ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2196 จับอัครมหาเสนาบดีเป็นตัวประกัน
“อื้ม! พวกเราไปกันเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าวตอบ หลังจากนั้นก็ตามจูเชว่ไปยังประตูใหญ่ทางทิศใต้ของเมืองหลวงตงหวงทันที
ยังดีที่ราชวงศ์ตงหวงยังต้องการรักษาหน้าอยู่บ้าง เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้ลงมือทันที และไม่ได้วางแผนที่จะลงมือในเมืองหลวงตงหวงอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มู่เฉียนซีเดินออกไปจากเมืองหลวงตงหวงได้อย่างราบรื่น แต่ถึงจะออกจากเมืองหลวงไปแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย และอันตรายก็ยังติดตามมาอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว
คนของราชวงศ์ตงหวงเริ่มลงมือแล้ว พวกเขามีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์กลุ่มหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณอีกมากมายที่ปิดล้อมผู้หญิงทั้งสองคนเอาไว้
คราวนี้ราชวงศ์ตงหวงได้ให้ความสำคัญกับมู่เฉียนซีมากเป็นพิเศษ เพราะผู้ที่เป็นผู้นำกลุ่มพาคนมาจัดการกับมู่เฉียนซี ก็คือท่านอัครมหาเสนาบดีผู้ที่ซึ่งเป็นเจ้าภาพของงานอัจฉริยะครั้งยิ่งใหญ่คราวนี้นั่นเอง
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดี มีคำพูดใดที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกกับข้าอย่างนั้นหรือ? คิดไม่ถึงเลยว่าจะตามมายังนอกเมืองเช่นนี้”
อัครมหาเสนาบดีกล่าวว่า “มู่เฉินซี ฝ่าบาทของพวกเราให้มาเชิญเจ้า”
“ข้ายังมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องไปจัดการ ไม่อยากที่จะกลับไปอีกแล้ว! ลืมเรื่องนี้ไปเสียเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าวปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา
อัครมหาเสนาบดีกล่าวด้วยสีหน้าที่เย็นชาว่า “มู่เฉินซี เจ้าอย่าให้ต้องบีบบังคับจนยอมทำตามเลย ทางที่ดีเจ้าควรให้ความร่วมมือแต่โดยดีเถิด!”
“ขออภัยด้วย ข้าไม่อยากให้ความร่วมมือกับเจ้า! ท่านอัครมหาเสนาบดีผู้ทรงเกียรติไม่ยอมไปจัดการเรื่องสำคัญของราชวงศ์แต่กลับจะมาจัดการกับแม่นางน้อยคนหนึ่งเช่นข้า พวกเจ้าไม่กลัวว่าราชวงศ์ตงหวงอันยิ่งใหญ่จะถูกพวกเจ้าทำลายล้างบ้างเลยหรือ?” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วถาม
นางไม่ได้ปั่นน้ำเป็นตัว เพราะอย่างไรเสียแม้แต่หอคอยตงหวงยังบอกว่าโชคชะตาของราชวงศ์ตงหวงกำลังจะถูกพวกเขาล้างผลาญไปจนหมดสิ้นอยู่แล้ว
ไม่ได้มีเพียงแค่ผู้มีอำนาจเท่านั้นที่มีปัญหา แต่เหล่าสุนัขรับใช้ของผู้มีอำนาจแต่ล่ะคนต่างก็ไม่ใช่คนดีอะไรเลยเช่นกัน
“มู่เฉินซี เจ้านี่ช่างบังอาจมากเกินไปแล้ว ในเมื่อเจ้าดื้อรั้นถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจก็แล้วกัน”
อัครมหาเสนาบดีลอยขึ้นไปกลางอากาศ จนเสื้อคลุมสีขาวของเขานั้นปลิวไสว และท่าทางที่สง่างามของอัครมหาเสนาบดีในเวลานี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอันน่าสะพรึงกลัว
อสนีบาตสีดำนั้นเต็มไปด้วยพลังอันน่าหวาดกลัวอย่างน่าประหลาด และหลังจากนั้นเหล่าลูกน้องของเขาก็พุ่งทะยานเข้าใส่มู่เฉียนซีและจูเชว่ทันที
จูเชว่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “รนหาที่ตายนัก! ลงมือได้!”
