ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2047 ทำลายผนึกออกมา
เดิมทีแล้วคนเหล่านี้หวาดกลัวสายฟ้าเป็นอย่างมาก พลังวิญญาณส่วนใหญ่พวกเขาได้ใช้ไปกับการจับการเคลื่อนไหวบนอากาศ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาถูกฟ้าผ่าตายมากกว่า
แต่เป็นเพราะมู่เฉียนซีมีความสามารถในการหลบหนีที่ยอดเยี่ยมเกินไป ทำให้พวกเขาจำเป็นที่จะต้องถ่ายพลังวิญญาณไปจับการเคลื่อนไหวของมู่เฉียนซีแทน จึงทำให้การเฝ้าระวังที่มีต่อสายฟ้านั้นก็ถูกคลายลง
และภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ อีกทั้งความหละหลวมเช่นนี้ มันสามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“จับได้แล้ว!”
ในที่สุดพวกเขาก็สามารถควบคุมมู่เฉียนซีได้แล้ว และหลงคิดไปเองว่าสาวน้อยผู้นี้หนีไม่พ้นเงื้อมมือของพวกเขาอย่างแน่นอน แต่ผลสุดท้ายกลับ…
ตูมมมม!
โดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว สายฟ้าก็ฟาดลงมาเสียแล้ว
ความเร็วของสายฟ้าสีดำนั้นรวดเร็วมาก และเมื่อการตอบสนองของพวกเขาช้าไปเพียงครึ่งจังหวะ มันจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะหลบหลีกได้
พวกเขาไม่มีแม้แต่เวลาที่จะใช้คว้าตัวของมู่เฉียนซีมาขวางหน้าเอาไว้ ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงถูกสายฟ้ากลืนกินไปในที่สุด
มู่เฉียนซีฝึกฝนร่างกายด้วยวิธีการขัดเกลาร่างกายผ่านสายฟ้า ฉะนั้นสายฟ้านี้จึงไม่สามารถผ่านางจนตายได้ และนางก็ไม่หวาดกลัวสายฟ้าสีดำนี้เช่นกัน แต่ทว่าคนอื่นกลับไม่ได้มีความสามารถเช่นนั้น
“อ๊ากกก!”
หลังจากที่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวช คนที่มีความสามารถที่อ่อนแอกว่าเล็กน้อยก็ถูกฟ้าผ่าจนกลายเป็นเถ้าถ่านไป ส่วนคนที่มีความสามารถสูงขึ้นอีกเล็กน้อย ก็กลายเป็นซากศพสีดำที่ไหม้เกรียม
และไม่มีใครหนีรอดไปได้เลยแม้แต่คนเดียว!
คนอื่นที่เห็นเรื่องทั้งหมดนี้ต่างก็พากันตะลึงงันไปทันที คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะมีผลลัพธ์เช่นนี้
แต่นี่ก็ยิ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าสาวน้อยผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย และการไปจับนางที่ไม่มีความกลัวต่อสายฟ้าก็น่าจะไม่ใช่หนทางรอดที่แท้จริงอยู่ดี
แต่มีบางคนที่ไม่ยอมแพ้และยังคงโจมตีมู่เฉียนซีต่อไป มู่เฉียนซีจึงกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าจะยังมีคนรนหาที่ตายอยู่อีก ดี ข้าจะเล่นเป็นเพื่อนให้เอง!”
พวกเขาต้องการที่จะจับมู่เฉียนซี ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงเจาะจงพุ่งตรงไปยังสถานที่ที่สายฟ้ากำลังจะผ่าลงมา และนางก็กำจัดพวกเขาได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงมือเองเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็ทำให้คนเหล่านี้นอกจากจะลักไก่ไม่สำเร็จแล้ว ยังต้องเสียข้าวสารไปอีกหนึ่งกำมือด้วย
มีคนที่ล้มเหลวมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้พวกเขารู้จักที่จะหวาดกลัวมู่เฉียนซีขึ้นมาบ้างแล้ว และทุกคนก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงชีวิตอีก แม้ว่าการจับสาวน้อยผู้นี้จะสามารถเอามาทำให้เป็นโล่มนุษย์เพื่อต่อต้านสายฟ้านี้ได้! แต่พวกเขาก็ต้องละทิ้งแผนการนี้ไปอยู่ดี!
