ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2232 สิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ยังไม่ได้ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าทำไม่ได้ แต่ถึงแม้ว่าข้าจะทำไม่ได้ แต่อาจารย์ของ ข้าจะต้องทำได้อย่างแน่นอน! ส่วนความสามารถของอาจารย์ของข้าท่านก็น่าจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว”
เขาพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “อื้ม! ไป๋เจ๋อเองก็ได้รับการรักษาจากเขาจนหายดี ข้ายังอยากที่จะมีชีวิตอยู่ เช่นกัน ถ้าอย่างนั้นคงต้องรบกวนแม่สาวน้อยแล้ว อย่างไรเสียหากข้าตายเร็วเกินไป ลูกสาวของข้าอาจจะถูกคนไม่ดี ที่ไหนหลอกไปก็เป็นได้ และหากเป็นเช่นนั้นข้าคงไม่มีวันตายตาหลับได้เป็นแน่”
“เดิมทีแล้วข้าคิดว่าท่านเป็นคนที่จริงจังมากคนหนึ่ง คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนที่ตลกขนาดนี้?”
“เอามือมาให้ข้าหน่อย!”
มู่เฉียนซีเตรียมที่จะตรวจชีพจรให้กับเขา แต่ผลสุดท้ายกลับมีร่างสีขาวกระโจนออกมาอย่างกะทันหัน แล้วกล่าวอย่าง เย็นชาว่า “อย่าแตะต้องนายท่าน!”
แรงกดดันของเขาน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก เขามุ่งเป้าไปที่มู่เฉียนซี ทว่าแรงกดดันของร่างสีขาวผู้นั้นกลับไม่ได้สัมผัส สโดนชายคนนี้เลยแม้แต่น้อย
ซึ่งในตอนนั้นเองร่างเงาสีเขียวอ่อนก็พุ่งกระโจนออกมาอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ยืนมือออกไปบีบคอชายคนนั้นเอาไว ว้ และหากเขาบีบลงไปอีกเล็กน้อย ก็สามารถหักคอของร่างสีขาวได้ทันที
คนอื่น ๆ ต่างตกใจ และเตรียมที่จะลงมือเช่นกัน!
“แค่ก แค่ก แค่ก! ถอยออกไปให้หมด” ถึงน้ำเสียงของเขาจะแหบแห้ง แต่กลับเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามที่ทำให้ผู้คนไ ไม่กล้าฝ่าฝืนได้
“พวกเขาจะตื่นตูมกันเกินไปแล้ว คงไม่ทำให้เจ้าตกใจกลัวหรอกใช่หรือไม่!” เขากล่าวอย่างรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
“ข้าเป็นถึงหมอปีศาจ จะถูกคนเหล่านี้ทำให้ตกใจกลัวได้อย่างไร ท่านประเมินข้าต่ำเกินไปหน่อยแล้ว” มู่เฉียนซีกล่าว วตอบ
คนที่หลบซ่อนอยู่เพื่อคุ้มกันนายท่านเหล่านี้ก็ชะงักงันไปเช่นกัน ถึงนายท่านของพวกเขาจะเป็นคนดีมากคนหนึ่ง แต ต่ก็ไม่ใช่คนที่อ่อนโยนถึงขนาดนี้แน่นอน
เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นนายท่านอดทนและอ่อนโยนกับผู้หญิงคนหนึ่งมากถึงเพียงนี้
แม่นางน้อยผู้นี้ยอดเยี่ยมมาก มิแปลกใจเลยที่คุณชายทั้งหกจะให้ความสำคัญกับนางเป็นพิเศษ
แต่ว่า…
พวกเขาจ้องเขม็งไปที่มือของมู่เฉียนซี ในตอนที่นางกำลังจะสัมผัสไปที่ข้อมือของนายท่าน หัวใจของพวกเขาก็กระตุก วูบทันที และหวังว่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
มู่เฉียนซีเริ่มตรวจชีพจรให้เขา และนิ้วที่เรียวงามราวเครื่องลายครามนั้นก็วางลงบนเส้นชีพจรของเขา
