ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2090 ปิดล้อมทางออก
มู่เฟิงหลิงต้องรู้อยู่แล้วสัตว์เทพขั้นสุดยอดนั้นมีความหมายว่าอะไร และเขาไม่เคยได้ยินว่าแดนซวนเทียนมีสัตว์เทพขั้นสุดยอดมาก่อนเลย
หากสามารถมาถึงระดับนี้ได้ เกรงว่าทั่วทั้งแดนซวนเทียนก็จะไม่มีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ และเรื่องการแก้แค้นให้พี่ใหญ่ก็คงทำได้เพียงแค่อึดใจเดียวเท่านั้น
มู่เฟิงหลิงเริ่มหวั่นไหว และผลไม้จันทราโลหิตกิเลนนี้ก็เห็นโอกาสที่จะใช้ประโยชน์ได้
คำพูดของมันดังขึ้นมาในสมองของมู่เฟิงหลิงต่อไปว่า “ความสามารถของเจ้าในตอนนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง? มันทำอะไรไม่ได้เลยใช่หรือไม่? แม้ว่าจะกินข้าไปแล้ว แต่ก็สามารถยกระดับได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นแหละ”
“ด้วยสายเลือดครึ่งมนุษย์ครึ่งกิเลนของเจ้า หากไม่มีข้าคอยช่วยเหลือ เจ้าก็จะไม่มีวันขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ตลอดชีวิตอย่างแน่นอน เช่นนั้นอยู่ที่นี่เถอะ…”
“หากอยู่ที่นี่ เจ้าก็จะสามารถได้ทุกสิ่งที่เจ้าต้องการ”
ผลไม้จันทราโลหิตกิเลนเต็มไปด้วยพลังในการสะกดจิตที่แข็งแกร่ง และต้องการที่จะให้มู่เฟิงหลิงหยุดอยู่ตรงนี้ตลอดไป
ทางฝั่งของมู่เฟิงหลิงนั้นไม่ค่อยจะราบรื่นเท่าไรนัก แต่ทางด้านของมู่เฉียนซีกลับราบรื่นเป็นอย่างมาก
นางร่วมมือกับสัตว์เทพทั้งสามตัว กวาดสมุนไพรวิญญาณทั้งหมดที่อยู่ในนี้จบเรียบเป็นหน้ากอง
มุมปากของพวกเขาเหล่านั้นกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย และได้แต่บ่นพึมพำอยู่ภายในใจว่า แม่นางมู่ผู้นี้ยังมีพรสวรรค์ในการเป็นโจรอันดับหนึ่งด้วยสินะ!
“พี่ใหญ่ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้อันตรายขนาดนั้นนะ! รู้อย่างนี้พวกเราน่าจะไปเก็บกันสักหน่อย มิเช่นนั้นพวกเราคงจะรวยเป็นแน่!”
“หากเจ้ากล้าไป ตอนนี้จะลองไปดูได้นะ?” ผู้อาวุโสท่านนั้นกล่าว
เมื่อเห็นลาวาที่เดือดพล่านนั้น พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่ยอมแพ้
พลังจิตวิญญาณของมู่เฉียนซี ยังคงจับสังเกตข้างใต้ลาวานั้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งข้างล่างนั้นไม่ได้มีอันตรายอะไร แต่ทว่าอารองก็ยังคงไม่ไปเก็บเกี่ยวผลไม้จันทราโลหิตกิเลนนั้นมาเสียที
นี่กำลังรอเวลาอะไรอยู่? หรือว่ายังมีเหตุผลอื่นกันแน่
มู่เฉียนซีรออยู่ครู่หนึ่ง แต่นางอดใจรอไม่ไหวและลงไปดูในทันที
และตอนนี้มู่เฟิงหลิงก็ได้ถูกผลไม้จันทราโลหิตกิเลนลากลงไปในเหวลึกที่ลึกยิ่งกว่าเดิมนั้น และเขากำลังจะตอบรับคำร้องขอของผลไม้จันทราโลหิตกิเลน ทันใดนั้นภายในดวงตาของมู่เฟิงหลิงก็กลับมาฉายแววสดใสดังเดิม
“ไม่ได้! ซีเอ๋อร์ยังรอข้าอยู่ข้างนอกนั่น”
มู่เฟิงหลิงลืมตาขึ้น พร้อมทั้งระเบิดพลังวิญญาณออกมา จากนั้นเขาก็ได้ทะลวงเกาะป้องกันตนเองของผลไม้จันทราโลหิตกิเลน และเด็ดเอาผลไม้จันทราโลหิตกิเลนผลนั้นออกมา
ถึงผลไม้จันทราโลหิตกิเลนจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่เมื่อในอดีตมันถูกปลูกโดยเผ่ากินเลน และตอนนี้ก็ถูกคนที่มีสายเลือดของเผ่ากิเลนเก็บไป ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่พวกมันไม่สามารถต่อต้านได้เลย
“ในฐานะที่ดูแล้วเจ้าจะมีประโยชน์ต่อเผ่ากิเลน ข้าจะไม่ทำลายรากของเจ้าก็แล้วกัน!”
