ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2210 ถูกแทงข้างหลัง
ยังไม่ทันรอให้นางไปจับตัวเขา คิดไม่ถึงว่าเป่ยกงจั๋วจะเป็นคนมาหานางถึงที่เช่นนี้
ในเวลานี้มู่เฉียนซีก็จ้องมองไปยังร่างเงาสีเงินที่กำลังเข้ามาเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้นางจะรู้สึกว่ามีบางอย่างแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง หรือว่า…
มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่เขาด้วยแววตาที่เปล่งประกายอยู่ตลอดเวลา ถึงตอนนี้นางจะยืนยันข้อสรุปที่แน่นอนไม่ได้ เพราะอย่างไรเสียเป่ยกงจั๋วก็ถือได้ว่าเป็นคนชั่วร้ายคนหนึ่งอยู่ดี
“เป่ยกงจั๋ว ข้าจะไม่โต้เถียงเรื่องที่เจ้าไม่กลับไปยังเมืองตงหวงอีก หากตอนนี้เจ้าร่วมมือฆ่ามู่เฉินซีกับข้า” มู่หลินหลางกล่าว
จำนวนคนที่อยู่ข้างกายของเป่ยกงจั๋วมีน้อยมาก ฉะนั้นมันจึงทำให้มู่หลินหลางต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย
และคาดว่าเขาน่าจะกลัวราชวงศ์ตงหวงของนางจะโกรธเคือง ฉะนั้นจึงส่งคนอื่นให้กลับไปขอโทษก่อน และเขาก็พาคนแค่ส่วนหนึ่งมาตามไล่ล่ามู่เฉียนซีต่อไป
มู่หลินหลางกล่าวถามว่า “สถานการณ์ในตอนนี้ ทางไหนจะทะลวงเข้าไปได้ดีที่สุด?”
คนของราชวงศ์เป่ยกงคนหนึ่งกล่าวว่า “ฝ่าบาทหลินหลาง ข้าว่าหากเริ่มลงมือจากมุมทางตะวันออกเฉียงใต้ จะสามารถสังหารแม่สาวน้อยผู้นั้นได้อย่างแน่นอนกว่า องค์รัชทายาท พระองค์คิดเห็นว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”
องค์รัชทายาทของพวกเขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ อีกทั้งยังมีเพียงแววาตาที่เย็นยะเยือกกว่าตอนแรกคู่นี้เท่านั้น ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา
และหลังจากที่ถูกเหลือบมองเช่นนี้ หัวใจของเขาก็เต้นวูบขึ้นมาเลยทีเดียว
การปะทะกันขององค์รัชทายาทกับแม่สาวน้อยผู้นั้นก่อนหน้านี้ ทำให้ยอดฝีมือที่ราชวงศ์เป่ยกงของพวกเขาพามาด้วยจำนวนมากถูกทำลายล้างไปจนหมด และเหลือเพียงแค่พวกเขาเหล่านี้เท่านั้น
และนี่ก็น่าจะทำให้องค์รัชทายาทอารมณ์ไม่ดี ฉะนั้นจึงได้ไม่กล่าวตอบเป็นแน่
และพวกเขาก็ต้องพูดให้น้อยลงด้วยเช่นกัน อีกทั้งไม่ทำอะไรมากเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงการไปกระตุ้นความไม่พอพระทัยขององค์รัชทายาท
“ลงมือเถอะ! เป่ยกงจั๋ว ให้คนของเจ้าบุกเข้าไปก่อน” มู่หลินหลางกล่าว
‘เป่ยกงจั๋ว’ พยักหน้าเล็กน้อย หลังจากที่คนของราชวงศ์เป่ยกงเหล่านั้นได้รับคำสั่งขององค์รัชทายาทของพวกเขา ก็ได้ใช้ความเร็วสูงสุดพุ่งไปทางมู่เฉียนซี
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงทัพที่พ่ายแพ้ของราชวงศ์เป่ยกง แต่ความสามารถของพวกเขานั้นไม่เลวเลย และพวกเขาก็สามารถเปิดช่องโหว่ได้จริง ๆ
“พวกเจ้าเริ่มบุกเข้าไปได้!” มู่หลินหลางออกคำสั่งกับลูกน้องของตนเอง
พวกเขารีบบุกตรงเข้าไปในพื้นที่ปลอดภัยของมู่เฉียนซี และในขณะที่อยู่ภายใต้การคุ้มกันของพวกเขา มู่หลินหลางก็สามารถเข้าไปใกล้มู่เฉียนซีได้ และยังแอบหาโอกาสลอบโจมตีมู่เฉียนซีได้อีกด้วย
ลำแสงสีทองสว่างวาบขึ้น ด้ายจักรพรรดิทองคำนั้นก็พุ่งเข้าจู่โจมมู่เฉียนซีอย่างกะทันหัน และเกือบที่จะฉีกเลือดเนื้อของมู่เฉียนซีได้อยู่แล้ว
“มู่เฉินซี เจ้าตายแน่!” มู่หลินหลางกล่าวขึ้นมาอย่างดุร้าย
เมื่อมังกรวารีและชิงอิ่งค้นพบว่ามู่เฉียนซีกำลังมีอันตราย ก็เตรียมที่จะละจากการต่อสู้กับคนสวมหน้ากากที่ใช้วิชาลับของตระกูลเฟิงเพื่อมาช่วยเหลือ แต่กลับถูกมู่เฉียนซีหยุดเอาไว้เสียก่อน
“ไม่ต้อง จัดการคนผู้นั้นต่อไป!” มู่เฉียนซีใช้กระแสจิตกล่าวกับพวกเขา
ตระกูลเฟิงนอกจากอวิ๋นซิวแล้วยังเหลือคนอื่นอยู่อีกหนึ่งคน และคิดไม่ถึงเลยว่าจะยืนอยู่ข้างเดียวกับมู่หลินหลางด้วย
บางทีการทำให้อวิ๋นซิวหลุดพ้นจากพันธนาการ อาจจะสามารถเริ่มลงมือจากคนผู้นี้ก่อนก็เป็นได้
ส่วนมู่หลินหลาง…
การลอบโจมตีของนางนั้นรวดเร็วมาก นอกจากนี้ยังอยู่ในการคุ้มกันอีกด้วย ในเมื่อไม่มีมังกรวารีและชิงอิ่งคอยช่วยเหลือ ฉะนั้นนางจะต้องลำบากมากแน่นอน แต่ทว่านางกลับยังคงสงบมากอยู่ดี
เพียงแต่ว่า นั่นมันก็ไม่แน่นอนเช่นกัน!