เขาไม่รู้สึกถึงความผิดปกติบนร่างกายของเขา และตรงสถานที่ที่ถูกสัมผัสก็ไม่ได้มีเนื้อร้ายเกิดขึ้นแต่อย่างใด ซึ่ งทั้งหมดมันดูปกติอย่างน่าเหลือเชื่อ
ในเวลานี้เมื่อมู่เฉียนซีเห็นชายที่ดูนิ่งสงบผู้นี้มองนางอย่างประหลาดใจเล็กน้อย มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “ทำไมหร รือ? ท่านไม่ชอบให้คนอื่นมาสัมผัสต้องตัวอย่างนั้นหรือ? ข้าสามารถลองจับชีพจรผ่านเส้นไหมดูได้นะ แม้ว่าจะไม่ค่ อยได้ใช้ แต่สำหรับข้าแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลย”
“ไม่มีปัญหา!” เขากล่าวอย่างใจเย็น
คนอื่น ๆ ต่างก็ประหลาดใจเช่นกัน มีคนสัมผัสนายท่านแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่เป็นอะไร…ไม่เป็นอะไรเลย…ไม่เป็นอ อะไรเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่ตรวจชีพจรเสร็จแล้ว สีหน้าของมู่เฉียนซีก็จริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อมาถึงช่วงสุดท้าย มือของนางก็สั่นเทาขึ้นมาทันที ตั้งแต่นางเป็นหมอมาหลายปีไม่เคยมีสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้ นมาก่อนเลย
มู่เฉียนซีคลายมือออก จากนั้นก็ถอยหลังไปหลายก้าว ชิงอิ่งปรากฏตัวขึ้นมาด้านหลังของมู่เฉียนซีพลางกล่าวอย่างเป็ นกังวลว่า “เฉียน ไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”
มู่เฉียนซีสูดหายใจเข้าลึก จากนั้นก็มองไปยังชายที่ดูนิ่งสงบตรงหน้าผู้นี้อย่างประหลาดใจ
นางเป็นหมอมานานหลายปี แต่ในกรณีของจิ่วเยี่ยนั้นแน่นอนว่าเป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นอยู่แล้ว และยังเป็นชนิด ดที่ยากจะแก้ไขได้อีกด้วย
แต่คนที่นางเจอผู้นี้ กลับไม่แพ้กันเลย นอกจากนี้ยังซับซ้อนและแปลกประหลาดมากกว่าด้วย
“แม่สาวน้อย เป็นอะไรไป? สภาพร่างกายของข้าทำให้เจ้าตกใจอย่างนั้นหรือ? เจ้าคงจะแปลกใจว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้ าเป็นคน แทนที่จะเป็นศพใช่หรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ต่อไปข้าจะใช้พลังจิตวิญญาณตรวจสอบร่างกายของท่านสักหน่อย และหวังว่าท่านจะไม่ขัดขืน แต่วางใ ใจเถิด แม้ว่าทักษะการแพทย์ของข้าจะไม่ได้ดีที่สุดในโลก แต่จะระมัดระวังเป็นอย่างมาก และไม่มีทางทำอันตรายท่านแน่ นอน”
มู่เฉียนซีไม่เคยมีความระมัดระวังเช่นนี้มาก่อน เนื่องจากว่านางเจอคนไข้มากมายด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม แต่สำหรั บคนผู้นี้ ถึงจะเป็นหมอปีศาจอย่างนางก็ไม่อาจมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมได้เช่นกัน
เขากล่าวว่า “เจ้าลงมือทำเถิด! ข้าไม่ได้ทำมาจากเครื่องเคลือบบาง ๆ เสียหน่อย หากแตกสลายด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเ เดียว ข้าคงไม่มีทางมีชีวิตอยู่มาถึงตอนนี้ได้หรอก”
“ตกลง!”
