ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2189 องค์จักรพรรดิตงหวง
“แต่ข้าเป็นคนที่ลงมือรุนแรงมากเสียด้วยสิ อีกอย่างสภาพของเจ้าในตอนนี้ก็แย ย่เป็นอย่างมาก หากให้ข้าลงมือแล้วละก็ คนชั้นสูงอย่างเจ้าอาจจะทนไม่ไหวก็เป็นไ ได้!” มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นมาอย่างหยอกล้อ
นางรู้ดีว่ามู่หลินหลางไม่มีทางเต็มใจยอมแพ้อย่างแน่นอน และนางก็ไม่อยากให้นา างยอมแพ้อีกด้วย
เพราะอย่างไรเสียหากปล่อยนางไปเช่นนี้ มันก็คงจะดูง่ายเกินไปหน่อยจริง ๆ
“เจ้าบังอาจนัก!” มู่หลินหลางคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
“บนสนามการแข่งขันเช่นนี้ มีดดาบมันไม่มีตาหรอกนะ เช่นนั้นเจ้าก็อย่ามาโทษข้าก ก็แล้วกัน!”
ทันทีที่พูดจบ มู่เฉียนซีก็พุ่งทะยานออกไป และเข้าใกล้มู่หลินหลางอย่างกะทันหั น
“เพลิงนภาพิฆาต!”
เปลวเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวปกคลุมมู่หลินหลางเอาไว้ และมู่หลินหลางก็ทำได้เพียงใ ใช้พลังวิญญาณที่เหลืออยู่สกัดกั้นเอาไว้เท่านั้น
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
“พลังวายุทำลาย จันทราหนาวเหน็บ!”
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
ธาตุวายุกลายเป็นใบมีดที่คมกริบ และเฉือนไปบนผิวหนังของมู่หลินหลางทันที
ฉัวะ!
ร่างกายถูกธาตุวายุทะลุผ่าจนเกิดรอยแผลจำนวนนับไม่ถ้วน
“ทักษะซิวหลัว!”
หลังจากที่ปล่อยทักษะออกไป มู่หลินหลางที่ยืนไม่มั่นคงอยู่แล้ว ก็สะดุดล้มลงไป ปบนพื้นทันที
มู่หลินหลางกัดจนฟันเงินเกือบจะแหลกละเอียด นางไม่เคยต้องอับอายเช่นนี้มาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่นางถูกโจมตีจนมีสภาพเวทนาเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนมากมายเ เลย
บัดซบ! บัดซบเอ้ย!
ภายในใจของนางเดือดพล่านด้วยความโกรธ แต่กลับไม่มีแรงพอที่จะโต้กลับได้
เนื่องจากอสนีบาตเกิดขึ้นเร็วเกินไป จึงทำให้นางใช้วิธีบางอย่างไม่ทันจนได้รับบา าดเจ็บสาหัสและไม่อาจใช้มันได้อีก
มู่หลินหลางรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เดิมทีนางไม่คิดเลยว่าจะจนตรอกถึงขนาดนี้ และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะคนหน้าเนื้อใจเสืออย่างมู่เฉินซีเพียงคนเดียวเท่านั้น น
ปัง ปัง ปัง!
มู่เฉียนซีลงมืออีกครั้ง และภายในเสียงสายลมก็เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกที่รุนแร รง
ขณะนี้มู่หลินหลางได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ และใกล้ที่จะหมดสติเต็มทีแล้ว
แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่นางก็ยังคงไม่ยอมเอ่ยปากยอมแพ้อยู่ดี
ผู้คนกล่าวขึ้นมาอย่างประหลาดใจว่า “นั่นเป็นถึงฝ่าบาทหลินหลางเชียวนะ! คิดไม่ถ ถึงเลยว่ามู่เฉินซีจะกล้าลงมือเช่นนี้?”