เพราะในตอนที่มู่หลินหลางลงมือ ร่างเงาสีเงินได้มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังของมู่หลินหลาง
ในขณะนี้ความสนใจทั้งหมดของมู่หลินหลางได้ตกไปอยู่ที่มู่เฉียนซีทั้งหมดและไม่ทันได้สังเกตถึงสถานการณ์ที่อยู่ข้างหลังเลย และในตอนที่นางกำลังจะทำร้ายมู่เฉียนซีอยู่นั้น คนที่อยู่ข้างหลังของนางคนนั้นก็ได้เริ่มลงมือทันที
พลังวิญญาณธาตุน้ำแข็งได้เปลี่ยนกลายเป็นกระบี่ที่แหลมคม และมันก็ได้แทงทะลุหัวใจของมู่หลินหลางจากทางด้านหลังได้อย่างแม่นยำ
พรวด!
บนหน้าอกของมู่หลินหลางปรากฏรูที่เต็มไปด้วยเลือดรูหนึ่ง จากนั้นน้ำแข็งก็ละลายไปทันที และพลังสีทองก็ได้สะท้อนให้ร่างสีเงินร่างนั้นจนกระเด็นออกไป
มู่เฉียนซีใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตา พุ่งทะยานออกจากวงล้อมการป้องกันเพื่อตรงไปยังร่างสีเงินร่างนั้น และรีบคว้าคนผู้นั้นเอาไว้ทันที
ปัง ปัง ปัง!
ฉึก!
มู่เฉียนซีได้ฝังเข็มให้เขาหลายสิบเข็ม จากนั้นก็นำยาลูกกลอนออกมาให้เขากินอีกหลายเม็ดพลางกล่าวว่า “กินมันเข้าไปให้หมด จะได้รักษาอาการบาดเจ็บ!”
ในตอนที่มู่หลินหลางกำลังมีอันตรายถึงชีวิต ก็ได้มีพลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมาเพื่อปกป้องนางเอาไว้ ซึ่งมันน่าจะเป็นพลังที่จักรพรรดิตงหวงทิ้งเอาไว้อีกด้วย
พลังในการสะท้อนนี้ค่อนข้างที่จะแข็งแกร่งเลยทีเดียว และมันก็ยังเป็นพลังที่แม้แต่ความสามารถของเป่ยกงจั๋วก็ยังยากที่จะต้านทานเอาไว้ได้อีกด้วย
“ฝ่าบาท!”
“องค์รัชทายาท!”
เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากเกินไป จนทำให้ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกันไปหมด
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
องค์หญิงหลินหลางไม่ได้ร่วมมือกับองค์รัชทายาทเป่ยกงเพื่อจัดการมู่เฉินซีอย่างนั้นหรือ?
แล้วเหตุใดองค์รัชทายาทเป่ยกงถึงได้แทงข้างหลังฝ่าบาทหลินหลางได้กันเล่า?
คนลึกลับจากตระกลูเฟิงผู้นั้นรีบพุ่งตรงเข้าไปหามู่หลินหลางทันที หลังจากนั้นก็อุ้มมู่หลินหลางเอาไว้ และรีบหยิบยาลูกกลอนออกมาอย่างรีบร้อน นอกจากนี้ยังหมุนเวียนพลังวิญญาณเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของมู่หลินหลางอีกด้วย
แน่นอนว่ามังกรวารีไม่คิดที่จะปล่อยพวกเขาไปอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงได้ตรงเข้าไปเพื่อสังหารพวกเขาทันที และเสียงที่แหบแห้งนั้นก็กล่าวขึ้นมาว่า “ขวางเขาเอาไว้!”
ตูมมม!
