ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2228 ใบหน้าที่แท้จริงชิงหลง
เมื่อเทียบกับความตายและการมองโลกในแง่ร้ายของพวกเขาแล้ว มู่เฉียนซีมองโลกในแง่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
นางกล่าวว่า “ตอนนี้ไม่มี ก็ไม่ได้หมายความว่าหลังจากนี้จะไม่มีมิใช่หรือ?”
ชิงหลงผงะไปครู่หนึ่ง ผู้หญิงคนนี้มีหนทางแน่!
“ตกลง ข้าเข้าใจแล้ว! ส่วนเรื่องที่เสี่ยวเฟิงอยากจะอยู่ที่ใด ข้าจะให้เขาเป็นคนตัดสินใจเอง! หากเขาอยากจะอยู่ที่นี่กับเจ้า เช่นนั้นข้าก็คงต้องขอร้องให้เจ้าช่วยดูแลเสี่ยวเฟิงด้วย เจ้ามีข้อเรียกร้องอะไรอยากจะขอหรือไม่?” ชิงหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
จูเชว่กล่าวถามว่า “ชิงหลง ซีซีต้องการสิ่งใดเจ้ายังไม่รู้อีกอย่างนั้นหรือ? น้องชายของเจ้าล้ำค่าขนาดนั้น ตอนนี้ซีซีได้ทำลายล้างตระกูลศัตรูของพวกเจ้าไปจนหมดสิ้นแล้ว อีกทั้งยังช่วยน้องชายของเจ้า และยังรักษาน้องชายของเจ้าอีก เจ้าควรที่จะแสดงออกสักหน่อยไม่ใช่หรืออย่างไร?”
ชิงหลงชะงักไปครู่หนึ่ง คิ้วของเขาเริ่มขมวดมุ่นขึ้นมาทันที
สิ่งที่มู่เฉินซีได้ทำเหล่านี้ จะให้เขาตอบแทนด้วยสิ่งใดก็ย่อมได้ทั้งนั้น และคำขอนี้ก็ไม่ได้มากเกินไปเลย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เรื่องที่ช่วยเสี่ยวเฟิงก็เป็นเพียงเพราะข้าไม่อาจรับวิธีการของสำนักหมอทมิฬได้ก็เท่านั้นเอง ข้าไม่ได้มีความคิดที่อยากจะแสดงบุญคุณให้ชิงหลงมาตอบแทน ฉะนั้นชิงหลงเจ้าก็ไม่ต้องลำบากใจหรอก”
หลังจากที่มู่เฉียนซีจากไปแล้ว พวกของจูเชว่และซวนอู่ก็ล้อมชิงหลงเอาไว้ ซวนอู่กล่าวถามว่า “ชิงหลง พ่อบุญธรรมเองก็มีเจตนาเช่นนั้นแล้ว ฉะนั้นเจ้ากำลังกังวลเรื่องอะไรกันแน่?”
ชิงหลงรู้ดี ว่าโดยพื้นฐานแล้วมู่เฉียนซีไม่มีอะไรน่าสงสัยอีกแล้ว แม้ว่านางจะมีหน้าตาที่คล้ายกับมู่หลินหลางมากเพียงใดก็ตาม
และเรื่องที่มู่เฉินซีกลั่นแกล้งเขาในตอนนั้น เขาก็ไม่ใด้ใส่ใจมันอีกแล้วด้วย
นอกจากนี้นางยังช่วยเหลือน้องชายของเขา ทำให้พวกเขาสองพี่น้องสามารถกลับมาเจอหน้ากันได้อีกครั้งในรอบสิบปี
ชิงหลงลูบคางแล้วกล่าวว่า “ให้ข้าได้คิดอีกหน่อยเถอะ!”