เมื่อเขาเก็บผลไม้จันทราโลหิตกิเลนได้แล้ว ก็พุ่งทะยานผ่านไป และได้เห็นว่ามู่เฉียนซีกำลังลงมาพอดี
เขายื่นมือออกไปดึงมู่เฉียนซีเอาไว้พลางกล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ อารองปล่อยให้เจ้ารอนานเกินไปแล้วสินะ”
ทั้งสองคนพุ่งทะยานออกมาจากภายในลาวา และคิดไม่ถึงว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!
ด้วยความสามารถที่แข็งแกร่งของนายท่านมู่ถึงจะไม่เป็นอะไรก็ช่างเถอะ แต่เหตุใดมู่เฉินซีก็ไม่เป็นอะไรด้วยล่ะ และทั้งสองอาหลานนี้ก็ทำให้พวกเขาโมโหมากจริง ๆ
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “อารอง เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”
มู่เฟิงหลิงจ้องมองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ไม่มีอะไรหรอก แค่ปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น”
หากไม่ได้พบเจอกับซีเอ๋อร์ในดินแดนต้องห้ามจันทราโลหิตแห่งนี้ และหากเขาไม่ได้รู้ว่าถึงซีเอ๋อร์ของเขาจะโบยบินไปไกลมากแค่ไหนก็ตาม แต่นางก็ยังคงหวังพึ่งพาและยังคงต้องการอารองอย่างเขาคนนี้มากมายอยู่ บางทีเขาอาจจะตอบรับคำขอของผลไม้จันทราโลหิตกิเลนนั้นแล้วก็เป็นได้ อีกทั้งอาจจะทำตามคำแนะนำของมันไปแล้ว
เขารีบร้อนที่อยากจะแข็งแกร่งขึ้น และผลไม้จันทราโลหิตกิเลนก็ได้เอาช่องโหว่นี้มาใช้ประโยชน์
แต่ตอนนี้เขารู้ตัวแล้วว่า เขายังมีเรื่องที่สำคัญกว่าเรื่องการเปลี่ยนให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้นเสียอีก
ในเมื่ออารองกลับมาได้อย่างปลอดภัย มู่เฉียนซีก็ไม่ได้ถามอะไรมากมายอีกต่อไป
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ขอบคุณทุกท่านที่นำทางมา เช่นนั้นพวกเราก็แยกทางกันตรงนี้ก็แล้วกัน”
“อื้ม! พวกเราก็ต้องออกไปจากดินแดนต้องห้ามจันทราโลหิตแล้วเช่นกัน ไว้มีโอกาสค่อยพบกันใหม่” พวกเขากล่าวตอบ
หลังจากที่แยกทางกับคนเหล่านี้แล้ว มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “อารอง เอาผลไม้จันทราโลหิตกิเลนให้ข้าดูหน่อย”
“อื้ม!”
