ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2073 เรื่องเพ้อเจ้อ
ความเร็วของใบพัดนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก และพวกนางก็ทำได้เพียงหลบหลีกอย่างเต็มที่เท่านั้น
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
มีเลือดสาดกระเซ็นออกมา จากคนที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสองคน
ส่วนอีกคนหนึ่งที่ถูกใบพัดเฉือนลงบนต้นคอจนเกิดรอยแผล ก็ทำให้มีเลือดไหลนองออกมาเป็นสายเลยทีเดียว
นางได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นใกล้ตาย และได้ออกไปจากสุสานโบราณแห่งนี้ทันที!
ถึงแม้ว่าจะออกไปแล้ว แต่จะสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้หรือไม่นั้น นั่นก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง ทั้งหมดก็เป็นเพราะมู่เฉินซีเคลื่อนไหวเร็วเกินไป
“เจ้า!” หญิงสาวทั้งสองจากสำนักหลินเยว่จ้องมองมู่เฉียนซีที่กำลังเดินออกมาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
และสิ่งที่ทำให้นางยากที่จะเชื่อก็คือ การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดที่พวกนางทั้งสามร่วมมือกันเมื่อครู่นี้ ไม่สามารถทำให้นางได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
และอย่างมากที่สุดก็ทำได้เพียงทำลายเสื้อผ้าของนางเท่านั้น นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
“ให้ตายเถอะ นี่เจ้าหลอกพวกข้าหรือ?”
นางจงใจที่จะเผยช่องโหว่ออกมา เพื่อทำให้พวกนางลงมือ และหลังจากนั้นก็ฉวยโอกาสเข้ามาลอบโจมตีตอนที่พวกนางไร้การป้องกันสินะ
มู่เฉียนซียิ้มเยาะพลางกล่าวว่า “ศึกไม่หน่ายเล่ห์หรอกนะ!”
“เจ้าตายซะเถอะ!”
หญิงสาวทั้งสองยังคงพุ่งทะยานเข้าใส่มู่เฉียนซีอย่างต่อเนื่อง และมู่เฉียนซีก็ได้แต่กวัดแกว่งพัดวิหคเฟิงหลิงออกไป โดยที่ทักษะวิญญาณธาตุวายุนี้ยังระเบิดออกมาราวกับไม่กลัวสิ้นเปลืองอย่างไรอย่างนั้น
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
“พลังวายุทำลาย จันทราหนาวเหน็บ!”
“……”
นับตั้งแต่มู่เฉียนซีสามารถสกัดกั้นการล้อมโจมตีของหญิงสาวทั้งสามของสำนักหลินเยว่ได้ แววตาของนายน้อยว่าที่เจ้าสำนักของสำนักหมอทมิฬก็เอาแต่จับจ้องอยู่ที่มู่เฉียนซีเท่านั้น
“คิดไม่ถึงว่าพลังในการป้องกันทางกายภาพของผู้หญิงคนนี้จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ หากระดับต่ำกว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ เกรงว่าคงจะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถทำร้ายนางได้! ฉะนั้นคนของสำนักหลินเยว่เหล่านี้ทำไม่ได้แน่นอน”
“นายน้อย พูดได้ว่าทั้งสองคนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่เฉินซีเลย! หรือว่าจะให้พวกเราลงมือตอนนี้ดีขอรับ” คนที่อยู่ข้างกายเขากล่าวขึ้น
“ถึงผู้หญิงจากสำนักหลินเยว่จะไม่สามารถจัดการได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านายน้อยเช่นข้าจะจัดการไม่ได้เสียหน่อย! ฉะนั้นข้าไม่คิดที่จะร่วมมือกับพวกนางหรอก”
“นายน้อยกล่าวได้ถูกต้องแล้ว!”
พรวด พรวด พรวด!
ในที่สุดศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักหลินเยว่ที่ถูกการโจมตีของมู่เฉียนซีทำให้กระอักเลือดออกมา
แขนเสื้อถูกสายลมเฉือนจนขาดวิ่น และทิ้งรอยแผลจำนวนนับไม่ถ้วนไว้บนแขนของนาง
หลังจากที่รู้ว่าพวกนางไม่มีทางทำลายการป้องกันของมู่เฉินซีได้ ในใจของพวกนางตอนนี้ก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ไม่แปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใดภารกิจถึงได้ล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยการป้องกันเช่นนี้ของมู่เฉียนซี ผู้ที่มีระดับต่ำกว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์อย่าหวังว่าจะทำอันตรายนางได้แม้แต่ปลายเล็บ
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
มู่เฉียนซีได้ร่ายพลังวิญญาณธาตุวายุ และโจมตีอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ไห้โอกาสพวกนางได้หายใจเลยด้วยซ้ำ
“มู่เฉินซี ที่จริงแล้วเจ้าเป็นใครกันแน่? เจ้าเป็นใครกัน?”
