ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2087 ทำลายพวกมันให้สิ้นซาก
ตูมมม โครมมม!
ด้วยการต่อสู้ที่รุนแรง ทำให้บนร่างของสัตว์ประหลาดผลึกโลหิตมีโพรงเลือดปรากฏขึ้นมาอีกหลายโพรง
แต่สัตว์ประหลาดผลึกโลหิตที่แข็งแกร่งเช่นนี้ก็ไม่สามารถจัดการได้โดยง่ายเช่นกัน มันอ้าปากที่เปื้อนเลือดขนาดใหญ่ออก จากนั้นลูกบอลแสงสีโลหิตก็ระเบิดออกมา และมันก็จู่โจมเข้าใส่มู่เฟิงหลิงทันที
ลูกบอลแสงนี้ทรงพลังเป็นอย่างมาก หากโดนโจมตีเข้าไปละก็ คงไม่มีหนทางรอดเป็นแน่ ซึ่งมันก็ทำให้คนเหล่านี้เป็นห่วงมู่เฟิงหลิงขึ้นมาเล็กน้อย
แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับนิ่งสงบเป็นอย่างยิ่ง และนางก็มีความมั่นใจในตัวอารองของตนเองเป็นอย่างมาก
ปัง ปัง ปัง!
และแน่นอนว่ามู่เฟิงหลิงล้วนสามารถหลบหลีกลูกบอลแสงทั้งหมดเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์จริง ๆ
ต่อมาความเร็วของสัตว์ประหลาดผลึกโลหิตตัวนั้นก็ยิ่งรวดเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าลูกบอลแสงเหล่านั้นก็ไม่สามารถทำอันตรายอะไรมู่เฟิงหลิงได้อยู่ดี
แม้ว่าจะมีลูกบอลแสงเข้ามาใกล้ แต่เขาก็โจมตีมันกลับไปได้ภายในดาบเดียว!
ตูมมม!
“น้องชายคนนี้ ทรงพลังมากเกินไปแล้ว! ” คนเหล่านี้จ้องมองไปยังเงาร่างที่กำลังต่อสู้อย่างกล้าหาญของมู่เฟิงหลิงด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ทันใดนั้นพวกเขาก็ตระหนักได้แล้วว่า การที่หลานของพวกเขาแขวนภาพเหมือนของมู่เฉินซีไว้นั้นเป็นเรื่องที่สามารถรับได้ เพราะหลังจากที่พวกเขากลับไปแล้วก็อยากที่จะแขวนภาพเหมือนของนายท่านผู้นี้สักภาพเช่นกัน
เมื่ออยู่ในโลกที่ผู้เข้มแข็งได้รับความเคารพนับถือ การบูชาผู้ที่แข็งแกร่งจึงเป็นเรื่องที่ปกติเป็นอย่างมาก
มู่เฟิงหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ถึงเวลาที่ต้องกำจัดเจ้าแล้ว”
ดาบแหลมที่แทงเข้าไปอย่างดุดัน และมันก็เต็มไปพลังอัคคีที่ระเบิดออกมา
แรงกดดันของดาบไต่ระดับสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงทั่วไปไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้
แสงสะท้อนของดาบรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด และชั่วพริบตาเดียว สัตว์ประหลาดผลึกโลหิตตัวนั้นก็แยกออกเป็นสองส่วน จากนั้นผลึกหินสีแดงเลือดก็ตกอยู่ในมือของมู่เฟิงหลิง
พวกเขาจ้องมองไปยังมู่เฟิงหลิงอย่างตื่นตะลึง ช่างรุนแรงเหลือเกิน!
