที่จะอยู่ที่นี่ต่อ เผื่อเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น”
“เจ้าต้องการให้ข้าโยนเจ้าออกไปหรือ?” อาถิงกล่าวพลางกำหมัดไว้แน่น
แม้ว่าเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้จะถูกร่างแยกที่ความมืดสร้างออกมาตรึงเอาไว้ แต่ทว่าอาถิงก็ยังคงเตรียมพร้อมรับมืออยู่ตลอด และเขาก็คาดเดาว่าสิ่งที่อยู่ด้านล่างนี้จะต้องจัดการได้ยากอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีเข้าใจว่าเขาไม่ต้องการให้นางอยู่ที่นี่ต่อ และต้องการที่จะปล่อยร่างแยกของเขาออกมา อีกทั้งเขาก็ยิ่งไม่อยากทำให้สุ่ยจิงอิ๋งต้องสิ้นเปลืองพลังอีกแล้วเช่นกัน
มู่เฉียนซีล่าถอยเพื่อเอาชนะใหม่อีกครั้ง นางกล่าวว่า “ตกลง! เช่นนั้นข้าจะหาทางออกไปก็แล้วกัน อาถิง เจ้าระวังตัวด้วย”
“ไปกันเถอะ! อี้ชิงน้อย!” มู่เฉียนซีกล่าวกับซูอี้ชิง
ซูอี้ชิงไม่ได้ตอบกลับมู่เฉียนซี แต่ก็รีบพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว เขารู้ดีว่าด้วยความสามารถของพวกเขาไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้เลย
“ไปซะ!”
“เจ้ามนุษย์บ้านี่ คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้าจะไปจริง ๆ!”
“……”
ในเวลานี้สัตว์ร้ายที่ถูกตรึงเอาไว้ก็พอที่จะสามารถหายใจหายคอขึ้นมาได้บ้างแล้ว แต่สุดท้ายกลับต้องมาพบว่ามู่เฉียนซีและซูอี้ชิงกำลังจะหนีไป ซึ่งก็ทำให้มันเดือดดาลเป็นอย่างมาก
“เป็นพวกเจ้าทั้งสองคนที่ทำบ้า ๆ อะไรบางอย่างลงไปสินะ คนที่พวกเจ้าฆ่าเหล่านั้นอยู่ที่ใดกันแน่? มันอยู่ที่ใด?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เหตุใดข้าจะต้องบอกเจ้าด้วย! เจ้าคือตัวปลอมที่แสร้งทำเป็นหอคอยนิรันดร์เท่านั้น ฉะนั้นถูกตรึงอยู่ที่นี่ต่อไปเถอะ! ลาก่อน!”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
พลังอันน่าสะพรึงกลัวพัดโหมกระหน่ำเข้ามา และคิดที่จะขวางมู่เฉียนซีและซูอี้ชิงเอาไว้
แต่ทว่าก็ได้มีผนังของกำแพงสีเขียวอ่อนปรากฏขึ้นมาสกัดกั้นพลังนั้นเอาไว้ได้ และมันก็ได้ทำให้พลังเหล่านั้นกลายเป็นความว่างเปล่าไปในทันที
“เป็นแค่สัตว์ร้ายตัวหนึ่ง คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้ามาร้องตะโกนใส่ผู้ผูกพันธสัญญาของข้าเช่นนี้ รนหาที่ตายนัก!”
พลังของอาถิงได้ระเบิดออกมาจากจัตุรัสนี้ มันไม่เพียงแต่ต้องเผชิญหน้ากับการตรึงรั้งของพลังแห่งความมืดเท่านั้น แต่ยังต้องเผชิญหน้ากลับพลังแห่งกาลเวลาที่ทำให้พลังของมันอ่อนแอลงอีกด้วย
“โฮกกกกกก!”
“ที่จริงแล้วเจ้าเป็นใครกันแน่? เป็นใครกัน?”