ผลไม้สีแดงสดผลนี้ ด้านบนมีเปลือกแข็งที่งดงามเป็นอย่างมาก มู่เฟิงหลิงกล่าวว่า “อารองต้องการหาสถานที่สักแห่งหนึ่งเพื่อกลั่นเจ้าผลไม้จันทราโลหิตกิเลนผลนี้ และคงต้องรบกวนให้ซีเอ๋อร์คอยปกป้องสักหน่อย”
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “อารอง ท่านพอจะประมาณการได้หรือไม่ว่าเมื่อกลั่นผลไม้จันทราโลหิตกิเลนแล้ว จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้มากน้อยเพียงใด?”
“ตามความทรงจำที่สืบทอดต่อกันมาบอกว่า สามารถยกระดับได้หนึ่งระดับ สัตว์เทพหนึ่งระดับเทียบเท่ากับมนุษย์สามระดับ แต่อย่างไรเสียข้าก็ไม่ใช่สายเลือดกิเลนบริสุทธิ์ ดังนั้นหากสามารถยกระดับจากผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดไปเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว” มู่เฟิงหลิงกล่าวตอบ
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อารองเชื่อข้าหรือไม่?”
“นั่นมันก็แน่นอนอยู่แล้ว!” ถึงแม้ซีเอ๋อร์จะบอกว่าดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก เขาก็จะเชื่อมันอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น
“ข้าจะกลั่นผลไม้จันทราโลหิตกิเลนนี้ให้ออกมาเป็นยาน้ำ เพื่อที่จะให้อารองสามารถดูดซับพลังที่อยู่ภายในผลไม้จันทราโลหิตกิเลนนี้ให้ได้มากที่สุด”
“อื้ม! เช่นนั้นก็มอบให้เป็นหน้าที่ของซีเอ๋อร์แล้วกัน! อารองจะคอยคุ้มกันซีเอ๋อร์เอง”
“เจ้าค่ะ!”
จากนั้นพวกเขาก็หาสถานที่ที่ปลอดภัยแห่งหนึ่ง โดยที่มีมู่เฟิงหลิงคอยคุ้มกัน รวมไปถึงพวกของอู๋ตี้ด้วย ฉะนั้นจึงคาดว่าไม่น่าจะมีสัตว์ประหลาดผลึกโลหิตกล้าเข้ามาใกล้อีกแล้ว
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็เริ่มลงมือกลั่นยา ยาน้ำนี้ไม่ได้ทำยากเท่าไรนัก แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ได้กลั่นยาตัวนี้ แต่นางก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
เนื่องจากว่าต้องเอาไปให้อารองใช้ ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงได้กลั่นยาน้ำที่เป็นเหมือนกับเปลวเพลิงก็มิปานขวดหนึ่งออกมาด้วยความละเอียดลออมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“อารอง สำเร็จแล้ว! ต่อไปก็ถึงตาที่ข้าต้องคุ้มกันให้อารองแล้ว”
“ตกลง!”
มู่เฟิงหลิงดื่มยาน้ำนั้นลงไป ซึ่งมันก็มีรสชาติที่ดีมาก และเขาก็รู้ดีว่าซีเอ๋อร์ของเขาใส่ใจกับมันมากแค่ไหน
หลังจากที่เขาดื่มยาน้ำลงไปแล้ว ก็มีเปลวเพลิงกองหนึ่งกำลังเผาไหม้อยู่ภายในร่างกายและอยู่ภายในกระแสเลือดของเขา พลังที่แข็งแกร่งได้แทรกซึมเขาไปในเส้นเอ็นรวมไปถึงแขนขาทั้งสี่ข้างของเขาด้วย
หลังจากผ่านไปไม่นาน มู่เฟิงหลิงก็ได้ค้นพบว่าตนเองได้บรรลุแล้ว
เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดแล้ว!