“ทำให้ฝ่าบาทหลินหลางบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ คาดว่าราชวงศ์ตงหวงไม่มีทางลามือเป็น นแน่ แม้ราชวงศ์ตงหวงจะบอกว่าการแข่งขันนี้เป็นไปอย่างยุติธรรมก็ตาม”
“มู่เฉินซีจะลงมือได้โหดร้ายมากเกินไปแล้ว! ฝ่าบาทหลินหลางสูงส่งถึงเพียงนี้ คิดไม ม่ถึงเลยว่านางจะบังอาจทำให้พระองค์บาดเจ็บเช่นนี้ได้ สมควรได้รับโทษตายยิ่งนัก ก!” ผู้คนที่ชื่นชมมู่หลินหลางโพล่งออกมา
“ทำร้ายพระองค์อะไรกัน นี่มันคือการแข่งขัน ยากที่จะหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บได้ อยู่แล้ว! อีกอย่างมู่เฉินซีก็ได้เตือนฝ่าบาทหลินหลางไปแล้วด้วย หากยอมรับความพ่ ายแพ้แล้วละก็ ก็คงไม่จำเป็นต้องทุกข์ทรมานเช่นนี้หรอก!”
ในเมื่อมีคนที่ชื่นชมมู่หลินหลาง แน่นอนว่ามู่เฉียนซีก็ต้องมีเช่นกัน โดยเฉพาะอ อย่างยิ่งหลังจากที่นางเปิดเผยความสามารถในการแข่งขันอัจฉริยะในคราวนี้แล้ว ก็มีค คนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชมนางจนอยากจะก้มตัวลงกราบเลยทีเดียว
ในตอนที่พวกเขากำลังพูดคุยอยู่นั้น มู่เฉียนซีที่ไม่ทันระวังก็ทำให้บนใบหน้าม มู่หลินหลางเกิดบาดแผลขึ้นหลายแห่ง จนหลายคนต่างก็พากันอ้าปากค้างด้วยความตกใ ใจ
“นาง…คิดไม่ถึงเลยว่านางจะทำลายโฉมของฝ่าบาทหลินหลาง ช่างมีความคิดที่เลวร้าย ยิ่งนัก นางจะต้องอิจฉาที่ฝ่าบาทหลินหลางงดงามเป็นแน่!”
“บัดซบ ทำเรื่องเลวร้ายต่อเชื้อพระวงศ์เช่นนี้ แค่ทำลายล้างทั้งวงศ์ตระกูลของนาง งก็ยังน้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำ”
“ฝ่าบาทหลินหลาง…”
อย่างที่รู้กันว่ามู่หลินหลางนั้นเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของแดนซวนเทียน แต่ทว่ าใบหน้านั้นในเวลานี้กลับมีรอยแผลสีแดงเลือดที่ลึกมากจนเห็นกระดูก ซึ่งมันก็ ทำให้ผู้พิทักษ์ดอกไม้งามของนางหลายคนจ้องมองอย่างปวดใจเป็นที่สุด
มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่ใบหน้าของมู่หลินหลางนั้น แล้วรู้สึกว่ามันช่างขัดตาเสีย ยจริง ๆ ในที่สุดตอนนี้นางก็หาโอกาสได้แล้ว ที่นางทำให้เกิดบาดแผลเพียงสองสา ามรอยก็ถือว่าเบามาก เพราะอย่างไรเสียด้วยความสามารถของราชวงศ์ตงหวงต้องฟื้นฟู ให้นางได้อยู่แล้ว
หากไม่ใช่เพราะมีสายตาหลายคู่จ้องมองอยู่ นางก็คงจะแอบทายาพิษสักสองสามชนิดล ลงไป จนทำให้มู่หลินหลางไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างสมบูรณ์เป็นแน่
แม้ว่ามู่หลินหลางกำลังจะหมดสติแล้ว แต่นางก็ยังคงไม่ยอมแพ้อยู่ดี นอกจากนี้ยัง งใช้แววตาที่ราวกับอาบยาพิษก็มิปานจ้องมองมาที่มู่เฉียนซี อีกทั้งอยากที่จะสับ มู่เฉียนซีออกเป็นพัน ๆ ชิ้นจนไม่ไหวอยู่แล้วอีกด้วย
“พอแล้ว! หลินหลางยอมแพ้เสีย!”
และแล้วก็มีน้ำเสียงที่ทรงพลังเสียงหนึ่งดังขึ้นมา และชายที่สวมชุดคลุมสีเหลื องทองคนหนึ่งก็มาปรากฏตัวอยู่บนสนามการแข่งขัน
จากนั้นเขาก็กอดมู่หลินหลางที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไว้ในอ้อมแขน โดยไม่รังเกียจเ เลือดที่เปรอะเปื้อนจนสกปรกที่อยู่ทั่วร่างกายของนางเลยแม้แต่น้อย!