พวกเขาไม่เคยเห็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดที่มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่รุนแรงเช่นนี้ที่ไหนมาก่อนเลย
ในตอนที่มู่เฟิงหลิงมอบผลึกโลหิตให้มู่เฉียนซี พวกเขาก็กล่าวขึ้นมาอย่างรีบร้อนว่า “ขอบคุณนายท่านที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ”
“ความสามารถของนายท่านไม่ธรรมดาเลย สมกับที่เป็นท่านอารองของอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งดินแดนทางทิศใต้และดินแดนทางทิศตะวันออกอย่างมู่เฉินซีจริง ๆ”
มุมปากของมู่เฟิงหลิงยกยิ้มเล็กน้อย ถ้าคนอื่นยกย่องเรื่องความสามารถของเขาเหมือนก่อนหน้านี้ เขาก็คงจะไม่มีความหวั่นไหวใด ๆ แน่
แต่หากตอนที่ยกย่องเขาแล้วรวมซีเอ๋อร์เข้าไปด้วย มันกลับทำให้เขามีความสุขเป็นอย่างยิ่ง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ในเมื่อช่วยชีวิตของพวกท่านแล้ว อย่าเอาแต่ทำสิ่งไร้ประโยชน์เลย ถึงแม้ว่าจะให้การช่วยเหลืออย่างราบรื่น แต่อารองของข้าก็ไม่อาจลงมืออย่างเสียเปล่าได้”
“ทั้งสองท่านต้องการสิ่งใดอย่างนั้นหรือ? หากพวกเรามีแล้วละก็ พวกเราจะต้องมอบให้ท่านอย่างไม่พูดมากแน่นอน” ผู้อาวุโสท่านนั้นกล่าว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าอยากได้ผลึกโลหิต พวกท่านมีหรือไม่?”
“ผลึกโลหิตหรือ! พอดีเลย พวกเราก็ล่าสัตว์ประหลาดผลึกโลหิตมาได้ไม่น้อยเช่นกัน อีกทั้งพวกเรายังไม่ใช่ผู้ฝึกฝนทักษะพิเศษอะไรด้วย ฉะนั้นผลึกโลหิตนี้จึงไร้ประโยชน์! หากแม่นางมู่ต้องการ พวกข้าจะมอบทั้งหมดให้เจ้า”
ไม่ว่าผู้มีพระคุณจะต้องการสมบัติชิ้นใดก็ไม่เสียดายทั้งนั้น แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะต้องการสิ่งของที่มีประโยชน์ต่อพวกเขาไม่มากนักเหล่านี้
พวกเขาได้เอาผลึกโลหิตทั้งหมดออกมามอบให้อย่างไม่บ่นอะไรสักคำ และมันก็มีจำนวนค่อนข้างมาก ซึ่งมันก็ทำให้อู๋ตี้มีความสุขมากทีเดียว
“ไอ้หมูขี้เกียจ ฮึ! เจ้ารอก่อนเถอะ ข้าจะต้องบรรลุเป็นสัตว์เทพระดับสามได้เร็วกว่าเจ้าเท่าหนึ่งแน่นอน”
“เจ้าฝันไปเถอะ!” เสี่ยวหงตอบกลับไปอย่างไม่พอใจ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไม่ทราบว่าท่านผู้อาวุโสทั้งหลายมีความคุ้นเคยกับดินแดนต้องห้ามจันทราโลหิตหรือไม่?”
การที่เสาะหาทีละสถานที่กับท่านอาดูเหมือนว่ามันจะช้าเกินไปหน่อย หากสอบถามคนที่มีความคุ้นเคยกับดินแดนต้องห้ามจันทราโลหิตเหล่านี้แล้วละก็ บางทีอาจจะสามารถรู้ข้อมูลของผลไม้จันทราโลหิตกิเลนบ้างก็ได้
พวกเขาพี่น้องต่างมองหน้ากันและกัน จากนั้นจึงกล่าวถามว่า “แม่นางมู่ เหตุใดพวกท่านถึงมายังดินแดนต้องห้ามจันทราโลหิตอย่างนั้นหรือ? มาเพื่อฝึกฝนหาประสบการณ์อย่างเดียว หรือต้องการผลึกโลหิต หรือว่ามาเพราะเหตุผลอื่นกันแน่?”