แต่ทว่ามันยังไม่สิ้นสุด และพลังนั้นยังคงเสริมความแข็งแกร่งให้เขามากขึ้นไปอีก
หลังจากที่ผ่านไปครึ่งชั่วยาม กลิ่นอายที่แข็งแกร่งก็ได้แผ่กระจายออกมา และมันก็ทำให้สัตว์ประหลาดผลึกโลหิตที่อยู่โดยรอบวิ่งหนีกระเจิงออกไปไกลแสนไกลเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีมองไปยังมู่เฟิงหลิงที่อยู่ด้านในพลางกล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับอารองด้วย ในที่สุดก็กลายเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับเก้าแล้ว นอกจากนี้ยังใกล้ที่จะทะลวงไปถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับเก้าขั้นสูงสุดอีกด้วย”
“หากให้เวลาท่านรีดพลังที่เหลือของผลไม้จันทราโลหิตกิเลนอีกสักหน่อย การกลายเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับเก้าขั้นสูงสุดก็เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้าก็เร็ว”
ส่วนการบรรลุเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณนั้น กลับไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเลย
มู่เฟิงหลิงกล่าวว่า “ต้องขอบคุณซีเอ๋อร์ที่กลั่นยาน้ำให้ ถ้าเพียงแค่กลั่นผลไม้จันทราโลหิตกิเลนผลหนึ่ง ก็ต้องใช้เวลาสามสี่วันแล้ว ฉะนั้นจะไปบรรลุได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ได้ที่ไหนกันล่ะ”
“ตอนนี้รู้ความเก่งกาจของข้าแล้วสินะเจ้าคะ! ดังนั้นท่านห้ามคิดที่จะหนีไปไหนเป็นอันขาด” มู่เฉียนซีกล่าวพลางแสร้งทำเป็นโกรธขึ้ง
“ใช่แล้ว! ซีเอ๋อร์เก่งมาก อีกอย่างความคิดของอารองก่อนหน้าถูกเตะเข้าไปในเตาเผาแล้วล่ะ” มู่เฟิงหลิงคลี่ยิ้มกล่าวอย่างจนปัญญา
ผลไม้จันทราโลหิตกิเลนที่มู่เฟิงหลิงต้องการก็หาเจอแล้ว การมาหาประสบการณ์ของมู่เฉียนซีก็ให้ผลลัพธ์แล้วเช่นกัน ดังนั้นจึงควรที่จะออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้แล้ว
เมื่อมู่เฉียนซีและมู่เฟิงหลิงกำลังมุ่งหน้าไปที่ทางออกของดินแดนต้องห้ามจันทราโลหิต ทันใดนั้นก็ได้มีใครบางคนรีบพุ่งทะยานมาทางพวกเขาอย่างรีบร้อน “แม่นางมู่ นายท่านมู่ รอก่อน...”
ก่อนหน้านี้พวกเขาพี่น้องยังมีกันหลายคนอยู่เลย แต่ทว่าตอนนี้กลับเหลือเขาเพียงคนเดียวแล้ว
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่าออกไปแล้วอย่างนั้นหรือ? เหตุใดถึงยังอยู่ที่ดินแดนต้องห้ามจันทราโลหิตนี้อีกล่ะ?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“พวกเราพี่น้องได้ออกไปกันแล้ว แต่ทว่าตอนที่ออกไปได้ค้นพบเรื่องเหลือเชื่อเรื่องหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ข้าจึงปลอมตัวเข้ามา แอบมาส่งข่าวให้เจ้า” คนผู้นั้นกล่าว
“ข่าวอะไรอย่างนั้นหรือ?”
“ยอดฝีมือของสำนักหลินเยว่และสำนักหมอทมิฬได้ปิดล้อมทางออกของดินแดนต้องห้ามจันทราโลหิตเอาไว้หมดแล้ว และไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นผู้หญิงก็จะถูกจับไปสอบสวน! คนกลุ่มนั้นช่างไร้ยางอายสิ้นดี เพื่อที่จะจัดการเด็กน้อยอย่างเจ้า คิดไม่ถึงเลยแม้แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับเก้าขั้นสูงสุดก็จะถูกส่งออกมาด้วย” เขารู้สึกดูหมิ่นต่อการกระทำของสำนักใหญ่จากกองกำลังระดับสี่ทั้งสองนี้เป็นอย่างมาก
.
.