หลังจากที่มู่หลินหลางปลอดภัยแล้ว นางก็ได้จ้องมองไปยังเป่ยกงจั๋วด้วยความโกรธเกรี้ยว
พรวดด!
นางที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว เมื่อถูกความโกรธเข้าโจมตี จึงทำให้ในตอนนี้กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
มู่หลินหลางกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “เป่ยกงจั๋ว จะ…เจ้ามันจะมากไปแล้วนะ ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับมู่เฉินซีไม่ธรรมดาจริง ๆ ด้วย เพื่อนางแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าลอบโจมตีข้า และอยากจะฆ่าข้าด้วย ราชวงศ์เป่ยกงของพวกเจ้าคิดจะทำสงครามระหว่างราชวงศ์ใหญ่กับพวกเราราชวงศ์ตงหวงอย่างนั้นหรือ?”
“ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นการแสดงของเจ้า ทั้งจะมาแก้แค้นให้ข้า ทั้งจะมาตามหาหมอปีศาจไปรักษาเสร็จพ่อ ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องโกหก! และจุดประสงค์ที่แท้จริงของเจ้าก็คือการมาช่วยนางสารเลวผู้นี้อย่างนั้นสินะ! เสน่ห์ของนางนั้นเหลือล้นจริง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่องค์รัชทายาทเป่ยกงก็หลงใหลนางจนโงหัวไม่ขึ้นเช่นกัน”
มู่เฉียนซีได้เพิกเฉยต่อความโกรธเกรี้ยวของมู่หลินหลางอย่างสิ้นเชิง และเพียงแค่อยากให้คนตรงหน้านี้กินยาลงไปเท่านั้น
“กินยาซะ!”
“ข้าไม่กิน!” เป่ยกงจั๋วไม่รู้ว่าเมื่อไรเขาถึงจะแย่งการควบคุมของร่างกายนี้กลับมาได้อีกครั้ง? ฉะนั้นมันจึงน่าจะดีกว่าหากเขาได้รับบาดเจ็บและทำให้ความแข็งแกร่งของเขาลดน้อยลงสักหน่อย
และเป่ยกงจั๋วในตอนนี้ ก็ได้กลายเป็นกู้ไป๋อีไปเรียบร้อยแล้ว
จิตวิญญาณของเป่ยกงจั๋วได้รับบาดเจ็บและถูกคนช่วยเอาไว้ได้ มันจึงทำให้เขาได้มีโอกาสอีกครั้ง
“เสี่ยวไป๋ ข้าเป็นหมอนะ เจ้าต้องฟังคำสั่งข้า! กินซะ” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างแข็งกร้าว
“ซีเอ๋อร์ ข้าเป็นเช่นนี้ก็ดีอยู่แล้ว!”
“ดีกับผีน่ะสิ!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างโกรธเคือง
มู่หลินหลางโมโหจนกระอักเลือกออกมา สองคนนั้นไม่สนใจต่อคำด่าทอของนางเลยแม้แต่น้อยอย่างนั้นหรือ? มีอย่างที่ไหนกัน!
“ขะ…ข้าจะกำจัดชายหญิงสารเลวคู่นี้ ไปฆ่าพวกมันซะ!” มู่หลินหลางกล่าวอย่างดุร้าย
และในเวลานี้ กู้ไป๋อีก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ฆ่าคนของราชวงศ์ตงหวงให้หมด!”
ภายในใจของคนจากราชวงศ์เป่ยกงเหล่านั้นพังทลายทันที นี่มันผิดปกติ! ผิดปกติเกินไปแล้ว
ก่อนหน้านี้องค์รัชทายาทยังต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับมู่เฉินซีอยู่เลย ซึ่งไม่ต้องพูดถึงว่ารุนแรงเพียงใด และเดิมทีแล้วนางกับองค์รัชทายาทต้องอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ถึงจะถูก แล้วเปลี่ยนไปในพริบตาเดียวได้เช่นไรกัน?
เหตุใดถึงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเช่นนี้!
“องค์รัชทายาท มู่เฉินซีผู้นี้ใช้คาถาอะไรกับพระองค์กันแน่? พระองค์รีบตื่นเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
“องค์รัชทายาท!”
มู่หลินหลางหัวเราะเยาะพลางกล่าวว่า “มาถึงตอนนี้แล้ว พวกเจ้ายังแสดงอยู่อีกหรือ? อย่าแสร้งทำเป็นว่าองค์รัชทายาทของพวกเจ้าโดนมู่เฉินซีควบคุม แล้วราชวงศ์ตงหวงของข้าจะไม่ถือสา บัญชีแค้นครั้งนี้เสร็จพ่อของข้าจะต้องคิดบัญชีกับราชวงศ์เป่ยกงเป็นอย่างดีแน่นอน”
เห็นได้ชัดว่ามู่หลินหลางไม่เชื่อคำแก้ตัวของคนเหล่านี้เลยแม้แต่คำเดียว
คนของราชวงศ์เป่ยกงต้องการที่จะอธิบายกับมู่หลินหลาง “องค์หญิงหลินหลาง ฝ่าบาทของพวกเรา…”