ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2140 สายเกินกว่าจะเสียใจภายหลัง
“หยุดหอนได้แล้ว มันไม่ง่ายเลยกว่าจะหาสถานที่ที่ไม่มีกองทัพมดแห่งความตายพบ เจ้าอยากจะหอนเรียกกองทัพมดแห่งความตายมาหรืออย่างไร” หนึ่งคนในนั้นคำรามร้องออกมา
สถานที่ที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ เป็นหินผาที่มีความแข็งแกร่งมากแห่งหนึ่ง หินผาประเภทนี้ทำให้ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีกองทัพมดแห่งความตายพุ่งออกมาจากใต้ดินอย่างกะทันหันหรือไม่แต่อย่างใด
มีคนรวมตัวกันอยู่ที่นี่สิบกว่าคน และคนที่สามารถมาถึงที่นี่ได้ ต่างก็เป็นคนที่มีความสามารถไม่เลวกันทั้งนั้น
“เฮ้! แม่นางน้อยทั้งสองค่อนข้างเก่งเลยทีเดียว คิดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถทนมาจนถึงที่นี่ได้!”
“คนหนึ่งเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุด ส่วนอีกคนเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า ช่างน่าแปลกมากจริง ๆ”
“……”
สามารถทนมาจนถึงตอนนี้ได้ แปลว่าจะต้องมีไพ่ตายแน่นอน ฉะนั้นมันจึงทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะดูถูกพวกนางเช่นกัน
“ข้าอยากจะบอกก่อนว่า กองทัพมดแห่งความตายเหล่านั้นมันบ้าคลั่งไปแล้ว หากพวกเราดำเนินการเพียงลำพังคงจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่หากร่วมมือกัน ถึงจะพูดไม่ได้ว่าสามารถจะหาทางรอดได้ แต่มันจะต้องดีกว่าทำคนเดียวแน่นอน”
“ใช่แล้ว! เคลื่อนไหวไปด้วยกัน จะได้ดูแลกันและกันได้!”
“ข้าก็เห็นด้วยเช่นกัน”
โม่ตี๋มองไปทางมู่เฉียนซี แต่มู่เฉียนซีก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา และแน่นอนว่านางไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อภัยที่ข้าต้องพูดตรง ๆ ผู้แข็งแกร่งที่มายังเทือกเขาแห่งความตายส่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำกว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์กันทั้งนั้น แต่ทว่าผู้อาวุโสทุกท่านล้วนเป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ขัั้นสูงสุด เหตุใดถึงได้เลือกมาฝึกฝนหาประสบการณ์ที่เทือกเขาแห่งความตายกันเล่า”
เทือกเขาแห่งความตาย นอกจากความอันตรายที่ถึงแก่ชีวิตแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดที่ให้ความดึงดูดต่อผู้อื่นอีกเลย
การล่าแกนวิญญาณของสัตว์วิญญาณก็ไม่ได้ง่ายเหมือนข้างนอก สมุนไพรวิญญาณก็ไม่มี ฉะนั้นคนทั่วไปไม่มีทางเลือกที่จะมาที่นี่แน่นอน
“พวกเราได้ยินมาว่า มีสมบัติอยู่ในเทือกเขาแห่งความตาย!”
“หากได้รับสมบัตินั้นแล้ว ก็จะสามารถบรรลุเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณได้อย่างง่ายดาย เพราะว่ามันได้บรรจุพลังที่แข็งแกร่งมากเอาไว้”
“……”
โม่ตี๋กล่าวว่า “เทือกเขาแห่งความตายมีอยู่ในแดนซวนเทียนมานานหลายปีขนาดนี้แล้ว แต่พวกข้ายังไม่เคยได้ยินว่ามีสมบัติอะไรมาก่อนเลย?”
