ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2226 พลาดวันเกิด
ชิงอิ่งเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นก็จ้องมองไปที่มังกรวารีอย่างสงบโดยที่ไม่กล่าวอะไรสักคำ และในที่สุดก็ ตอบกลับมาว่า
“สิ่งของที่เฉียนต้องการ นางสามารถเอามาได้อย่างแน่นอน! เมื่อถึงเวลานั้น มันจะปรากฏตัวออกมา นอกจากนี้ยังใกล้ถ ถึงเวลาแล้วด้วย”
มังกรวารีผงะไปเล็กน้อย การปรากฏตัวของไม้เทพแห่งชีวิตคงไม่สงบนิ่งจนเกินไปเป็นแน่ น่าเสียดายที่เขาไม่อาจออกโร รงได้ หากนายท่าน…
“เจ้าเลิกสนใจเรื่องเล็กน้อยเหมือนเป็นแม่คนได้แล้ว รีบไปจำศีลเพื่อฟื้นตัวเถอะ จะได้รีบตื่นขึ้นมา กังวลนู่นกั งวลนี่อยู่ได้ เจ้าคิดว่าข้าสุ่ยจิงอิ๋งเป็นเพียงแค่ของประดับอย่างนั้นหรือ?”
ความกังวลที่มากเกินไปของมังกรวารีก่อนจะไปจำศีลนั้น แม้แต่สุ่ยจิงอิ๋งเองก็ยังทนดูต่อไปไม่ไหวแม้แต่นิดเดียว
เมื่อมังกรวารีกล่าวลามู่เฉียนซีแล้ว ก็กลับไปยังมิติพันธสัญญา จากนั้นก็เตรียมเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
ทว่าขณะที่เขากำลังจะหลับใหลไป มังกรวารีก็พยายามดิ้นรนที่จะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
“อีกไม่นานก็จะเป็นวันเกิดของนายท่านแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าข้าจะทนอยู่ไปจนถึงตอนที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดอย่างยิ่ งใหญ่ให้นายท่านไม่ได้” มังกรวารีกล่าวอย่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ทว่าเขามีเพียงแค่ความตั้งใจแต่ไร้ซึ่งกำลังท ที่จะทำเลยแม้แต่น้อย
สุ่ยจิงอิ๋งกล่าวว่า “ข้าคิดว่าเจ้าพักผ่อนให้สบายใจเถอะ เจ้าไม่จำเป็นที่จะต้องมากังวลเรื่องวันเกิดของซีเอ๋อร์ หรอก ตอนนี้มันใกล้จะถึงเวลาที่ต้องกังวลเกี่ยวกับงานแต่งงานของซีเอ๋อร์มากกว่า”
มังกรวารีผงะไปครู่หนึ่ง “ผู้ใดบอกว่านายท่านจะแต่งงานกัน แม้จะเป็นหวงจิ่วเยี่ยก็ไม่ได้ แต่งคนเข้ามาก็ว่าไป ปอย่าง”
สุ่ยจิงอิ๋งกล่าวอย่างเห็นด้วยว่า “จะพูดอย่างนั้นก็ถูก”
มังกรวารียังอยากจะพูดคุยกับสุ่ยจิงอิ๋งเกี่ยวกับปัญหานี้ให้ลึกซึ้งยิ่งกว่านี้ แต่เพราะพลังของเขาอ่อนแอเกิน นไป จึงไม่อาจควบคุมตนเองได้ และสุดท้ายเขาก็ต้องตกอยู่ในภาวะจำศีลอย่างสมบูรณ์ในที่สุด
นิรันดร์ พิฆาตวิญญาณ อาถิงและยังมีมังกรวารี พวกเขาต้องหลับใหลไปอีกครั้งหลังจากที่ตื่นขึ้นมาได้ไม่นาน
แม้ว่านิสัยของพวกเขาจะแตกต่างกัน แต่พวกเขาล้วนเป็นคนสำคัญที่นางไม่อาจขาดไปได้
ฉากที่นางได้อยู่ด้วยกันกับพวกเขา มันยังคงแจ่มชัดอยู่ภายในสมองของนาง
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หากครั้งหน้าสามารถตื่นขึ้นมาพร้อมกันได้ละก็ มันน่าจะคึกคักมากเลยทีเดียว”
มู่เฉียนซีอยากที่จะเจอพวกเขาพร้อมกัน แต่เกรงว่านางคงจะคิดไม่ถึงหรอกว่าความคึกคักในเวลานั้น อาจจะเป็นความคึกค คักที่มากเกินไป จนกลายเป็นความอลหม่านและวุ่นวายไปเลยก็เป็นได้
“เฉียน” ชิงอิ่งเรียกมู่เฉียนซีอย่างแผ่วเบา และยืนอยู่เงียบ ๆ ข้างกายนาง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ชิงอิ่ง ข้าไม่ได้เสียใจหรอก เพียงแค่รู้สึกหดหู่เล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรเสียพวกเขาก็อยู่ข้ างกายข้าเสมอ ไม่เคยจากไปไหน เจ้าเองก็เช่นกัน”
แววตาของชิงอิ่งมืดมนลง เขาถามว่า “หากข้าไม่เหมือนกัน เฉียนจะลืมข้าหรือไม่?”