หลังจากนี้ พวกเขาก็คงทำได้เพียงหลบหลีกสายฟ้านี้อย่างระมัดระวังต่อไป แต่ทว่ายิ่งใกล้ถึงจุดสิ้นสุดมากเท่าไรก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
ในเวลานี้มู่เฉียนซีได้ถูกสายฟ้าชำระล้างไปพอสมควรแล้ว หากกล่าวว่าผู้บำเพ็ญขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำก่อนหน้านี้ไม่สามารถเจาะการป้องกันทางกายภาพของนางเพื่อฆ่านางได้แล้วละก็ เช่นนั้นตอนนี้ผู้บำเพ็ญขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ก็ยากที่จะทำให้นางบาดเจ็บสาหัสได้อีกแล้ว
นี่ได้จนถึงจุดวิกฤตแล้ว และหากถูกฟ้าผ่าต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อนางอีก ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงไม่ได้ไปหาสายฟ้าแต่กลับไปหยุดอยู่ตรงเบื้องหน้าของซูอี้ชิงแทน
“โล่ของเจ้าใกล้จะแตกอยู่แล้ว เจ้าต้องการได้รับการปกป้องจากเจ้านายของเจ้าหรือไม่ล่ะ! อี้ชิงน้อย” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่จำเป็น!” ซูอี้ชิงกล่าวปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“เจ้าดูผู้อาวุโสที่ถูกฟ้าผ่าจนกลายเป็นเถ้าถ่านก่อนหน้านี้เหล่านั้นสิ พวกเขาต่างก็ต้องการให้ข้าไปช่วยเหลือทั้งนั้น แต่ข้าก็ไม่ยอมให้พวกเขาสมความปรารถนา แต่เจ้า อี้ชิงน้อย เจ้าเป็นคนที่เกิดมาพร้อมกับพรแต่กลับไม่รู้จักคุณค่าสินะ!”
“ข้าสามารถป้องกันตนเองได้!”
ครืนนนน!
เมื่อเห็นว่าสายฟ้าเหล่านี้กำลังจะปะทุขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง เกรงว่าสิ่งที่ซูอี้ชิงเรียกว่าปกป้องตนเองนี้คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นอีกแล้ว!
“กว่าข้าจะได้นักฆ่าอันดับหนึ่งมาเป็นทาสนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แล้วจะให้ข้ามองดูเจ้าตายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไรกัน ฉะนั้นอี้ชิงน้อยเจ้าอย่าได้เขินอายไปเลยนะ”
สีหน้าของซูอี้ชิงมืดมนขึ้นมาทันที เขาไปเขินอายตอนไหนกัน? เขาก็แค่ไม่ต้องการให้ผู้หญิงที่น่ารังเกียจคนนี้มาอยู่ข้างหน้าเขาก็เท่านั้นเอง
ครืนนนนน!
สายฟ้าระลอกนี้ระเบิดอย่างรุนแรงมาก และนี่ก็ทำให้มู่เฉียนซีมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง
ซูอี้ชิงมีมู่เฉียนซีผู้ฝึกฝนร่ายกายจนมีร่างกายที่พิเศษอยู่ด้วย ฉะนั้นจึงไม่มีทางถูกฟ้าผ่าตายอยู่แล้ว ส่วนคนอื่น ๆ กลับไม่ได้โชคดีขนาดนั้น
หลังจากการระเบิดอย่างบ้าคลั่งนี้ ทำให้จากคนที่เข้ามาเกินร้อยคน กลับเหลือเพียงแค่เลขหลักเดียวเท่านั้นในตอนนี้
พวกเขาแต่ละคนต่างก็ต้องจ่ายอย่างหนักหน่วงถึงจะสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาพึงพอใจก็คือ หลังจากสายฟ้าที่ผ่าอย่างบ้าคลั่งในรอบนี้สิ้นสุดลง สายฟ้าที่อยู่กลางอากาศก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว
แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก “เยี่ยมมาก สายฟ้าบัตซบนี้หายไปได้สักที พวกเราไม่เป็นอะไรแล้ว!”
“ไม่เป็นไรแล้ว พวกเราจะไม่ตายอยู่ในสถานที่บ้า ๆ แห่งนี้แล้ว”
“นี่ถือว่าพวกเราผ่านการทดสอบของหอคอยนิรันดร์แล้วใช่หรือไม่? พวกเราสามารถเดินหน้าค้นหาหอคอยนิรันดร์ได้แล้วสินะ”
ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ว่าพลังแห่งความมืดเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน และมู่เฉียนซีรู้ดีว่าคนเหล่านี้มีความสุขเร็วเกินไปแล้ว
“เหอะ ๆ ๆ! ยังเหลือมดปลวกอยู่อีกสองสามตัวอย่างนั้นหรือ? แต่แค่เลือดเนื้อของคนเหล่านี้ต่อไปก็คงจะทำให้ข้ากินอิ่มไปได้มื้อหนึ่งแล้วล่ะ!” สัตว์ร้ายที่ถูกผนึกอยู่บนพื้นดินตัวนั้นกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ศาลานิรันดร์ ดูเหมือนว่าเจ้าจะอ่อนแอกว่าที่ข่าวลือกล่าวถึงมากเลยนะ คิดอยากที่จะใช้พลังแห่งกาลเวลาตรึงข้าไว้ เจ้านี่ช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน!”
“ข้ากำลังจะออกไปได้แล้ว และเวลาตายของเจ้าก็ใกล้จะมาถึงแล้วเช่นกัน!”