สุดท้ายพลังกดดันนั้นก็หายไปอย่างกะทันหัน และมู่เฉียนซีกับซูอี้ชิงก็สามารถหนีออกไปได้อย่างราบรื่น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! หนี อย่าคิดที่จะหนีเลย! โชคดีที่ข้าได้เตรียมแผนสำรองเอาไว้ เดิมทีสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงอาหารมื้อใหญ่ที่ข้าเอาไว้ฟื้นฟูพลังตอนทำลายผนึกเท่านั้น แม้ว่าหากจะใช้มันที่นี่ก็ดูจะเป็นการสิ้นเปลืองไปหน่อย แต่ข้าไม่มีทางยอมถูกผนึกอยู่ที่นี่อีกครั้งอย่างแน่นอน”
ครืนนนน!
แม้ว่ามู่เฉียนซีและซูอี้ชิงจะอยู่ห่างออกไปไกลถึงขนาดนั้นแล้ว แต่ก็ยังคงสัมผัสได้ถึงพลังอัสนีที่น่าสะพรึงกลัวนั้นอยู่ดี
ตูมมมม!
สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนผ่าลงมาจากกลางอากาศ และหอคอยยักษ์ที่อยู่ก้นทะเลนี้ก็เริ่มพังทลายลง
“รีบไปเร็ว!”
“เร็วเข้า!”
พวกเขารีบพุ่งทะยานออกจากหอคอยแห่งความมืดอย่างรวดเร็ว ในขณะที่พวกเขาพุ่งทะยานออกไปนั้น อัสนีบาตที่เป็นราวกับมังกรปีศาจก็มิปานได้ผ่าลงมาจากกลางอากาศ เห็นดังนั้นซูอี้ชิงก็ต้องการที่จะผลักมู่เฉียนซีออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ผลสุดท้ายกับต้องเจอเรื่องบ้า ๆ แทน!
ความเร็วและการตอบสนองของมู่เฉียนซีรวดเร็วกว่าเขาเสียอีก นอกจากนี้นางยังพุ่งทะยานไปทางสายฟ้านั้น และสกัดกั้นสายฟ้านั้นเพียงลำพัง เพื่อไม่ให้สายฟ้านี้ระเบิดเขาจนกลายเป็นเถ้าถ่านอีกด้วย
เปรี้ยง!
สายฟ้าสีดำทะมึนนี้กลืนกินนางเข้าไป และซูอี้ชิงก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะถูกระเบิดจนไม่เหลือแม้แต่ซากแล้วเป็นแน่
เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “อย่าคิดว่าเจ้าช่วยข้าแล้ว ข้าจะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเจ้านะ”
ในตอนที่สายฟ้ากระจายหายไป มู่เฉียนซีจ้องมองไปทางเขาด้วยสภาพเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่ง และถอนหายใจพลางกล่าวว่า “เฮ้อ! นักฆ่านี่ช่างเป็นคนที่โหดเหี้ยมเสียจริง ๆ! ข้าเสี่ยงชีวิตช่วยเจ้าถึงขนาดนี้แล้ว เจ้ายังจะเอาแต่กังวลกับเรื่องก่อนหน้านี้อยู่อีก”
ซูอี้ชิงจ้องมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้าอย่างตื่นตกใจ “เจ้านี่ช่างโชคดีจริง ๆ ที่ยังไม่ตาย!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ใช่แล้ว! ข้ายังไม่ตาย แต่มันก็เจ็บมากจริง ๆ นะ!”
มู่เฉียนซีสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ สมกับที่เป็นเคล็ดวิชาขัดเกลาร่างกายด้วยอัสนีที่แข็งแกร่งจริง ๆ เดิมทีนางไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะสกัดกั้นพลังสายฟ้าของสัตว์ร้ายตัวนั้น แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะสามารถสกัดกั้นเอาไว้ได้
สายฟ้านี้มีความทรงพลังมากกว่าสายฟ้าที่ผ่านมาก่อนหน้านี้เสียอีก ความสามารถอันน่าสะพรึงกลัวของสัตว์ร้ายตัวนี้วิปลาสเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าทางด้านของอาถิงจะเป็นเช่นไรบ้าง?
