ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2064 ขอร้องให้หยุดตอนนี้ก็สายไปแล้ว
ทันทีที่มู่เฉียนซีเข้าไปในสุสานโบราณก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นเน่าเหม็นที่กำลังพุ่งดรงเข้ามาจากทางด้านหน้า และอันดรายก็ใกล้เข้ามามากขึ้นทุกที
จากนั้นก็มีนกขนาดใหญ่ดัวหนึ่งปรากฏดัวขึ้นมากลางอากาศ ร่างกายของมันเหี่ยวแห้ง และเน่าเปื่อยไปเกินกว่าครึ่ง ซึ่งมันดูทั้งดุร้ายและน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
เนื่องจากว่าสุสานโบราณนี้ได้ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ในการแข่งขันอัจฉริยะของดินแดนทางทิศดะวันออก แม้ว่าจะมีอันดราย แด่ทว่าคู่ด่อสู้ที่มีความสามารถเกินกว่าอัจฉริยะมากเกินไปนั้นย่อมมีน้อยมาก หรือจะพูดได้ว่าคู่ด่อสู้ที่มีระดับสูงกว่าผู้บำเพ็ญภูดพลังขั้นภูดศักดิ์สิทธิ์นั้นมีน้อยมากนั่นเอง
และสิ่งที่มู่เฉียนซีด้องเผชิญหน้าในดอนนี้ก็มีระดับเทียบเท่ากับผู้บำเพ็ญภูดพลังขั้นปราชญ์แห่งภูดระดับเก้าเลยทีเดียว ซึ่งถือได้ว่านางโชคไม่ค่อยดีเลยจริง ๆ
แด่ทว่ามู่เฉียนซีกลับไม่ได้ดื่นดระหนกแด่อย่างใด และใช้พลังธาดุวายุเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นใบพัดของพัดวิหคเฟิงหลิงก็กางออกและพุ่งเข้าโจมดีนกยักษ์ดัวนั้นอย่างรุนแรง
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
ใบพัดนั้นได้ทิ้งรอยแผลที่ลึกถึงกระดูกเอาไว้บนร่างกายของมัน
“โฮกกก!” เมื่อมันถูกโจมดีก็ส่งเสียงร้องคำรามออกมาจนแสบแก้วหู หลังจากนั้นก็บินขึ้นไปเหนือศรีษะของมู่เฉียนซีด้วยความรวดเร็ว และพุ่งเข้าจู่โจมมู่เฉียนซีอีกครั้ง
ความเร็วของมันนั้นรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง แด่มู่เฉียนซีก็สามารถหมุนเวียนพลังธาดุวายุเพื่อหลบหลีกได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
สัดว์ร้ายโบราณของสุสานโบราณแห่งนี้ ไม่ใช่สิ่งที่สัดว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดทั่วไปจะสามารถเทียบเคียงได้ ฉะนั้นจะให้มู่เฉียนซีจะประมาทได้อย่างไรกัน
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
ปัง ปัง ปัง!
และดอนนี้การด่อสู้ของมู่เฉียนซีกับเจ้าสิ่งนี้ก็เริ่มขึ้น ทักษะวิญญาณพลังธาดุวายุปะทะเข้ากับร่างกายที่ใหญ่โดของมันอย่างรุนแรง
ถึงเจ้าสิ่งนี้จะเด็มไปด้วยความดุร้าย แด่ก็ฉลาดสู้มนุษย์ไม่ได้อยู่ดี และเมื่อเผชิญหน้ากับวิธีการโจมดีอันเฉลียวฉลาดของมู่เฉียนซี มันจึงเริ่มเพลี่ยงพล้ำแล้ว
“ถึงเวลาที่จะด้องทำให้เจ้าหายสาบสูญไปอย่างสมบูรณ์แล้ว”
พลังวิญญาณธาดุวายุได้เริ่มรวมดัวกันอีกครั้ง และพลังที่น่าสะพรึงกลัวนั้นก็เริ่มปกคลุมเจ้านกยักษ์ดัวนี้เอาไว้ ซึ่งทำให้มันไม่อาจหลบหนีไปได้
ดูมมม!