“หากว่าเจ้าอยากจะเป็นอิสระ อยากทำเรื่องที่ตนเองอยากจะทำและอยากจะจากข้าไปแล้วละก็ ข้าก็ไม่อาจปฏิเสธเจ้าได้ ทั้งยังไม่มีทางลืมเจ้าอย่างแน่นอน” มู่เฉียนซีก็สังเกตเห็นเหมือนกันว่าการตื่นมาครั้งนี้ของชิงอิ่ง ดูเหมือนว่าจ จะมีเรื่องไม่สบายใจบางอย่าง
“อื้ม! แค่เฉียนจำข้าได้ก็ดีมากแล้ว แม้จะอยู่ติดอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ ของความทรงจำเฉียนได้ก็ยังดี”
“มันไม่ใช่แค่เล็กน้อยหรอก! เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้คิดฟุ้งซ่านนะ” มู่เฉียนซีกล่าวตอบ
นางกระโดดขึ้นไปกลางอากาศ จากนั้นก็มองไปยังสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอพิษแห่งนี้
ภูเขาหลายหมื่นลูกทั่วทั้งเทือกเขาแห่งนี้ต่างถูกทำลายไปจนหมดสิ้น เพียงเท่านี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพลังในการ รทำลายตนเองของห้าอสรพิษนั้นทรงพลังมากเพียงใด
ที่นี่มีพิษแพร่กระจายอยู่ แม้ว่าหมอปีศาจอย่างนางต้องการที่จะกำจัดมัน ก็คาดว่าน่าจะต้องเปลืองแรงมากเลยทีเด ดียว
ส่วนร่องรอยของสำนักหมอทมิฬก็ไม่มีอยู่เลยแม้แต่น้อย และไม่เหลือแม้แต่เศษซากเลยด้วยซ้ำ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “แย่แล้ว! ข้ารู้สึกว่าซวนอู่จะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่ สำนักหมอทมิฬโดนทำลายไปอย่างสมบูรณ ณ์แล้ว และเกรงว่าน่าจะไม่มีสมบัติเหลืออยู่อีกแล้วด้วย ฉะนั้นความฝันที่จะได้แบ่งส่วนแบ่งของเขาได้พังทลายลงไ ไปแล้ว”
หลังจากที่ตรวจดูสถานการณ์โดยรอบแล้ว มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “ชิงอิ่ง พวกเราออกไปจากที่นี่กันเถอะ! พวกเขาน่าจะรอ พวกเรานานมากแล้วล่ะ”
มีไอพิษอยู่ทั่วทุกหนแห่ง และพืชทั้งหมดล้วนถูกทำลายจนกลายเป็นเถ้าถ่านภายใต้ไอพิษเหล่านี้
ในตอนที่มู่เฉียนซีพุ่งทะยานผ่านไปในอากาศ นางก็ได้ค้นพบว่ามีบางอย่างที่มีปลายแหลมค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาบนดินที่ เต็มไปด้วยพิษสีดำอย่างเงียบงัน
หากเป็นพืชที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ในสถานการณ์แบบนี้ เช่นนั้นก็จะต้องเป็นพืชพิษที่สามารถปรับตัวเข้ากับพิษต่าง ง ๆ ได้ ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงเข้าไปดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น และมันก็เป็นไปตามคาดจริง ๆ!
นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เกรงว่าหลังจากนี้อีกไม่นาน ที่นี่จะต้องมีพืชพิษที่เป็นประโยชน์เติบโตขึ้นม มามากมายแน่นอน
ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นที่จะต้องทำให้พิษเหล่านี้หายไปอีกแล้ว จะเสียแรงเปล่าไปทำไมกัน สู้ทำให้ที่นี่กลายเป็นฐานปล ลูกพืชพิษของหอหมอปีศาจยังจะดีเสียกว่า
ที่นี่เป็นพิษจนคนธรรมดาไม่กล้าเข้ามาใกล้ นอกจากนี้ก็เพิ่มค่ายกลพิษเอาไว้ป้องกัน ในเมื่อไม่มีผู้ใดกล้าบุกเข ข้ามา เช่นนั้นก็จะไม่มีผู้ใดสามารถมาขโมยสมุนไพรของนางแล้ว
ในเมื่อไม่สามารถยึดเอาสมบัติในรอบหลายปีนี้ของสำนักหมอทมิฬมาได้สักชิ้น เช่นนั้นก็เอาที่ดินนี้มาชดเชยแทน ก็แล้วกัน
จากนั้นร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏตัวขึ้นมาในสายตาของพวกเขา และจูเชว่ก็กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ซีซี ข้ารู้ว่าเจ้ าจะต้องไม่เป็นอะไร”
ซวนอู่เดินเข้ามาแล้วกล่าวว่า “ออกมาช้าขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าเจ้ากลืนกินสมบัติของสำนักหมอทมิฬไปเพียงคนเดียวแล้วอ อย่างนั้นหรือ?”
“เจ้าจะไปดูที่สำนักหมอทมิฬก็ได้ หากเจ้าสามารถหาที่ตั้งเดิมของสำนักหมอทมิฬได้ว่าอยู่ที่ใด? ก็ถือเสียว่าข ข้าเป็นผู้แพ้ไปเลยก็แล้วกัน” มู่เฉียนซีกล่าวตอบ
“เจ้าคิดว่าข้าโง่หรืออย่างไร! ตอนนี้ที่นั่นไม่ใช่สถานที่ที่คนจะเข้าไปได้ มันก็ขึ้นอยู่ที่ว่าที่จริงแล้วเจ้าท ทำอะไรไปบ้างกันแน่”
“ข้าสามารถมอบยาแก้พิษเพื่อให้เจ้าเข้าไปดูข้างในได้ และข้าก็ไม่คิดเงินเจ้าด้วย!”
“ช่างมันเถอะ! เสียเวลาเปล่า” ซวนอู่กล่าวปฏิเสธ อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนจนต้องเอาของที่ยึดมาได้จากสำนั กหมอทมิฬเหล่านั้นหรอก
เพียงแต่ เมื่อรู้ว่าสมบัติของสำนักหมอทมิฬถูกทำลายไปเช่นนี้ เขาเพียงแค่อารมณ์ไม่ดีเป็นพิเศษจนต้องหาเรื่องสัก กเล็กน้อยก็เท่านั้นเอง
เมื่อพวกของฉงหมิงและไป๋เจ๋อเห็นว่ามู่เฉียนซีออกมาแล้วก็วางใจ และตอนนี้หนุ่มน้อยในชุดสีขาวคนหนึ่งก็กระโดด ออกมา
เขาพุ่งทะยานไปอยู่เบื้องหน้าของมู่เฉียนซีแล้วกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “พี่สาว ท่านกลับมาแล้ว”
หนุ่มน้อยที่มีท่าทางเย็นชาและไม่แยแสผู้ใดที่พวกเขาเห็นก่อนหน้านี้ ได้เปลี่ยนกลายเป็นเพียงเด็กน้อยธรรมดา อีกท ทั้งยังน่ารักเป็นพิเศษอีกด้วย
พวกของจูเชว่และซวนอู่จ้องมองเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ด้วยความตื่นตะลึง พวกเขารู้สึกว่าเหมือนตากำลังจะ บอด…และพวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องอธิบายอารมณ์เช่นนี้อย่างไรดี
มู่เฉียนซีลูบศรีษะของเขาพลางกล่าวว่า “อื้ม! ปล่อยให้เจ้ารอนานเลยสินะ”
“จะให้ข้ารอพี่สาวนานเท่าไรก็ได้! เสี่ยวเฟิงเป็นเด็กดีมากเลย” ซูอี้เฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
พวกของจูเชว่ยากที่จะยอมรับความรู้สึกที่หวานละมุนละไมเช่นนี้ได้!