มู่เฉียนซียอมแพ้ที่จะจัดการชิงหลงไปแล้ว หลังจากนั้นนางก็มุ่งตรงไปหาซวนอู่ทันที เพราะนางต้องการที่จะรู้ข่าวคราวท่านพ่อของนางให้ได้เร็วที่สุด
นางตรงไปหาซวนอู่ จากนั้นก็กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ซวนอู่ เจ้ารู้เป้าหมายในการมาของข้า เจ้าเสนอราคามาได้เลย!”
“เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นคนโลภมากคนหนึ่ง และต้องการมากกว่านี้ ซึ่งข้าเกรงว่าเจ้าคงจะไม่ยอมแน่!” ซวนอู่กล่าวตอบ
“เจ้าต้องการสิ่งใด?”
“หากข้าบอกว่าเป็นหอหมอปีศาจล่ะ?”
“นั่นเป็นไปไม่ได้หรอก! ซวนอู่เจ้าจะโลภมากเกินไปแล้ว! หากหอหมอปีศาจไม่มีหมอปีศาจ แล้วเจ้าเอาไปมันจะไปมีความหมายอะไรกัน” มู่เฉียนซีกล่าวปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา
“ความจริงแล้วขอเพียงแค่ชิงหลงยอมรับเจ้า และตอบตกลงเจ้า ข้าก็จะสามารถยอมรับเจ้าได้ทันที เนื่องจากว่าตอนนี้พ่อบุญธรรมก็เริ่งกังวลเรื่องของเจ้า และสนใจเจ้ามากแล้วเช่นกัน เจ้าเป็นศัตรูกับราชวงศ์ตงหวงอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังทำให้พวกเขาสูญเสียอย่างหนักอีกด้วย ซึ่งข้ารู้สึกว่าสำหรับข้าแล้วการร่วมมือกับเจ้าก็เป็นเรื่องที่ไม่เลวเลยเช่นกัน” ซวนอู่กล่าว
“เพราะเหตุใดที่จนถึงขนาดนี้แล้วชิงหลงก็ยังไม่คิดที่จะอ่อนข้อให้เจ้าเสียที หรือไม่เจ้าไม่ลองเปิดเผยมันออกมาล่ะ บางทีอาจจะมีทางแก้ไขได้ก็เป็นได้” ซวนอู่กล่าวถาม
ความจริงแล้ววิธีแก้ของมู่เฉียนซีนั้นง่ายดายมาก แค่เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงก็เรียบร้อยแล้ว แต่นางก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะยอมรับได้หรือไม่?
“มันมีเหตุผลอยู่นั่นแหละ ข้าขอคิดอีกหน่อยแล้วกันว่าจะบอกพวกเจ้าดีหรือไม่”
“ตกลง! ข้าจะอยู่ที่นี่อีกวันหนึ่ง หรือก็คือข้าจะให้เวลาเจ้าอีกวันหนึ่ง” ซวนอู่กล่าว
คืนนั้นชิงหลงได้มาหามู่เฉียนซี มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “เจ้ามีเรื่องอะไรที่อยากจะพูดหรือไม่?”
แต่ชิงหลงกลับเงียบไป มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้าไม่พูดข้าก็จะเป็นคนพูดเอง ก็แค่ข้ามีหน้าตาคล้ายกับมู่หลินหลางมากเท่านั้นเองมิใช่หรือ? เราทุกคนต่างก็คบกันจนลึกซึ้งขนาดนี้แล้ว อีกทั้งยังร่วมต่อสู้ด้วยกันมาก็หลายครั้ง ข้าเองก็ไม่อยากที่จะปกปิดใบหน้าของตนเองอีกแล้ว หากพวกเจ้ายอมรับมันไม่ได้จริง ๆ เช่นนั้นข้าก็คงต้องยอมรับมัน”
“ตกลง หากพวกเขาสามารถยอมรับเจ้าได้ เช่นนั้นข้าก็จะตอบรับคำขอของเจ้า”
และในเวลานี้เอง ร่างเงาสีขาวก็กระโดดออกมา จากนั้นก็โจมตีใส่ชิงหลงทันที
“นี่เจ้ากำลังจะบีบบังคับพี่สาวอย่างนั้นหรือ?”