ที่นี่มีเพียงสัตว์วิญญาณที่อันตรายนานาชนิดเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีกองทัพมดแห่งความตายที่น่าสะพรึงกลัวนั่นอีกด้วย
“พวกเราก็พึ่งได้ยินมาเมื่อไม่นานมานี้เช่นกัน และช่องทางข้อมูลของพวกเรา ก็ไม่ใช่สิ่งที่เด็กน้อยอย่างพวกเจ้าจะสามารถรับรู้ได้หรอกนะ”
“ใช่แล้ว! ตอนนี้พวกเราต่างก็เป็นเหยื่อเหมือนกัน ถึงจะบอกพวกเจ้าไปก็ไม่เป็นอะไรอยู่ดี เพราะอย่างไรเสียก็ไม่รู้ว่าพวกเราจะมีชีวิตรอดไปหรือไม่?”
“……”
เห็นได้ชัดว่า พวกเราได้รับรู้ข้อมูลนี้ผ่านช่องทางที่พิเศษมากช่องทางหนึ่ง
“พวกเจ้าได้รับข้อมูลมาจากที่ใดอย่างนั้นหรือ?”
“เรื่องนี้ ข้าไม่อาจบอกคนนอกได้เช่นกัน!”
“แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่ใช่ของปลอมแน่นอน เพราะแหล่งข้อมูลนั้นน่าเชื่อถือเป็นอย่างยิ่ง”
“……”
สวบสาบ… สวบสาบ…
เนื่องจากว่าด้านนอกมีการเคลื่อนไหว จึงมีคนออกไปตรวจสอบ แต่ทว่าพวกเขากลับกลับเข้ามาด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด
“พวกเราจะต้องรีบเคลื่อนย้ายไปจากที่นี่ ต้องเร็วกว่านี้!”
“เร็วเข้า!”
“หากกองทัพมดแห่งความตายนั้นเข้ามา มันก็จะปิดปากถ้ำนี้เอาไว้ และพวกเราก็จะต้องตายแน่นอน”
“ไปเร็ว!”
กลุ่มเล็ก ๆ ที่ตั้งขึ้นมาชั่วคราวของพวกเขานี้พุ่งทะยานออกจากถ้ำในทันที จากนั้นพวกเขาก็มุ่งตรงไปยังสถานที่ที่มีกองทัพมดแห่งความตายน้อยที่สุด
“เสี่ยวโม่โม่!”
เมื่อต้องต่อสู้กับคนแปลกหน้ากลุ่มนี้ แน่นอนว่ามู่เฉียนซีไม่อาจเปิดเผยความแข็งแกร่งทั้งหมดของนางได้ และต้องดำเนินการไปพร้อมกับพวกเขา
และการให้เสี่ยวโม่โม่ออกโรง ก็เพียงเพื่อปกป้องตนเองเท่านั้น
“ที่แท้ก็เป็นสัตว์เทพหงส์นี่เอง อีกทั้งยังเป็นสัตว์เทพหงส์กลายพันธุ์อีกด้วย คิดไม่ถึงเลยว่าเปลวเพลิงของมันจะสามารถสกัดกั้นกองทัพมดแห่งความตายเหล่านี้ไว้ได้”
“ดีมากจริง ๆ ดูเหมือนว่าพวกเรายังพอมีโอกาสรอดอยู่บ้าง”
“……”
อย่างไรก็ตาม ความจริงนั้นกลับไม่ได้ดีอย่างที่พวกเขาคิดเอาไว้
เพราะเมื่อกองทัพมดแห่งความตายเหล่านี้มีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่ว่าพวกเขาจะวิ่งหนีไปทั่วทั้งเทือกเขาแห่งความตายอย่างไร แต่ก็คาดว่าน่าจะไม่มีพื้นที่สำหรับพวกเขาอยู่ดี
“แย่แน่! พวกเราจบเห่แล้ว”
กองทัพมดแห่งความตายที่มากันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พวกเขาทำได้เพียงต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายเท่านั้น
“อ๊ากกกกก!”