เมื่อมู่เฉียนซีมองเห็นสีหน้าที่แปลกประหลาดของพวกเขาทั้งสามคนนี้ ก็กล่าวขึ้นมาว่า “พวกเจ้าเป็นอะไรไป? ตาผิดปก กติไปแล้วหรือ? ต้องการให้ข้ารักษาให้พวกเจ้าสักหน่อยหรือไม่?”
จูเชว่กล่าวว่า “ไม่ต้องหรอก ๆ พวกเราสบายดี ก็แค่เห็นว่าเด็กคนนี้ดูสนิทสนมกับเจ้ามาก เพียงแต่ว่าทั้งรูปลักษณ ณ์และอารมณ์ของเขาดูคล้ายกับชิงหลงมาก แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อเห็นซีซีแล้วจะเปลี่ยนกลายเป็นน่ารักขนาดนี ”
ชิงหลงที่น่ารักเช่นนี้ พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย แม้แต่ในจินตนาการก็ยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ
ตอนแรกที่พวกเขาได้เจอกับชิงหลง เขาก็ตัวเล็กเท่ากับซูอี้เฟิงเช่นนี้ แต่ตัวเขาในตอนนั้นทั้งมืดมน เย็นชา อีก กทั้งยังระวังตัวมากอีกด้วย นอกจากนี้ยังไม่น่ารักเลยแม้แต่น้อย และยังเข้ากับคนอื่นไม่ได้อีกด้วย
แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นชิงหลงขนาดย่อมแสดงท่าทางที่น่ารักน่าชังเช่นนี้ออกมา อารมณ์ของพวกเขาจึงค่อนข้างอ่อนไหวมาก กทีเดียว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไปกันเถอะ! หลังจากนี้คงจะมีคนมาที่นี่อีกมาก ข้าไม่อยากที่จะปะทะกับคนของราชวงศ์ตงหวง”
ทั้งเทือกเขากลายเป็นเพียงความว่างเปล่า และเนื่องจากพลังระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังกล่าว จึงทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที ราชวงศ์ตงหวงจะนิ่งดูดายอยู่เฉย ๆ
“อื้ม!” พวกเขาพยักหน้ากล่าว
ระหว่างทางมู่เฉียนซีได้เล่าเรื่องราวที่นางได้พบเจอมา และตอนนี้สำนักหมอทมิฬก็ได้หายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
มู่เฉียนซีต้องการที่จะกลับไปยังหอหมอปีศาจ ซึ่งซูอี้เฟิงก็ไม่สนใจชิงหลงเลย และคิดเพียงแต่จะตามมู่เฉียนซีไปเท่า านั้น
“ข้าอยากจะตามพี่สาวไป!”
เมื่อได้เห็นชิงหลงขนาดย่อมเรียกมู่เฉียนซีว่าพี่สาวอย่างอ่อนหวาน ทุกคนก็อดที่จะแอบหัวเราะกันไม่ได้
และมีซูอี้ชิงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จ้องมองมู่เฉียนซีด้วยแววตาที่เย็นชา เพื่อปกปิดความหงุดหงิดและความอิจฉาของ งเขา