ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2058 ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ร่างที่เพรียวบางนั้นก็ได้หายไปจากเบื้องหน้าของพวกเขาแล้ว
แม้แต่คุณชายชิงหลงยังมาอยู่ที่นี่ การแข่งขันในงานประมูลคราวนี้จะต้องดุเดือดมากอย่างแน่นอน
และหลังจากนั้นไม่นาน ทั้งกองกำลังระดับสี่ กองกำลังระดับสี่ครึ่งหรือแม้กระทั้งกองกำลังระดับสามต่าง ๆ เหล่านั้นก็ได้ส่งคนมาเข้าร่วมด้วยเช่นกัน และทั่วทั้งงานประมูลล้วนคับคั่งไปด้วยผู้คน
ในเวลานี้ห้องส่วนตัวโม่เยว่ทั้งเจ็ดห้องต่างก็มีเจ้าของกันหมดแล้ว ถึงเฮยฮั่นผู้เป็นว่าที่เจ้าสำนักหมอทมิฬจะมาที่นี่ แต่เขาก็ยังไม่มีโอกาสได้ใช้ห้องส่วนตัวโม่เยว่เลยด้วยซ้ำ
เขากล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “เกิดอะไรขึ้นกับโรงประมูลตงเยว่ของพวกเจ้ากัน? แม้แต่นายน้อยเช่นข้าก็ยังไม่มีตำแหน่งเลยด้วยซ้ำ”
“คนที่มีบัตรโม่เยว่ก็คือบิดาของนายน้อย และตอนนี้ท่านเจ้าสำนักก็ไม่ได้มาด้วย ส่วนห้องส่วนตัวระดับโม่เยว่จึงไม่มีเหลืออีกแล้ว ดังนั้นพวกเราจึงทำได้เพียงพาท่านไปยังห้องส่วนตัวอิ๋นเยว่ที่รองลงมาจากห้องส่วนตัวโม่เยว่เท่านั้นขอรับ” ผู้ดูแลเยว่กล่าวอธิบาย
“เช่นนั้นคนที่ได้ครอบครองห้องส่วนตัวทั้งเจ็ดห้องนั้น ที่จริงแล้วเป็นใครกันแน่?”
“เรื่องสถานะของแขกทุกท่าน พวกเราไม่สามารถเปิดเผยเองได้! หากนายน้อยไม่พอใจ คราวหน้าสามารถให้ท่านเจ้าสำนักมาเข้าร่วมประมูลด้วยตนเองได้ และพวกเราจะเหลือที่ว่างไว้ให้สำหรับสำนักหมอทมิฬอย่างแน่นอน”
“คราวหน้ารึ!” สีหน้าของเฮยฮั่นบูดบึ้งเป็นอย่างมาก
ที่เขามางานประมูลในคราวนี้ก็เพื่อที่จะมาประมูลสิ่งของที่ใช้สำหรับเข้าร่วมงานชุมนุมอัจฉริยะ แล้วคราวหน้ามันจะไปมีประโยชน์อะไรกันล่ะ
การที่คนของโรงประมูลตงเยว่เหล่านี้ไม่ไว้หน้าสำนักหมอทมิฬของพวกเขาเช่นนี้ ได้ทำให้นายน้อยอย่างเขาโกรธแค้นพวกเขาเป็นอย่างมาก
แต่ในเมื่อมาถึงแล้ว ก็ไม่อาจจากไปเช่นนี้ได้ และทำได้เพียงลดเกียรติไปใช้ห้องส่วนตัวอิ๋งเยว่เท่านั้น
เมื่อถึงเวลาเริ่มการประมูลอย่างเป็นทางการ ทันใดนั้นไฟที่อยู่บนเวทีงานประมูลก็มืดลง
และหญิงสาวในชุดสีดำที่อ่อนช้อยงดงามอย่างไร้ที่ติคนหนึ่ง ก็ปรากฏตัวขึ้นมาราวกับเป็นภูตผีก็มิปาน
“เยว่จี นั่นเยว่จี!”