ชิงหลงรีบหลบหลีกอย่างร้อนรน และคิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ลงมือโจมตีเขาจะเป็นซูอี้เฟิง
“ข้าอยากจะให้เจ้ายอมรับข้อเรียกร้องของพี่สาวตอนนี้”
ขณะพูด ซูอี้เฟิงก็โจมตีใส่ชิงหลงอีกครั้ง
ความสามารถของเขาแปลกประหลาดมาก บางเวลาก็สูงบางเวลาก็ต่ำ และมันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคู่ต่อสู้ของเขาว่าแข็งแกร่งเพียงใด
แน่นอนว่าซูอี้ชิงไม่อาจลงมือโจมตีน้องชายของตนเองได้อยู่แล้ว ฉะนั้นเขาจึงทำได้เพียงตั้งรับการโจมตีเท่านั้น
เมื่อซูอี้เฟิงเริ่มลงมือขึ้นมา กระบวนท่าของเขาก็ดูมีความโชกโชนเป็นอย่างมาก และมันยังทำให้รู้สึกถึงอันตรายเลยทีเดียว อีกทั้งยังไม่เชื่อฟังเหมือนอยู่ต่อหน้ามู่เฉียนซีอีกด้วย
ตูมมมม!
การเคลี่อนไหวอย่างยิ่งใหญ่ของพวกเขาทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น และมันก็ทำให้พวกของจูเชว่คิดว่าชิงหลงคุยกับมู่เฉียนซีไม่ลงตัว จนต่อสู้กันขึ้นมา ดังนั้นพวกเขาจึงรีบร้อนวิ่งมาอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ค้นพบว่ามันไม่เหมือนกับที่ได้จินตนาการเอาไว้เลย
มีคนกำลังต่อสู้กันอยู่จริง ๆ เพียงแต่ว่าคนที่ต่อสู้กันไม่ใช่ชิงหลงกับมู่เฉินซี แต่เป็นชิงหลงกับน้องชายของเขา
ชิงหลงรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก น้องชายของเขามีคนที่อยากจะปกป้องเป็นพิเศษ แต่คนที่เขาอยากจะปกป้องนั้นไม่ใช่พี่ชายอย่างเขา แต่กลับเป็นคนที่เขารับมือได้ยากอย่างมู่เฉินซี
ชิงหลงกล่าวว่า “เสียวเฟิง หยุดเดี๋ยวนี้!”
“ข้าไม่หยุดหรอก เจ้าทำให้พี่สาวไม่สบายใจ ข้าก็ไม่สบายใจเช่นกัน ฉะนั้นข้าจะสู้กับเจ้าจนกว่าเจ้าจะทำให้พี่สาวสบายใจ” เจ้าเด็กน้อยซูอี้เฟิงผู้นี้กลายเป็นคนไม่ฟังเหตุผลไปเสียแล้ว
แม้ว่าเสี่ยวเฟิงจะค่อนข้างเก่งกาจ แต่กลับไม่ใช่คนที่จะลงมือฆ่าผู้ใดได้เลย
มู่เฉียนซีถือโอกาสนี้ดูสภาพร่างกายของเขาในตอนที่กำลังต่อสู้ได้พอดี ฉะนั้งจึงไม่ได้บอกให้เขาหยุดแต่อย่างใด
ฮึ! ปล่อยให้เจ้าชิงหลงผู้นี้ต้องทุกข์ทรมานเสียบ้างก็แล้วกัน
ทั้งพวกของจูเชว่และฉงหมิงเองก็ไม่ได้เข้าไปขัดขวางแต่อย่างใด และเลือกที่จะดูการแสดงนี้อยู่ด้านข้างเท่านั้น
ปัง ปัง ปัง!
“เจ้าจะยอมตกลงหรือไม่!”