มู่เฉียนซีกล่าวตอบว่า “เหตุผลอีกอย่างคือข้าต้องการหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนต้องห้ามจันทราโลหิต หรือก็คือผลไม้จันทราโลหิตกิเลนนั่นเอง”
ผู้อาวุโสคนนั้นกล่าวว่า “พูดตามตรง พวกเราเข้ามาในดินแดนต้องห้ามจันทราโลหิตแห่งนี้หลายสิบครั้ง ก็เพื่อวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ยังไม่เคยปรากฏออกมาเลยนับพันปี ซึ่งมันก็เป็นเป้าหมายในคราวนี้เช่นกัน และตอนนี้พวกเราก็มีเบาะแสบางอย่างแล้ว”
“การที่ผู้มีพระคุณต้องการเพียงผลึกโลหิตเพียงไม่กี่เม็ดเพื่อตอบแทนที่ช่วยชีวิตพวกเรามันก็ดูจะราคาถูกเกินไปหน่อย ซึ่งพวกเราก็รู้สึกเกรงใจมากจริง ๆ ดังนั้นพวกเราจึงเต็มใจที่จะแบ่งปันข้อมูลเหล่านี้กับพวกท่าน หรือหากทั้งสองท่านไม่รังเกียจแล้วละก็ สามารถเดินทางไปด้วยกันกับพวกเราก็ได้ เพราะหากโชคดีอาจจะได้รับอะไรมาบ้างก็เป็นได้”
ดวงตาของมู่เฉียนซีเปล่งประกายแวววาว ไม่คิดว่าการช่วยเหลือคนเหล่านี้อย่างไม่ได้ตั้งใจ และแค่อยากจะถามข้อมูลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมากแท้ ๆ แต่ว่าคนเหล่านี้กลับทำให้นางประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
“ไม่รังเกียจแน่นอนอยู่แล้ว สำหรับข้าแล้วไม่ว่าจะมีข้อมูลเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม ก็จะต้องไปลองเสี่ยงโชคดูอยู่ดี” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นี่คือยารักษาอาการบาดเจ็บ ท่านผู้อาวุโสทุกท่านรักษาอาการบาดเจ็บก่อน แล้วพวกเราค่อยออกเดินทางกันต่อ!”
ในเมื่ออีกฝ่ายช่วยเหลืออย่างจริงใจ แน่นอนว่ามู่เฉียนซีจึงถือว่าพวกเขาคือมิตรเช่นกัน นอกจากนี้สิ่งที่นางมีอย่างเหลือเฟือมากที่สุดก็คือยาลูกกลอนนั่นเอง
ยาลูกกลอนนี้รักษาอาการบาดเจ็บได้ดีกว่ายาลูกกลอนที่พวกเขานำมาเสียอีก เพราะเดิมทีพวกเขาต้องเดินทางอย่างยากลำบากเพราะถูกสัตว์ประหลาดผลึกโลหิตเหล่านั้นโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส แต่คิดไม่ถึงเลยว่าทันทีที่กินยาเข้าไป พวกเขาจะสามารถฟื้นตัวไปได้ถึงครึ่งหนึ่งภายในชั่วพริบตาเช่นนี้
“พวกเราไม่เป็นไรแล้ว สามารถออกเดินทางได้แล้วล่ะ!”
“ตกลง!”
สัตว์ประหลาดผลึกโลหิตที่พบเจอระหว่างทางต่างถูกกำจัดไปได้อย่างรวดเร็ว เพียงไม่นางมู่เฉียนซีก็รู้สึกว่าอุณหภูมิโดยรอบเรี่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และดูเหมือนว่าเลือดที่อยู่ภายในร่างกายจะเดือดพล่านขึ้นมาแล้ว
ความรู้สึกเช่นนี้ ดูเหมือนว่ามู่เฟิงหลิงจะรู้สึกได้รุนแรงยิ่งกว่ามู่เฉียนซีมากมายนัก จากนั้นเขาได้ดึงมู่เฉียนซีไว้พลางกล่าวว่า “มันอยู่ข้างหน้านี้!”
“เจ้าค่ะ!”
ความยินดีปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของมู่เฉียนซี คิดไม่ถึงเลยว่าจะตามหาผลไม้จันทราโลหิตกิเลนเจอจนได้อย่างราบรื่นเช่นนี้
“ร้อนเหลือเกิน! ข้างหน้านี้มีภูเขาเพลิงหรืออย่างไรนะ? คิดไม่ถึงเลยว่าดินแดนต้องห้ามจันทราโลหิตจะมีสถานที่ที่ร้อนขนาดนี้อยู่ด้วย” มีคนสองสามคนบ่นพึมพำออกมา
ในตอนที่พวกเขาเข้าไปใกล้ พวกเขาก็เห็นแสงระยิบระยับที่มีรูปทรงเป็นพระจันทร์เสี้ยวอยู่เบื้องหน้า จากนั้นก็กล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้นว่า “หรือว่ามันจะเป็นที่นี่อย่างนั้นหรือ?”