“คิดไม่ถึงเลยว่าเยว่จีจะมาเป็นผู้ดำเนินการประมูลเช่นนี้”
“……”
เยว่จีก็คือผู้ดำเนินการประมูลอันดับหนึ่งของโรงประมูลตงเยว่ นางทำให้ทุกที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายที่น่าดึงดูด และสำหรับชายหนุ่มทั้งหลายมันก็เปรียบเสมือนการมีอยู่ของยาพิษอย่างไรอย่างนั้น
ดวงตาที่งดงามของเยว่จี เหลือบมองไปยังหนึ่งในห้องส่วนตัวโม่เยว่ห้องนั้น
และเวลานี้ชายหนุ่มชุดสีเขียวที่สวมหน้ากากในห้องส่วนตัวนั้นก็ตั้งใจหลุบตาลงเล็กน้อย โดยที่ไม่สนใจหญิงสาวผู้งดงามคนนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
เขากล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “มู่เฉินซีมาแล้วหรือ?”
“คุณชาย นางอยู่ที่ห้องส่วนตัวข้าง ๆ นี้เองขอรับ หากคุณชายต้องการพบนางก็สามารถตรงไปยังที่นั่นได้ขอรับ”
ชิงหลงโบกมือไปมาพลางกล่าวว่า “ไม่จำเป็น เมื่อถึงตอนนั้น นางชอบของชิ้นไหนก็ประมูลมันมาให้หมดเสีย!”
เดิมทีคิดว่ามู่เฉินซีไม่คิดที่จะปล่อยเขาและวางยาพิษเขา แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่านางจะได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้เช่นนี้
แม้ว่าจะเป็นคนที่เขาเกลียดชังคนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่อยากจะติดหนี้บุญคุณนางเช่นกัน
“ขอรับ คุณชาย!”
สายตาของมู่เฉียนซีกวาดมองไปยังร่างของเยว่จีผู้นั้น แล้วกล่าวว่า “เมื่อเทียบกับจูเชว่ที่ปลอมเป็นสตรีแล้ว ก็ยังคงด้อยกว่าเล็กน้อยอยู่ดี”
“เหอะ! เดิมทีก็ไม่เห็นจะสวยอะไรอยู่แล้ว”
ม่านแสงสีเขียวอ่อนสว่างวาบขึ้น และอาถิงก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างกายมู่เฉียนซี
ทันทีที่เยว่จีปรากฏตัวขึ้นก็ได้ทำให้ทั่วทั้งงานเปลี่ยนเป็นเดือดพล่านขึ้นมาอย่างกะทันหัน และต่อมาการประมูลของชิ้นแรกก็ได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งการประมูลของโรงประมูลตงเยว่ในคราวนี้เป็นการประมูลแบบแบ่งตามหมวดหมู่ต่าง ๆ นั่นเอง
สิ่งที่เอาออกมาประมูลเป็นอย่างแรกก็คืออาวุธวิญญาณ และในฐานะที่เป็นหนึ่งในมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่แข็งแกร่งมากที่สุด ทำให้สิ่งของเหล่านี้ไม่เข้าตาอาถิงแน่นอนอยู่แล้ว
ส่วนตัวมู่เฉียนซีเองก็ไม่ขาดอาวุธวิญญาณเช่นกัน ดังนั้นนางจึงกล่าวถามว่า “เสี่ยวเหลิ่ง หากเจ้าชอบอาวุธวิญญาณชิ้นไหนก็บอกข้ามาได้เลยนะ”
“เจ้านายวางใจเถอะ! ข้าไม่มีทางเกรงใจท่านแน่นอนอยู่แล้ว อย่างไรเสียหอหมอปีศาจของพวกเราก็ไม่ขาดเงินอยู่แล้ว” เหลิ่งหนิงจือกล่าวอย่างกระตือรือร้น
ในระหว่างการประมูลไม่มีการเคลื่อนไหวทางพลังวิญญาณออกมาจากห้องส่วนตัวระดับโม่เยว่เลยแม้แต่น้อย ต่อมาก็เป็นการประมูลสมุนไพรวิญญาณ ซึ่งความโหดร้ายอันน่าสะพรึงกลัวของหอหมอปีศาจกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
“ดอกไม้วิญญาณกึ่งเทพเหยาฉาง เริ่มต้นที่ราคาสิบล้านผนึกซวน” เยว่จีกล่าวออกมาอย่างหยาดเยิ้ม
เฮยฮั่นมีความสนใจต่อสาวงามอย่างเยว่จีผู้นี้อยู่เล็กน้อย และต้องการให้การเสนอราคาครั้งแรกนี้ดึงดูดความสนใจของสาวงามผู้นี้ แต่เวลานี้มู่เฉียนซีก็เสนอราคาออกมาเช่นกัน
“ห้าสิบล้านผนึกซวน!”
