ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2214 ข้าอยากถอนหมั้น
นางกล่าวต่อว่า “เพียงแต่เสี่ยวไป๋ เจ้าสัญญากับข้า ว่าอย่าแพ้ให้กับเป่ยกงจั๋ว และอย่าหายไปยังสถานที่ที่ข้าไ ไม่รู้จัก จนทำให้ข้าหาเจ้าไม่เจออีก”
ถึงจะเก็บคนเอาไว้ก่อน แต่ก็ยังคงหาทางแก้ไขไม่ได้อยู่ดี
หรือไม่ก็ต้องปล่อยให้เสี่ยวไป๋ตายไปพร้อมกับเป่ยกงจั๋ว เว้นแต่ว่าเป่ยกงจั๋วจะยินยอมอย่างเต็มใจ มิเช่นนั้นก็จะไ ไม่มีทางแยกทั้งสองคนออกจากกันได้เลย
กู้ไป๋อีพยักหน้าเล็กน้อย “ข้าจะจำคำของซีเอ๋อร์เอาไว้ ไม่มีทางลืม…”
แม้ว่าจะไม่กล้ารับประกัน แต่จะต้องทำให้ได้แน่นอน
สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องจากไป เพียงแต่เสี่ยวไป๋นั้นยังสามารถทำลายการคุมขังของเป่ยกงจั๋วออกมาได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉ ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงรู้สึกว่ามันไม่ได้แย่เหมือนที่จินตนาการเอาไว้แต่อย่างใด
เสี่ยวไป๋ไม่มีทางแย่กว่าเป่ยกงจั๋วแน่นอน แม้ว่าหนึ่งในพวกเขาคนหนึ่งจะมีชื่อเสียงเป็นถึงองค์รัชทายาทเป่ยกงในแ แดนซวนเทียน และอีกคนกลับเป็นองค์ชายใหญ่ที่ถูกคนของราชวงศ์เป่ยกงลืมเลือนเท่านั้นก็ตาม
ถึงจะคิดได้แล้ว แต่ตอนที่เสี่ยวไป๋จะต้องไป มู่เฉียนซีก็ยังคงอาลัยอาวรณ์อยู่ดี
“ข้าจะไปส่งเจ้าเอง!” นางกล่าวพลางถอนหายใจ
ชีวิตการเป็นตัวประกันขององค์รัชทายาทเป่ยกงได้สิ้นสุดลงแล้ว มู่เฉินซีเป็นคนไปส่งเขา และพวกเขาทั้งสองยังมีควา ามสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอีกด้วย
เมื่อมู่หลินหลางที่ฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บขึ้นมาบ้างแล้วได้ยินข่าวเรื่องนี้เข้า สีหน้าของนางก็เขียวคล้ำไปท ทันที
นางร้องตะโกนว่า “เสด็จพ่อ เสด็จพ่อ ข้าอยากถอนหมั้น องค์รัชทายาทเป่ยกงจะน่ารังเกลียดเกินไปแล้ว เขากำลังนอก กใจข้า! อีกทั้งยังทำดีกับผู้หญิงอย่างมู่เฉินซีเป็นพิเศษอีกด้วย เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเขาไม่เห็นแก่หน้าข้าเลย…”
จักรพรรดิตงหวงตรัสว่า “ยังถอนหมั้นตอนนี้ไม่ได้ เพราะราชวงศ์เป่ยกงและราชวงศ์ตงหวงกำลังเกิดคลื่นใต้น้ำอย่างล ลับ ๆ ฉะนั้นจึงยังจำเป็นที่จะต้องรักษาสันติภาพแบบผิวเผินนี้เอาไว้ก่อน”
“แต่เป่ยกงจั๋วคิดว่าจะกลับไปยังราชวงศ์เป่ยกงได้อย่างราบรื่นอย่างนั้นหรือ ฝันไปเสียเถอะ!”