“หากไม่ยอมตอบรับแล้วละก็ คราวหน้าข้าจะลงมือให้รุนแรงยิ่งกว่านี้อีกเป็นแน่”
“……”
สีหน้าของชิงหลงแย่มากขึ้นเรื่อย ๆ หากมู่เฉินซีเป็นคนที่ต่อสู้กับเขา เขาก็คงจะไม่มีทางยอมอ่อนข้อให้ และตอบโต้อย่างสุดกำลังแน่นอน
แต่เสี่ยวเฟิงไม่เหมือนกัน เขาไม่มีทางทำอะไรเสี่ยวเฟิงได้เลยจริง ๆ
ชิงหลงถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “เสี่ยวเฟิง เหตุใดเจ้าถึงได้ชอบมู่เฉินซีถึงขนาดนี้ ข้าต่างหากที่เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของเจ้า”
ซูอี้ชิงมักจะสวมหน้ากากอยู่ตลอดเวลา แต่คราวนี้คู่ต่อสู้ของเขากลับเป็นซูอี้เฟิง ดังนั้นเขาจึงถอดหน้ากากปลอมตัว เพื่อเผยโฉมหน้าที่ทั้งงดงามและละเอียดอ่อนออกมา
ถึงแม้ว่าจะไม่มีเสน่ห์น่าดึงดูดใจเท่าจูเชว่ แต่ก็หล่อเหลามากเลยทีเดียว
การเป็นนักฆ่าด้วยใบหน้าที่สะดุดตาเกินไปเช่นนี้ มิแปลกใจเลยที่ชิงหลงจะสวมหน้ากากเอาไว้ตลอดเวลา
และใบหน้านี้ ก็คือใบหน้าของเสี่ยวเฟิงในตอนที่โตแล้วนั่นเอง
พวกเขาทั้งสองเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน ฉะนั้นเดิมทีแล้วก็ต้องออกมาเป็นพิมพ์เดียวกันตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว
เมื่อเห็นใบหน้านี้แล้ว ความเร็วของซูอี้เฟิงก็เปลี่ยนเป็นช้าลงทันที
เขารู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก มันช่างคุ้นเคยมากจริง ๆ ถึงความทรงจำจะถูกลบไปแต่ก็ยังคงเหลือร่องรอยอยู่ภายในสมองของเขาอยู่ดี
เขากล่าวพึงพำอย่างแผ่วเบาว่า “พี่…”
“ไม่! เมื่อกี้ข้าไม่ได้เรียกเจ้านะ! แต่หากเจ้ายอมตอบรับคำขอของพี่สาวก็ค่อยว่ากันอีกที” คำว่าพี่ชายยังไม่ทันได้เรียกออกมา ทว่าซูอี้เฟิงกลับหยุดลงเสียก่อน
แม้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้จะให้ความรู้สึกที่ใกล้ชิดมาก แต่ตอนนี้ซูอี้เฟิงกลับใส่ใจมู่เฉียนซีมากกว่า
เดิมทีชิงหลงดีใจมากที่ได้ยินเขาเอ่ยปากออกมา
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินอี้เฟิงเรียกเขาว่าพี่ชายอีกครั้ง แต่ผลปรากฏว่าเจ้าเด็กนี่กลับหยุดไปดื้อ ๆ เสียอย่างนั้น เขาหยุดพูดไปเสียก่อน!
อีกทั้งยังเรียนรู้ที่จะข่มขู่เขาอีกด้วย!
ชิงหลงกล่าวถามว่า “เสี่ยวเฟิง เจ้าชอบมู่เฉินซีมากขนาดนั้นเลยอย่างนั้นหรือ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว! พี่สาวดีมาก ดีมากที่สุดเลย ตอนที่ข้าต้องเผชิญหน้ากับสายฟ้าที่แปลกประหลาดและน่าสะพรึงกลัวนั่น ก็เป็นพี่สาวที่ขัดขวางอันตรายทั้งหมดให้กับข้า นอกจากนี้นางยังอ่อนโยนมากด้วย นางเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับข้าเลย”
.