“คิดว่าทางพวกเจ้ามีคน แล้วฝั่งซีซีของพวกข้าจะไม่มีคนเลยหรืออย่างไร?”
ทันทีที่จูเชว่พูดจบ ก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมากลางอากาศ แม้ว่าขบวนรบของพวกเขาจะสู้ทางด้านราชวงศ์ตงหวงไม่ได้ แต่ความสามารถก็ไม่ได้อ่อนแอเลยแม้แต่น้อย
อัครมหาเสนาบดีกล่าวอย่างประหลาดใจเล็กน้อยว่า “มู่เฉินซี เหมือนว่าข้าจะดูถูกเจ้าเกินไปหน่อยสินะ มิแปลกใจเลยที่เหตุใดเจ้าถึงกล้าหาญเพียงนี้ ที่แท้ก็มีกองกำลังสนับสนุนคอยหนุนหลังอยู่นี่เอง แต่ว่า มันก็ได้แค่นี้เท่านั้นแหละ?”
สำหรับอุปสรรคเพียงเล็กน้อยแค่นี้ อัครมหาเสนาบดีไม่มีทางเห็นมันอยู่ในสายตาอยู่แล้ว และวันนี้ไม่ว่าอย่างไรมู่เฉินซีก็หนีไปไหนไม่พ้นอย่างแน่นอน
มีเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องไปทั่ว อัครมหาเสนาบดีพุ่งตรงเข้าไปโจมตีคนที่คอยปกป้องอยู่ข้างหน้ามู่เฉียนซีเหล่านั้น จากนั้นก็ฟาดมู่เฉียนซีด้วยฝ่ามือเดียว
และในเวลานี้เอง ก็มีร่างเงาสีน้ำเงินได้มาขวางหน้าของมู่เฉียนซีเอาไว้
ทันทีที่มังกรวารีโบกมือ ฝ่ามือของอัครมหาเสนาบดีนั้นก็ถูกหยุดอยู่กลางอากาศ ราวกับว่าถูกแช่แข็งอย่างไรอย่างนั้น
“จะ…เจ้าคือผู้ใดกัน?”
อัครมหาเสนาบดีจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่งดงามสมบูรณ์แบบดุจเทพเจ้าก็มิปานคนหนึ่ง ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
พลังธาตุวารีของมังกรวารีระเบิดออกมาอย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นก็มีห่าฝนโปรยปรายไปทั่วทุกที่ และการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวก็โหมกระหน่ำใส่อัครมหาเสนาบดีในทันที
อัครมหาเสนาบดีในเวลานี้เหมือนกับใบไม้ใบหนึ่งที่ถูกคลื่นซัดสาด และพลังอันน้อยนิดของเขาก็ไม่อาจต้านทานมันได้เลย!
เขาเป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณขั้นสูงคนหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเวลานานมากแล้วที่ไม่มีผู้ใดทำให้เขารู้สึกเช่นนี้ได้ มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน
มังกรวารีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “บังอาจมาทำร้ายนายท่านของข้า สังหาร!”
พรึ่บบ!
ร่างของอัครมหาเสนาบดีลอยกระเด็นออกไป และการเผชิญกันครั้งแรกก็ทำให้อัครมหาเสนาบดีรู้สึกจนตรอกมากอย่างเห็นได้ชัด
เขาเข้าใจดีว่าด้วยความสามารถของเขาเพียงแค่คนเดียวคงยากที่จะเอาชนะชายในชุดคลุมสีน้ำเงินผู้นี้ได้ เขาจึงกล่าวว่า “พวกเจ้าทุกคน จงไปจัดการกับชายชุดสีน้ำเงินผู้นั้นซะ!”