ค่ายกลส่งตัวของราชวงศ์ตงหวงไม่สามารถใช้การได้แล้ว จักรพรรดิตงหวงตั้งใจที่จะแจ้งกับกู้ไป๋อี ว่าเขาไม่มีทาง ใช้ค่ายกลส่งตัวกลับไปได้ และต้องบินกลับไปด้วยตนเองเท่านั้น
“ข้าจะส่งคนไปคอยคุ้มกันเจ้ากลับไปที่ราชวงศ์เป่ยกงเอง” เมื่อมู่เฉียนซีได้รับข่าวนี้ ก็รู้ได้เลยว่าคนใจแคบอ อย่างจักรพรรดิตงหวงไม่คิดที่จะปล่อยไป๋อีไปแน่นอน
กู้ไป๋อีกล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ ไม่ต้องหรอก ถึงอย่างไรราชวงศ์เป่ยกงก็ไม่มีทางอยากให้ข้าตายอยู่แล้ว นางเองก็เช่นก กัน!”
สำหรับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ เขามีความมั่นใจเป็นอย่างมาก
ร่างเงาสีขาวได้พุ่งทะยานออกไป สุดท้ายแล้วมันก็ได้กลายเป็นเพียงจุดเล็กสีดำและหายไปจากสายตาของมู่เฉียนซีในท ที่สุด
มังกรวารีมาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังมู่เฉียนซีอย่างกะทันหัน จากนั้นเขาก็ได้สวมเสื้อกันลมตัวหนึ่งให้กับนาง เพราะ ะสายลมในวันนี้ค่อนข้างจะหนาวเย็นเล็กน้อย
“นายท่าน มังกรวารียังอยู่ และมังกรวารีจะอยู่เคียงข้างนายท่านตลอดไป ไม่มีวันจากไปไหนแน่นอน” มังกรวารีกล่าวอ อย่างอ่อนโยน
ในโลกมนุษย์ ความทุกข์หรือสุขในการพบพานและจากลานั้นเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งยังต้องเจอกับความสิ้นหวังและยากลำบ บากมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คือประสบการณ์ที่นายท่านของเขาจำเป็นต้องพบเจอเพื่อการเติบโต
เพียงแต่เขาไม่ใช่มนุษย์ เขาเป็นเพียงผู้ผูกสัญญาที่จะอยู่กับนายท่านไปตลอดชีวิตเท่านั้น และเขาก็จะอยู่ที่นั่น นเสมอ เว้นแต่ว่าร่างกายของเขาจะสลายหายไป มิเช่นนั้นเขาก็ไม่มีทางจากไปแน่นอน
ร่างสีเขียวร่างหนึ่งมายืนอยู่เบื้องหน้าของมู่เฉียนซี และทั้งสองก็ยืนประจัญหน้ากัน
ชิงอิ่งก้าวเข้ามาก้าวหนึ่ง ซึ่งมันก็ทำให้ระยะห่างของพวกเขาใกล้มากขึ้น
“เฉียน!” เขาพ่นออกมาเพียงคำเดียวเท่านั้น
เขาค่อนข้างอิจฉามังกรวารีเล็กน้อย ที่สามารถพูดสิ่งที่แน่นอนเหล่านั้นออกมาได้ เพราะว่าเขาสามารถทำมันได้
แต่ตัวเขา…
ดูเหมือนว่าจะมีเวลาอีกไม่มากเท่าไรแล้ว?
