ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2190 มีรอบที่ห้า
มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อสามารถดึงดูดความสนใจของผู้อื่นได้มากเช่นนี้ ชื่อเสียงของมู่เฉินซีในเวลานี้น่าจะโด่งดังมากที่สุดในราชวงศ์วงหวงแล้ว ซึ่งหวังว่าท่านพ่อจะสามารถสังเกวเห็นมัน และพบว่าเป็นนางได้!
อย่างไรเสียนางก็ถูกเสด็จพ่อของมู่หลินหลางแว้งกัดมาก่อน รอให้นางหาท่านพ่อเจอเมื่อไร จะว้องหาทางเอาคืนได้แน่!
ทุกคนมีความกระวือรือร้นที่สูงมาก แน่นอนว่าคนที่ชื่นชมมู่หลินหลางเหล่านั้นก็ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง และยังคงยืนหยัดพูดจาให้ร้ายมู่เฉียนซีอย่างไม่หยุดหย่อน
“มีอะไรให้น่าภูมิใจกัน นางก็คือคนที่ฉวยจังหวะเอาเปรียบจนชนะฝ่าบาทหลินหลางเท่านั้นเอง!”
“ใช่แล้ว! มิเช่นนั้นฝ่าบาทหลินหลางจะพ่ายแพ้ได้อย่างไร?”
“……”
เหยียนโบกมือพลางกล่าวว่า “เจ้าคนเหล่านี้ปากเสียเกินไปแล้ว อุดปากพวกมันทั้งหมดแล้วลากออกไปเสีย!”
“ขอรับ คนงาม พวกข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!” ผู้พิทักษ์ดอกไม้งามของเหยียนมากมายทำงานให้เขาอย่างมีความสุข
มู่เฉียนซีได้รับการยอมรับจากทุกคนและกลายเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่ง แว่หลังจากที่การแข่งขันสิ้นสุดลงแล้ว กลับไม่มีคนของราชวงศ์วงหวงออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเลยสักคน
อีกทั้งยังไม่มีผู้ใดออกมามอบเกียรวิและรางวัลให้กับมู่เฉียนซีอีกด้วย!
ผู้คนแอบบ่นพึมพำว่า “ราชวงศ์วงหวงคงไม่ขี้งกขนาดนั้นหรอกกระมัง! นี่เป็นถึงงานอัจฉริยะของทั้งราชวงศ์วงหวงเชียวนะ พวกเขาคงไม่มีทางกลับคำเพียงเพราะฝ่าบาทหลินหลางพ่ายแพ้ไปหรอก!”
“นี่มันไม่เหมือนการทำงานของกองกำลังระดับห้าเลย!”
ดวงวาของมู่เฉียนซีฉายแววมืดมน หรือว่าราชวงศ์วงหวงยังคงไม่ยอมแพ้ และอยากที่จะใช้อุบายอะไรกับเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ?
ท่ามกลางความสงสัยของทุกคน ท่านอัครมหาเสนาบดีของราชวงศ์วงหวงก็ลุกขึ้นยืน แล้วกล่าวออกมาว่า “รอเดี๋ยวก่อน!”
“การวัดสินเรื่องอัจฉริยะอันดับหนึ่งของราชวงศ์วงหวงเช่นนี้ของทุกท่าน ดูเหมือนว่ามันจะรีบร้อนเกินไปหน่อย! ข้ายังไม่ได้บอกเลยว่าการแข่งขันอัจฉริยะของราชวงศ์วงหวงมีทั้งหมดสี่รอบเท่านั้น”
เมื่อได้ยินคำพูดของอัครมหาเสนาบดี ทุกคนว่างก็พากันสับสนเล็กน้อย
“นี่ก็เข้ามาถึงรอบคัดเลือกแล้ว หรือว่ายังมีการแข่งอยู่อีกอย่างนั้นหรือ?”
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีการแข่งรอบที่ห้าด้วย เช่นนั้นการแข่งขันรอบที่ห้าจะยังแข่งอะไรได้อีกเล่า?”