มันมีจำนวนมากเกินไป และแม้ว่าจะเป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงก็ยากที่จะไม่ได้รับบาดเจ็บได้ แต่ถ้าหากบาดเจ็บ จนได้รับการปนเปื้อนจากพลังแห่งความตาย ก็จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนักอยู่ดี
ตอนที่พวกเข้าตกอยู่ในความสิ้นหวัง และความปรารถนาที่จะมีชีวิต ก็สามารถทำให้คนเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งขึ้นมาได้เช่นกัน
มีคนคนหนึ่งมองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “แม่นางน้อย ที่ข้ามียาลูกกลอนอยู่เม็ดหนึ่ง มันสามารถทำให้สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าเลื่อนขึ้นไปสองขั้นได้ และมันก็จะกลายเป็นสัตว์เทพระดับสาม หากเจ้าหงส์ตัวนี้กลายเป็นสัตว์เทพระดับสามแล้วล่ะก็ เปลวเพลิงของมันก็จะแข็งแกร่งกว่านี้เป็นแน่ ทีนี้ก็จะสามารถเปิดเส้นทางนองเลือดให้ข้าได้!”
“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ! ช่างดีมากเลยจริง ๆ” คนอื่น ๆ กล่าวอย่างประหลาดใจ
เมื่อคนที่สิ้นหวังเหล่านี้ได้ยินคำพูดของผู้ชายคนนั้น ก็จ้องมองไปทางมู่เฉียนซีและเสี่ยวโม่โม่ด้วยดวงตาที่เป็นประกาย แต่มู่เฉียนซีกลับกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าไม่เห็นด้วย!”
นางเองก็เป็นนักปรุงยาเช่นนี้ มันมียาลูกกลอนเช่นนี้อยู่จริง ๆ แต่ว่ามันจะสร้างความเสียหายที่ไม่อาจย้อนคืนได้ให้แก่เสี่ยวโม่โม่
“นี่มันเวลาอะไรแล้ว ข้ายอมรับว่ายาลูกกลอนนี้มีผลกระทบต่อสัตว์เทพอย่างร้ายแรง! แต่ว่าในเวลาเช่นนี้เจ้ายังให้ค่าชีวิตของสัตว์ตัวหนึ่งอีกหรือ! อยากจะให้พวกเราทั้งหมดตายอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือ?”
ดวงตาคู่นั้นของมู่เฉียนซีฉายแววเย็นยะเยือกออกมา “ถึงพวกเจ้าจะตายอยู่ที่นี่ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า! พวกเราก็แค่รวมกลุ่มกันเท่านั้น ข้ากับพวกเจ้าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย! พวกเจ้าคิดว่าชีวิตของพวกเจ้าสำคัญมากอย่างนั้นหรือ? แต่ในสายตาของข้า ชีวิตของพวกเจ้าเทียบไม่ได้แม้แต่ขนของเสี่ยวโม่โม่เลยด้วยซ้ำ”
“เจ้าคนเลวพวกนี้นี่!” ในเมื่อเห็นเจ้านายโกรธ เสี่ยวโม่โม่ก็โกรธด้วยเช่นกัน
“นางเด็กน้อยไม่รู้จักดีชั่วนี่!”
ในตอนนี้ก็มีกองทัพมดแห่งความตายพุ่งเข้ามา คิดไม่ถึงว่าจะมีคนลงมือผลักมู่เฉียนซีเพื่อหวังให้นางเข้าไปอยู่กลางกลุ่มของกองทัพมดแห่งความตายเหล่านั้น
สีหน้าของโม่ตี๋เปลี่ยนไปทันที นางกล่าวว่า “แม่นางมู่ ระวัง!”