จากนั้นพวกเขาก็รีบรุดหน้าไปอย่างไม่รู้ตัว ผลสุดท้ายสิ่งที่รอต้อนรับพวกเขากลับไม่ใช่สมบัติอย่างยาขั้นเทวะอะไรพวกนั้น แต่กลับเป็นสัตว์ประหลาดผลึกโลหิตฝูงหนึ่งต่างหาก
สัตว์ประหลาดผลึกโลหิตเหล่านี้มีรูปร่างคล้ายหมาป่า คล้ายสุนัขอีกทั้งยังเหมือนมังกรอีกด้วย หลังจากที่พวกมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมนุษย์ที่กำลังเข้ามาใกล้ พวกมันก็พุ่งทะยานออกมาด้วยจิตสังหารที่อันตรายทันที
พวกมันทำราวกับว่าเป็นผู้พิทักษ์ของสถานที่แห่งนี้ก็มิปาน อีกทั้งพวกมันยังไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้ามาใกล้อีกด้วย
ผู้ที่เข้ามาใกล้ จะต้องตาย!
เป็นครั้งแรกที่พี่น้องทั้งห้าคนนั้นได้เห็นสัตว์ประหลาดผลึกโลหิตที่แข็งแกร่งจำนวนมากมายขนาดนี้ พวกเขาจึงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที
“นายท่านมู่ แม่นางมู่ สัตว์ประหลาดผลึกโลหิตเหล่านี้ทุกตัวต่างก็มีระดับไม่น้อยไปกว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับกลางทั้งนั้น อีกทั้งยังมีระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงอีกด้วย แต่พวกเรากลัวว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน หรือว่าพวกเราควรวางกลยุทธ์ก่อนค่อยลงมือดีหรือไม่?”พวกเขามองไปทางมู่เฉียนซีและมู่เฟิงหลิง
หากพุ่งทะยานเข้าไปตรง ๆ พวกเขาก็คงไปรนหาที่ตายเหมือนเอาไข่ไก่ไปกระทบหินเป็นแน่
มู่เฟิงหลิงมองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “เอาตามที่ซีเอ๋อร์ตัดสินใจ!”
พวกเขามั่นใจมากว่า สิ่งของที่กำลังตามหาอยู่ต้องอยู่ที่นี่เป็นแน่
ตลอดทางที่มา พวกเขาก็ได้รู้ว่าท่านมู่ผู้นี้แตกต่างจากผู้อาวุโสโดยทั่วไป เพราะตัวเขานั้นเชื่อฟังคำสั่งจากหลานสาวผู้นี้เป็นอย่างมาก
หากมู่เฉินซีกล่าวว่าให้ไปทางตะวันออก ท่านผู้มีความสามารถที่แข็งแกร่งผู้นี้ก็ไม่มีทางไปทางตะวันตกอย่างแน่อนอน
พวกเขาเคยเห็นอาที่รักและทะนุถนอมหลานสาวหลานชาย แต่คนที่รักและทะนุถนอมขนาดนี้ พวกเขากลับพึ่งเห็นเป็นครั้งแรก
และสิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งประหลาดใจก็คือ การตัดสินใจที่เกี่ยวพันกับความเป็นความตายเช่นนี้ก็ยังคงทำตามที่มู่เฉินซีตัดสินใจอีกอย่างนั้นหรือ?
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “สู้มัน!”
“ทำลายพวกมันให้สิ้นซาก!”
พวกเขาทั้งห้าคนใกล้ที่จะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว เจ้าเด็กนี่ เจ้าไปเอาความมั่นใจเช่นนี้มาจากไหนกัน?
พวกเขาที่อยู่ที่นี่เมื่อนับรวมทั้งหมดแล้วก็มีเพียงแค่เจ็ดคนเท่านั้น และสัตว์ประหลาดผลึกโลหิตที่อยู่ที่นี่มีอย่างน้อยร้อยตัวขึ้นไปเชียวนะ!
จะทำได้อย่างไร?
นี่จะไม่เป็นการที่พวกเขาจะถูกกำจัดจนสิ้นซากมากกว่าหรอกหรือ?
.