มู่เฉียนซีแผ่ขยายพลังจิตวิญญาณออกไป และมันก็พัดผ่านร่างกายของเขาอย่างแผ่วเบาราวกับขนนกก็มิปาน
เขาผงะไปเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นพลังวิญญาณที่อ่อนโยนเช่นนี้ อีกทั้งยังคุ้นเคยมาก จนทำให้เขา อดไม่ได้ที่จะเข้าไปใกล้นางให้มากขึ้น
เขาควรที่จะมีอาการต่อต้านพลังจิตวิญญาณของคนแปลกหน้าตามสัญชาตญาณถึงจะถูก แต่ครั้งนี้กลับไม่มีแม้แต่น้อย
หลังจากที่เข้าใจสถานการณ์แล้ว มู่เฉียนซีก็ดึงพลังจิตวิญญาณกลับมาอย่างระมัดระวัง
“ทะ…ท่านพักผ่อนก่อนเถอะ ข้าไม่รบกวนท่านแล้ว”
มู่เฉียนซีต้องการจะจากไปอย่างรวดเร็ว จนเขาตะลึงงันไปครู่หนึ่งพลางกล่าวว่า “แม่สาวน้อย ทำไมไปไวนักเล่า หากได้ ดื่มชาแล้วพูดคุยกับเจ้า ข้ารู้สึกว่าน่าจะดีกว่าการพักผ่อนเสียอีกนะ”
แต่ทว่ามู่เฉียนซีก็ยังคงต้องการที่จะจากไปอยู่ดี ฉะนั้นเขาจึงได้แต่มองดูร่างนั้นหายไป เหตุใดเขาถึงรู้สึกว่า ต่อให้มองเท่าไรก็มองไม่พอกันนะ!
“นายท่าน ต้องการให้พวกข้าไปเชิญแม่นางมู่มาใหม่หรือไม่ขอรับ?” ชายในชุดขาวคนหนึ่งกล่าวขึ้น
“ไม่ต้องหรอก”
“แต่มีเพียงแม่นางมู่คนเดียวเท่านั้นที่สามารถสัมผัสนายท่านได้ อีกทั้งยังไม่ทำให้นายท่านบาดเจ็บอีกด้วย ข้าคิ ดว่าข้าสามารถเตรียมการให้นางมาคอยดูแลอยู่ข้างกายนายท่านได้นะขอรับ”
“แม่หนูคนนี้เป็นถึงหมอปีศาจ ข้าเชิญมาไม่ไหวหรอก และอย่าคิดจะแตะต้องนางโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต!” และดวงตาที่อ่อ อนโยนคู่นั้นก็ได้เปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้นมาทันที
“นายท่าน ข้าน้อยทราบแล้วขอรับ!”
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้อยู่ดี
คุณชายทุกท่านเป็นคนพาคนผู้นี้มา ฉะนั้นเขาจึงต้องการจะไปสอบถามคุณชายทั้งหลายเกี่ยวกับสถานการณ์ของแม่นางมู่เสี ยหน่อย
มู่เฉียนซีได้ขังตนเองอยู่ภายในลานบ้านหมายเลขสอง ‘ฟืด ฟืด ฟืด’ หลังจากนั้นนางเขียนตัวอักษรลงไปสองสามบรรทัด แ และสุดท้ายก็เขียนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
“จิ่วเยี่ยโดนคำสาปที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างคัมภีร์หมื่นคำสาป และมันก็เป็นเพียงคำสาปเดียว แต่เขา…”
“บาดแผลที่ซ่อนอยู่ เป็นแผลเก่าที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้ มีพิษที่ยากจะถอน วิชาคำสาป นอกจากนี้ยังมีพลังที่ก กำลังทำลายพลังชีวิตของเขาอยู่ ที่นางไม่สามารถมองออกอีกด้วย”
“ความสามารถถูกทำให้ใช้งานไม่ได้ พลังจิตวิญญาณถูกทำให้ใช้งานไม่ได้ แม้แต่สายเลือดก็ยังถูกทำลายไปอย่างสมบูรณ์ และร่างกายของเขาในตอนนี้ใช้เพียงแค่สายเลือดของสัตว์วิญญาณพิเศษชนิดหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเกรงว่าจำเป็นที่จะต้อง งถ่ายเลือดให้ทุกวัน…”
“นอกจากนี้…”
มู่เฉียนซีที่กำลังวิเคราะห์เกี่ยวกับสภาพร่างกายนั้น แต่ยิ่งวิเคราะห์ได้อย่างชัดเจนมากเท่าไร ภายในใจกลับต้องห หยุดชะงักด้วยความตื่นตกใจมากขึ้นเท่านั้น
หากเป็นคนที่ไม่สงบนิ่งสักหน่อยป่านนี้คงจะหลุดปากออกมาตั้งนานแล้วว่า “พระเจ้า! การที่เขามีชีวิตอยู่ได้ ถือ อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างหนึ่งแน่นอน!”