แต่ว่า เขาจะใช้เวลาที่ยังเหลืออยู่นี้ ในการทุ่มเทกายใจเพื่อปกป้องเฉียนเอง
ตามข้อมูลที่มู่เฉียนซีได้รับมาจากจูเชว่เรื่องแนวโน้มของราชวงศ์ตงหวงในตอนนี้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดได้แล้ วหรือว่าอะไรกันแน่? ถึงได้แทนที่จะมาฆ่านาง แต่ว่าพวกเขากลับยินดีที่จะพัฒนาศักยภาพให้เหนือกว่ามู่เฉินซีมากกว่ า
ฉะนั้นในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ ทำให้นางสามารถผ่อนคลายได้บ้าง
เพราะการละเลยของราชวงศ์ตงหวง นางจึงสามารถรีบฉวยโอกาสในตอนนี้พัฒนาหอหมอปีศาจต่อไปได้
จักรพรรดิตงหวงไม่เคยคิดที่จะปล่อยเป่ยกงจั๋วที่หลอกลวงเขา และนอกจากนี้ยังแทงข้างหลังพระธิดาของเขาไปแน่นอนอย ยู่แล้ว
แต่แน่นอนว่า เขาก็ไม่ได้โง่เง่าพอที่จะลงมือกับองค์รัชทายาทเป่ยกงในอาณาเขตของตนเองอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเลือกที จะลงมือกับเป่ยกงจั๋วหลังจากที่เขาเข้าไปยังเขตแดนของราชวงศ์เป่ยกงแล้วนั่นเอง
เป่ยกงจั๋วระมัดระวังอยู่เสมอ แต่ถึงอย่างไรบนโลกนี้ก็ไม่มีความลับอะไรอยู่แล้ว
เขารู้แล้วว่าจักรพรรดิเป่ยกงนั้นได้ถูกพระโอรสของตนและจักรพรรดินีทำให้ไร้ประโยชน์ไปแล้ว และคนที่ควบคุมราช ชวงศ์เป่ยกงที่แท้จริงก็คือองค์รัชทายาทเป่ยกงที่มีความคิดแปลกประหลาดคนนี้นั่นเอง
ข้างกายขององค์รัชทายาทเป่ยกงในตอนนี้มีคนคอยคุ้มกันอยู่ไม่มากนัก และโอกาสที่ดีในการลงมือที่ยากจะมีสักครั งในชีวิตเช่นนี้ จักรพรรดิตงหวงไม่มีทางยอมปล่อยไปอย่างแน่นอน
นักฆ่าที่ส่งออกไปยังไม่ทันรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมในการลงมือ ก็มีร่างเงาสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏตัวขึ้นมายืน นอยู่ข้างหลังพวกเขาอย่างกะทันหันราวกับผู้ส่งสารจากนรกก็มิปาน
นิ้วของพวกเขาเรียวยาว อีกทั้งยังเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว และเมื่อนิ้วเจาะตรงเข้าไปที่ศรีษะของคนเหล่านั้น น มันก็เป็นการโจมตีที่ถึงชีวิตภายในพริบตาเดียว
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว
นักฆ่าเหล่านั้นยังไม่ทันที่จะเริ่มต่อต้าน ก็ต้องลงฟุบลงไปบนพื้นเสียแล้ว
หลังจากที่พวกเขาได้ถูกจัดการจนหมดแล้ว กู้ไป๋อีก็หยุดฝีเท้าลง หลังจากนั้นก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ออกมาเถอะ !”
“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาทหาน”
คนแปลกประหลาดที่ใช้วิธีการโหดร้ายเหล่านี้คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าของกู้ไป๋อี แม้แต่คนที่อยู่กับเป่ยกงจั๋วมาหลาย ปีล้วนมองเปลือกนอกนี้ไม่ออกว่ามันได้เปลี่ยนคนไปแล้ว แต่คนเหล่านี้กลับรับรู้ได้
“พวกเจ้าอยากจะพูดอะไร ก็พูดออกมาตามตรงเถอะ” กู้ไป๋อีกล่าวอย่างเย็นชา
“ท่านอ๋องกล่าวว่า ฝ่าบาทหานจะสามารถหลุดพ้นจากการจองจำของฝ่าบาทจั๋วออกมาได้เป็นครั้งที่สอง ท่านอ๋องค่อนข้า างผิดหวังที่ฝ่าบาทจั๋วใช้วิชาลับจนเกิดความเสียหายต่อจิตวิญญาณ ดังนั้นท่านอ๋องจึงอยากที่จะช่วยเหลือฝ่าบาทหาน นในการแข่งขันกับฝ่าบาทจั๋ว! และหากฝ่าบาทหานยินยอมแล้วละก็ ก็ให้ตามกระหม่อมไปพ่ะย่ะค่ะ!” พวกเขากล่าวด้วยเ เสียงอันแหบแห้ง
ดวงตาของกู้ไป๋อีเย็นยะเยือกมากขึ้นเรื่อย ๆ และเขาก็ได้แต่ต่อต้านอยู่ภายในใจ
เขาไม่อยากถูกบงการ และยิ่งไม่ต้องการทำให้คนผู้นั้นสมความปรารถนาอีกด้วย
แต่ภายในหัวของเขากลับนึกถึงคำพูดของซีเอ๋อร์ขึ้นมาได้ มันเป็นคำที่เขาจดจำไว้ขึ้นใจ
เขามีคนให้ต้องเป็นห่วง ฉะนั้นจะพ่ายแพ้ไม่ได้ แม้จะชนะแต่ก็กลัวว่า…ไม่อาจได้รับในสิ่งที่เขาต้องการได้ แต่ เขาก็อยากจะลองดูสักครั้งอยู่ดี!