นางเองก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่า ตาเฒ่าเหล่านี้จะกล้าทำเรื่องที่ไร้ยางอายเช่นนี้ได้
ถึงอีกฝ่ายจะลงมือเร็วมาก แต่ก็ไม่เร็วไปกว่าการเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาของมู่เฉียนซีอยู่ดี
เมื่อคนผู้นั้นพุ่งขึ้นไปกลางอากาศ ทว่ากลับไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ จนตกเข้าไปอยู่กลางวงล้อมของกองทัพมดแห่งความตาย
พลันนั้นกองทัพมดแห่งความตายก็พุ่งตรงเข้าไปกัดที่ต้นคอของเขาจนเลือดสีดำพุ่งกระฉูดออกมาทันที
“นางเด็กสมควรตายนั่น คิดไม่ถึงเลยว่าจะลอบโจมตีศิษย์พี่ของข้า!”
“ควบคุมนางเด็กนั่นเอาไว้ จับสัตว์พันธสัญญาของมันมา หลังจากนั้นก็ทำให้สัตว์พันธสัญญาของมันเลื่อนขั้น บางทีข้าอาจจะหนีออกไปได้ก็เป็นได้”
“……”
ในตอนที่ตั้งกลุ่มขึ้นมาบอกจะดูแลซึ่งกันและกัน ฝ่าฟันความยากลำบากร่วมกัน แต่ความหวาดกลัวต่อความตายในตอนนี้ กลับทำให้พวกเขากล้าที่จะลงมือกับมู่เฉียนซีเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไอ้แก่รนหาที่ตายนี่ คิดว่าจะรังแกข้าได้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ?”
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง!”
อู๋ตี้และเสี่ยวหงปรากฏตัวออกมา และเปิดทางให้กับมู่เฉียนซีทันที
“เสี่ยวโม่โม่!”
รางสีม่วงพุ่งทะยานออกไป มู่เฉียนซีกล่าวว่า “โม่ตี๋ เจ้าอยากจะติดตามผู้ใด จงเลือกด้วยตนเองได้เลย!”
โม่ตี๋ไล่ตามไปอย่างไม่กล่าวอะไรสักคำ จากนั้นคนเหล่านั้นก็กล่าวว่า “ไล่ตามไป!”
“นางเด็กคนนี้ซ่อนความสามารถไว้ลึกนัก คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีสัตว์พันธสัญญาอีกสองตัว ไล่ตามไป! ในเมื่อมีกองทัพมดแห่งความตายอยู่ทั่วทุกหนแห่ง คอยดูว่านางจะหนีไปไหนได้!”
ในตอนที่พวกนางกำลังหลบหนี มู่เฉียนซีก็โยนสิ่งของบางอย่างไปให้กับโม่ตี๋พลางกล่าวว่า “ฉีดลงไปบนตัวซะ!”
กลิ่นของมันนั้นไม่พึงประสงค์เป็นอย่างมาก แต่โม่ตี๋ก็ยังคงทำตามที่นางบอก
หลังจากนั้นก็มีปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เนื่องจากกองทัพมดแห่งความตายเหล่านั้นเข้าใกล้พวกนางน้อยลง มันจึงทำให้พวกนางหลบหนีได้อย่างราบรื่นเป็นอย่างมาก
แต่ทว่าเหล่าตาเฒ่าที่อยู่ข้างหลังเหล่านั้น กลับยากที่จะก้าวเท้าไปได้ และต้องตกอยู่ในวงล้อมของกองทัพมดแห่งความตาย
“พวกนางล่ะ? นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? เหตุใดกองทัพมดแห่งความตายถึงได้โจมตีพวกนางน้อยถึงเพียงนั้น? พวกนางใช้วิธีการใดกันแน่?”
“อ๊ากกก! ในเมื่อพวกนางมีวิธีการเช่นนี้อยู่ด้วย พวกเรา…เมื่อครู่นี้พวกเราไม่น่าไปลงมือกับนางเลย!”
ถึงจะมาเสียใจภายหลังเอาในตอนนี้ มันก็สายเกินไปเสียแล้ว!
“อ๊ากกก!”
กองทัพมดแห่งความตายที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้ลากพวกเขาเข้าไปในหุบเหวแห่งความตายแล้ว และไม่ว่าพวกเขาจะดิ้นรนมากเพียงใดก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี
.