เป็นความสามารถที่แปลกประหลาด มันแปลกประหลาดเกินไปแล้ว ในเมื่อไม่มีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง แล้วจะมีความสามารถที่วิปลาสเช่นนี้ได้อย่างไรกัน นางไม่เชื่อหรอก
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “บางทีในอนาคตเจ้านายของเจ้าอาจจะได้มีโอกาสไปบอกเจ้าก็ได้ ทว่าตอนนี้ เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รู้หรอก”
ปัง ปัง ปัง!
เวลานี้พวกนางได้ตระหนักรู้แล้วว่าความสามารถที่แท้จริงของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของดินแดนทางทิศใต้แห่งราชวงศ์ตงหวงอย่างมู่เฉินซีมีความวิปลาสมากมายเพียงใด และในตอนนี้พวกนางก็หมดหนทางแล้ว จึงทำได้มองไปทางเฮยฮั่นเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ
ศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักหลินเยว่กล่าวว่า “นายน้อย มู่เฉินซีผู้นี้จะต้องกลายเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งของท่านอย่างแน่นอน! ข้าคิดว่าการที่พวกเราร่วมมือกันเป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว เมื่อถึงเวลาข้าก็จะยอมแพ้และอันดับที่หนึ่งก็จะเป็นของท่าน ฉะนั้นนายน้อยได้โปรดช่วยข้าด้วยเถิด”
เฮยฮั่นเหลือบมองไปยังหญิงสาวที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดผู้นั้นแล้วกล่าวว่า “คำพูดเช่นนี้ของเจ้า เหมือนว่ากำลังดูถูกความสามารถของนายน้อยอย่างข้าอยู่อย่างไรอย่างนั้น? ถึงไม่มีพวกเจ้า ข้าก็สามารถจัดการผู้หญิงคนนี้ได้อยู่ดีแหละ”
“นายน้อย ท่านก็เห็นพลังในการป้องกันของนางแล้ว มันจัดการได้ยากจริง ๆ พวกเรา…”
“ช่างพูดมากเสียจริง! พวกเจ้าหายไปจากที่นี่ได้แล้ว”
แววตาที่เป็นเหมือนกับอสรพิษก็ปิดปานคู่นั้นของเฮยฮั่นเหลือบมองไปที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของสำนักหลินเยว่ผู้นั้น ร่างของนางสั่นเทา และตอนนี้ก็มีเงาของงูตัวหนึ่งปรากฏขึ้นมาเหนือศรีษะของนาง!
“จะ…เจ้า…” นางไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า นายน้อยของสำนักหมอทมิฬจะลงมือกับนางเช่นนี้
ตูมม!
เฮยฮั่นลงมืออย่างรวดเร็ว และไม่มีโอกาสให้นางได้หนีเลยแม้แต่น้อย ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสที่จะได้ยอมแพ้แล้วหนีออกไปจากสุสานโบราณได้เลยด้วยซ้ำ
ปึก!
ร่างทั้งร่างถูกแยกออกเป็นสองส่วน
“กรี๊ดดดด!” ลูกศิษย์ของสำนักหลินเยว่อีกคนหนึ่งกรีดร้องออกมาด้วยเสียงแหลมสูง และรู้สึกตื่นตกใจเมื่อได้เห็นฉากนองเลือดนี้
“นะ…นายน้อยเฮย…”
“กรี๊ดดด! อย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้า…”
คนที่อยู่ข้างกายนายน้อยของสำนักหมอทมิฬกล่าวเตือนผู้หญิงคนนี้ว่า “จะไม่ฆ่าเจ้าก็ได้ แต่รู้ใช่หรือไม่ว่าเมื่อออกไปแล้วต้องพูดเช่นไร?”
“หากมีคนถามเจ้าว่าผู้ใดเป็นคนสังหารศิษย์พี่หญิงของพวกเจ้า เจ้าควรจะตอบอย่างไร?”
หญิงสาวผู้นั้นเหลือบมองไปที่มู่เฉินซีพลางกล่าวว่า “เป็นมู่เฉินซี เป็นมู่เฉินซีที่เป็นคนฆ่าศิษย์พี่หญิงใหญ่”
“พวกเราได้วางยาเจ้าโดยใช้ยาพิษจากสำนักพิษของพวกเราสำนักหมอทมิฬเอาไว้แล้ว ฉะนั้นเจ้าซื่อสัตย์เอาไว้จะดีกว่า ไสหัวไปซะ!”