การประมูลในคราวนี้เพิ่งจะเริ่มได้ไม่นานนัก แต่การที่เสนอราคาออกมาถึงห้าเท่าของราคาประมูลในคราวเดียวเช่นนี้ แน่นอนว่ามันเป็นครั้งแรกอยู่แล้ว
มีร่องรอยแห่งความโกรธเคืองฉายวาบขึ้นมาในแววตาของเฮยฮั่น ซึ่งแน่นอนว่านายน้อยของสำนักหมอทมิฬอย่างเขาไม่มีทางยอมแพ้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว และยิ่งไปกว่านั้นเขาคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงที่เสนอราคาออกมาคนนั้นจะมาจากห้องส่วนตัวโม่เยว่
แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปาก ก็มีน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกดังออกมาจากห้องส่วนตัวโม่เยว่อีกห้องหนึ่ง “หนึ่งร้อยล้าน!”
“คุณชาย…ท่าน...” ชายชราผู้ที่ติดตามชิงหลงมาผู้นั้นต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน
คิดไม่ถึงเลยว่าคุณชายก็สามารถทำเรื่องใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเพื่อสาวงามได้เช่นกัน ซึ่งมันทำให้พวกเขาถึงกับถลนตาออกมาด้วยความตื่นตกใจจริง ๆ
“ไม่ได้ยินคำสั่งของข้าอย่างนั้นหรือ? มัวตะลึงอะไรอยู่? ไม่ว่าจะราคาเท่าไร หากว่านางชอบก็จงประมูลมาให้นางเสีย อย่าให้ข้าต้องพูดประโยคนี้เป็นรอบที่สามเชียวล่ะ” ชิงหลงกล่าวอย่างเย็นชา
“ขอรับ คุณชาย ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”
หนึ่งร้อยล้าน เสียเงินร้อยล้านไปกับการซื้อยากึ่งเทพเช่นนี้มันจะขาดทุนเกินไปแล้ว เฮยฮั่นขบฟันด้วยความเคียดแค้น และทำได้เพียงแค่ยอมแพ้เท่านั้น
และตอนนี้เขาก็พาลเคียดแค้นคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวโม่เยว่ทั้งสองคนนั้นแล้ว
สมุนไพรวิญญาณลำดับต่อมาทางมู่เฉียนซีที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เริ่มเสนอราคามาเป็นคนแรก และคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวโม่เยว่อีกคนก็เพิ่มราคาจนถึงจุดที่น่าสะพรึงกลัวและทำให้คนอื่นต้องสิ้นหวังไปเลยทีเดียว
หากเป็นสถานการณ์ปกติที่คนจากห้องส่วนตัวโม่เยว่อีกห้องหนึ่งเสนอราคาออกมาอย่างใจกว้างเช่นนี้ และเมื่อถูกคนอื่นแย่งไปก็น่าจะเสนอราคาสู้จนถึงที่สุดถึงจะถูก แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะยอมแพ้ในการเสนอราคาทันที ซึ่งนี่มันแปลกประหลาดมากเกินไปจริง ๆ!