กองกำลังพลเหล่านั้นไม่อาจเทียบกับชายหนุ่มผู้นี้ได้เลยแม้แต่น้อย ขอเพียงแค่จัดการคนผู้นี้ได้ คนเหล่านั้นก็ไม่ควรค่าที่จะให้กล่าวถึงเลยด้วยซ้ำ!
ร่างเงาจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่มังกรวารีอีกครั้ง “อู๋ตี้ เสี่ยวหง เสี่ยวโม่โม่!”
ไม่ได้มีเพียงแต่สัตว์เทพทั้งสามตัวออกโรงเท่านั้น แต่มู่เฉียนซียังปล่อยหุ่นเชิดจำนวนมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนยืมมาจากหอหมอปีศาจสาขาต่าง ๆ ทั้งนั้น
ปัง ปัง ปัง!
การต่อสู้ครั้งใหญ่ที่สั่นสะเทือนอยู่นอกเมืองหลวงตงหวงได้ปะทุขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว ซึ่งมันก็ได้ทำให้ผู้คนตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
“ช่างเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณคนใดเลือกมาประลองฝีมือกันในสถานที่ที่ใกล้เมืองหลวงตงหวงถึงเพียงนี้กันเนี่ย!”
“ดูเหมือนว่าการต่อสู้นี้จะดุเดือดเกินไปแล้ว! แรงกดดันนั่นมันจะทำให้ผู้คนรับไม่ไหวอยู่แล้ว”
“……”
ราชวงศ์ตงหวงไม่ได้ระเบิดสงครามใหญ่ของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณอย่างน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มานานมากแล้ว แม้ว่าทุกคนจะสงสัย แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าเสี่ยงตายเข้าไปใกล้บริเวณนั้นเลย และยังถอยห่างออกไปอีกด้วย
กำลังพลที่อ่อนแอที่สุดที่อัครมหาเสนาบดีพามาด้วยนั้นล้วนเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางกันทั้งนั้น ฉะนั้นมู่เฉียนซีมีหน้าที่เพียงปกป้องชีวิตน้อย ๆ ของตนเองให้ปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว
เหล่าคนที่พวกของจูเชว่พามาด้วยนั้นทำให้นางลดแรงกดดันไปได้มากทีเดียว มิเช่นนั้นก็คงต้องอาศัยแค่มังกรวารีและพวกของเสี่ยวโม่โม่เท่านั้น และหากนางต้องการให้มังกรวารีถอนตัวออกมาด้วยแล้วละก็ เกรงว่านางน่าจะต้องจ่ายไม่น้อยเป็นแน
“บัดซบเอ้ย! มันมีพิษ!”
“ต่ำช้านัก!”
ในเวลานี้คนของราชวงศ์ตงหวงเหล่านั้นได้ถูกลอบโจมตี และแน่นอนว่าพิษเหล่านี้เป็นของที่หมอปีศาจอย่างนางเสนอให้อยู่แล้ว ถึงมู่เฉียนซีจะไม่สามารถช่วยต่อสู้ได้ แต่นางก็ได้ทำยาพิษที่มีพิษร้ายแรงที่สุดไว้ให้กับกองกำลังพันธมิตรของตนเอง มันเป็นยาที่ดีที่สุด อีกทั้งยังเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้นางจึงได้ถูกคนขี้งกอย่างซวนอู่เหน็บแนม เขาบอกว่านางเห็นชีวิตของตนเองมีค่ามากจริง ๆ ถึงได้ยอมเอาของเหล่านี้ออกมา
ชิงหลงที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในที่มืด อาศัยความเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งจากดินแดนทางทิศตะวันออกของเขาฉวยโอกาสในขณะที่สนามต่อสู้กำลังวุ่นวาย สังหารผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตขั้นสูงคนหนึ่งจนกลายมาเป็นลูกน้องวิญญาณมรณะของเขา
และจากนั้นเหล่าลูกน้องของเขาก็เริ่มหาโอกาสใช้มีดจัดการคนอื่นต่อไป ซึ่งนี่ก็ทำให้คนที่มีระดับต่ำกว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณเหล่านั้นอกสั่นขวัญแขวนเล็กน้อย
ส่วนค่ายกลของอากุ่ยก็มีประโยชน์มากในสถานการณ์นี้เช่นกัน เพราะมันได้กักขังคนเอาไว้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ทั้งจูเชว่ ชิงหลง ซวนอู่ ไป๋เจ๋อ ฉงหมิงและคนอื่น ๆ ต่างก็มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของตนเอง ซึ่งพวกเขาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการต่อสู้ครั้งนี้
เมื่อเวลาล่วงเลยไป ยอดฝีมือของราชวงศ์ตงหวงที่เดิมทีแล้วเป็นผู้มีสิทธิ์ในการตัดสินชีวิตผู้อื่นก็ไม่ได้รับผลดีมากนัก ตอนนี้ยังต้องมาได้รับความเสียหายมากมายแทนอีกด้วย!