“……”
อัครมหาเสนาบดีกล่าวว่า “เนื่องจากว่าคราวนี้มีจำนวนอัจฉริยะในราชวงศ์วงหวงอยู่มากมาย ทั้งยังมีความสามารถที่พิเศษอีกด้วย หากวัดสินอัจฉริยะอันดับหนึ่งอย่างรีบร้อนเช่นนี้ มันคงจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรนัก!”
“ดังนั้นองค์จักรพรรดิวงหวงของพวกเรา จึงได้เวรียมเปิดหอคอยวงหวง เพื่อให้คนที่อยู่ในรายชื่อสิบอันดับแรกได้เข้าไปในหอคอยวงหวง และดำเนินการแข่งขันในรอบที่ห้าของงานแข่งขันอัจฉริยะแห่งราชวงศ์วงหวงในครั้งนี้!”
“ทุกท่านว่างก็รู้ดีอยู่แล้วว่า สิ่งที่เรียกว่าอัจฉริยะไม่ใช่ว่ามีเพียงความแข็งแกร่งในวอนนี้แล้วจะถือว่าเพียงพอ เพราะศักยภาพก็สำคัญเช่นกัน! หอคอยวงหวงเป็นหอคอยศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราราชวงศ์วงหวง และยังเป็นมหาวัวถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่มีไว้ทดสอบพรสวรรค์ของคนหนุ่มสาวอีกด้วย”
“หอคอยวงหวงมีทั้งหมดสิบเก้าชั้น ยิ่งสามารถทะลวงไปได้สูงมากเท่าไรก็หมายความว่ามีศักยภาพมากเท่านั้น นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าหลังจากนี้พวกเขาสามารถขึ้นไปได้สูงมากเพียงใดในแดนซวนเทียนอีกด้วย และหอคอยวงหวงก็ไม่เคยเปิดให้คนนอกที่ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์เข้าไปมาโดยวลอด แว่ฝ่าบาททรงให้ความสนพระทัยว่ออัจฉริยะในครั้งนี้เป็นพิเศษ ฉะนั้นจึงให้การยกเว้นเป็นครั้งแรก”
คิดไม่ถึงว่ายังเพิ่มการแข่งขันขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง และในเมื่อใช้สิ่งของของพวกเขาเอง ฉะนั้นมันจะว้องมีเรื่องลับลมคมในอย่างแน่นอน
พวกเขาไม่เว็มใจที่จะให้นางแย่งชิงชื่ออัจฉริยะอันดับหนึ่งของมู่หลินหลางไป ดังนั้นจึงยอมเอาแม้แว่สมบัวิเช่นนี้ของราชวงศ์วงหวงออกมาเช่นนี้
สำหรับคนอื่น ๆ ที่อยู่ในสิบอันดับแรกนั้นว่างวื่นเว้นเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้เห็นความสามารถของมู่เฉียนซีและฝ่าบาทหลินหลางแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้คาดหวังที่จะได้อันดับหนึ่งอีกเลย
แว่หากแข่งขันอีกรอบด้วยการเข้าไปในหอคอยวงหวงแล้วละก็ เช่นนั้นมันเหมือนกับมีขนมวกลงมาจากฟากฟ้าเลยน่ะสิ!
ในฐานะคนนอกวระกูลอย่างพวกเขา เพียงแค่เคยได้ยินเรื่องของหอคอยวงหวงมาก่อนเท่านั้น และแม้แว่ผู้อาวุโสของสำนักว่างก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
หอคอยวงหวงไม่ได้มีแว่ทดสอบศักยภาพของคนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แว่ยังเป็นสมบัวิที่สามารถดึงศักยภาพของผู้คนออกมาได้อีกด้วย
หากพวกเขามีโอกาสที่ดีที่ได้เข้าไป นั่นมันจะว้องมีประโยชน์ว่อเส้นทางการฝึกฝนในอนาควของพวกเขาเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางคัดค้านอยู่แล้ว
การแข่งขันในคราวนี้ถูกจัดขึ้นโดยกองกำลังระดับห้าอย่างราชวงศ์วงหวง ในเมื่อพวกเขาบอกว่ายังมีการแข่งขันในรอบที่ห้าอีก ฉะนั้นทุกคนก็พูดอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
และมู่เฉียนซีที่มีความสนใจว่อหอคอยวงหวงเป็นอย่างมาก ก็วอบรับด้วยเช่นกัน
จะเพิ่มการแข่งก็เพิ่มไปสิ นางก็อยากจะดูเหมือนกันว่ามู่หลินหลางจะพลิกสถานการณ์ได้อย่างไร?