ตูมมมม!
และพลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้น ก็พุ่งออกมาทางด้านหน้าของหอคอสีดำแห่งนี้
ตึง!
ทันใดนั้นหอคอยขนาดย่อมที่อยู่กลางจัตุรัสก็หายวับไปทันที ส่วนหอคอยขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านนอกก็พังทลายลงในพริบตา
ตึง ตึง ตึง!
หอคอแห่งความมืดนั้น ได้กลายเป็นเพียงเศษซากสีดำ ที่กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง
เศษซากนี้ได้กลายเป็นอาวุธลับที่อันตรายถึงชีวิต หากถูกมันโจมตีเข้า จะต้องตายหรือบาดเจ็บอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “รีบหลบไปเร็วเข้า!”
“เพลิงนภาพิฆาต!”
“อ๊ากกกก!”
เดิมทีคิดว่าเมื่อสายฟ้าหยุดไปแล้ว ฝันร้ายก็จะสิ้นสุดลง แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า จะมีฝันร้ายจู่โจมเข้ามาอีกครั้ง
ในตอนที่พวกเขากำลังหลบหลีกเศษซากเหล่านี้ ได้มีม่านแสงสีเขียวอ่อนห่อหุ้มหนุ่มน้อยที่งดงามราวกับภูตคนหนึ่งอยู่ในความวุ่นวายเหล่านั้น ซึ่งเขาก็กำลังลอยอยู่เหนือเมืองใต้สมุทรที่กลายเป็นขยะแห่งนี้
หอคอยแห่งความมืดได้หายไปอย่างสมบูรณ์ และพลังแห่งความมืดก็ไม่สามารถควบคุมสัตว์ร้ายตัวนั้นได้อีกแล้ว ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกว่าทั่วทั้งท้องฟ้ามืดลงอย่างกะทันหัน จากนั้นพลังที่ชั่วร้ายก็ปกคลุมอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง
“นะ…นี่คือ…”
ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงสิ่งของบางอย่างเหนือศรีษะ เมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็ได้เห็นสิ่งที่ทำให้หวาดกลัวจนแทบสิ้นสติไปเลยทีเดียว
เพราะเหนือศรีษะของพวกเขามีสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาตัวหนึ่ง เจ้าสิ่งนี้ดูเหมือนกับปลายักษ์ที่มีขนาดใหญ่โตเป็นอย่างยิ่ง และร่างของมันก็ปกคลุมอยู่บนท้องฟ้าเหนือเมืองใต้สมุทรแห่งนี้ทั้งหมด
“นี่มันคือสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่! นี่…”
เพียะ เพียะ!
ปลายักษ์สีดำสนิทถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้า ซึ่งสายฟ้าสีดำนั้นก็เป็นสิ่งที่พวกเขาคุ้นเคยมันเป็นอย่างดี
“เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้เป็นตัวที่ปล่อยสายฟ้านี่เอง!”
“ไม่ใช่ว่าที่นี่มีหอคอยนิรันดร์ถือกำเนิดออกมาอย่างนั้นหรือ? เพราะเหตุใดกัน? เหตุใดสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้”
ดวงตาคู่นั้นกวาดมองมายังพวกเขา มันเอ่ยปากกล่าวว่า “น้อยไปหน่อย ไม่พอกินหรอก!”
เมื่อได้ยินประโยคเหล่านี้ พวกเขาก็ตกใจจนแข้งขาอ่อนทันที!
เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้อยากกินพวกเขาอย่างนั้นหรือ!
“ไว้ชีวิตข้าเถิด!”
“อย่ากินข้า!”
“ข้าไม่อร่อยหรอก!”
เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้ พวกเขาก็ได้แต่คุกเข่าลงไปอย่างไร้เรี่ยวแรง
“สำหรับมนุษย์ที่น่าสงสารอย่างพวกเจ้า เป็นได้แค่เพียงอาหารของข้าเท่านั้น”
มันไม่ได้มีเลือดเนื้อเช่นนี้มาเนิ่นนานแล้ว จากนั้นดวงตากลมโตคู่นั้นก็จ้องมองมาที่คนเหล่านี้ และในตอนที่มันกำลังอ้าปากเปื้อนเลือดขนาดใหญ่เพื่อกลืนกินคนเหล่านี้ พลังสีเขียวอ่อนก็ได้หยุดยั้งมันเอาไว้เสียก่อน
“เอ้อร์คุน! เจ้าคิดว่าข้าเป็นแค่ของประดับอย่างนั้นหรือ?”
ถึงหนุ่มน้อยที่มีดวงตาสีเขียวผู้นั้นจะดูงดงามราวกับภาพลวงตา แต่ทว่าเขากลับมีพลังในการโจมตีที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งการโจมตีนี้ก็ทำให้ร่างของเจ้าสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายปลาตัวนี้พลิกคว่ำไปเลยทีเดียว
.
.