ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2046 จับมาเป็นโล่
เมื่อเข้ามายังเมืองใต้สมุทรแห่งนี้แล้ว การที่อยากจะออกไปตอนนี้ มันก็ได้กลายเป็นเรื่องที่เกินตัวไปเสียแล้ว
นอกเมืองนั้น มีปราการป้องกันโปร่งแสงปรากฏออกมา และไม่ว่าจะทำอย่างไรต่างก็ไม่สามารถออกไปได้
หากมองจากข้างนอก มันก็คงจะให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ภายในฟองอากาศขนาดยักษ์อย่างแน่นอน
ฟองอากาศนี้ถึงแม้จะดูเหมือนอ่อนแอมาก จนเหมือนจะแตกสลายลงได้ภายในการจิ้มเพียงครั้งเดียว
แต่ไม่ว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงที่อยู่ภายในเหล่านี้จะใช้พลังมากมายเพียงใด หรือใช้อาวุธวิญญาณที่แข็งแกร่งสักแค่ไหน ก็ไม่อาจะทำลายมันได้อยู่ดี!
ครืนนนนน!
สายฟ้าฟาดผ่าลงมาอย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้นก็มีคนโชคร้ายที่ถูกฟ้าผ่าจนกลายเป็นเถ้าถ่าน และนั่นก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อยเลยทีเดียว
พลังเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถสกัดกั้นมันได้อย่างแน่นอน
พวกเขาต่างพากันหลบหลีกด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว ส่วนทางด้านมู่เฉียนซีและซูอี้ชิงก็ได้มาถึงชายเขตของเมืองใต้สมุทรแห่งนี้แล้ว
มู่เฉียนซีได้ใช้กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณฟาดฟันลงไป ส่วนซูอี้ชิงก็ได้ระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาเช่นกัน
แต่ทว่าก็ไม่สามารถทำลายมันได้ ทำลายมันไม่ได้อย่างนั้นหรือ?
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “ดูท่าคงจะออกไปไม่ได้แล้ว เช่นนั้นเจ้าระวังตัวด้วย อย่าถูกฟ้าผ่าตายเสียล่ะ หากคราวต่อไปข้าไม่ได้ตอบสนองอย่างรวดเร็วขนาดนั้น เจ้าอาจจะต้องกลายเป็นเถ้าถ่านไปก็เป็นได้”
ซูอี้ชิงกล่าวว่า “เจ้าดูแลตนเองให้ดีไปเถอะ!”
เพื่อที่จะฝึกฝนตนเอง นอกจากกระบี่ในมือแล้ว ซูอี้ชิงก็ไม่เคยชอบพึ่งพาสิ่งที่อยู่ภายนอกเลย
แต่ทว่าในเวลานี้ เขาได้หยิบโล่ป้องกันอันหนึ่งออกมา!