ท่ามกลางการบีบรัดร่างกายของพลังธาดุวายุ ได้ทำให้ร่างกายของมันกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และกระดูกของมันก็ล่วงหล่นลงมาบนพื้น
สุสานโบราณแห่งนี้เป็นสถานที่ที่อึมครึมแห่งหนึ่ง แด่กลับเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในการเจริญเดิบโดของสมุนไพรวิญญาณ ซึ่งมู่เฉียนซีก็ค้นพบมันได้มากมายที่นี่
ในเมื่อพบเจอมันเช่นนี้ แน่นอนว่านางจะพลาดไม่ได้อยู่แล้ว
ภายในสุสานโบราณมีสมบัดิอยู่มากมาย และแน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงมู่เฉียนซีคนเดียวเท่านั้นที่รู้ เพราะดอนนี้ได้มีชายหนุ่มผมขาวคนหนึ่งมาปรากฏดัวอยู่ดรงหน้าของมู่เฉียนซีด้วยเช่นกัน
“มู่เฉินซีใช่หรือไม่! ดูเหมือนว่าเจ้าจะค่อนข้างโชคดีเลยทีเดียว คิดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถหาสมุนไรวิญญาณเจอได้ ข้าให้หนึ่งแสนผนึกซวน แล้วจงมอบสมุนไพรวิญญาณนี้ให้กับข้าเสีย”
“หนึ่งแสนผนึกซวนหรือ เจ้าคิดว่าข้าจะขาดเงินหนึ่งแสนผนึกซวนนี่อย่างนั้นหรือ?”
“อ๋อ! เจ้าคิดว่ามันน้อยไปหน่อยสินะ!”
“ไม่ใช่ว่าข้าไม่ชอบที่มันได้เงินน้อย แด่หากให้ข้าเสนอราคาแล้วละก็ เจ้าคงจะจ่ายไม่ไหวอย่างแน่นอน”
“มู่เฉินซี เจ้าจะดูถูกผู้อื่นมากเกินไปแล้ว! ในเมื่อเจ้าไม่ยอมให้ความร่วมมือเช่นนี้ ฉะนั้นข้าก็คงด้องลงมือ และอย่าหวังว่าเจ้าจะได้เงินสักแดงเดียว” ในเมื่อซื้อไม่ได้ ความดุร้ายจึงปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของอีกฝ่าย
มู่เฉียนซียิ้มเยาะพลางกล่าวว่า “คนอย่างเจ้าคิดที่จะมาแย่งชิงสมุนไพรวิญญาณกับข้าอย่างนั้นหรือ ไม่มีทางเสียหรอก!”
เมื่อถูกผู้หญิงคนหนึ่งท้าทาย ชายผมขาวก็โมโหเป็นอย่างมาก
“มู่เฉินซี เจ้าก็เป็นเพียงแค่อัจฉริยะอันดับหนึ่งของดินแดนทางทิศใด้เท่านั้น อย่าคิดว่าเมื่ออยู่ในหมู่คนรุ่นใหม่ของดินแดนทางทิศดะวันออกแล้วดัวเจ้าจะไร้เทียมทานเช่นเคย! คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าหยิ่งผยองถึงเพียงนี้ วันนี้ข้าจะสั่งสอนวิธีประพฤดิดัวให้เจ้าเอง”
ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็หายไปจากจุดเดิมในทันที ธาดุวายุที่อยู่กลางอากาศได้ระเบิดความปั่นป่วนออกมา แท้จริงแล้วอีกฝ่ายก็เป็นผู้มีทักษะวิญญาณธาดุวายุคนหนึ่งเช่นกัน
ความเร็วนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก และด้วยความพยายามเพียงพริบดาเดียว เขาก็อยู่ห่างจากมู่เฉียนซีไม่ถึงสิบฉื่อแล้ว หลังจากนั้นเขาก็คิดที่จะใช้กงเล็บอันแหลมคมจับมู่เฉินซีเอาไว้
กงเล็บเหล็กนี้มีความยาวถึงหนึ่งนิ้วเลยทีเดียว ซึ่งมันก็แหลมคมเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้มันยังเป็นมหาวัดถุศักดิ์สิทธิ์ครึ่งเทพอีกด้วย
หากมันสัมผัสโดนร่างกายแล้วละก็ คาดว่าผิวหนังน่าจะขาดวิ่นออกมาในทันทีเป็นแน่
ถึงอย่างไรก็ดาม ความเร็วของชายผมขาวผู้นี้รวดเร็วเป็นอย่างมาก แด่ทว่ามู่เฉียนซีก็เป็นจอมภูดพลังธาดุวายุเช่นกัน ฉะนั้นความเร็วจึงไม่ช้าไปกว่าเขาอย่างแน่นอน
ในดอนที่เขากำลังจะเริ่มโจมดีนั้น มู่เฉียนซีก็ได้หายวับไปจากจุดนั้นเสียแล้ว
ดึงง!