“เจ้ายังดิ้นรนอยู่อีกอย่างนั้นหรือ?” อาถิงกล่าวอย่างเยาะเย้ย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ข้ารู้ว่าเจ้าคือผู้ใด เจ้าก็คือศาลานิรันดร์ผู้ควบคุมพลังแห่งกาลเวลา ศาลาเรือนรางเก้าชั้นสินะ! จะต้องเป็นเจ้าอย่างแน่นอน ข้าถูกผนึกมาเนิ่นนานถึงเพียงนี้แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าความสามารถของเจ้าจะอ่อนแอลงถึงขนาดนี้ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
“แม้แต่มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ยังเปลี่ยนเป็นอ่อนแอลงได้ หรือจะบอกได้ว่าหากข้าออกไป โลกใบนี้ก็คงจะตกเป็นของราชาอย่างข้าเป็นแน่”
“และข้าจะต้องทำลายหอผนึกสัตว์ร้ายแห่งความมืดของหอคอยนิรันดร์ให้ได้อย่างแน่นอน!”
อาถิงกล่าวว่า “เก็บคำพูดที่กล้าหาญของเจ้าไปเสียเถอะ เพราะถึงอย่างไรวันนี้เจ้าก็หนีความตายไม่พ้นหรอก!”
“เช่นนั้นเจ้าก็ลองดูสิ! อาศัยพลังของเจ้าในตอนนี้ คิดว่าจะจัดการข้าได้หรือ ช่างน่าขันสิ้นดี!”
ครืนนนนน!
สายฟ้าที่อยู่ด้านนอกนั้นก็น่าหวาดกลัวไม่แพ้กัน ทั่วทั้งเมืองได้ถูกทำลายล้างด้วยแรงระเบิดของสายฟ้าจนราบเป็นหน้ากลอง และมันก็เหลือเพียงซากปรักหักพังเท่านั้น
ในความวุ่นวายเช่นนี้ ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาในเมืองแห่งนี้ และคนเหล่านี้ก็มีความสามารถไม่น้อยไปกว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดอีกด้วย
“ให้ตายเถอะ!” ความจริงจังปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของมู่เฉียนซี
การต่อสู้และสร้างความวุ่นวายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเขาก่อนหน้านี้เป็นแค่เพียงอาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้น และคาดว่านี่ต่างหากถึงจะเป็นอาหารจานหลักของเจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้น
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “หากไม่อยากตายแล้วละก็ จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”
“เด็กน้อยนี่มาจากไหนกัน คิดไม่ถึงว่าจะกล้าพูดเช่นนี้กับข้า!”
“ที่นี่มีพลังแห่งความมืดที่แข็งแกร่งมาก เดิมทีคิดว่าจะเป็นข้อมูลปลอมเหมือนกับการถือกำเนิดของมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์แห่งแสงสว่าง คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีความเป็นไปได้มากมายถึงเพียงนี้! ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้ามาไม่เสียเปล่าแล้ว!”
“การบุกเข้ามาจนถึงที่นี่มันไม่ง่ายเลย จะให้ข้าออกไปอย่างนั้นหรือ! แม่สาวน้อย เจ้าคิดว่าพวกข้าจะเป็นคนโง่อย่างนั้นหรือ?”
มีความสามารถของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง อย่างน้อยก็มีสิทธิ์เป็นถึงผู้อาวุโสของกองกำลังระดับสี่ได้เลยทีเดียว ฉะนั้นคนเหล่านี้จึงมีความเชื่อมั่นในตนเองสูงเช่นนี้ เมื่อคิดว่าตนเองจะได้รับมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ หากพวกเขายอมฟังคำพูดของมู่เฉียนซีก็แปลกแล้ว
ซูอี้ชิงกล่าวว่า “ไม่มีประโยชน์หรอก!”
ครืนนนน!
หลังจากนั้นก็มีสายฟ้าปรากฏขึ้นกลางอากาศราวกับห่าฝนก็มิปาน และพลังที่น่าสะพรึงกลัวนี้ก็เปรียบเสมือนจุดสิ้นสุดของโลกอย่างไรอย่างนั้น
เหล่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงที่มีความแน่วแน่ต่อมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เหล่านั้นก่อนหน้านี้ เวลานี้กลับถูกทำให้ตื่นกลัวจนสีหน้าซีดเผือดกันไปหมดแล้ว!
“หนีสิ!”
“รีบเอาชีวิตรอดเร็วเข้า!”