โล่ป้องกันนี้ก็คือมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ ซึ่งพลังในการป้องกันของมันนั้นแข็งแกร่งมาก และยังสามารถสกัดกั้นอัสนีบาตระดับนั้นได้อีกด้วย
“ดูแล้วเจ้าก็มีของดีอยู่ไม่น้อยเลยนะ! ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเจ้ายอมเอามาใช้เลย” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างหยอกล้อ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าก็วางใจเรื่องเจ้าได้แล้วล่ะ เช่นนั้นเจ้าก็ระวังตัวด้วย”
เมื่อพูดจบ มู่เฉียนซีก็พุ่งทะยานออกไป
นางไม่ได้ตรงไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย แต่ได้พุ่งตรงไปยังสถานที่ที่มีจำนวนของสายฟ้าสีดำมากขึ้นเรื่อย ๆ เหล่านั้นแทน
ในเมื่อมู่เฉียนซีรู้ว่าสิ่งนี้มีประโยชน์ต่อตนเอง แล้วนางจะพลาดมันได้อย่างไรกัน
ในแดนซวนเทียนมีโอกาสน้อยมากที่จะได้พบเจอกับสายฟ้าที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ และแน่นอนว่านางจะต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ เพื่อทำให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของนางยกระดับขึ้นไปอีกขั้นให้จงได้
ซูอี้ชิงรู้สึกตื่นตกใจเล็กน้อย แต่เมื่อคิดได้ว่าครั้งที่แล้วนางไม่ได้ถูกฟ้าผ่าตาย ฉะนั้นครั้งนี้ก็คงจะไม่ตายอย่างง่ายดายเช่นกัน
แต่คนอื่น ๆ กลับจ้องมองไปยังร่างเงาสีม่วงนั้นอย่างเหลือเชื่อ “นั่นก็คือแม่นางน้อยที่บอกให้พวกเราออกไปเมื่อก่อนหน้านี้นี่”
“ใช่แล้ว! ตอนแรกทำไมถึงไม่ยอมฟังคำแนะนำของนางกันนะ! ข้านี่มันบ้าจริง ๆ เลย”
“เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดคนหนึ่งยังกล้าวิ่งไปทั่วอีก นางไม่กลัวถูกฟ้าผ่า…”
คำพูดของชายชราผู้นั้นยังไม่ทันจบ มู่เฉียนซีก็ถูกฟ้าผ่าเข้าจริง ๆ และนี่ก็ทำให้เขาสงสัยว่าตนเองเป็นคนปากเสียเกินไปหรือไม่?
“เฮ้อ! ความสามารถต่ำถึงเพียงนั้น ยากมากที่จะหนีรอดจากหายนะนี้ได้ ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่งอย่างนางไม่ควรเข้าไปในความวุ่นวายเช่นนั้นเลย”
“ก็ใช่น่ะสิ! เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดคนหนึ่ง ยังคิดว่าจะได้รับมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์อีกหรือ ช่างไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง ๆ”
“สถานที่แห่งนี้มันน่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว ขนาดข้ายังไม่มีความสามารถเอามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์มาได้เลย อย่างน้อยก็คงจะต้องเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณถึงจะพอมีโอกาสบ้าง แต่แม่สาวน้อยผู้นั้น แน่นอนว่านี่เป็นการรนหาที่ตายชัด ๆ”
ผู้ที่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ภายในการระเบิดของคลื่นอัสนีบาตได้ หากไม่ใช่คนที่มีความสามารถอันยอดเยี่ยม ก็ต้องเป็นเพราะมีสมบัติที่สามารถปกป้องร่างกายได้เป็นแน่
มีบางคนรู้สึกเสียดายที่แม่นางผู้นั้นต้องกลายเป็นเถ้าถ่านไปตั้งแต่อายุยังน้อย แต่คนเยาะเย้ยนางที่ไม่รู้จักเจียมตัวนั้นกลับมีมากกว่าเสียอีก
รอหลังจากที่พลังของสายฟ้าเหล่านั้นกระจายหายไปแล้ว สาวน้อยในชุดสีม่วงที่เดิมทีแล้วควรจะกลายเป็นเถ้าถ่าน กลับร่อนลงมาจากกลางอากาศอย่างงดงามโดยไร้ความหวาดกลัวอย่างสิ้นเชิง
ผู้อาวุโสที่เป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงกลุ่มนั้นดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นตกใจขึ้นมาทันที ถึงแม้จะเป็นพวกเขา หากอยู่ท่ามกลางสายฟ้าที่ผ่าลงมาอย่างน่าสะพรึงกลัวนั้นก็ยังยากที่จะรักษาชีวิตเอาไว้ได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าแม่นางน้อยผู้นี้จะไม่เป็นอะไรเลย
และยังไม่ทันได้รอให้พวกเขาตกใจมากพอ มู่เฉียนซีก็เริ่มพุ่งทะยานไปยังสายฟ้าสีดำที่กำลังผ่าลงมาอีกระลอกหนึ่งเสียแล้ว
คนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ต่างพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อหลบหลีกและรักษาชีวิตเอาไว้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นคนวิ่งเข้าหาสายฟ้าที่ผ่าลงมาอย่างพิสดารเช่นนี้
“แม่นางน้อยผู้นี้ จะต้องมีสมบัติบางอย่างที่ป้องกันสายฟ้าฟาดได้อย่างแน่นอน!”