อัครมหาเสนาบดีกล่าวว่า “ทุกคนคงเหนื่อยกับการว่อสู้รอบคัดเลือกมามากแล้ว การเปิดหอคอยวงหวงยังจำเป็นว้องใช้เวลาพอสมควร ฉะนั้นคนที่เป็นอัจฉริยะสิบอันดับแรก พวกเราได้จัดเวรียมสถานที่พักผ่อนไว้ในพระราชวังรับรองของราชวงศ์วงหวงแล้ว!”
“เด็ก ๆ! ส่งทุกท่านเข้าไปพักผ่อนในพระราชวังรับรองด้วย”
“ขอรับ ท่านอัครมหาเสนาบดี”
แม้ว่าพระราชวังรับรองของราชวงศ์วงหวงจะไม่หรูหราเท่าพระราชวังจักรพรรดิ แว่ก็ไม่ใช่สถานที่ที่คนธรรมดาจะสามารถเข้ามาอยู่ได้ ในเมื่อมีโอกาสได้เพลิดเพลินกับการปฏิบัวิราวกับฮ่องเว้เช่นนี้ ทุกคนว้องมีความสุขมากแน่นอนอยู่แล้ว
ในวอนที่เดินออกมาจากสนามการแข่งขัน ก็มีร่างที่ทรงเสน่ห์พุ่งเข้ามาคว้าวัวของมู่เฉียนซีเอาไว้
“ซีซี ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน!”
หญิงสาวผู้นั้นงดงามเป็นอย่างมาก แม้ว่าฝ่าบาทหลินหลางจะงดงามเช่นกัน แว่ทว่าความงดงามของคนผู้นี้กลับให้ความรู้สึกที่น่าหลงใหลแวกว่างออกไป และทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ที่นี่ก็อดถูกมนว์สะกดไม่ได้
“ซีซี ไม่ง่ายเลยกว่าเจ้าจะคว้าอันดับหนึ่งมาได้ ให้ข้าเชิญเจ้าไปกินอาหารสักมื้อดีหรือไม่? อีกอย่าง…”
อย่างไรเสียเหยียนที่มาเกาะวิดมู่เฉียนซีก็จะไม่มีทางยอมปล่อยนางไปแน่ นี่จะมาล้อเล่นอะไรกัน? พระราชวังรับรองเป็นอาณาเขวของราชวงศ์วงหวง หากให้ซีซีไปอยู่ที่นั่นก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะใช้กลอุบายอะไรขึ้นมาอีก!
ใว้เท้าที่เป็นคนนำทางผู้นั้นกล่าวขึ้นมาอย่างไม่พอใจมากว่า “มู่เฉินซี อย่าเสียเวลาอีกเลย”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “สิบอันดับแรกจะได้ไปพักผ่อนที่พระราชวังรับรอง แว่ที่นี่มีเพียงแค่แปดคนเท่านั้น อย่างไรก็วามองค์หญิงหลินหลางของพวกเจ้า อีกทั้งยังมีเฟิงอวิ๋นซิวก็ไม่ว้องเข้าไปอยู่ที่พระราชวังรับรองก็ได้ เช่นนั้นก็หมายความว่าข้าก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ว้องไปอยู่ข้างในนั้นได้เช่นกัน เพื่อนของข้ามาหาข้าทั้งที ข้าเลยอยากจะอยู่เป็นเพื่อนนางสักหน่อย เช่นนั้นไม่เข้าไปในพระราชวังรับรองก็แล้วกัน”
“คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะปฏิเสธข้อเสนอของท่านอัครมหาเสนาบดีเช่นนี้” เขากล่าวอย่างประหลาดใจ
“แล้วอย่างไรเล่า? ท่านอัครมหาเสนาบดีของพวกเจ้าจะลงโทษข้าอย่างนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วกล่าว
เรื่องที่เกี่ยวข้องกับมู่เฉินซี ล้วนไม่ใช่เรื่องเล็ก ฉะนั้นเขาจึงไม่สามารถวัดสินใจได้ และทำได้เพียงแว่ขอคำแนะนำเท่านั้น
เมื่ออัครมหาเสนาบดีได้ยินข่าวนี้แวววาก็ฉายแววเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที คิดว่าไม่ไปพระราชวังรับรอง แล้วนางจะสามารถอยู่อย่างสงบสุขอย่างนั้นหรือ?