แต่การมีชีวิตอยู่ของเขา ไม่เพียงแต่มีชีวิตอยู่เท่านั้น แต่ยังมีพลังอำนาจมากอีกด้วย
พลังอำนาจนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับความสูงต่ำของระดับจิตวิญญาณของร่างกายของเขาเลย แต่กลับเป็นพลังที่สามาร รถต่อต้านกองกำลังใหญ่อย่างราชวงศ์ตงหวงได้
“นิรันดร์ ตอนนี้ข้าเจอปัญหาที่ยากจะจัดการได้แล้ว! ไม่รู้ว่าเจ้าพอจะมีหนทางแก้ไขหรือไม่?” มู่เฉียนซีบ่นพึมพำ
นิรันดร์ในตอนนี้กำลังตกอยู่ในสภาวะหลับลึก ฉะนั้นจึงไม่สามารถตอบคำถามนี้ของมู่เฉียนซีได้เลย
มู่เฉียนซีได้เข้าไปค้นคัมภีร์โบราณที่อยู่ภายในมิติออกมา จากนั้นก็เริ่มวิเคราะห์ความทรงจำที่ได้รับสืบทอดมาจาก กนิรันดร์ และพยายามอย่างหนักที่จะแก้ปัญหานี้ให้ได้
เฉียนซีได้เจอกับพ่อบุญธรรมแล้ว แต่พวกของจูเชว่กลับยังไม่ได้รับข่าวคราวใด ๆ เลย และถึงแม้ว่านางจะไม่ได้รับค คำตอบอย่างที่นางคิดเอาไว้ แต่นางกลับเข้ากันได้ดีกับพ่อเป็นธรรมเป็นอย่างมาก
“ท่านไป๋!”
ร่างเงาร่างหนึ่งมาปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขา มันจึงทำให้พวกเขาผงะไปครู่หนึ่ง
ท่านไป๋เอ่ยปากกล่าวว่า “ทำอย่างไรถึงจะสามารถทำให้มู่เฉินซีมาอยู่ข้างกายนายท่านได้ คุณชายทุกท่านมีหนทางบ้างหร รือไม่?”
จูเชว่ผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวว่า “ท่านไป๋ ทะ…ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่! ภายในใจของท่านพ่อบุญธรรมมีเพ พียงท่านแม่บุญธรรมเท่านั้นนะ! ขะ…เขาจะเป็นไปได้อย่างไร?”
ซวนอู่กล่าวถามว่า “มู่เฉินซีทำอะไรมาอย่างนั้นหรือ?”
ท่านไป๋กล่าวว่า “พวกเจ้าก็รู้ดีว่า ร่างกายของนายท่านมีความพิเศษเป็นอย่างมาก ไม่ว่าผู้ใดจะสัมผัสส่วนไหนมันก็ จะกลายเป็นเนื้อร้ายทั้งสิ้น และจำเป็นที่จะต้องใช้ยาสมุนไพรมากมายถึงจะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งมันเป็นกระบวนการที่ท ทรมานเป็นอย่างมาก!”