เหลิ่งหนิงจือก็รู้สึกแปลกประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่นิสัยของเจ้านาย ที่จะยอมแพ้เมื่อเห็นสมุนไพรวิญญาณที่มีแนวโน้มที่ดีเช่นนี้ตกไปอยู่ในมือคนอื่น และคนที่อยู่ห้องข้าง ๆ นั้นก็จงใจอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีหัวเราะพลางกล่าวว่า “อย่างไรเสียสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นก็น่าจะกลับมาอยู่ในมือของข้าอยู่ดี ฉะนั้นข้าจึงไม่สู้กับเขาอย่างเอาเป็นเอาตายหรอก”
เวลานี้การประมูลประเภทสมุนไพรวิญญาณได้มาถึงรายการสุดท้ายแล้ว และชิงหลงก็ได้สั่งให้ลูกน้องของเขาเสนอราคาออกไปโดยไม่รอให้มู่เฉียนซีได้เอ่ยปาก
อย่างไรเสียเขาก็เข้าใจแล้วว่า ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ต้องการพลาดเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
ในบรรดาพวกเขา คนที่ต้องรู้สึกหดหู่มากที่สุดเห็นทีจะเป็นเฮยฮั่นของสำนักหมอทมิฬเสียแล้ว ปกติแล้วในการประมูลสมุนไพรวิญญาณน้อยครั้งมากที่สำนักหมอทมิฬของพวกเขาจะล้มเหลว เพราะผู้แข่งขันส่วนหนึ่งเพื่อเห็นแก่สถานะของสำนักหมอทมิฬของพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะแข่งขันอีก และอีกส่วนหนึ่งถึงแม้ว่าจะไม่เกรงกลัวสำนักหมอทมิฬของพวกเขา แต่เมื่อสู้กันที่กำลังทรัพย์ก็ไม่อาจเป็นคู่ค่อสู้กับสำนักหมอทมิฬของพวกเขาได้เช่นกัน
แต่ในงานประมูลของโรงประมูลตงเยว่ในวันนี้ กลับต้องมาเจอกับทั้งสองคนนี้เสียได้
ในเมื่อเป็นสมุนไพรรายการสุดท้ายแล้ว ฉะนั้นเขาไม่มีทางยอมแพ้แน่นอน ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเอาหน้าของสำนักหมอทมิฬไปซุกไว้ที่ไหนกันล่ะ!
ดังนั้นเฮยฮั่นจึงได้เสนอราคาแข่งกับลูกน้องของชิงหลงขึ้นมา และมู่เฉียนซีก็ทำเพียงแค่ดูการแสดงอย่างสบายใจอยู่ด้านข้างเท่านั้น
แม้ว่าเยว่จีจะยังคงรักษารอยยิ้มเอาไว้ได้ท่ามกลางเวทีการแข่งขันนี้ แต่ก็ยังคงเหลือบมองไปที่ห้องส่วนตัวของชิงหลงเป็นครั้งคราว พร้อมกับมีความสับสนปรากฏออกมาจากแววตานั้น
“คุณชาย ข้าได้ยินข่าวมาว่า คนที่อยู่ในห้องส่วนตัวห้องนั้นก็คือคุณชายชิงหลง หรือว่าพวกเราจะปล่อยมันไปดีหรือไม่ขอรับ”
เพราะการต่อสู้ที่ดุเดือดเกินไปของทั้งสองคน คนของสำนักหมอทมิฬจึงได้ไปตรวจสอบมา และผลของการตรวจสอบนี้ก็น่าเหลือเชื่อมากทีเดียว
“คุณชายชิงหลง ก็เป็นเพียงแค่คนที่ชอบทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ เท่านั้น แล้วข้าจะต้องกลัวด้วยอย่างนั้นหรือ?” เฮยฮั่นกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
มู่เฉียนซีโบกมือแล้วกล่าวว่า “เสี่ยวเหลิ่ง ไปบอกกับห้องข้าง ๆ ทีว่า เลิกประมูลได้แล้ว! สมุนไพรวิญญาณนี้ข้ามีแล้ว จะประมูลไปทำไมกัน!”
เหลิ่งหนิงจือกล่าวว่า “เจ้าค่ะ! ข้าเข้าใจแล้ว”
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!” เวลานี้เหลิ่งหนิงจือก็มาเคาะประตูที่ห้องข้าง ๆ แล้ว
ทันทีที่ชิงหลงโบกมือ ลูกน้องของเขาก็ไปเปิดประตู และเสียงที่เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งของผู้หญิงคนหนึ่งก็กล่าวขึ้นว่า “เจ้านายของข้ากล่าวว่า เลิกประมูลได้แล้วเจ้าค่ะ!”
.