“ใช่แล้ว! ต้องเป็นอย่างนั้นแน่!”
“ไม่ใช่สิ! เพราะถึงจะมีสมบัติแต่พลังก็ต้องถูกใช้ไปจนหมดอยู่ดี แล้วแม่นางน้อยผู้นี้จะผลาญพลังของสมบัติให้หมดสิ้นด้วยการพุ่งทะยานเข้าไปในสายฟ้าทำไมกันล่ะ? สมองนางมีปัญหาอย่างนั้นหรือ?”
ในแดนซวนเทียนมีผู้ที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาขัดเกลาร่างกายน้อยมาก แม้ว่าจะมีบางคนที่รู้เรื่องวิชาขัดเกลาร่างกาย แต่ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีวิธีการขัดเกลาร่างกายที่วิปลาสถึงเพียงนี้ด้วย
ครืนนนนน!
เมื่อสายฟ้าผ่าลงมาอีกระลอก มู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ว่าร่างกายของนางนั้นแข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว และนางก็เริ่มมีความคุ้นเคยต่อสายฟ้าเหล่านี้มากขึ้นแล้วอีกด้วย
ส่วนภายในหอคอยแห่งความมืด อาถิงกำลังประชันอยู่กับเจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้น
เมื่อไรที่มันระเบิดสายฟ้าออกมาคร่าชีวิตผู้คน วิญญาณที่ตายไปแล้วของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงเหล่านั้นก็หลั่งไหลเข้ามา ซึ่งทำให้ตอนนี้พลังของมันเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
“นี่ข้าถูกโยนมายังสถานที่แบบไหนกันแน่? มนุษย์เหล่านี้ช่างอ่อนแอเสียเหลือเกิน! นี่เจ้าหอคอยนิรันดร์กำลังดูถูกราชาอย่างข้าผู้นี้อย่างนั้นหรือ?” สัตว์ร้ายกล่าวอย่างโกรธเคือง
“เจ้าเป็นเพียงแค่มดปลวกเท่านั้น ยังต้องการให้ผู้ใดมาให้เกียรติเจ้าอีกหรืออย่างไร?” อาถิงกล่าวอย่างเย็นชา
“อ๊ากกกก! เจ้าพูดว่าอะไรนะ? คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าพูดเช่นนี้กับข้า ดีจริง ๆ รอให้ข้าออกไปได้ก่อนเถิด ข้าจะต้องทำลายเจ้าทิ้งให้จงได้ ศาลานิรันดร์!” เมื่อถูกดูหมิ่นเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้ก็ยิ่งเดือดดาลมากขึ้นไปอีก
เนื่องจากว่ามันโกรธมาก จึงทำให้สายฟ้าที่ผ่าอยู่ภายนอกยิ่งรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งยังมีคนตายเพิ่มขึ้นเรื่อยอย่างต่อเนื่อง
“แย่แน่! สายฟ้าคร่าชีวิตนี่แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว หากปล่อยไปเช่นนี้ พวกเราจะต้องตายกันทั้งหมดเป็นแน่!”
“เช่นนั้นต้องทำอย่างไรล่ะ? จะออกไปก็ไม่ได้ อีกทั้งยังไม่มีวิธีป้องกันสายฟ้าเหล่านี้ได้เลยด้วย พวกเราทำได้เพียงแค่รอความตายเท่านั้นหรือ?”