นางรีบใช้สิทธิ์ยอมแพ้และออกไปทันที ในนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว ไม่ได้มีเพียงแค่มู่เฉินซีที่น่ากลัวเท่านั้น แต่คนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้อย่างนายน้อยของสำนักหมอทมิฬที่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตาคนนั้นก็น่ากลัวเช่นกัน
ผู้ที่อยู่ภายในนี้เหลือเพียงแค่สามคนแล้ว และเฮยฮั่นก็เหลือบมองไปยังชายหนุ่มผู้นั้นแล้วกล่าวว่า “เจ้าก็ไสหัวออกไปด้วย! แค่นี้ข้าคนเดียวก็พอแล้ว! อันดับหนึ่งต้องเป็นของข้าแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนอันดับสอง ก็คงจะต้องเป็นคนของที่ตายไปแล้ว และเจ้าก็ต้องกลายมาเป็นที่สองแน่นอนอยู่แล้ว”
“ขอรับ! นายน้อย!” และคนผู้นี้ก็ออกไปอย่างเชื่อฟัง
ในเวลานี้ทั่วทั้งสุสานโบราณ คาดว่าน่าจะเหลือเพียงมู่เฉียนซีและนายน้อยของสำนักหมอทมิฬเพียงแค่สองคนเท่านั้น
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ให้คนใกล้ชิดของเจ้าออกไป ดูเหมือนว่านายน้อยเฮยฮั่นจะใช้ไพ่ลับอะไรบางอย่างสินะ!”
“เจ้านี่ช่างเป็นคนที่ฉลาดเสียจริง หากตอนนี้เจ้ายอมตกลงที่จะไปสำนักหมอทมิฬกับข้า หลังจากที่ข้าเอาชนะเจ้าได้แล้ว ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า” เฮยฮั่นจับจ้องไปที่มู่เฉียนซี
หรือจะพูดได้ว่า พรสวรรค์เช่นนี้ ท่านพ่อจะต้องชอบมากอย่างแน่นอบ
“ข้าขอปฏิเสธ!” มู่เฉียนซีรู้ดีว่าเขามีความคิดอะไรอยู่ จึงได้ปฏิเสธไปอย่างเย็นชา
“น่าเสียดายนัก เช่นนั้นข้าคงทำได้เพียงนำร่างของเจ้ากลับไปที่สำนักหมอทมิฬแล้วล่ะ” มุมปากของเฮยฮั่นยกยิ้มขึ้นมาอย่างเหี้ยมโหด
พลังวิญญาณพิษที่รุนแรงระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง นี่เป็นเพราะการฝึกฝนทักษะพิษจนกลายมาเป็นพลังวิญญาณพิเศษ และเขาก็ยังเก่งกาจกว่าคุณชายใหญ่ผู้นั้นมากมายเลยด้วย ไม่แปลกใจเลยที่นายน้อยว่าที่เจ้าสำนักจะเป็นคนที่เด็กกว่าเช่นเขา
ดาบที่เป็นเหมือนรูปพระจันทร์เสี้ยวเล่มหนึ่งถูกเขาหยิบออกมา ในตอนที่ดาบเล่นนั้นปรากฏตัวออกมา พลังวิญญาณอันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมาด้วย ซึ่งเหมือนกับการระเบิดของคลื่นยักษ์อย่างไรอย่างนั้น
“มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ!” แสงสว่างในดวงตาของมู่เฉียนซีมืดลงทันที!
“ดาบพิษปีศาจเล่มนี้สามารถทำลายเกาะป้องกันของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ได้ ถึงแม้ว่านางผู้หญิงไร้ประโยชน์เหล่านั้นจะจัดการเจ้าไม่ได้ แต่หากมีดาบนี้ของข้า การจัดการเจ้าก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายนัก”
เขาเคยเห็นความสามารถของมู่เฉียนซีมาก่อนหน้านี้แล้ว ฉะนั้นทันทีที่เฮยฮั่นลงมือเขาจึงนำไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา และมีความมั่นใจต่อความสามารถของตนเองอย่างเต็มเปี่ยม ว่าจะต้องเอาชนะผู้หญิงคนนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน
“ส่วนความเร็ว…!”
ทันใดนั้นใต้รองเท้าของเฮยฮั่นก็ได้ระเบิดพลังวิญญาณธาตุวายุที่ไร้ขีดจำกัดออกมาด้วย และสิ่งนี้ก็คือมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพเช่นกัน มันคือมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพเสริมธาตุวายุ ที่ถูกสร้างมาเพื่อใช้ยกระดับความรวดเร็วโดยเฉพาะ
“เจ้าไม่มีข้อได้เปรียบอีกต่อไปแล้ว คงประหลาดใจมากเลยสินะ! สิ้นหวังมากหรือเปล่าล่ะ?” เขาเหลือบมองมาทางมู่เฉียนซีอย่างหยิ่งผยอง ซึ่งทำราวกับว่าถึงมู่เฉียนซีจะดิ้นรนมากเพียงใด ก็ยากที่จะหลีกหนีชะตากรรมที่จะต้องถูกเขาฆ่าไปได้พ้น
ทว่ามู่เฉียนซีกลับคลี่ยิ้มอย่างเรียบเฉย “สมกับที่เป็นนายน้อยของสำนักหมอทมิฬจริง ๆ แต่หากเจ้าคิดว่าแค่นี้ก็สามารถเอาชนะข้าได้แล้วละก็ เช่นนั้นก็คงเป็นเรื่องที่เพ้อเจ้อมากจริง ๆ!”
.