“นำทางไปสิ!” น้ำเสียงของกู้ไป๋อีเย็นยะเยือกมากขึ้นไปอีก
“ฝ่าบาทหาน โปรดตามพวกกระหม่อมมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”
สถานการณ์ของหอหมอปีศาจได้รับการพัฒนาในระดับที่ยอดเยี่ยมมาก และแม้แต่ราชวงศ์ตงหวงก็ยังไม่สามารถบดขยี้มันได ด้ ซึ่งนี่ก็ทำให้สำนักหมอทมิฬยิ่งสนใจมันมากขึ้นไปอีก
สำนักหมอทมิฬส่งบัตรเชิญมาให้ติดต่อกันหลายครั้ง โดยพวกเขาได้เชิญให้มู่เฉียนซีเป็นไปแขกของสำนักหมอทมิฬ อีกทั้ งยังเตรียมของขวัญไว้ให้นางอีกด้วย
และของขวัญเหล่านี้ ก็สามารถทำให้นักปรุงยาทุกคนหวั่นไหวได้เลยทีเดียว
“นายท่าน นี่เป็นบัตรเชิญฉบับที่สามแล้วนะขอรับ” มังกรวารีกล่าว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “คงจะชื่นชอบในพรสวรรคของข้าแล้วล่ะสิ แม้ว่าการให้ข้าไปที่สำนักหมอทมิฬมันจะเป็นเรื่องที่ เสี่ยงมาก แต่ดูเหมือนว่าการทดลองของเจ้าสำนักของสำนักหมอทมิฬคงจะทะลวงผ่านอุปสรรค์ทั้งหมดไปได้แล้วสินะ”
“แต่ว่าซีซี มันจะอันตรายเกินไปหน่อยนะ อีกฝ่ายจะต้องมีแผนการร้ายเป็นแน่” จูเชว่กล่าวอย่างเป็นกังวล
“ในฐานะของนักปรุงยาคนหนึ่ง ข้าคาดเดาวิธีการคำนวนของเขาได้แล้วว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน? แม้แต่ราชวงศ์ตง งหวงและราชวงศ์เป่ยกงร่วมมือกันไล่ล่าข้ายังไม่กลัวเลย หรือว่าข้าจะต้องกลัววิธีการของเพื่อนร่วมอาชีพที่สู้ข ข้าไม่ได้เหล่านั้นด้วยอย่างนั้นหรือ? หากมีวิธีการใดก็ให้เจ้าสำนักของสำนักหมอทมิฬใช้มันออกมาเถอะ ข้าแค่รับม มือกับมันก็พอแล้ว” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
ในตอนที่จดหมายฉบับแรกถูกส่งมาถึง นางก็ได้เตรียมกำลังคนเอาไว้แล้ว
นางทนมานานมากแล้ว และตอนนี้สำนักหมอทมิฬก็ได้เริ่มเคลื่อนไหว เช่นนั้นนางก็ควรที่จะต้องลงมือแล้วเช่นกัน เพ พราะพลังของหมอปีศาจในตอนนี้ไม่ได้อ่อนแออีกต่อไป
ราชวงศ์ตงหวงเลิกไล่ล่ามู่เฉินซีแล้ว ทั้งราชวงศ์เป่ยกงและสมาคมการค้าเฉินซีก็มองนางในแง่ดีเป็นพิเศษอีกด้วย
ตอนนี้สำนักหมอทมิฬยังเชิญมู่เฉินซีไปเป็นแขกอีก ซึ่งนี่ก็ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะคนแรกของราชวงศ์ตงหวงที่ได้รั บความนิยมจากทั่วทั้งแดนซวนเทียนเช่นนี้
ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังเตรียมเรื่องทั้งหมดให้พร้อม และก่อนที่นางจะเตรียมออกเดินทางหนึ่งวัน ชิงหลงก็ได้มาหาน นาง