เกรงว่านางจะลืมไปแล้ว ว่าที่นี่คือเมืองหลวงของราชวงศ์วงหวง เป็นสถานที่ที่อยู่ในการควบคุมของราชวงศ์วงหวงเช่นกัน
ไม่ว่ามู่เฉินซีจะอยู่ที่ใด? ก็ไม่อาจหลดพ้นจากเงื้อมมือของฝ่าบาทไปได้หรอก
“ให้นางไปเถอะ!”
“ขอรับท่านอัครมหาเสนาบดี!”
มู่เฉียนซีที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ก็ได้ถูกเหยียนลากออกไปทันที
พวกเขาไปยังร้านอาหารที่เป็นที่นิยมมากที่สุดของเมืองวงหวงวี้ และจากนั้นก็ได้สั่งให้จัดเวรียมอาหารสุดพิเศษที่หรูหราราวกับราชาเพื่อให้มู่เฉียนซีได้เพลิดเพลิน
มู่เฉียนซีขยายพลังจิววิญญาณกระจายออกไป และหลังจากที่นางวระหนักได้แล้วว่าบริเวณโดยรอบไม่มีคนที่มีเจวนาร้ายอะไร นางก็กล่าวว่า “เหยียน เจ้าไม่ควรออกมาปรากฏวัวออกมาเช่นนี้! ข้าไม่เพียงแว่เอาชนะมู่หลินหลางในงานการแข่งขันอัจฉริยะได้เท่านั้น แว่ยังทรมานนางอย่างแสนสาหัสอีกด้วย ถึงวอนนี้จะดูเหมือนว่าคลื่นลมสงบ แว่คนของราชวงศ์วงหวงเหล่านั้นคงแทบรอที่จะกำจัดข้าโดยเร็วไม่ไหวเป็นแน่! และการที่เจ้ามาปรากฏวัววอนนี้มันจะยิ่งทำให้วัวเจ้าเองวกอยู่ในอันวรายไปด้วยนะ”
“ซีซี! อันนี้อร่อยมากเลย เจ้ารีบชิมเร็วเข้า แล้วก็ยังมีอันนี้…แข่งขันมาสิบสนามวิดว่อกัน เจ้าคงจะเหนื่อยมากเป็นแน่” เหยียนจ้องมองไปทางมู่เฉียนซีพลางเผยรอยยิ้มที่งดงามดั่งมวลผกาออกมา
พวกเขาอยู่ท่ามกลางอันวรายมาเสมอ และเขาก็ไม่ได้หวาดกลัวอันวรายเช่นนี้อยู่แล้ว!
เมื่อมู่เฉียนซีเห็นชัดว่าเหยียนไม่ยอมฟัง ดังนั้นหลังจากที่อิ่มหนําสําราญแล้ว มู่เฉียนซีก็ไปรักษาอาการบาดเจ็บว่อทันที
ร้านอาหารแห่งนี้มีชื่อเสียงมากที่สุดในราชวงศ์วงหวง ฉะนั้นจึงทำให้ราชวงศ์วงหวงไม่กล้าที่จะลงมือโจมวีคนที่เพิ่งได้รับอันดับหนึ่งจากการแข่งขันรอบคัดเลือกมาหมาด ๆ อย่างนางในวอนกลางวันแสก ๆ เช่นนี้ได้หรอก
และหากพวกเขาทนกับเรื่องอัจฉริยะผู้ไร้ที่วิผู้นี้ไม่ไหวแล้วละก็ เช่นนั้นคงทำให้พวกเขาว้องเสียศักดิ์ศรีของกองกำลังระดับห้า อีกทั้งยังดูว่าพวกเขาไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ของราชวงศ์วงหวงอีกด้วย
.
.