ชายผู้นี้มีใบหน้าที่คมสัน คิ้วดกดำดวงตากลมโต และหล่อเหลาเป็นอย่างมาก นอกจา ากนี้รูปร่างหน้าตาของเขายังดูเหมือนคนอายุราวสามสิบกว่า ที่สามารถดึงดูดหญิงสา าวได้มากมายอีกด้วย
ตัวเขาเขาเต็มไปด้วยพลังของจักรวรรดิที่แข็งแกร่ง แม้ว่าจะเป็นคนที่ไม่เคยเจอ เขามาก่อน ก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าเขาคือผู้ใดกันแน่?
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ในเวลานี้ทุกคนที่อยู่ในสถานที่แข่งขันต่างพากันลุกยืนขึ้น จากนั้นก็คารวะแล้ วกล่าวว่า “ถวายบังคมองค์จักรพรรดิตงหวงพ่ะย่ะค่ะ!”
“ถวายบังคมองค์จักรพรรดิตงหวงพ่ะย่ะค่ะ!”
“……”
แววตาของมู่เฉียนซีสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นก็จ้องมองไปที่คนผู้นั้น นี่คือจัก กรพรรดิตงหวง ที่ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่เคยจัดการกับท่านพ่อของนาง
นางเอ่ยปากกล่าวถาม “ทำไมหรือ? นี่เป็นการแข่งขันอัจฉริยะอันดับหนึ่งของราชวงศ์ ตงหวง หรือว่าจักรพรรดิตงหวงอยากจะแก้แค้นให้ลูกสาวตนเองอย่างนั้นหรือ?”
ทุกคนต่างจ้องมองไปยังมู่เฉียนซีด้วยความตื่นตะลึง คิดไม่ถึงเลยว่านางจะกล้ากล ล่าวกับองค์จักรพรรดิตงหวงเช่นนี้
นอกจากนี้ภายในน้ำเสียงของนางนั้นยังไม่มีร่องรอยของความเคารพเลยสักนิดเดียว ช่ างดูเอาแต่ใจเป็นอย่างยิ่ง
จักรพรรดิตงหวงตรัสว่า “นี่เป็นการแข่งขันของคนรุ่นเยาว์ ซึ่งหลินหลางก็ไม่ใช่ คู่ต่อสู้ของเจ้า และนั่นก็หมายความว่าความสามารถของนางยังมีจุดบกพร่องอยู่ นอกจ จากนี้ข้ายังต้องขอบคุณเจ้าด้วยซ้ำที่ทำให้ข้าพบข้อด้อยของนางได้ จากนี้ไปข้า จะได้มุ่งเน้นบ่มเพาะให้นาง เพื่อทำให้นางเอาชนะมันให้จงได้”
เมื่อเผชิญหน้ากับความไร้เหตุผลของนาง จักรพรรดิตงหวงกลับไม่แสดงท่าทีใด ๆ เลย แม้แต่น้อย และยังตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะอีกด้วย ราวกับเป็นฮ่องเต้ที่ดู เป็นมิตรและอบอุ่นคนหนึ่งก็มิปาน
มู่เฉียนซีกล่าวตอบว่า “ข้ารู้สึกว่าก่อนที่ฝ่าบาทสั่งสอนการฝึกฝนให้นาง ท่านคว วรที่จะสอนความเป็นคนให้นางก่อนนะ!”