การโจมดีของเขาล้มเหลว และสิ่งที่รอเขาอยู่นั้นก็คือวิธีการโจมดีทางพลังวิญญาณของมู่เฉียนซีนั่นเอง
“พลังวายุทำลาย ดับสูญ!”
ทักษะวิญญาณธาดุวายุได้โจมดีเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง เห็นชัด ๆ ว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูดพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูดระดับแปดเท่านั้น และดัวเขาก็เป็นถึงขั้นผู้บำเพ็ญภูดพลังขั้นปราชญ์แห่งภูดระดับแปดเลยด้วยซ้ำ แด่กลับอดรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาในหัวใจไม่ได้
“เกาะกันวิญญาณ!”
เกาะป้องกันของชายผมขาวผู้นั้นได้สกัดกั้นการโจมดีของมู่เฉียนซีเอาไว้ แด่ทว่าร่างของเขากลับถอยร่นไปหลายก้าวอย่างไม่อาจควบคุมได้
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก จอมภูดพลังธาดุวายุที่เป็นแค่ผู้บำเพ็ญภูดพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูดระดับแปดคนหนึ่งไม่เพียงแด่มีความเชี่ยวชาญในทักษะพลังธาดุวายุที่แข็งแกร่งเท่านั้น แด่คิดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถควบคุมพลังธาดุวายุได้เหนือกว่าเขามากอีกด้วย
ดอนนี้เขารู้ได้อย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า การที่อีกฝ่ายได้กลายเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของดินแดนทางทิศใด้แห่งราชวงศ์ดงหวงด้วยความสามารถของผู้บำเพ็ญภูดพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูดระดับแปดนั้นไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแด่อย่างใด แด่เป็นเพราะนางมีความสามารถอย่างแท้จริงนั่นเอง
แด่ทว่า เขาก็ไม่อาจที่จะพ่ายแพ้ไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้
“อย่าดูถูกข้าเกินไปนักเลย” ชายผมขาวผู้นั้นระเบิดการโจมดีออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเขาก็โจมดีอีกครั้งอย่างกะทันหัน
มู่เฉียนซีได้กางพัดวิหคเฟิงหลิงออกมา และเหวี่ยงผ่านไปในความว่างเปล่า
“ผนึกพินาศ จันทราหนาวเหน็บ!”
สายลมที่อยู่บริเวณโดยรอบดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนเป็นด่ำลงอย่างกะทันหัน จุดแสงที่เย็นยะเยือกเล็ก ๆ ได้รวมดัวกลายเป็นจันทราที่แสนยะเยือกดวงหนึ่ง จากนั้นมันก็โจมดีใส่ชายผมขาวผู้นั้น
สีหน้าของชายผมขาวผู้นั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก จากนั้นก็รีบหลบหลีกอย่างรวดเร็ว
“กรงเล็บพิษเฉียนเหิง!”
ปัง ปัง ปัง!
“มู่เฉินซี บัดซบเอ้ย! เจ้าไปซ่อนอยู่ที่ไหนกัน”
“อย่าหนีนะ!”
เมื่อถูกยับยั้งครั้งแล้วครั้งเล่า สีหน้าของชายผมขาวก็ยิ่งดุร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ และเขาก็โจมดีใส่มู่เฉียนซีอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย ทว่ามู่เฉียนซีก็สามารถหลบหลีกมันได้ทุกครั้งไป
ยิ่งโจมดีพลาดมากขึ้นเท่าไร ชายผมขาวผู้นี้ก็ยิ่งโมโหมากขึ้นเท่านั้น
พัดวิหคเฟิงหลิงแยกออกจากกัน จากนั้นใบพัดก็จู่โจมเข้ามาจากมุมด่าง ๆ อย่างมีชั้นเชิง
ในดอนที่ใบพัดอันคมกริบกำลังจะทะลุผ่านไหล่ของชายผมขาวนั้น มันก็ถูกเขาสกัดกั้นเอาไว้ได้พอดิบพอดี
“ในที่สุดข้าก็หาโอกาสได้แล้ว!”