ฉัวะ!
อัครมหาเสนาบดีที่กำลังต่อสู้กับมังกรวารีถูกทำให้ตื่นตกใจอีกครั้ง
เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่น จนเผยให้เห็นอาวุธป้องกันเกาะเกล็ดชิ้นหนึ่ง
แววตาของมังกรวารีมืดลง “ชีวาคุ้มกาย!”
พลังธาตุวารีได้เปลี่ยนเป็นเฉียบคม และเต็มไปด้วยแรงกดดัน แม้ว่าจะเป็นอาวุธป้องกันเกาะเกล็ดที่เป็นถึงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ แต่เขาก็สามารถทะลวงมันได้อยู่ดี!
ปัง ปัง ปัง!
จิตวิญญาณในการต่อสู้ของมังกรวารีแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ และมันก็ทำให้อัครมหาเสนาบดีหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ปัง ปัง ปัง!
แกร่ก!
เมื่อมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่ปกป้องชีวิตของเขาเอาไว้เริ่มมีรอยร้าวปรากฏขึ้น สีหน้าของอัครมหาเสนาบดีก็เปลี่ยนไปทันที
แย่แล้ว!
ฉัวะ!
บนหน้าอกของเขาได้มีรอยแผลปรากฏขึ้น และร่างเงาสีน้ำเงินก็เข้ามาใกล้เขาอย่างกะทันหัน
ทั้งร่างของอัครมหาเสนาบดีถูกควบแน่นจนกลายเป็นน้ำแข็ง และมันก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของตนเองอีกต่อไปแล้ว พลังธาตุวารีที่เย็นยะเยือกไปถึงกระดูกได้แหวกว่ายไปบนร่างกายของเขา จากนั้นมังกรวารีก็กล่าวขึ้นมาว่า “บอกให้คนของเจ้า หยุดเดี๋ยวนี้!”
อัครมหาเสนาบดีผู้สง่างามของราชวงศ์ตงหวง ได้ถูกคู่ต่อสู้จับไปเป็นตัวประกันเสียแล้ว
“ท่านอัครมหาเสนาบดี!”
เมื่อคนที่เขาพามาด้วยเหล่านั้นเห็นสีหน้าที่ซีดเผือดของท่านอัครมหาเสนาบดีก็ชะงักงันไปทันที นี่…
อัครมหาเสนาบดีกล่าวด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า “หยุดเดี๋ยวนี้! ทุกคนหยุดมือเดี๋ยวเลย”
แผนของเขาผิดพลาดแล้ว คิดไม่ถึงว่านางเด็กสาวแก่นแก้วผู้นี้จะมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่ด้วย ซึ่งเขาคนนี้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าสัตว์ประหลาดโบราณเลยแม้แต่น้อย
“แต่ว่าท่านอัครมหาเสนาบดี ฝ่าบาทมีรับสั่งว่าห้ามปล่อยมู่เฉินซีไปเด็ดขาดนะขอรับ!” ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณคนหนึ่งกล่าวขึ้น
.