นัตน์ตาของจักรพรรดิตงหวงหดตัวอย่างรุนแรง “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ค่อยชอบหลินหลาง งเท่าไรนัก เพียงแต่ในฐานะที่ข้าเป็นพระราชบิดา กลับรู้สึกว่านางเป็นคนที่ด ดีมากพอแล้ว”
คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าบอกว่าเขาไม่สามารถสั่งสอนลูกสาวได้ อีกทั้งยังบอกว่าล ลูกสาวของเขาไม่สมกับที่เป็นมนุษย์อีกด้วย นางช่างเป็นแม่สาวน้อยที่ยโสโอหังยิ่ งนัก
คนอื่น ๆ ต่างก็อดที่จะเหงื่อตกแทนมู่เฉินซีไม่ได้ มู่เฉินซีผู้นี้จะกล้าหาญชา าญชัยมากเกินไปแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้ากล่าวคำที่ถือว่ามีความผิดร้ายแรงเช่นน นี้กับองค์จักรพรรดิตงหวงได้
จักรพรรดิตงหวงนั้นแข็งแกร่งมาก เพราะในสถานการณ์ที่ทุกคนไม่ทันสังเกตเห็น เขา สามารถแอบใช้พลังจิตวิญญาณในการโจมตีมู่เฉียนซีได้
ภายนอกอาจจะมองว่าเขาเป็นเพียงสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนและใจดีคนหนึ่ง แต่เขาจะทน นได้ยินคำพูดถากถางอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ของมู่เฉียนซีได้อย่างไร
บังอาจมาทำให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขาต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ แน่นอน นว่าเขาไม่มีทางปล่อยคนผู้นี้ไปง่าย ๆ อยู่แล้ว
สาวน้อยผู้นี้ไม่มีทางสังเกตเห็นพลังจิตวิญญาณนี้ได้เป็นแน่ หลังจากนั้นไม่นาน น นางก็จะต้องถูกพลังจิตวิญญาณนี้ควบคุมอย่างสมบูรณ์ และจะต้องกลายเป็นหุ่นเชิดไร ร้วิญญาณที่ตกอยู่ในการควบคุมของเขา
“แม่สาวน้อย ยินดีที่เจ้าได้รับคะแนนที่ดีที่สุดในการแข่งขันอัจฉริยะครั้งยิ่งให หญ่ของราชวงศ์ตงหวงไปได้ ข้าขอตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บให้หลินหลางก่อน” และจัก กรพรรดิตงหวงก็หายไปจากเบื้องหน้าของมู่เฉียนซีในทันที
มู่เฉียนซีปัดฝุ่นที่อยู่บนร่างกายของนาง ส่วนพลังจิตวิญญาณนั้นก็ได้ถูกมู่เฉีย ยนซีควบคุมเอาไว้แล้วเช่นกัน
จักรพรรดิตงหวงก็ดูถูกนางเกินไปเหมือนกันสินะ! คิดจะใช้วิธีที่เล็กน้อยเช่นนี้ จัดการนางหรือ?
หากนางลงมือโดยที่ไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์แล้วละก็ บางทีนางอาจจะเจอปัญหาใหญ่ก็ เป็นได้ และวิธีที่ใช้จิตวิญญาณในการโจมตีนาง มันก็ไม่มีทางส่งผลต่อนางได้เล ลยแม้แต่น้อยอีกด้วย
“มู่เฉินซีเป็นฝ่ายชนะ!” หลังจากที่จักรพรรดิตงหวงไปแล้ว ผู้ตัดสินก็เพิ่งกล้าท ที่จะประกาศออกมา
หลังจากนั้นไม่นาน รายชื่อของผู้เข้าแข่งขันร้อยอันดับแรกก็ได้ถูกทำออกมา
มู่เฉินซี อยู่ในอันดับที่หนึ่ง หลังจากนั้นก็เป็นมู่หลินหลาง และต่อมาก็เป็นเ เฟิงอวิ๋นซิว!
มู่เฉียนซีพุ่งทะยานขึ้นไปอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของสนามการแข่งขัน จากนั้นก็มอ องไปที่ทุกคนแล้วกล่าวว่า “ข้าคือมู่เฉินซี ฉินของคำว่าฉินอวี่ ซีของคำว่าหู ซี และดูเหมือนว่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งของราชวงศ์ตงหวงจะเป็นของข้าผู้นี้ ไม่ใ ใช่ของมู่หลินหลางอีกแล้ว!”
“พวกเจ้าว่าข้าพูดถูกหรือไม่?”
ทันใดนั้น พวกเขาก็รู้สึกว่าคำพูดที่หญิงสาวในชุดสีม่วงพูดออกมานั้น ช่างเป็นเ เรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง
และพวกเขาก็ตะโกนออกมาว่า “ใช่!”
“ใช่! ใช่แล้ว!”
“อัจฉริยะอันดับหนึ่งของราชวงศ์ตงหวงก็คือมู่เฉินซี!”
“ยินดีกับแม่นางมู่ที่กลายเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของราชวงศ์ตงหวงด้วยขอรับ!”