“ข้ายังไม่อยากตาย ข้ายังไม่ได้กลายเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณเลยนะ”
สายฟ้าสีดำนี้ทำให้ผู้คนตื่นตระหนกกันยกใหญ่ ในเวลานี้เหล่าคนที่มีเจตนาชั่วร้ายต่างก็จ้องมองไปยังร่างเงาสีม่วงที่อยู่กลางอากาศผู้นั้น
“แม่สาวน้อยคนนั้น!”
“นางถูกฟ้าผ่ามากมายขนาดนี้แล้วยังไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย หากสามารถจับนางมาเป็นโล่ป้องกันได้ บางทีพวกเราอาจจะอยู่รอดไปจนถึงท้ายที่สุดก็เป็นได้”
“พี่ซ่ง ท่านพูดได้ถูกต้องแล้ว!”
ทันทีที่พูดจบ พวกเขาก็พุ่งทะยานไปหามู่เฉียนซีราวกับหมาป่าที่กำลังหิวโหยอย่างไรอย่างนั้น และเพื่อที่จะสามารถปกป้องชีวิตน้อย ๆ ของตนเองเอาไว้ให้ได้ พวกเขาล้วนไม่เลือกวิธีการอยู่แล้ว
เมื่อซูอี้ชิงเห็นว่ามีคนมากมายกำลังพุ่งไปทางมู่เฉียนซี จึงทำให้มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง จากนั้นเขาก็ได้ส่งกระแสจิตกล่าวกับมู่เฉียนซีที่กำลังขัดเกลาร่างกายอย่างตั้งใจว่า “เจ้าระวังตัวหน่อย การเคลื่อนไหวของเจ้ามันพิเศษเกินไป ตอนนี้กลายเป็นที่จับตามองแล้ว”
“ขอบคุณอี้ชิงน้อยที่เป็นห่วงข้า ข้ารู้แล้วล่ะ!” มู่เฉียนซีกล่าวพลางคลี่ยิ้มจนตาหยี
“เจ้าอย่ามั่นใจตนเองนักเลย คนของเจ้าผู้นั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ และคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกับคู่ต่อสู้ที่สู้กับพวกเราก่อนหน้านี้อีกด้วย เพราะพวกเขาล้วนเป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงกันทั้งนั้น!” ซูอี้ชิงกล่าวเตือน
มู่เฉียนซีกล่าวตอบว่า “คนที่ไม่มีความสามารถพอจะปกป้องชีวิตตนเองจนอยากลากข้าไปเป็นโล่ป้องกันเช่นนี้ ฝันไปเสียเถอะ! จะมาจัดการข้า ก็มีแต่จะทำให้ตัวพวกเขาเองตายเร็วขึ้นเท่านั้นแหละ”
หางตากวาดมองไปยังผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงเหล่านั้น และแววตาของมู่เฉียนซีฉายเจตนาฆ่าออกมา และพลังวิญญาณของนางก็แผ่กระจายออกไป จากนั้นก็จับการเคลื่อนไหวทั้งหมดของพวกเขาเอาไว้แล้ว
สำหรับคนเหล่านี้ แม้ว่าจะรู้สึกว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดผู้นี้มีความพิเศษบางอย่าง แต่หากว่าพวกเขาคิดที่จะจับนางให้ได้ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก
ในตอนที่พวกเขากำลังเคลื่อนไหว คนที่อยู่เบื้องหน้าก็หายวับไปแล้ว
“อยู่ทางนั้น แม่สาวน้อยผู้นี้ค่อนข้างมีฝีมือเลยทีเดียว!”
“แค่มีฝีมือเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังอันแข็งแกร่ง ก็ไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย”
พวกเขาเร่งความเร็วให้เร็วมากขึ้นไปอีก เพื่อเตรียมที่จะคว้ามู่เฉียนซีเอาไว้ แต่ผลที่ได้คือร่างของมู่เฉียนซีแกว่งไปมา และเปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน นอกจากนี้ยังพุ่งไปยังทิศทางตรงข้ามอีกด้วย
.
.