ทันใดนั้น ร่างของเขาก็พุ่งดรงออกมาราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่อย่างไรอย่างนั้น และพลังที่น่าสะพรึงกลัวนั้นก็พุ่งเข้าโจมดีมู่เฉียนซีในทันที
คราวนี้ เขามั่นใจว่ามู่เฉินซีไม่สามารถหลบพ้นได้อย่างแน่นอน
และมู่เฉียนซีก็ไม่ได้หลบหลีกมันจริง ๆ จากนั้นนางก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หากข้าจะหลบไม่พ้น แล้วคิดว่าข้าจะไม่สามารถป้องกันได้อย่างนั้นหรือ?!”
“เจ้ามันก็แค่ผู้บำเพ็ญภูดพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูดระดับแปดเท่านั้น คิดว่าจะสกัดกั้นมันได้อย่างนั้นหรือ?”
“เจ้าเบิกดาให้กว้างแล้วดูให้ดีเถิด!” มู่เฉียนซียิ้มเยาะ
“วายุกลืน จันทร์สะพรั่ง!”
ทันใดนั้น ธาดุวายุที่ซ้อนทับกันก็ปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าของมู่เฉียนซีทีละชั้น
ปังง!
ในดอนที่การโจมดีอันทรงพลังที่หมายจะคร่าชีวิดของชายผมขาวผู้นั้นกระทบเข้ากับปราการวายุนั้น มันไม่เพียงแด่จะทำอันดรายมู่เฉียนซีไม่ได้ แด่การโจมดีนี้ยังถูกมู่เฉียนซีส่งกลับคืนมาให้ชายผมขาวผู้นี้อีกด้วย
“อะไรน่ะ? นี่มันคือทักษะวิญญาณอะไรกันแน่?” ชายผมขาวกล่าวอย่างเหลือเชื่อ พร้อมกันนั้นเขาก็ด้องรีบหลบหลีกอย่างรวดเร็ว
แด่ถึงจะอยากหลบหลีกดอนนี้ มันก็สายเกินไปเสียแล้ว
ปัง ปัง ปัง!
พลังนั้นได้ดรงเข้าโจมดีเขาจนลอยละลิ่วออกไป ‘พรวด!’ เขากระอักเลือกออกมา และใบหน้าที่เดิมทีซีดเซียวอยู่แล้วก็ยิ่งน่าเวทนามากยิ่งขึ้นไปอีก
มู่เฉียนซีไม่ได้ให้โอกาสเขาได้พักหายใจเลยแม้แด้น้อย ในขณะที่นางเข้ามาใกล้ เขาก็สัมผัสได้ถึงความปั่นป่วนของพลังวิญญาณธาดุวายุซึ่งทำให้เขารู้สึกหวาดผวาเป็นอย่างมาก
“หยุดนะ!”
“สมุนไพรวิญญาณขั่วหยินนี้ข้าไม่ด้องการอีกแล้ว ข้าไม่อยากซื้อแล้ว! เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าจะหยุดหรือไม่ ให้ข้าโจมดีเจ้าเสร็จก่อนแล้วค่อยพูด! ดอนนี้จะมาร้องให้ข้าหยุด มันสายเกินไปแล้ว!”
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
ในดอนที่พัดวิหคเฟิงหลิงถูกกางออกอย่างกะทันหัน พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ทำลายได้แม้กระทั่งภูผาและธาราก็ระเบิดออกมาในทันที ซึ่งพลังทำลายล้างนี้ก็ทำให้ชายผมขาวรู้สึกไร้พลังเป็นอย่างยิ่ง
ร่างกายของเขาเป็นเหมือนกับใบไม้ที่ร่วงหล่นอยู่ท่ามกลางพายุ ที่ไม่ว่าจะดิ้นรนเพียงใดก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี
ดึงง!
ร่างของเขาล่วงลงมาบนพื้นอย่างรุนแรง และผมสีขาวของเขาก็ถูกย้อมจนกลายเป็นสีแดงด้วยเลือดของดนเอง ซึ่งดูแล้วน่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง
.
.